ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 274

ตอนที่ 274 เบาะแสบางอย่าง

บรรยากาศข้างในมีความอบอุ่นเล็กน้อย โล่หวินหลานนอนอยู่บนที่นอนและกำลังจ้องตากับโม่ฉีหมิงอยู่ ทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน และไม่พูดอะไรแม้แต่สักคำ

ทุกอย่างที่อยากเอ่ยปากพูด มักจะถูกสายตาของเขาขัดอยู่เรือยมา สายตาอันเย็นชาของเขามองมา นางได้แต่หลับตาลงแล้วตั้งสติ

ตอนที่โล่หวินหลานได้สติอีกครั้ง บ่าวที่อยู่นอกได้ยกยาเข้ามาในห้องเรียบร้อย โม่ฉีหมิงเป่ายาที่อยู่ถ้วยอย่างสง่า

“อ้าปาก” โม่ฉีหมิงมองนางที่ตื่นขึ้นมาแล้วและพูดด้วยเสียงเย็นชา

ดูๆแล้วเหมือนเขาจะไม่ใช่แค่มาเยี่ยมแล้วเดินจากไป แต่กลับมาป้อนยาให้นางกิน

“ท่านอ๋อง เดี๋ยวข้าดื่มเองก็ได้เจ้าค่ะ” โล่หวินหลานกำลังคิดจะแย่งถ้วยที่ใส่ยาไว้จากมือของเขา แต่กลับโดนสายตาอันโหดเหี้ยมของเขาขู่ไว้ และนางก็อ้าปากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เขาตักยาป้อนโล่หวินหลานช้อนแล้วช้อนเล่า จริงๆรสยาที่มีรสขมกลับกลายเป็นรสหวาน ทุกครั้งที่ช้อนสัมผัสกับริมฝีปากของนาง หน้าของนางก็จะเริ่มร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“ดื่มเสร็จแล้ว วันหลังตอนที่ข้าไม่อยู่เจ้าก็ต้องดื่มยาเยี่ยงนี้” โม่ฉีหมิงเอาผ้าเช็ดหน้าของตนออกมาแล้วเช็ดปากให้นาง และยื่นมือออกมาจับหน้านางโดยไม่รู้ตัว

ฝ่ามืออันเร่าร้อนของเขากำลังระบายความร้อนออกมา โล่หวินหลานรู้ดีว่าต่อไปเขาจะทำอะไร เลยรีบหลบออกจากการสัมผัสของเขา

“ท่านอ๋อง ทำไมท่านถึงต้องดีกับข้าเยี่ยงนี้เจ้าคะ?” โล่หวิลหานหลบเลี่ยงจากฝ่ามือของเขา พอเห็นสีหน้าของเขาเริ่มแย่และวางมือลง เลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

หน้าของเขาเริ่มดูโหดมากยิ่งขึ้น โล่หวินหลานไม่รู้ว่าตนเองถามอะไรผิดอีก ทำให้เขาโกรธได้เยี่ยงนี้ ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม เขาก็ลุกขึ้นมาแล้วมองมาที่นางจากที่สูง

“จนถึงป่านนี้เจ้ายังไม่รู้อีกหรือว่าทำไมข้าถึงดีกับเข้า? คือเจ้าทำเป็นไม่รู้หรือว่าแกล้งถามขึ้น?” น้ำเสียงของโม่ฉีหมิงเย็นชามาก สายตาอันเฉยชาของเขาจ้องไปที่นาง

พอเขาพูดเยี่ยงนี้ ใจของโล่หวินหลานก็ตื่นเต้นขึ้นทันที สายตาของนางหยุดอยู่ที่เขา หรือว่าเขารู้แล้วว่าตัวตนที่แท้จริงของตนเองคือใคร? ไม่ใช่สิ เขารู้มาตลอดว่าตนเองคือใคร วันนี้เขาพูดเยี่ยงนี้แล้ว ก็คงต้องพูดความจริงออกไป?

โล่หวินหลานยังคงต้องการหลบเลี่ยง “ท่านอ๋อง ท่านพูดอะไรเจ้าคะ? ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ ข้ารู้สึกเหนื่อยหน่อยๆ ยังไงท่านกลับไปก่อนก็ได้เจ้าคะ“

พูดจบ นางก็หันหลังใส่โม่ฉีหมิง นางทำตัวเฉยๆเหมือนไม่มีเกิดขึ้น จริงๆข้างในจิตใจของนางตื่นเต้นใจจะขาด

ผ่านไปสักพัก พอนางรู้สึกว่าข้างหลังนางไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นางนึกว่าโม่ฉีหมิงเดินจากไปอย่างเงียบๆแล้ว

“ดี ตอนนี้เจ้ายังป่วยอยู่ นั้นเรื่องนี้จะยังไม่เอ่ยถึง รอให้เจ้าหายป่วย เราค่อยมาว่ากันให้รู้เรื่อง” โม่ฉีหมิงโกรธจนกัดฟันตนเอง เขาสามารถรอได้ รอจนถึงวันที่นางกล้าสารภาพความจริงออกมา

พอพูดจบ เสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงค่อยๆเดินออกไป ประตูถูกเปิดออก และปิดลงทันที จริงๆเสียงอันแผ่วเบาได้ดังขึ้น แต่นางก็รู้สึกมันไม่เพราะเลยจริงๆ

โล่หวินหลานรู้สึกตื่นเต้นในใจจนหัวใจเต้นรัวๆ นางอยากทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรใดๆ แต่ว่านางทำไม่ได้ นี่มันทำให้เห็นว่าเขายังคงไม่ลืมตนเอง

ถ้าเป็นเยี่ยงนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าดีใจหรือเปล่า?

ฟ้าข้างนอกเริ่มมืดมัวลง เขาเข้าวังตั้งแต่ตอนเช้า จนตอนนี้ถึงเวลากลางคืนแล้ว ไซ่เย่วเห็นเขาออกไป เลยรีบคุมเสื้อคลุมให้เขา

“ท่านอ๋อง โขคดีที่ท่านมาทัน มิฉะนั้นองค์หญิงต้องเกิดเรื่องอันตรายแน่นอน ครั้งนี้บ่าวไม่ได้ทำหน้าที่ตนเองดีๆ ถ้าหากข้าน้อยใกล้ชิดและคอยติดต่อองค์หญิง พระชายาเวินอ๋องก็คงไม่มีโอกาสลงมือทำร้ายองค์หญิง ดังนั้นเชิญท่านอ๋องลงโทษบ่าวเลยเจ้าคะ” ไซ่เย่วคุกเข่าลง ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเสียใจ

โม่ฉีหมิงสะบัดเสื้อคลุม สายตาของเขาจ้องไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลๆ และปริตาเล็กน้อย “วันรุ่งขี้นเจ้ามาทำโทษตนเองได้เลย” เขาหยุดชะงักไปแล้วพูดต่อ “เรื่องอื่นถ้าจะไม่สนใจเลย แต่เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เจ้าก็รู้ว่านางสำคัญกับข้ามากแค่ไหน”

เรื่องนี้มันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งชีวิตตนเอง

ไซ่เย่วจะไม่รู้ได้เยี่ยงไร มิฉะนั้นตนคงไม่ถูกส่งตัวมารับใช้นางในวังหรอก

“เจ้าค่ะ บ่าวจะจดจำไว้”

“คนๆนั้นเป็นเยี่ยงไรบ้างแล้ว? ดูๆแล้วเหมือนป่วยหนักเลยทีเดียว” ตอนที่โม่ฉีหมิงเข้าไปในดงหัวเยี้ยน เย่เซียวหลัวก็ได้หลบหนีไปแล้ว มีแค่ชายผู้หนึ่งที่ดูเหมือนร่างกายกำลังอ่อนแอ ได้พยุงโล่หวินหลานไว้

ไซ่เย่วมาคิดๆดูแล้ว คนที่เขาหมายถึงน่าจะเป็นหมิงซี

“ท่านอ๋องเจ้าค่ะ เมื่อครู่ชายที่ช่วยองค์หญิงเป็นคนที่องค์หญิงใช้ดอกบัวจากเขาหิมะช่วยเขาไว้ คือเขาที่ตามขุนพลจื๋อเอ่อ” ไซ่เย่วทูลกลับ

ถึงแม้ไม่กี่วันนี่ไม่ได้รับข่าวสารที่ไปสืบมา แต่รู้แค่ว่าที่มาของหมิงซีไม่ชัดเจน และเขายังสามารถทำให้องค์หญิงใส่ใจเขาได้มากเยี่ยงนี้ เขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

โม่ฉีหมิงพยักหน้า ถ้าคนที่ติดตามมากับจื๋อเอ่อ นอกจากเขาเป็นคนในแคว้นเซิ่งโจวแล้ว ต้องเป็นทหารที่ติดตามโล่หวินหลานเข้าวังด้วย

ถ้าเป็นคนของขุนพลจื๋อเอ่อ นางคงไม่ใส่ใจเยี่ยงนี้ นอกจากเขาคือคนที่เข้าวังกับนางด้วย

ถ้ามิใช่ พวกเขาคงรู้จักกันมาก่อน?

หนึ่งปีที่ผ่านมาเกิดเรื่องและปัญหามากมาย เขาไม่รู้ว่าเวลาช่วงนั้นนางผ่านมาได้เยี่ยงได้ แต่เขารู้เพียงว่า นางต้องทนความลำบากมามากอย่างแน่นอน

“ไม่เป็นไร เจ้าก็เข้าไปดูแลนางปกติ ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้รายงานข้าโดยด่วน” ตอนที่เขาพูด เขาได้ออกจากดงหัวเยี้ยนแล้ว

สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือ เขารู้ทั้งรู้ว่าถ้าโล่หวินหลานอยู่ในวังคงหลบเลี่ยงความอันตรายไม่ได้ แต่เขาก็ไม่มีวิธีจะช่วยนาง ได้แค่ให้นางอยู่ในที่ๆมีแต่คนโหดเหี้ยมเยี่ยงนี้

ขนาดนางถูกทำร้าย เขายังไม่มีปัญญาจะช่วย

ตอนออกจากวัง ข้างนอกได้เต็มไปด้วยแสงไฟที่สว่างไสวสอดส่องไปทั่วเมือง แสงไฟได้จุดขึ้นอย่างระยิบระยับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก