ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 271

ตอนที่ 271 ยุยงกันทั้งสองฝ่าย

“ทำไมถึงทำเยี่ยงนี้ได้?” เย่เซียวหลัวทำให้ตนเองเข้มแข็งขึ้น ทำไมนางถึงต้องแบกรับทุกอย่างไว้? ทำไมใจของเวินอ๋องถึงได้ไปให้กับผู้หญิงคนอื่น อีองค์หญิงที่มาจากแคว้นเซิ่งโจว มันดีกว่านางตรงไหน?

นางนึกว่าโล่หวินหลานตายไปแล้ว ก็สามารถทำให้ใจของเวินอ๋องอยู่กับนางตลอดไป แต่นางไม่รู้เลย ไม่มีโล่หวินหลานแล้ว ก็ยังคงมีคนที่เหมือนโล่หวินหลานอีกพันๆล้านๆคน ชีวิตนี้ เวินอ๋องคงไม่ชอบแค่นางคนเดียวอย่างแน่นอน

เวินอ๋องทำแววตาที่คาดคิดไม่ถึง เหมือนกำลังยิ้มและเหมือนกำลังกลุ้มใจในเวลาเดียวกัน

“เจ้าไม่รู้หรือว่าเพราะอะไร เจ้าฉลาดล้ำโลกขนาดนี้ น่าจะรู้ดี ตอนนั้นที่เจ้าแต่งงานกับข้าเพราะอะไรเจ้ารู้ดี ข้าเองก็ไม่สามารถหยุดอยู่แค่เจ้าได้”

เย่เซียวเหลียวหยุดชะงักไป เหมือนท่อนไม้ที่ส่ายหัวไปมา “ข้าไม่รู้ และไม่อยากรู้ ข้าเป็นของเจ้ามาแค่ปีกว่า ทำไมถึงรีบมาพระชายาเร็วขนาดนี้? ถ้าเจ้าอยากมี ข้าสามารถหาให้เจ้าได้ หาคนที่สวยกว่า แค่ขอให้เจ้าอย่าแต่งกับองค์หญิงเหอซื่อ”

เพื่อต่อต้านเจ้าหญิงเหอซื่อ เย่เซียวหลัวอาการร้ายแรงถึงขึ้นไม่พูดเหตุผล”

“แค่เจ้าไม่สู่ขอองค์หญิงเหอซื่อ เจ้ายอมหาหญิงที่งามกว่า และไม่สนใจว่าจะใช้พระสวามีคนเดียวกันหรือไม่”

องค์หญิงเหอซื่อกลายเป็นแผลในใจของนางไปแล้ว ก็เหมือนตอนนั้นที่มีโล้หวินหลาน ได้บาดใจนางไปอย่างลึกไปครั้งหนึ่งแล้ว แค่พูดถึงนาง ในของนางก็เหมือนโดนบาดไปอีกแผล

“เย่เซียวหลัว เจ้ารู้ไหมว่าตนเองกำลังพูดอะไรอยู่? นี่มันเหมือนหญิงสาวตรงไหน? ยังใช่พระชายาอยู่หรือ?” เวินอ๋องทำสีหน้าที่ดูแย่แล้วลุกขึ้น สีหน้าและในใจกำลังต่อว่านาง แต่ปกติคนที่มีหัวสมองหน่อยๆ จะไม่พูดคำพูดพวกนี้ออกมา

“ข้า......เวินอ๋อง ข้าก็ไม่อยากเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ข้าไม่สามารถทนเห็นเจ้าไปสู่ขอพระชายาคนใหม่ได้ ยังไงเจ้าก็ไม่สามารถมีข้าแค่คนเดียวแล้ว ทำไมข้าถึงเลือกพระชายาให้เจ้าไม่ได้?” ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา พูดอะไรออกมาแบบไม่คิดเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา

“หุบปากเถอะ อย่าพูดอีก ข้าตัดสินใจไปแล้ว ช่วงนี้เจ้าก็อยู่แต่ในตำหนักอย่าไปไหน ไม่ต้องไปถวายบังคมกับเสด็จแม่ในวังหรอก” เขาสะบัดแขนเสื้อ หันหลังแล้วเดินจากไป

หิมะและลมข้างนอกแรงมาก พอเปิดประตูออกไป ก็มีลมหนาวพัดเข้ามาอย่างแรง พัดมาแรงจนตัวของเย่เซียวหลัวถอยไปข้างหลังเลยทีเดียว

“พระชายาเจ้าค่ะ ต้องรักสุขภาพตัวเองมากๆนะเจ้าคะ!” บ่าวที่คอยติดตามเย่เซียวหลัวพยุงร่างที่โดนลมพัดจนยืนไม่ไหว

“ปล่อยข้า ข้าเดินเองได้ ไม่ต้องให้เจ้ามาพยุง” เย่เซียวหลัวผลักบ่าวที่จับแขนนางไว้ ถึงนางจะดูตัวเบา แต่นางก็สามารถทำให้ร่างของตนยืนได้อย่างมั่นคงและเดินถอยหลังไปยังห้องข้างหลัง

ไม่มีใครเข้าใจนาง ไม่มีใครรู้ความคิดของนาง เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่ารักคนๆหนึ่งมันยากจริงๆ แต่ถึงจะเป็นเยี่ยงนี้นางก็ยังคงอยากเข้าใกล้

พอเข้าใกล้แล้ว คนที่บาดเจ็บก็คือตัวเอง ดูๆแล้วมันตลกแค่ไหน

เผาไฟในห้องนอนค่อยๆอ่อนลง ความอบอุ่นของไฟนั้นค่อยๆระเหยขึ้นมา ข้างนอกเป็นที่ๆหนาวจนไม่มีใครสามารถต้านทานได้ แต่ในห้องกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น

จิ่นซื่อได้คุมเสื้อคลุมสีทองไว้บนตัวของนาง เครื่องหยกบนหัวได้ถอดออกมาเรียบร้อย และวางไว้บนโต๊ะ บ่าวที่อยู่ข้างหลังนางกำลังถอดเครื่องหยกบนมือของนาง และวางไว้บนลิ้นชักเครื่องโต๊ะแต่งหน้า

"ใคร?" จู่ๆจิ่นซื่อก็หันไปมองข้างหลังทันที ตรงหน้าต่างมีเงาเดินผ่านไป และจู่ๆประตูก็ถูกผลักออกมา

"ที่แท้ก็เป็นเจ้าเองหรือ มาหาข้าดึกเยี่ยงนี้มีธุระอะไร?" หัวใจของจิ่นซื่อหล่นไปจนถึงตาตุ่ม

ที่แท้เป็นเย่เซียวหลัวนี่เอง ช่วงนี้มีคนชอบมาสืบความเคลื่อนไหวของนางบ่อยๆ ไม่ว่านางจะไปไหนก็มักจะมีคนคอยแอบตามนางไปถึงนั่น

หลายวันที่ผ่านมา นางได้แต่อยู่แต่ยองเชียงโหลว ไม่กล้าออกไปไหนเลย

"ข้าไม่มีธุระก็มาไม่ได้หรืออย่างไร? ยังไงพวกข้าก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ข้าก็แค่มีดูมิตรสหายของข้า มันไม่ถูกต้องเยี่ยงไร?" เย่เซียวหลัวยิ้มแห้งๆเบาๆ แล้วหันหลังไปปิดประตูและนั่งลง

ลงเรือลำเดียวกันนั่นหรือ?

จิ่นซื่อก็ยิ้มแห้งกลับ ไม่รู้จริงๆว่าจะมองจากตรงไหนถึงจะมองออกว่าพวกนางลงเรือลำเดียวกัน

"พระชายาเวินอ๋อง คำๆนี้เจ้าน่าจะพูดผิด ฐานะของเจ้าและข้ามีต่างกันมากๆ เจ้าเป็นถึงคนในวัง เป็นถึงพระชายาเวินอ๋อง แต่ข้ามันเป็นแค่หญิงที่อยู่ในโรงเหล้า มีฐานะที่ต่ำต้อยมาก ทำไมถึงจะคุยอะไรกับพระชายาเวินอ๋องได้ล่ะเจ้าคะ?" จิ่นซื่อยิ้มเบาๆ บ่าวที่ยืนอยู่ข้างๆได้ช่วยนางเอาเครื่องประดับออกจากหัว เห็นว่านางจะพูดกับเย่เซียวหลัว และเอาเสื้อที่นางใส่ปกติมาคุมให้นาง”

“ข้าน้อยขอตัวก่อนนะเจ้าคะ หากมีเรื่องอะไร ก็เรียกข้าน้อยมานะเจ้าคะ”

เวลานี้ นางผลักไสปัญหาทุกอย่างได้เร็วมา ไม่ผิดเลยที่เป็นเบอร์หนึ่งของยองเชียงโหลว ได้ทำงานอยู่ที่นี่มาเป็นปีๆ คงมิใช่แค่หน้าตาที่สะสวย ที่สำคัญก็คือเป็นจอมวางแผน!

เย่เซียวหลัวกระตุกมุมปากขึ้นและยิ้มอย่างเลือดเย็น นางจับแก้วที่แกะสลักไปด้วยลวดลายสีทอง และยิ้มแห้งๆ “ตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าไม่ต้องคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์หรอก ถึงแม้เจ้าจะบอกกับคนข้างนอกว่าเจ้าไม่ได้ทำอะไร แต่ในกำมือของข้า มีหลักฐานเยอะแยะมากมาย ดังนั้นข้าจะเตือนเจ้าว่า อย่ากระทำความผิดอะไรเยี่ยงนี้อีก”

เสียงพูดนั้นได้หยุดลง สีหน้าของจิ่นซื่อเขียวขึ้นมาทันทีทันใด ตอนนี้นางถูกเย่เซียวหลัวใช้งานมาเป็นปีๆเยี่ยงนี้ได้เยี่ยงไร?

แต่ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือยังคงต้องกุมความลับนี้ไว้

พอหลังจากที่ฟังเย่เซียวหลัวพูดขึ้นเยี่ยงนี้ จิ่นซื่อกลับหัวเราะขึ้นมา “พระชายาพูดเยี่ยงนี้ก็เกินไปจริงๆ พวกข้าเคยร่วมมือกันต่อต้านศัตรู เรื่องนี้จะลืมไปได้เยี่ยงไร?”

“เหอะ” เย่เซียวหลัวค่อยใช้หางตามองไปที่นาง และจับแก้วเหล้าไว้ในมือ นัยน์ตาของนางมองจิ่นซื่อด้วยสายคาที่เหมือนมองศัตรู

“พระชายาอารมณ์ไม่ดีหรือ? หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องที่จะสู่ขอองค์หญิงเหอซื่อ?” จิ่นซื่อขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น

“เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร?” เย่เซียวหลัวขมวดคิ้วขึ้นและหันไปมองจิ่นซื่ออย่างน่าทึ่ง สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความสงสัยและตกใจ

จิ่นซื่อไม่ได้ออกไปข้างนอกมานานแสนนาน และไม่ได้ฟังข่าวลือต่างๆที่เกิดขึ้นของโลกภายนอก ถ้าเป็นเยี่ยงนี้ก็คงรู้ไปแล้ว

จิ่นซื่อแค่พูดไปงั้นๆ และไม่ได้พูดอะไรเยอะ “เรื่องที่องค์หญิงเหอซื่อแห่งแคว้นเซิ่งโจวมาถึงที่นี่เพื่อหาคู่สมรสได้ดังขึ้นจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ถึงข้าจะอาศัยอยู่แต่ในนี้ไม่ออกไปไหน แต่ก็ได้ยินมาหน่อยๆเช่นกัน วันนี้ท่านโกรธเยี่ยงนี้ คนที่ทำให้ท่านโกรธถ้าไม่ใช่เวินอ๋องก็คงไม่มีผู้อื่นใดแล้ว”

จิ่นซื่อส่ายหัวไปมา ตลอดเวลาที่นางได้คบหานาง ก็เข้าใจและรู้ดีว่านิสัยของนางเป็นเยี่ยงไร

เย่เซียวหลัวหัวเราะเยาะเย้ยตนเองขึ้นมา “เจ้าพูดไม่ผิด นอกจากเวินอ๋อง ก็ไม่สิ่งอื่นใดที่มีผลกระทบต่ออารมณ์ของข้า จริงๆแล้วเรื่องขององค์หญิงเหอซื่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย โม่ฉีหมิงยังไม่ตื่นเต้นและใจร้อนเท่าเขาเลย วันนี้จู่ๆเขากลับจะสู่ขอองค์หญิงเหอซื่อ นี่มิใช่เพราะตั้งใจจะทำให้ข้าเสียหน้าแล้วมันเป็นเพราะอะไร?”

องค์หญิงเหอซื่อเป็นหญิงสาวที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องมาตลอด แล้วทำไมเวินอ๋องถึงอยากจะเป็นคนสู่ขอนางเอง?

นี่มันต้องมีความลับบางอย่างแอบซ่อนอยู่

“พระชายา ท่านอย่าใจร้อน ฐานะที่องค์หญิงเหอซื่อมีทุกคนต่างก็รู้ดีแก่ใจ องค์หญิงที่ไม่ได้รับการโปรดปรานแล้วมาจากแคว้นเซิ่งโจวเพื่อมาหาคู่สมรส คิดว่าฮ่องเต้ก็คงไม่ได้จะให้นางแต่งกับองค์ชายใด ถ้าเวินอ๋องก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง? คิดว่าถึงแม้ว่าเวินอ๋องเองจะเป็นคนขอเอง ฮ่องเต้ก็คงไม่ตอบตกลง” จิ่นซื่อเดินจากโต๊ะเครื่องแต่งหน้าไปยังโต๊ะกลมตรงกลางห้อง และคุยเป็นเพื่อนเย่เซียวหลัวอยู่

เย่เซียวหลัวเทเหล้าเข้าปากตนเองเต็มๆ และเงยหน้าขึ้นไปมองจิ่นซื่อ และเอียงคอพูดขึ้น “ฮ่องเต้ไม่ยอมตอบตกลงจริงๆ แต่เรื่องที่เวินอ๋องตัดสินใจไปแล้ว มิอาจมีใครอาจห้ามเขาได้ ขนาดข้ายังทำไม่ได้”

อยากจะจับเวินอ๋องไว้ ไม่ให้ไปเข้าพิธีสมรสกับองค์หญิงเหอซื่อ ไม่มีใครทำได้ นางรู้จักนิสัยของเวินอ๋องเป็นอย่างดี

หลายปีผ่านมาเยี่ยงนี้ นอกจากโล่หวินหลาน นางยังไม่เคยเจอหญิงสาวคนที่สองที่ทำให้เวินอ๋องปลื้มใจ ยิ่งเป็นหญิงสาวที่มาจากต่างแดนอย่างองค์หญิงเหอซื่อจะมาทำให้เขาโปรดปรานได้เยี่ยงไร

แต่ว่าเวินอ๋องก็จ้องจะขอแต่นาง และต้องเอานางคนเดียวเท่านั้น

“พระชายา ท่านอยากจะให้เวินอ๋องเปลี่ยนความคิดหรือไม่?” จิ่นซื่อถามขึ้นทันที

นางเขียนคิ้วแล้วทำให้นางสวยใสไร้ฐิติ ขนตาที่ลอนยาวอย่างธรรมชาติของนาง ทำให้ดูน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น

“นิสัยของเวินอ๋องข้ารู้ดี ให้เขาเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันยากยิ่งกว่ากระโดดขึ้นบนฟ้าเสียอีก นอกจาก เจ้ามีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้” เย่เซียวหลัววางแก้วเหล้าลง และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเบา

“ถ้าเวินอ๋องไม่ยอมถอดถอนความคิดที่จะสู่ขอองค์หญิงเหอซื่อ นั่นพวกข้าก็ทำให้องค์หญิงเหอซื่อปฏิเสธเรื่องนี้ต่อหน้าฮ่องเต้ ทำเยี่ยงนี้ก็จะทำให้ความปรารถนาของท่านสำเร็จ และยังทำให้เวินอ๋องไม่ต้องมีพระชายาคนใหม่” จิ่นซื่อลองคิดๆดูแล้ว เอาเรื่องนี้บอกให้เย่เซียวหลัวฟัง

“องค์หญิงเหอซื่อเป็นฝ่ายปฏิเสธเอง นี่เป็นความคิดที่ดี และไม่ต้องให้เวินอ๋องคืนคำพูดนี้ ก็สามารถทำให้เวินอ๋องอยู่ข้างข้าตลอดไป ความคิดนี้เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวใช่หรือไม่?” เย่เซียวหลัววางแก้วเหล้าลง ไม่ทันได้ดื่ม

นางถือแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วหมุนไปหมุนมา ทำให้เหล้าที่อยู่ในแก้วระเหยความหอมออกมา ได้กลิ่นอายแห่งความหวาน

แต่ยังไงก็ไม่มีใครมีเวลามาลิ้มรสความหอมของเหล้าได้ ทั้งสองต่างก็มีเรื่องที่อยู่ในใจที่ยังคงวางไม่ลง ทำเยี่ยงไรถึงจะได้กลิ่นอายความหอมของเหล้าล่ะ?

“ใช่ แค่พระชายาหาองค์หญิงเหอซื่อเจอ ทำให้นางโดนใจ และเข้าใจหลักความเป็นจริง และท่านก็ควรขอบคุณนางเล็กน้อย ไม่ว่าองค์หญิงเหอซื่อจะรับคำขอบคุณของเจ้าไว้หรือไม่ก็ตาม ก็มิอาจเสียใจที่ทำเยี่ยงนั้นได้”

“เจ้าพูดถูก องค์หญิงเหอซื่อเป็นเจ้าหญิงแห่งเมืองๆหนึ่ง สิ่งที่นางให้ความสำคัญไม่ใช่แค่เลือกคู่ และนางต้องนึกถึงกฏและประเพณีต่างๆอีกด้วย” จิ่นซื่อหัวเราะขึ้น พอนึกว่าปฏิกิริยาของเวินอ๋อง จู่ๆก็รู้สึกคนตรงกลางจะลำบากใจมากที่สุดใช่หรือไม่?

ฟังจากที่นางพูด ในใจของเย่เซียวหลัวก็ยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใจ เรื่องมากมายไม่ได้ง่ายเหมือนดั่งที่นางคิด แต่ว่าบางครั้งก็สามารถทำออกมาแบบง่ายๆ

โชคดีที่มีจิ่นซื่ออยู่เคียงข้างนาง มิฉะนั้นก็คงไม่รู้ว่าจะทำเยี่ยงไร?

“นั่นพวกข้าต้องทำเยี่ยงไรกับองค์หญิงเหอซื่อ? ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ทำร้ายนาง แต่ก็ต้องให้บทเรียนให้สาสม อย่าให้นางแต่งกับเวินอ๋อง ข้าก็สบายใจแล้ว” ความต้องการของเย่เซียวหลัวมันง่ายมาก สิ่งที่นางอยากได้ก็มีแค่เวินอ๋อง ถ้าเวินอ๋องสามารถอยู่เคียงข้างนางตลอดไป เรื่องทั้งหมดก็คงไม่ซับซ้อนเยี่ยงนี้?

จิ่นซื่อหมุนแก้วไปมาอย่างเบาๆ และพูดขึ้น “ท่านคือพระชายาเวินอ๋อง แค่ท่านมีฐานะเท่านี้ก็เพียงพอ ใม่ว่าท่านจะพูดอะไร จะทำอะไร ถ้าตามฐานะที่ท่านมี ทำไมถึงต้องไปกลัวองค์หญิงตัวน้อยๆล่ะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก