ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 288

ตอนที่ 288 รักผิดคน

อาลั่วหลันที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้นพยายามที่จะแกะหน้ากากหนังคนลงมา แต่เมื่อสบตากับโล่หวินหลาน นางก็ส่งสายตาห้ามปรามมาทันที

หากนางบอกความจริงกับโม่ฉีหมิง เสี่ยวฮัวก็จะเจ็บปวดน้อยลงหรือไม่?

นี่คือความคิดในใจของอาลั่วหลัน

โม่ฉีหมิงจ้องมองมายังอาลั่วหลัน แต่นางกลับก้าวเท้าถอยหลังหนี

"หม่อมฉันไม่ไป หม่อมฉันไม่ใช่แม่นางหวินหลานอะไรนั่น ท่านองค์เข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันสามารถสาบานได้" อาลั่วหลันพูดจบ พลางทำมือเป็นสามนิ้ว เพื่อที่จะสาบานต่อหน้าฟ้าดิน

"อาหลัน" โล่หวินหลานคิดไปมา หาเรียกนางว่าอาลั่วหลันคงมีคนรู้แน่ ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะเรียกเพียงสั้นๆ"

"หากเจ้าไม่ต้องการที่จะไปกับท่านอ๋อง ท่านอ๋องเองก็ไม่สามารถนำตัวเจ้าไปได้ ตอนนี้เจ้ากลับไปพักเถอะ" โล่หวินหลานตบที่บ่านางเบาๆ

หากโล่หวินหลานไม่เข้ามาตบบ่านาง อาลั่วหลันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองเปลี่ยนชื่อจากอาลั่วหลันเป็นอาหลันไปเสียแล้ว

นางพยักหน้า ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองโม่ฉีหมิง จากนั้นก็รีบวิ่งออกไป

เหลือทิ้งไว้เพียงโม่ฉีหมิง

"องค์หญิงต้องให้ข้าทำอย่างไร ถึงจะยอมให้นางแต่งงานกับข้า?" โม่ฉีหมิงมองดูแผ่นหลังของอาลั่วหลันที่เดินผ่านไป เขาเข้าใจว่านางความจำเสื่อมจึงทำให้ลืมเขา

สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดอยู่ที่เงื้อมมือของโล่หวินหลาน เขาจึงยอมทำทุกอย่างตามที่นางบอก

ขอเพียงนางเอ๋ยเท่านั้น เขาก็พร้อมที่จะทำ

"หม่อมฉันบอกไปแล้วเพคะ ขอเพียงท่านอ๋องยอมอภิเษกกับหม่อมฉัน หม่อมฉันเองก็จะยอมให้สาวใช้ของหม่อมฉันนั้นแต่งเข้าไปด้วย ข้อแลกเปลี่ยนนี้ ท่านอ๋องน่าจะได้กำไรมากเสียกว่าขาดทุนนะเพคะ!” โล่หวินหลานยิ้มเล็กน้อย

ตอนนี้นางไม่รู้ว่าตนเองนั้นกำลังหัวเราะเยาะตนเอง หรือหัวเราะเยาะโม่ฉีหมิงกันแน่

นางตีมูลค่าตนเองเป็นสิ่งของตั้งแต่เมื่อไหร่กัน และยังตีตราตนเองพร้อมกับมีของแถม?

สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ของแถมนั้นดูแล้วมีมูลค่ามากกว่านางเสียอีก

โม่ฉีหมิงเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย คิ้วที่ขมวดกันอยู่ของเขาคลายตัวลง

"ข้ารับปาก ว่าข้าจะอภิเษกกับเจ้า แต่มีข้อแม้ว่าสาวใช้คนนั้นข้าเองก็จะแต่งเข้ามาในตำหนักด้วย และหลังจากที่เข้าหอกันเรียบร้อยแล้ว หัวใจของข้าก็จะไม่มีวันอยู่ที่องค์หญิง องค์หญิงอย่าได้มีความหวังใดๆ" โม่ฉีหมิงกล่าวอย่างเย็นชา นี่เป็นเรื่องตลกร้ายที่สุดที่นางเคยได้ยินมา

โล่หวินหลานกลับปรบมือ “ท่านอ๋องนั้นวางแผนได้รัดกุมมาก จึงคิดที่จะอภิเษกคราวเดียวถึงสองคน? สิ่งที่ท่านทำนั้น เป็นการทำให้หม่อมฉันขายหน้า"

โม่ฉีหมิงไม่ได้คิดเช่นนั้น“ข้าเคยบอกกับองค์หญิงแล้ว ว่าในใจของข้ามีเพียงหวินหลาน สำหรับองค์หญิงแล้วนั้น ข้าไม่มีวันรักและไม่มีวันทำให้ขายหน้าแน่นอน"

ในใจของเขานั้น การกระทำเช่นไรถึงจะเรียกได้ว่าการทำร้ายจิตใจ?

โล่หวินหลานเองก็ตาสว่างแล้ว

นางหยุดไม่ได้ที่จะหัวเราะในลำคอ ตอนนี้นางรู้สึกหนาวไปทั้งตัว นางกอดตัวเองแล้วค่อยๆย่อตัวลงนั่ง

ตอนนี้นางนั่งลงข้างเตาผิง ความร้อนของเตาผิงนั้นทำให้นางอบอุ่นไปทั้งกาย แต่ไม่ใช่ให้หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลย

ประตูถูกปิดลง เขาเดินออกไปแล้ว

ไม่นานก็มีใครบางคนเดินเข้ามา

ใครคนนั้นย่อตัวลงนั่งบนพื้นเหมือนกันกับนาง พร้อมพูดขึ้น“ข้าได้ยินทุกอย่างแล้ว เขาคือคนที่เจ้าคิดถึงมาโดยตลอด เขาไม่คู่ควรในรักของเจ้า และไม่คู่ควรให้เจ้าไปรัก

หมิงซีกล่าวขึ้น ถึงแม้ว่าคำพูดของเขาจะฟังดูเย็นชา แต่มันเป็นคำปลอบโยนที่ดีของโล่หวินหลาน

"ข้ารนหาที่เอง ทั้งๆที่รู้ดีว่าเขาไม่มีวันลืมโล่หวินลาน แต่กลับที่จะดื้อดึงกลับมาที่นี่ นี่เป็นบทลงโทษของข้า" โล่หวินหลานหัวเราะเคล้าน้ำตา

"เหตุใดเจ้าจึงไม่บอกความจริงกับเขา?" หมิงซีเองก็คิดว่า หากนางบอกความจริงกับเขาแล้ว เขาจะต้องสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้

"หากเขาเชื่อข้า เขาก็ต้องรู้ว่านั่นไม่ใช่โล่หวินหลานตัวจริง เพราะความจริงแล้วนั้น เขาไม่ได้เชื่อข้าตั้งแต่แรกต่างหาก" โล่หวินหลานกล่าว

"ตอนนี้เรารู้ตัวว่าหลงรักผิดคน ก็ยังถือว่าไม่สายเกินไป" หมิงซีกล่าว

โล่หวินหลานไม่ได้พูดสิ่งใด ตอนนี้นางไม่อยากจะเชื่อและไม่ต้องการจะเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น

"ตอนนี้ข้ารู้สึกสับสนเหลือเกิน เขาคิดว่าอาลั่วหลันเป็นโล่หวินหลานไปเสียแล้ว ไม่แน่เขาอาจจะกำลังให้คนมาชิงตัวนางไป ช่วงนี้เจ้าต้องตามติดนางเพื่อปกป้องนาง" โล่หวินหลานกล่าว

หากอาลั่วหลันถูกจับตัวไป นางก็ไร้สิ้นความหวัง

อย่างน้อยหากอาลั่วหลันอยู่กับนาง โม่ฉีหมิงก็ไม่มีวันทำอะไร

"เรื่องนี้ทำให้อาลั่วหลันเข้าไปเกี่ยวข้อง หากกลับไป นางต้องถามข้าแน่ ถึงเวลานั้นข้าควรพูดหรือไม่ควรพูดเล่า?" หมิงซีกลัวว่าอาลั่วหลันจะถูกคนอื่นทำร้าย

เรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับนาง จึงไม่ควรปิดบังนาง

"หากนางถาม เจ้าก็บอกความจริงกับนางเถอะ ข้าเองก็เป็นหนี้บุญคุณนางมากพอแล้ว" โล่หวินหลานมองไปด้านนอกด้วยสายตาว่างเปล่า นางมองไปยังกระดาษแผ่นที่โม่ฉีหมิงจับเมื่อครู่

ด้านบนยังคงเขียนคำว่าสงบขนาดใหญ่ ซึ่งคำที่นางเขียนนั้นก็เป็นตัวอักษรที่ไม่สวยงาม

ทั้งๆที่เขาเองก็เห็นตัวหนังสือนี้แล้ว เหตุใดจึงเชื่อเพียงใบหน้านั่นแต่กลับไม่เชื่อในสิ่งที่เขาสัมผัสและรู้สึก?

ลมหนาวจากด้านนอกพัดมาไม่หยุด จนทำให้ห้องที่อบอุ่นนี้มีอุณหภูมิลดลงมา

ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทุกคนต่างให้ความสนใจกับเรื่องของเย่เซียวหลัว

เรื่องของนางนั้นถูกพูดถึงอย่างเสียๆหายๆ

เย่เซียวหลัวที่อยู่ในห้องเมื่อเห็นว่าเวินอ๋องกลับมา ก็รีบลุกขึ้นไปหา

"เวินอ๋อง ด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง? ฮ่องเต้ทรงรับสั่งว่าอย่างไร?" เย่เซียวหลัวถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

เพราะเรื่องนี้ ทำให้นางไม่สามารถออกจากตำหนักได้ และเรื่องคืนนั้นของโล่หวินหลาน จึงทำให้นางรู้สึกหวาดกลัว

เวินอ๋องสะบัดชายเสื้อของจนเอง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้

แววตาของเขาเย็นชา“คืนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ข้าสืบจนทราบความจริงหมดแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่เจ้าพูด ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโกหกข้าจนถึงวินาทีสุดท้าย!”

เวินอ๋องพูดด้วยน้ำเสียงโมโห จากนั้นก็โยนโต๊ะจนพลิกคว่ำ

หรือว่าเขา จะรู้แล้วว่านางข้าองค์หญิงเหอซื่อ?

เย่เซียวหลัวกลัวมาก แต่ใบหน้าของนางกลับนิ่งเฉย

"ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ได้โกหกนะเพคะ หม่อมฉันจะโกหกท่านอ๋องได้อย่างไร? หม่อมฉันไปที่ร้านผ้าจริงๆ" เย่เซียวหลัวพูดเสียงค่อย

"เจ้ายังกล้าปริ้นปร้นอีกหรือ? ข้าให้คนไปถามที่ร้านผ้าแล้ว ซึ่งเขาก็บอกว่าเจ้าไปที่นั่นจริง เพียงแต่ไม่ทราบว่าเวลาใด และแม้ว่าองครักษ์ที่ติดตามเจ้าไปนั้นจะอยู่ข้างเจ้า แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในคืนนั้น"

เวินอ๋องสูดหายใจเข้า นี่แหละหญิงสาว รู้เพียงว่าควรซ่อนสิ่งที่น่าสงสัย แต่ไม่รู้ว่าใครทำอย่างไรให้เขาหาไม่พบ

"วันนั้น หม่อมฉันไปที่ร้านผ้าจริง เพียงแต่ว่าหม่อมฉันได้ไปเดินเที่ยวเตร่อยู่ด้านนอกด้วย และเพราะหิมะตก ทำให้ทุกคนปิดร้านกันเร็วขึ้น หม่อมฉันเดินไปมาจึงไม่มีใครพบเห็น" เย่เซียวหลัวยังคงปั้นน้ำเป็นตัว

เพียงแต่ เวินอ๋องไม่ใช่คนโง่ ข้อแก้ตัวที่นางพูดมานั้นเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อถือ

"เจ้าไม่ต้องพูดสิ่งใดอีก ข้ารู้ทุกอย่างที่เจ้าทำแล้ว เจ้ายังกล้าปริ้นปร้อนอีกหรือ?" เวินอ๋องตบโต๊ะ

เย่เซียวหลัวสะดุ้ง

"ท่าน ท่านรู้เรื่องทุกอย่างแล้วหรือ? เย่เซียวหลัวนึกถึงเงาดำในคืนนั้น ไม่คิดเลยว่าความลับที่นางปิดบังมาโดยตลอด จะถูกจับได้แล้ว"

"อื้ม ข้ารู้ทุกอย่างแล้ว" เวินอ๋องพยักหน้า ขณะที่เขากำลังจะพูดบางอย่าง เย่เซียวหลัวกลับคุกเข่าลงตรงหน้า

"ท่านอ๋อง ท่านต้องเชื่อหม่อมฉันนะเพคะหม่อมฉันไม่ได้ฆ่าคน วันนั้นเรื่องทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด และที่ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นเพราะหม่อมฉันไม่อาจทนได้แล้ว" เย่เซียวหลัวกล่าวขึ้น

ฆ่าคน?

"เจ้าฆ่าใคร? พูดออกมา" เวินอ๋องขมวดคิ้วเป็นปม ตอนแรกเขาเพียงคิดที่จะลองใจนางก็เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะได้รู้ความจริงบางอย่างขึ้น

ฟังจากคำพูดของเวินอ๋องนั้น เขาไม่น่าจะรู้เรื่องนี้? เย่เซียวหลัวตัวสั่นไปหมด

"เปล่าเพคะ หม่อมฉันแค่พูดขึ้นเฉยๆ ว่าหม่อมฉันไม่ได้ฆ่าใคร เวินอ๋องต้องเชื่อหม่อมฉันนะเพคะ" เย่เซียวหลัวกล่าวอธิบาย

เพียงแต่ ตอนนี้เวินอ๋องไม่เชื่อในสิ่งที่นางพูดแล้ว

"เจ้าจะให้ข้าเชื่อได้อย่างไร ว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริงหรือไม่? หากเจ้าไม่ต้องการจะพูด ข้าเองก็ไม่อยากบังคับ แต่หากข้าสืบพบสิ่งใดเข้า เจ้าก็ต้องรับผิดแต่เพียงผู้เดียว" เวินอ๋องบอกอย่างไร้ความห่วงใย

"ไม่เพคะ" เย่เซียวหลัวรีบตอบทันควัน ใบหน้าที่โดนลมหนาวมาทั้งคืนนั้นทำให้ดูอิดโรย "หม่อมฉันบอกความจริงเพคะ สองสามวันก่อนหม่อมฉันได้เป็นที่ตำหนักดงหัวเยี้ยน เพราะท่านบอกว่าท่านจะอภิเษกกับนางและแต่งตั้งให้นางเป็นสนม ดังนั้นหม่อมฉันจึงอยากไปถามความคิดเห็นของนาง ด้วยความที่เราทั้งคู่ดื้อดึงกันนั้น หม่อมฉันจึงพลาดท่าฆ่านางไปเพคะ"

ยิ่งพูดเสียงของนางก็ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ ราวกับเสียงลมทางไกล

เวินอ๋องลุกขึ้นยืน ดวงตาตลมของเขาช่างเย็นชานัก“เจ้าบอกว่าอะไรนะ? เจ้าฆ่าองค์หญิงเหอซื่อแล้ว? เย่เซียวหลัว เจ้าอยากตายหรือไง?"

ไม่ว่าอย่างไรนี่มันก็เป็นความจริง เย่เซียวหลัวเองตอนที่ได้สติขึ้นมานั้น องค์หญิงเหอซื่อก็ตายไปแล้ว

สุดท้าย นางก็ได้ฆ่าองค์หญิงเหอซื่อ

"หม่อมฉันรู้เพคะ หม่อมฉันรู็ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันสายเกินไป เพียงแต่ว่าตอนนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างมันบีบบังคับ หม่อมฉันไม่อาจทนได้จึง....." เย่เซียวหลัวกัดฟัน แล้วไม่ได้พูดต่อ

ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หากจะถูกทุกคนรู้เข้า นางเองก็พร้อมที่จะรับผิด

"เจ้า ข้าไม่รู้ว่าควรว่าเจ้าอย่างไรดี?" เวินอ๋องไม่อยากเสวนากับนาง จึงเดินออกไป

ทั้งๆที่ตอนแรกเขาตั้งใจจะหลอกถามนางเรื่องคืนนั้น แต่ตอนนี้กลับรู้ความจริงที่น่าตกใจกว่าเดิม

ถึงว่าช่วงนี้องค์หญิงเหอซื่อไม่ได้ปรากฎตัวต่อหน้าพวกเขา ที่แท้.....

แต่ว่า เหตุใดจึงปิดเป็นความลับได้นางเช่นนี้ และไม่ยอมให้ใครรู้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก