ตอนที่ 283ธนูที่แอบแฝงในตำหนัก
การรินเหล้าให้นั้นก็คือการรินเพื่อแสดงความให้เกียรติพวกเขา ซึ่งอีกทางหนึ่งก็เพื่อดูว่านางเรียนมารยาทมาเป็นอย่างไรรวมถึงดูความสัมพันธ์ของนางกับองค์ชายแต่ละองค์ด้วย
ฮ่องเต้เจียเฉิงพยักหน้า“รินเหล้าเถอะ"
จ้าวกงกงที่ยืนอยู่ด้านข้างรับสั่งให้นางกำนัลนำเหล้าเข้ามา นางกำนัลทำความเคารพฮ่องเต้ จากนั้นก็นำเหล้ามายืนข้างโล่หวินหลาน
โล่หวินหลานเริ่มรินเหล้าเติมตำแหน่งขององค์ชายแต่ละคน โดยเริ่มจากองค์รัชทายาท
องค์ชายทุกคนที่นั่งอยู่ในตำหนักต่างก็นั่งกันอย่างสุขุม องค์รัชทายาทนั่งถัดมาจากฮ่องเต้ และถัดไปจากองค์รัชทายาทก็คืออ๋องยี่
"เหอซื่อทำความเคารพองค์รัชทายาท เพื่อรินเหล้าให้ท่าน" โล่หวินหลานทำความเคารพ สองมือยกเหล้าขึ้นมาทำความเคารพ
องค์รัชทายาทรับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย แล้วดื่ม
อ๋องยี่เผยรอยยิ้มออกมา แล้วจ้องมองมาที่โล่หวินหลาน ดูความงดงามของนางพลางดื่มเหล้า
คนถัดไปที่นางต้องรินเหล้าให้ก็คือโม่ฉีหมิง แววตาของเขาดูเย็นชาเหลือเกิน จนมือของโล่หวินหลานสั่นเทาไปหมด นางพยายามจะควบคุมสติตนเองเอาไว้
แต่ในขณะที่นางกำลังรินเหล้าให้เขานั้น มือใหญ่ก็คว้ามาจับมือของนาง
ความแรงที่เขาจับมานั้นราวกับจะทำให้แขนของนางแตกเป็นเสี่ยงๆ โชคดีที่นางหันข้างเอาไว้ ทำให้รอดพ้นสายตาของฮ่องเต้เจียเฉิงได้
แต่ว่า เวินอ๋องที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นกลับจ้องมองมาที่นางไม่วางตา
โล่หวินหลานจึงทำได้เพียงรีบดึงมาตนเองกลับ ไม่สบตากับเขา
ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำเช่นนี้ต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิงได้ หากฮ่องเต้เจียเฉิงเห็นเข้านั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ก็ไม่อาจปกปิดหรืออธิบายกับฮ่องเต้ได้ง่ายๆ?"
โม่ฉีหมิงเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ เหตุใดถึงทำเช่นนั้นกับนาง
"เป็นอะไรไป?" ฮ่องเต้เจียเฉิงขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
จากมุมที่เขานั่งอยู่นั้น ทำให้มองไม่เห็นว่าพวกเขากำลังทำสิ่งใดกัน เห็นเพียงเหอซื่อยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของโม่ฉีหมิง ไม่ขยับเขยื้อน
"เรียนฮ่องเต้ หมิงอ๋องเพียงรับสั่งว่าสุรานี้รสชาติดียิ่งนัก" โล่หวินหลานยืนตัวตรง ใบหน้าของนางดูเรียบเฉย
ฮ่องเต้เจียเฉิงมองไปที่โล่หวินหลาน จากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา “สรุปแล้วสุรานั้นรสชาติดีหรือเพราะเหตุใดกันแน่?"
ฟังจากน้ำเสียงและคำพูดของฮ่องเต้เจียเฉิงนั้น โล่หวินหลานจึงยิ้มเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียมารยาท แล้วเดินไปทางเวินอ๋อง
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ คนอื่นอาจเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่เวินอ๋องนั้นเห็นอย่างชัดเจน
หากเวินอ๋องมองไม่เห็น นางเองก็สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นด้วยความสบายใจได้ แต่หากเวินอ๋องกลาบทูลฮ่องเต้ในสิ่งที่เห็นเมื่อครู่นั้น คงไม่ดีกับนางและหมิงอ๋องแน่
"องค์หญิงเหอซื่อทำได้ถูกพิธีรีตอง สมแล้วที่เป็นองค์หญิงแห่งแคว้นแคว้นหนึ่ง เพียงแต่สิ่งที่ท่านและพี่สี่ทำเมื่อครู่นี้ ราวกับคนที่เคยรู้จักกันมาช้านาน" เวินอ๋องดื่มสุราแล้ววางลง จากนั้นมองไปทางโม่ฉีหมิง
ใบหน้าของโม่ฉีหมิงนั้นเรียบเฉย
หลังจากสิ้นคำพูดของเวินอ๋องนั้น ทุกสายตาก็หันมามองที่เขา แม้แต่ฮ่องเต้เองยังเกิดความสงสัย“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"
อค์หญิงจากแคว้นที่เป็นศัตรู พึ่งมาอยู่ที่แคว้นโม่ฉีไม่นาน ก็มีสัมพันธ์กับองค์ชายที่นี่ และยังแสดงความสนิทสนมขึ้นมาอีก หากฮ่องเต้ไม่เชื่อก็คงจบไปแล้ว แต่หากฮ่องเต้เชื่อในสิ่งที่เขาพูดนั้น ก็คงไม่แปลกที่จะคิดว่านางและองค์ชายนั้นวางแผนก่อกบฏได้
"จริงหรือ? เมื่อครู่พ่อไม่ได้ยินพวกเขาพูดคุยกันหนิ ไม่รู้ว่าคุยกันเช่นไรบ้าง อ๋องยี่ องค์รัชทายาทพวกเจ้าได้ยินหรือไม่?" ฮ่องเต้ขมวดคิ้วเป็นปม แล้วถามบุตรชายทั้งสอง
ความสัมพันธ์ของหมิงอ๋องและเวินอ๋องที่ไม่สู้ดีนัก พวกเขาเองจึงไม่กล้าที่จะลงไปเปื้อนน้ำโคลนนี้
ไม่ว่าจะเข้าข้างฝ่ายใด หากฝ่ายนั้นแพ้ ก็จะทำให้เป็นภาพทรงจำที่ไม่ดีในใจของฮ่องเต้เสียเปล่า
"เมื่อครู่หม่อมฉันกำลังลิ้มรสสุราอยู่ จึงไม่ได้ยินพะยะคะ"
"หม่อมฉันนั่งอยู่ไกล จึงไม่ได้ยินเหมือนกันพะยะคะ"
ทั้งสองพูดปฏิเสธ
โล่หวินหลานเห็นเช่นนี้แล้ว จึงรู้ว่าในใจของฮ่องเต้คงเริ่มสงสัย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฮ่องเต้ที่ดี แต่ไม่มีฮ่องเต้คนใดหรอกที่จะไม่หวาดกลัวกับเรื่องเช่นนี้
หากเรื่องนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยในตัวของโม่ฉีหมิง จนกระทบต่อตำแหน่งของเขา มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่
"ฮ่องเต้ เมื่อครู่ตอนที่หม่อมฉันรินเหล้านั้นก็ไม่ได้ยินหมิงอ๋องพูดจาสิ่งใดที่ดูสนิทสนม เพียงแต่เหอซื่อพึ่งย้ายมาที่นี่ ในใจเองก็หวังให้องค์ชายทุกคนล้วนอย่ามองหม่อมฉันเป็นคนอื่นไกล ให้มองและพูดคุยกับหม่อมฉันเหมือนมิตรสหายเถอะเพคะ เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ ก็จะทำให้ไม่รู้สึกแปลกหน้ากันจนเกินไป" โล่หวินหลานกล่าวขึ้น
เมื่อนางพูดจบ คำพูดของนางนั้นไม่ได้เป็นการปฏิเสธความสัมพันธ์อย่างจงใจ และไม่ได้เป็นการว่ากล่าวเวินอ๋อง จึงทำให้ฮ่องเต้คลายความกังวลไปได้
"องค์หญิงเหอซื่อมาที่แคว้นโม่ฉีแล้ว ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนพ้องมิตรสหายของเจ้า ไม่มีใครมองเจ้าเป็นคนแปลกหน้าหรอก ข้าเองก็หวังให้องค์หญิงมองที่นี่เป็นบ้านมองคนที่นี่เป็นคนในครอบครัวเช่นเดียวกัน" โม่ฉีหมิงพยักหน้า
ต้วนก้วยเฟยปลายตามองเวินอ๋อง ทั้งคู่ใช้สายตาเป็นการสื่อสาร ขณะที่นางกำลังจะพูดเพื่อเทน้ำมันในกองเพลิงนั้น ก็ได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง "อื้ม"
เสียงนั้นมาจากจ้าวกงกง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก