ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 277

ตอนที่ 277 วางแผนแก้แค้น (ภาคต่อ)

เรื่องทุกอย่างนี่มันปิดบังหมิงซีไม่ได้จริงๆ ถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่บนหุบเขามาเนิ่นนาน แต่ว่าเขาเป็นคนคิดละเอียดมาก ดูออกว่าเขาเดาบางอย่างออกหน่อยแล้ว

“จริงๆตอนข้าอยู่บนหุบเขาก็เคยพูดตัวตนที่แท้จริงของข้า ครั้งนี้ที่มา เมืองหลวง เจ้าก็รู้ว่าข้ามีจุดประสงค์อะไร ตอนแรกเรื่องทั้งหมดก็เหมือนที่ข้าบอกอาลั่วหลัน ข้าสงสัยว่าเย่เซียวหลัวเป็นฆาตกรที่ทำร้ายข้าตอนนั้น ครั้งนี้ข้าต้องการให้พวกเจ้าแปลงโฉมให้ข้าเหมือนข้าแต่ก่อน เพื่อที่จะเห็นว่าเย่เซียวหลัวจะแสดงอาการเยี่ยงไร?” โล่หวินหลานพูดขึ้นกริ่นๆ

นึกไว้ไม่ผิดเลยว่า เรื่องทุกอย่างถูกเขาเดาออกไปแล้ว สิ่งที่นางจะทำก็ปิดไม่มิดสำหรับเขาอีกต่อไป

“เป็นนางจริงๆหรือ? เจ้ามั่นใจแค่ไหน?” หมิงซีขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม จะสู้กับเย่เซียวหลัวมันไม่ใช่เรื่องง่าย

ปกติดูเหมือนนางจะโอหัง ก็รู้ว่าทุกคนรักใคร่นาวมาก และไม่มีใครกล้าทำร้ายนาง ขนาดเวินอ๋องยังต้องยอมนาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้อื่น

ครั้งนี้กล้าเข้ามาทำร้ายคนอื่นในดงหัวเยี้ยน นางคงนึกว่าตนเองเป็นพระชายาของเวินอ๋อง เลยรู้ว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรนาง

“ความรู้สึกของข้าบอกข้าว่าคือนาง ไม่ว่าจะมั่นคงแค่ไหนก็ต้องลองดู” โล่หวินหลานทำสายตาที่มั่นใจแล้วมองหมิงซี ในใจได้วางแผนไว้เรื่องทุกอย่างไว้หมดแล้ว

“พระชายาเวินอ๋องไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น ถ้าพวกข้าจะลองใจนางจริงๆ จะต้องเริ่มต้นจากไหนก่อนดี? ตอนนั้นนางส่งคนมาทำร้ายเจ้า ถ้าในใจรู้สึกผิดหรือเกรงกลัวเล็กน้อยก็คงไม่มาถึงจุดๆนี้ ที่ใช้มีดแทงคน ถ้าในใจนางรู้สึกไม่กลัวเลย นั่นพวกข้าจะลองใจนางเพื่ออะไร?” หมิงซีเข้าใจเรื่องทุกอย่างจนกระจ่าง และพูดจุดสำคัญของเรื่องโดยตรง

แต่ว่า ปัญหาที่เขาคิดออกมาโล่หวินหลานเคยคิดในหัวตั้งแต่แรกแล้ว นางไม่เคยกลัวเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้น

“ข้าได้ปิดข่าวสารนี้ไว้แล้ว จะส่งข่าวปลอมไปถึงหูนาง บอกว่าข้าแค่โดยไปแค่แผลเดียว ตอนที่ถูกช่วย เลือดไหลไม่หยุดจนเสียชีวิตไป มีดเล่มนั้นนางเป็นคนเอาออกมาเอง และนางยังเห็นเลือดด้วยตานางเอง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่นางฆ่าคน บอกว่าไม่กลัวก็คงโกหก ถ้าใช้ช่วงเวลาที่จิตใจนางอ่อนแอที่สุดไปทดลองใจนาง ก็คงจะให้นางพูดความจริงทั้งหมดออกมาได้” โล่หวินหลานพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ

พูดอะไรออกมาเยอะเยี่ยงนี้ แผลที่ถูกแทงรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ยังรู้สึกดี หลังจากที่กินยาชุบชีวิตนั้น นางก็รู้ว่ากำลังภายในของนางก็เปลี่ยนแปลงไปหน่อยๆ

หมิงซีเห็นนางคิดแยกแยะมาอย่างดี เขาเลยรู้สึกว่ามันใช้ได้

แค่สิ่งที่เขาไม่มั่นใจก็คือจิตใจของเย่เซียวหลัว

เขาเดาไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“วิชาการสร้างโฉมหน้าจะว่าง่ายมันก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ร่างกายของข้าฟื้นฟูเลยพอสมควรแล้ว เดี๋ยวเจ้าวาดหน้าตาแต่ก่อนของเจ้าออกมา ข้าจะทำหน้ากากเนื้อออกมาตามที่เจ้าวาดก็พอ” หมิงซีจิบชาไปด้วยและพูดไปด้วย

โล่หวินหลานอมยิ้มออกมาเบาๆ ไม่กล้าหัวเราะออกแรงๆ ถึงแม้จะยิ้มออกมาเบาๆเยี่ยงนี้ แต่ทำให้หมิงซีรู้สึกเห็นว่าอบอุ่นใจมากๆ

“ต้องการวัตถุดิบอะไรบ้าง? เดี๋ยวข้าให้สำนักหมอหลวงไปจัดการ”

หน้ากากหนังคนไม่ได้ใช้วัตถุดิบธรรมดาก็สามารถทำออกมาได้ ต้องใช้ความพยายามและความตั้งใจเป็นอย่างมากในการทำ

นี่เป็นสิ่งที่นางมองข้ามไป ยังไงการแพทย์และยาที่อัศจรรย์ของสมัยก่อน จะให้ทุกคนทำเป็นได้เยี่ยงไร?

“ได้ ข้าจะวาดภาพวาดของข้าให้เจ้าเดี๋ยวนี้” โล่หวินหลานยิ่งมั่นใจในการตัดสินใจของตนเอง แค่ตอนนี้ นางสามารถมีชีวิตรอดก็พอแล้ว

หมิงซียื่นมือไปลากโต๊ะมาอยู่บนเตียงเ เพื่อจะให้นางได้วาดภาพ และปูกระดาษแล้วเตรียมหมึกให้นาง

ผ่านไปไม่นาน โล่หวินหลานวาดภาพร่างออกมาโดยประมาณ ดูจากภาพร่างแล้ว นางเป็นหญิงสาวสะสวยที่อ่อนโยน แค่เสียดายว่าได้ชื่อว่าหญิงสาวที่จากไปแต่ยังสาว

หมิงซีนั่งอยู่ข้างๆช่วยนางจับกระดาษไว้ บรรยากาศข้างนอกห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่มาก แสงไฟจากเทียนได้สว่างไสว ทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก

“พอวาดเสร็จ เจ้ามาดูสิว่ามันชัดเจนหรือไม่” โล่หวินหลานโบกมือเรียกหมิงซี เรียกให้เขามาอยู่ต่อหน้าตนเอง ดูว่ามีความรู้สึกเยี่ยวใด

หมิงซีจ้องมองคนในกระดาษและส่ายหัวอย่างไม่ค่อยเข้าใจ เขาไม่เคยเจอโล่หวินหลานตอนแต่ก่อน และไม่รู้ว่าหน้าตานางเป็นเยี่ยงไร แต่มองแค่ในกระดาษแผ่นนี้ ก็ทำให้เขาเห็นถึงโล่หวินหลานอีกคน

ทั้งสองมีดวงตาที่คล้ายคลึงกัน คิดๆดูแล้วโล่หวินหลานตอนแต่ก่อนก็เป็นหญิงสาวสะสวยน่าดึงดูดคนมาสนใจ

“ได้ เดี๋ยวข้าจะแกะสลักหน้ากากหนังคนตามภาพวาดนี้ ถึงเวลาให้อาลั่วหลันสวมใส่่มันก็พอ” หมิงซีพยักหน้า ม้วนภาพวาดที่อยู่บนโต๊ะนั้นไว้

โล่หวินหลานเก็บพู่กัน เพราะว่าใช้แรงเยอะไปหน่อย ดังนั้นเลยรู้สึกเหนื่อย และพูดขึ้นด้วยหน้าซี้ด “ถึงเวลาข้าจะบอกเจ้าอีกทีว่าพวกเจ้าควรทำเยี่ยงไร?”

ฟ้าข้างหลังได้ค่อยๆมืดมัวลง หุบเขาที่อยู่ข้างๆมันสวยงามมาก และก้อนเมฆพวกนั้นได้บดบังหุบเขาไปเกือบครึ่งเขา และค่อยๆตกดิน

ฟ้ามืด ไม่มีดาวสักดวง

ในเมืองหลวงสนุกสนานที่สุด พวกเขาได้เดินผ่านโรงน้ำชาที่มีคนเยอะมาก มีแค่ในโรงน้ำชา เป็นสถานที่ที่เจ้าจะสืบอะไรก็เจอ

ทุกเช้าของวัน ทุกคนก็จะมีดื่มชาในโรงน้ำชา และทุกโต๊ะก็จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน

ตั้งแต่เรื่องนินทาชาวบ้านจนถึงเรื่องการเมือง และพูดคุยจากชาวบ้านเมืองมาเป็นเรื่องไร้สาระอีก คนที่ใช้ชีวิตอยู่ใน เมืองหลวงมักจะใช้เวลาอยู่ในโรงน้ำชาทั้งวัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก