ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 269

ตอนที่ 269 เร่งรีบ

“น้องหก องค์หญิงเหอซื่อนั้นเป็นเพียงสิ่งที่แคว้นเซิ่งโจวไม่เอาแล้วถึงโยนมา ทำไมเจ้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้ล่ะ? การรักษาตัวเองให้ดีนั้นดีที่สุดไม่ใช่หรือ? และถ้าชายาเวินรู้เข้า นางต้องโกรธมากแน่ๆ” โม่ฉีหมิงเดินเหยียบพื้นหิมะหนาๆอย่างมั่นคง ราวกับกำลังย่างก้าวด้วยความหนักอึ้ง

เวินอ๋องนั้นระมัดระวังมาโดยตลอด จะได้ไม่มีเรื่องอะไรสาวถึงตัวเขาได้ โดยเฉพาะหลังจากอภิเษกกับเย่เซียวหลัวแล้ว เขายิ่งไม่สนใจเรื่องอะไรอีกเลย

ตอนนี้ ทำไมถึงยอมละทิ้งเย่เซียวหลัวไปอภิเษกกับองค์หญิงที่ไม่ถูกรักล่ะ?

หากไม่ใช่เพราะ เขารู้ฐานะที่แท้จริงขององค์หญิง

“แล้วพี่สี่ล่ะว่ายังไง?” เวินอ๋องหันไปถามโม่ฉีหมิง สายตานั้นมองผ่านลำแสง ราวกับมองทะลุตัวเขาไป

สายตาที่โม่ฉีหมิงมองเขา ในฤดูหนาวเช่นนี้ ทำให้หนาวมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งสองไม่มีใครยอมใคร ต่างจ้องกันไปมา

เป้าหมายของทั้งสองนั้นชัดเจนมาก ในเมื่อโม่ฉีหมิงไม่ได้พูดอะไรต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง แต่เวินอ๋องรู้สิ่งที่เขาคิดต่อองค์หญิงเหอซื่อแล้ว นั่นก็แสดงว่าเวินอ๋องได้ไปรู้อะไรมา

“น้องสี่ น้องหก พวกเจ้ากำลังพูดถึงอะไรกัน? เมื่อกี้เดินออกมาจากห้องหนังสือ ก็ไม่เจอพวกเจ้า ที่แท้เดินมาถึงตรงนี้แล้ว” อ๋องยี่กับองค์รัชทายาทเดินมาจากด้านหลัง ทั้งสองคนยิ้มบางๆ ราวกับคำพูดของฮ่องเต้เจียเฉิงเมื่อครู่ไม่ได้ระคายเคืองพวกเขา

“ด้านนอกลมหนาวพัดแรง งั้นข้าขอตัวไปกับพี่สี่ก่อน” เวินอ๋องไม่ต้องการให้พวกเขารับรู้เรื่องที่เขากำลังแก่งแย่งกับโม่ฉีหมิงอยู่ จึงยิ้มแล้วตอบออกมา

อ๋องยี่มองเวินอ๋องด้วยความสงสัย “น้องหก ปกติข้าไม่เคยเห็นเจ้าชอบหญิงสาวคนไหนเท่านี้มาก่อน ท่านเจอกับองค์หญิงเหอซื่อมากี่ครั้งแล้ว ทำไมถึงได้ขอให้ท่านพ่อจัดงานอภิเษกให้”

เขาเป็นคนปากไวใจไว ไม่รู้จักการไตร่ตรอง คิดอะไรก็พูดเช่นนั้น ไม่รู้จักคิดถึงใจของผู้อื่น ถ้าเขามีเรื่องสงสัยก็คงจะถามต่อหน้าจนคำตอบ

“พี่สอง ในเมื่อองค์หญิงเหอซื่อมาถึงโม่ฉีแล้ว จะให้นางอยู่แต่ในวังคงไม่ได้ ข้าเห็นพี่น้องคนอื่นก็ไม่มีใครอยากอภิเษกกับนาง ข้าจะขอให้ท่านพ่อส่งพวกข้าออกไปเที่ยวกัย จะได้เปิดโอกาสให้พวกเจ้าได้เข้าใกล้เผือกร้อน พี่สองว่าอย่างไร?” เวินอ่องมองไปที่อ๋องยี่นิ่งๆ สีหน้าของเขาเหมือนกำลังแสดงออกแทนท่าทางของเขา

อ๋องยี่ไม่สนใจ เมื่อเขาได้ยินเวินอ๋องพูดเช่นนั้น จึงรีบพยักหน้า “น้องหก แล้วชายาของน้องจะไม่ว่าอะไรหรือ? ข้าเห็นว่าปกติชายาก็…”

เขาไม่ได้ใส่ใจจริงๆ อ๋องยี่พูดถึงตรงนี้แล้วเพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดผิดไป จืงหยุดลง

เงยหน้าดูสีหน้าของเวินอ๋อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เหมือนปกติทุกอย่าง เพียงแต่มีรอยยิ้มเบาๆที่มุมปาก

อ๋องยี่โล่งอกไป แค่เวินอ๋องไม่โมโหก็พอแล้ว

ถึงแม้เขาจะเป็นพี่สอง แต่เขารู้ดี ว่ามันเป็นแค่ในนามเท่านั้น แม้กระทั่งคำพูดของคนใช้ข้างกายเวินอ๋องยังมีคนฟังมากกว่า

ไม่รู้ว่าทำไมฮ่องเต้เจียเฉิงถึงเรียกเขามาครั้งนี้ ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาด้วยซ้ำ

“พี่สอง ที่พี่พูดก็ถูก เย่เซียวหลัวนั้นนิสัยตรงไปตรงมา อารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ถ้าพูดเรื่องนี้ให้นางเข้าใจ นางก็คงเข้าใจได้” เวินอ๋องคลายความสงสัยในใจอ๋องยี่ และเป็นการกำจัดอุปสรรค์การอภิเษกของเขาและองค์หญิงเหอซื่อ

ในเมื่อเวินอ๋องพูดเช่นนี้แล้ว อ๋องยี่ก็คงไม่พูดอะไรอีก เขาพยักหน้า แล้วก็ขอตัวไปก่อน

องค์รัชทายาทยืนดูการกระทำของทั้งสองอย่างเงียบๆ รู้สึกว่าเรื่องราวนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด

องค์หญิงเหอซื่อคือเผือกร้อนหรือไม่ ถ้าหากใช่ ทำไมเวินอ๋องถึงอยากอภิเษกกับนาง? ถ้าหากไม่ใช่ พวกเขาก็ไม่รู้จริงๆว่าการอภิเษกกับองค์หญิงเหอซื่อนั้นดีอย่างไร?

“ชายาของน้องหกจะเข้าใจหรือไม่ คงไม่ได้เป็นไปตามที่เวินอ๋องพูดหรอกใช่ไหม?” สีหน้าของโม่ฉีหมิงเรียบเฉย แล้วมองเขาด้วยแววตาเย็นชา

ทั้งสองจ้องกันจนไฟแทบลุก องค์รัชทายาทมองออกอย่างชัดเจน ถ้าหากเวินอ๋องมีปัญหา โม่ฉีหมิงก็คงมีปัญหาแบบเดียวกัน

ทั้งสองคงไม่ได้ทะเลาะกันเพื่อแย่งองค์หญิงเหอซื่อหรอกใช่ไหม?

“พี่สี่ เรื่องก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นตามที่พี่พูด ชายาของข้าต้องรู้อยู่แล้ว ถ้ากหากท่านต้องการเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีวิธี” เวินอ๋องสายตาแข็งกร้าว ไร้อารมณ์

องค์รัชทายาทมีลางสังหรณ์ ว่าสองคนนี้ต้องมีปัญหากัน

ปกติสองคนนี้ค่อนข้างสนิทกัน และไม่มีการกระทำแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขากันแน่?

“พี่ใหญ่ ลาก่อน” เวินอ๋องไม่อยากจะทะเลาะแบบนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด เขาจึงโค้งคำนับองค์รัชทายาทแล้วขอตัว

ลมหิมะด้านนอกเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ โม่ฉีหมิงกลับมาที่เรือน เย่หวินรับผ้าคลุมเขามาแขวนไว้ ในห้องนั้นอบอวลไปด้วยไออุ่นจากฟืน โม่ฉีหมิงที่สีหน้าสู้ดีนักนั่งลงตรงเก้าอี้หลัก สีหน้าเคร่งเครียด

“ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือ?” เย่หวินเติมฟืนพลางถามขึ้น

โม่ฉีหมิงจิบชาอึกหนึ่ง คิ้วที่ขมวดอยู่ยังไม่คลาย

“เช้านี้ ท่านพ่อเรียกองค์ชายเข้าวังไป พูดเรื่องอภิเษกกับองค์หญิงเหอซื่อ เวินอ๋องกล้าที่จะขอท่านพ่อให้อภิเษกกับหวินหลาน ถ้าเขาได้ดั่งที่ขอ ก็คงไม่ดีนัก” โม่ฉีหมิงจิบน้ำอุ่น รู้สึกว่าเรื่องนี้นั้นรังควานใจนัก

เย่หวินใจกระตุกไป “เวินอ๋อง? ทำไมเขาถึงมายุ่งเรื่องนี้?”

“ก็เป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเวินอ๋องถึงได้ขออภิเษกกับท่านพ่อ เขาไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของนาง ไม่เคยมีคนพูดถึง ถ้าหากเขาเดาออก ก็คงจะรู้ลึกกว่าปกติ” โม่ฉีหมิงวางแก้วในมือลง แล้วลูบไล้ไปตามลวดลายบนแก้วเบาๆ แววตาครุ่นคิด

“ท่านอ๋อง แล้วเรื่องนี้จะจัดการอย่างไรดี?”

ตั้งแต่ที่เย่หวินรู้ว่าองค์หญิงเหอซื่อคือโล่หวินหลาน ดวงใจที่หายไปของเขาก็เหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ครั้งก่อนที่ส่งไซ่เยว่เข้าวัง นางก็อยากจะเข้าวัง ถึงแม้ว่าจะถูกโม่ฉีหมิงปฏิเสธ แต่ใจของนางนั้นยังนึกถึงโล่หวินหลานเสมอ

ตอนนี้ โล่หวินหลานเกิดเรื่อง คนที่เป็นห่วงที่สุดก็คือนาง

“เวินอ๋องกลัวเย่เซียวหลัวที่สุด และเย่เซียวหลัวควบคุมทุกอย่างที่เขาทำ ช่วงไม่กี่ปีมานี้ยิ่งเข้มงวดมากขึ้น คงไม่ยอมเป็นสนมแน่นอน ถ้าหากเย่เซียวหลัวรู้เรื่องนี้แล้ว ต้องอาละวาดแน่ๆ” เสียงของโม่ฉีหมิงราวกับเป็นซาตาลในนรก เย็นชากว่าคนทั่วๆไป

คนทั้งเมืองก็รู้ว่าเวินอ๋องนั้นกลัวภรรยา เย่เซียวหลัวมีหลายวิธีไม่มีสิ้นสุด จะอภิเษกชายาอีกคนเรื่องใหญ่เช่นนี้ หากนางได้รู้เข้า ในเรือนเวินอ๋องคงจะบรรยากาศแย่น่าดู

“ข้ารู้แล้ว ข้าจะไปจัดการ” ในใจของเย่หวินมรความหวังเล็กๆขึ้นมา นานแล้ว ในที่สุดนางก็ได้ทำเรื่องให้โม่ฉีหมิงแล้ว

โม่ฉีหมิงมองลมหิมะที่พัดอยู่ด้านนอก ทำไมเขาถึงยอมให้เรื่องเกิดขึ้นง่ายดายขนาดนี้?

แสงเทียนถูกจุดขึ้นมา โล่หวินหลานนั่งอ่านตำราแพทย์โบราณที่ชิวโม่ไป๋ให้นางมา ด้านในนั้นมีการบันทึกอาการและวิธีรักษาไว้อย่างละเอียด

หนังสือเล่มนี้สำคัญต่อนางมาก ไม่เพียงแต่ทำให้นางเข้าใจในแพทย์แผนจีนมากขึ้น ยังสามารถมาประยุกต์ใช้กับความรู้นอกได้อีก

“องค์หญิง” มีเสียงต่ำๆของหญิงสาวจากด้านนอกตังเข้ามา

โล่หวินหลานรีบปิดหนังสือแพทย์ลง ไซ่เยว่ได้เดินเข้ามาแล้ว

“ไซ่เยว่ เรื่องเป็นยังไงบ้าง?” โล่หวินหลานตื่นตัวขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เมื่อเห็นไซ่เยว่ก็เหมือนเห็นพระจันทร์

“ตอบองค์หญิง ข้าไปตรวจสอบมาแล้ว ครั้งนี้มีองค์ชายทั้งหมดสี่องค์ที่ถูกเรียกเข้าวัง มีองค์รัชทายาท อ๋องยี่ หมิงอ๋อง และเวินอ๋อ ฮ่องเต้ไม่ได้ออกความเห็นใดๆ จึงไม่รู้ว่าใครคือผู้ถูกเลือก” ไซ่เยว่รายงานเรื่องที่นางสืบมาแก่โล่หวินหลาน

จากการคาดการณ์ของนาง เรื่องน่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ ในบรรดาลูกชายของฮ่องเต้ นอกจากองค์รัชทายาทกับหมิงอ๋อง เวินอ๋องดูจะเป็นลูกรักมากที่สุด อ๋องหลัวที่เพิ่งจะโตเป็นหนุ่มนั้นคงจะไม่อยู่ในตัวเลือก

“รู้ไหมว่าครั้งต่อไปจะเรียกพวกเขาเข้าพบอีกเมื่อไหร่” โล่หวินหลานถาม

ไซ่เยว่ส่ายหัว “ไม่ค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเร็วๆนี้ เพราะเรื่องนี้ถัดมานานแล้ว”

โล่หวินหลานวางแก้วในมือลง เดินวนไปมาในห้อง เรียกองค์ชายเพียงสี่คน? องค์ชายคนอื่นก็ความสามารถใช้ได้ เพียงแต่มีชายาหมดแล้ว

แต่ว่าองค์รัชทายาท เวินอ๋องและอ๋องยี่ก็มีชายาแล้ว แล้วทำไมเป็นพวกเขาสี่คนล่ะ?

“องค์หญิง ข้ายังได้ยินมาอีกว่า เวินอ๋องได้ขอให้ฮ่องเต้จัดงานอภิเษกกับองค์หญิงให้ในห้องหนังสือ แต่ฮ่องเต้ไม่เห็นด้วย ตอบเพียงว่าขอคิดก่อน” ไซ่เยว่พูดต่อ

เป็นเวินอ๋องจริงๆด้วย!

โล่หวินหลานจับที่ขอบโต๊ะแน่น ลวดลายบนนั้นสัมผัสถึงมือนางอย่างชัดเจน นางหรี่ตาลง มองจ้องไปที่นอกหน้าต่าง

“เวินอ๋อง?” โล่หวินหลานครางในลำคอ หรือที่เมื่อวานโม่ฉีหมิงพูดจะหมายถึงเรื่องนี้?

ไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าขอเวลาให้ตัวเองทบทวน เพื่อเป็นการหยุดเรื่องไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้น?

ครั้งนี้เวินอ๋องคงตัดสินใจเอง เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่ได้บอกเย่เซียวหลัว ไม่เช่นนั้น ในเรือนเวินอ๋องคงไม่เงียบเช่นนี้

“ข้ารู้แล้ว แล้วฝั่งหรงฝินล่ะเป็นยังไงบ้าง?” โล่หวินหลานสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางก็เชื่อในโม่ฉีหมิง

เพียงแค่เขาบอกว่าทำได้ ก็จะทำได้

“องค์หญิง ทางหรงฝินไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ นางยังคงติดตามการเคลื่อนไหวของฮองเฮาเย่อยู่ปกติ ไม่มีอะไร” ไซ่เยว่ค่อยๆพูด

ไม่มีการเคลื่อนไหว ดูท่าหรงฝินน่าจะความอดทนสูง

หรงฝินก็ได้สติขึ้นมาแล้ว สุดท้ายไม่แม้แต่จะปกป้องตัวเองได้ เห็นได้ชัดว่านางไม่อารมณ์จะต่อกรกับฮองเฮาเย่แล้ว

“รู้แล้ว ก่อนที่ฮ่องเต้จะตัดสินใจ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องไปตามหรงฝินแล้วด้วย” ดูจากเหตุการณ์ ตัวเองไม่ควรจะมีการเคลื่อนไหวใดๆ

นางเป็นองค์หญิง เป็นคนที่ถูกส่งมาเจริญสัมพันธไมตรี หากตอนนั้นเลือกนาง นางก็คงจะไม่ยอมรับ หากฮ่องเต้เจียเฉิงจะตรวจสอบ คงจะไม่เจอ

ถึงแม้ว่าไซ่เยว่จะไม่รู้ว่าโล่หวินหลานใช้เพราะอะไร ติดตามหรงฝินได้เพียงไม่กี่วัน ทำไมถึงล้มเลิกไป แต่เขาก็ยังคงไม่ถามอะไรเหมือนเดิม พยักหน้าแล้วจึงขอตัว

โล่หวินหลานกำถ้วยน้ำชาในมือแน่น นิ้วโป้งลูบไปตามลวดลายบนนั้น ในใจไม่มีความคิดเห็นใดๆ

ไม่รู้ว่าตอนนี้โม่ฉีหมิงจะมีความเห็นอย่างไร ถ้าหากบอกเขาว่านางคือโล่หวินหลาน เขาจะมาขอนางอภิเษกโดยไม่สนอะไรเลย?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก