ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 294

ตอนที่ 294 โกลาหล

หมู่เฟยที่ตายไปแล้ว?

ฟังมาถึงตรงนี้มือของโม่ฉีหมิงที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อก็กำเป็นหมัดแน่น ใบหน้าไม่ปรากฏรอยยิ้มอีกต่อไป

ฟันขบเข้าหากันแน่น ทนรับสายตาที่มองมาอย่างต่างไปจากเดิมของนาง ความตั้งใจมุ่งมั่นของเขาดั่งเหล็กกล้าที่ไม่สั่นไหว

ของที่ควรเป็นของเขาก็คือของของเขา ในเมื่อเป็นของเขาผู้ใดก็ล้วนห้ามแตะต้อง

ฟังคำกล่าวเย็นชาประชดเสียดสีของพวกนางโม่ฉีหมิงมิได้กล่าวสิ่งใดเพียงแค่คุกเข่าอยู่บนพื้นเท่านั้น

สำหรับเขาแล้วคำพูดดูถูกถากถางที่เขาได้รับมาหลายปีนี้ รอวันหน้าเขาจะต้องคืนมันกลับไปโดยไม่ตกหล่นซักประโยค

เพียงแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเรื่องแต่งงานกับโล่หวินหลาน

หลายปีมานี้สิ่งที่เขาปรารถนามีไม่มากทั้งยังง่ายดายยกเว้นเพียงนางคนเดียวเท่านั้น

“ฝ่าบาท ยามปกติหมิงอ๋องมิใช่เป็นเช่นนี้ พวกเราไม่สู้เรียกตัวหญิงรับใช้ผู้นั้นออกมาถามความคิดเห็นของนางดีหรือไม่เพคะ?” หรงฝินมองฮ่องเต้เจียเฉิง สายตาแสดงออกถึงการวอนขอ

แม้จะมีเย่ฮองเฮากับต้วนกุ้ยเฟยคอยกระพือไฟอยู่ข้างหูแต่ฮ่องเต้เจียเฉิงยังไม่ถึงวัยที่หลงเชื่อโง่งมไปตามนั้น คำพูดของหรงฝินได้เรียกสติเขากลับมา

ที่แท้เป็นสตรีเช่นใดกันจึงสามารถทำให้ฮ่องเต้เฉิงเจียทุ่มเทความรักให้เช่นนี้?

“จ้าวกงกง ถ่ายคำสั่งของข้าลงไป จงไปยังดงหัวเยี้ยนตามหาหญิงรับใช้คนสนิทขององค์หญิงเหอซื่อ ข้าอยากพบนาง” ฮ่องเต้เจียเฉิงกำชับ

จ้าวกงกงเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ตอบรับคำของฮ่องเต้จากนั้นก็รีบก้าวถอยไป

บรรยากาศรอบด้านชั่วอึดใจนั้นโอบล้อมไปด้วยความอึดอัดและเงียบลงไปหลายส่วน

เห็นโม่ฉีหมิงยังคุกเข่าตัวตรงอยู่ที่เดิมฮ่องเต้เจียเฉิงก็กล่าวว่า “หมิงอ๋อง เจ้าลุกขึ้นนั่งก่อนเถอะ”

ทุกคนต่างเฝ้ารอคอยการมาของหญิงรับใช้ผู้นั้นอยากเห็นว่าฐานะของนางเป็นอย่างไรกันแน่ถึงสามารถทำให้โม่ฉีหมิงที่ปักใจแน่วแน่ต่อโล่หวินหลานกลับมาขอแต่งงานกับนางได้

โล่หวินหลานก้มหน้ามองสุราในจอกเหล้า ขยับมันไปมาช้าๆ

“บ่าว อา...หลัน เข้าเฝ้าฝ่าบาท ขอฝ่าบาทอายุยืนหมื่นปีหมื่นๆปีเพคะ” อาลั่วหลันคำนับด้วยท่าพิธีการของแคว้นโม่ฉี ดูไปแล้วคล้ายกับชาวแคว้นโม่ฉีตามแบบฉบับเดิม

“ลุกขึ้นเถอะ เหตุใดต้องสวมผ้าคลุมหน้า? เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่เป็นการไม้ให้เกียรติอย่างใหญ่หลวง?” สายตาแวววาวของฮ่องเต้เจียเฉิงจดจ้องไปที่ใบหน้าใต้ผ้าคลุมของอาลั่วหลัน

อาลั่วหลันลูบผ้าคลุมบนหน้า สูดหายใจลึก

ก่อนออกจากประตูหมิงซีเอามันมาให้นางสวมเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฮ่องเต้เจียเฉิง ดึงดูดความสนจากผู้คน

“ตอบฝ่าบาท เพราะใบหน้าของบ่าวมีตุ่มผื่นเพคะ เพื่อไม่ให้กระทบกับความรู้สึกของฝ่าบาทดังนั้นจึงใช้ผ้าคลุมปกปิดเอาไว้ ขอฝ่าบาทอย่าได้ใส่พระทัยเลยเพคะ ” อาลั่วหลันเอ่ยเสียงเบา

เป็นสตรีเช่นนี้ แม้ฟังวาจาที่นางกล่าวออกมาจะไม่ธรรมดา แม้พวกเขาจะไม่รู้ลึกตื้นหนาบางแต่ย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสดีเช่นนี้หลุดลอยไป

“คิดไม่ถึงว่าโม่ฉีอ๋องเพื่อสตรีเช่นนี้แล้วได้ทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง นี่มิใช่ว่าต้องการทำให้ฝ่าบาทลำบากพระทัยหรอกรึ?” เย่ฮองเฮาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียดแทนคาดโทษไปยังโม่ฉีหมิง

เมื่อเป็นถึงมารดาของแผ่นดินย่อมไม่มีผู้ใดกล้าขัดคำพูดของนาง

ต้วนกุ้ยเฟยหัวเราะเย็น “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหลวไหลที่สุดตั้งแต่แคว้นโม่ฉีถือกำเนิดขึ้นมา ขอฝ่าบาททรงพิจารณาอีกครั้งด้วยเพคะ”

เสียงคัดค้านดังขึ้นไม่หยุด โม่ฉีหมิงที่ได้ยินกับหูกลับไม่มีปฏิกิริยาอื่นใด

เวลานั้นเองที่ฮ่องเต้เจียเฉิงยกมือขึ้น หยุดเสียงของทั้งสองคน

“เสด็จพ่อ หากน้องสี่มิได้ปักใจชอบหญิงรับใช้ผู้นี้ย่อมไม่กล้าสะเพร่าทูลเรื่องนี้ต่อหน้าพระองค์หรอกพะย่ะค่ะ เสด็จพ่อไม่สู้ประทานอนุญาตเถอะพะย่ะค่ะ” ผู้กล่าวก็คืออ๋องยี่ เขาผู้นี้ไม่เคยเข้าใจเรื่องการเมือง เรื่องในครั้งนี้ก็อาศัยความต้องการของตนเองจึงพูดออกมา

ฮ่องเต้เจียเฉิงหันไปมองอ๋องยี่ ใช่สายตาดุดันกวาดทั่วร่างเขาหนึ่งรอบเขาก็หุบปากลงไม่กล้ากล่าวอะไรอีก

“หมิงอ๋อง เจ้าร้องขอเช่นนี้นั้นไม่ถูกธรรมเนียม ข้ายึดหลักกฎหมายบ้านเมือง ไม่อาจตอบรับได้ แต่เห็นแก่ที่เจ้าทุ่มเทให้กับความรักเช่นนี้ ข้าจะยอมผ่อนปรนให้” ฮ่องเต้เจียเฉิงกล่าว ไม่สนความคิดเห็นของผู้อื่น

เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมาก็เรียกเสียงดังอื้ออึงไปทั่ว

เย่ฮองเฮาคิดไปคิดมาการที่องค์หญิงเหอซื่อกับหญิงรับใช้ของนางแต่งให้กับโม่ฉีหมิงไม่ได้ก่อผลร้ายแก่ตัวเอง ไม่แน่ว่านี่ยังอาจเป็นโอกาสให้นางตลบหลังโม่ฉีหมิงก็เป็นได้

แต่อาลั่วหลันกลับทรุดตัวคุกเข่าลงบนพื้น

“ฝ่าบาท บ่าวไม่กล้าแต่งให้กับหมิงอ๋อง ฝ่าบาทได้โปรดช่วยถอนรับสั่งด้วยเถิดเพคะ”

ถ้าไม่เพราะเรื่องนี้ขององค์หญิงเหอซื่อตึงมือขนาดหนัก ฮ่องเต้เจียเฉิงก็ไม่มีทางเลือกใช้วิธีที่โง่เขลาเช่นนี้

ไม่ว่าเป็นใครหากสามารถทำให้โม่ฉีหมิงแต่งองค์หญิงเหอซื่อเข้าตำหนักได้ล้วนแต่เป็นประโยชน์ร้อยประการไร้พิษภัย

หากเงื่อนไขพิเศษคือการที่โม่ฉีหมิงต้องการแต่งหญิงรับใช้ขององค์หญิงเหอซื่อเข้าไปด้วยเขาก็ยอมเห็นดีเห็นงาม

“เจ้า เจ้ารู้รึไม่ว่านี่คือการขัดราชโองการ ผลของการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะแบกรับได้” ดวงตาทั้งสองของฮ่องเต้เจียเฉิงหรี่ลง น้ำเสียงแฝงความอันตราย

“บ่าว บ่าวไม่กล้าเพคะ เพียงแต่บ่าวไม่ ไม่ต้องการ...” อาลั่วหลันกลัวฮ่องเต้ที่อารมณ์แปรปรวนผู้นี้จะสั่งจับกุมตนโทษฐานขัดราชโองการจนร่างกายสั่นไปหมดครึ่งประโยคหลังที่เหลือจึงไม่ได้เอ่ยออกมา

ทันใดนั้นเสียงของตกพื้นดัง “เพล้ง” ก็ดังมาจากจากด้านข้าง

สายตาของทุกคนหันไปทางโล่หวินหลาน

ภายใต้การจับจ้องจากรอบด้านสีหน้าของโล่หวินหลานไร้ความประหม่าแต่อย่างใด นางยกมือข้างหนึ่งขึ้น ยิ้มจางๆขณะเอ่ยว่า “ขออภัย มือลื่น”

เศษแก้วบนพื้นสะท้อนเข้าสู่สายตาของคนทุกผู้

ทำแก้วบนโต๊ะแตกในงานเลี้ยง ถือเป็นการท้าทายอย่างไม่ต้องสงสัย โล่หวินหลานรู้เหตุผลข้อนี้ดีจึงจงใจทำใช้วิธีนี้ดึงความสนใจจากฮ่องเต้เจียเฉิง

“องค์หญิงเหอซื่อเจ้ามีสิ่งใดต้องการจะกล่าวหรือไม่?” ฮ่องเต้เจียเฉิงหันกายไปถามโล่หวินหลาน

มุมปากของโล่หวินหลานกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน นางค่อยๆลุกขึ้นยืน

ก้าวเท้าอย่างเชื่องช้าไปยังหน้าลานกว้างตรงกลางตำหนักแล้วดึงอาลั่วหลันที่คุกเข่าอยู่ให้ยืนขึ้น

“ในเมื่อฝ่าบาทถามเช่นนี้ เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา” เสียงที่เอ่ยออกมานั้นเย็นใสปราศจากสิ่งเจือป่น

“คิดไม่ถึงว่ากฎหมายแคว้นของท่านช่างไม่อาจหาคำใดมาสรรเสริญได้ถึงเพียงนี้ ดูอย่างวิธีที่พวกท่านปฏิบัติต่อองค์หญิงที่มาจากแดนไกลเพื่อเข้าพิธีแต่งงานอย่างข้าสิ นับตั้งแต่อดีตมาก็ได้มีการแบ่งแยกลำดับฐานะสูงต่ำ ไม่ต้องเอ่ยถึงที่หญิงรับใช้ผู้หนึ่งกับองค์หญิงจะแต่งให้กับองค์ชายเลย แม้แต่การที่องค์ชายจะแต่งกับหญิงรับใช้ก็ยังต้องมีการตรวจสอบคัดเลือกฐานะอย่างละเอียด”

แต่มาวันนี้ ฝ่าบาทกลับตอบรับคำร้องขอแต่งงานของหมิงอ๋องอยางเลินเล่อ จะให้หม่อฉันกับหญิงรับใช้แต่งให้เขาพร้อมกัน ไม่ทราบว่ากฎหมายแค้วนของท่านเป็นเช่นนี้ หรือว่าในใจของฝ่าบาทคิดเป็นอื่นกันเพคะ?”

แต่เดิมไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยวาจาน่าอัปยศเช่นนี้ต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง และไม่มีผู้ใดกล้าสงสัยการตัดสินใจของฮ่องเต้เจียเฉิงมาก่อน

เวลานี้โล่หวินหลานกล่าวเช่นนี้เป็นการยั่วยุต่ออำนาจของกษัตริย์อย่างไม่ต้องสงสัย ทวงถามถึงอำนาจในมือของเขา

แต่ว่าที่นางพูดมาก็ไม่ใช่ไม่ได้เป็นเรื่องจริง

“องค์หญิงเหอซื่อ เจ้า...เจ้า...” ฮ่องเต้เจียเฉิงไร้คำตอบไปชั่วขณะและไม่รู้ว่าตนควรตอบกลับไปอย่างไร

โล่หวินหลานกล่าวต่อว่า “ฝ่าบาท หากท่านไม่ยอมให้หมิงอ๋องแต่งกับหญิงรับใช้ของหม่อมฉันนั่นจะทำให้หมิงอ๋องปวดใจจนไปถึงขั้นเกลียดพระองค์ แต่ว่าหากท่านยินยอมล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการทำให้หม่อมฉันกับแคว้นเซิ่งโจวอับอาย! ขอฝ่าบาททรงไตร่ตรองด้วยเพคะ!” กล่าวจบก็คุกเข่าลง

โม่ฉีหมิงนำร่างสูงสง่าของตนไปหยุดอยู่ตรงหน้านาง สองมือใต้แขนเสื้อกำแน่น สีหน้าเย็นชาราวกับซิวหลัว(เทพ)ผุดมาจากนรก

เขาเปิดปากเอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า “องค์หญิงเหอซื่อ ท่านไม่อนุญาตเพราะจิตใจของท่านไม่กว้างขวางพอ ข้าแต่งหญิงรับใช้ของท่าน นับเป็นวาสนาที่ท่านสะสมมาหลายชาติแล้ว ท่านควรจะยินดีที่ตัวเองจะได้เป็นเจ้าของข้าด้วยซ้ำ”

แต่ละคำแต่ละประโยคของเขาล้วนทิ่มแทงเข้าที่หัวใจของโล่หวินหลาน

จิตใจนางไม่กว้างขวางรึ?

ถูกต้อง ที่จิตใจนางไม่กว้างขวางเรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงนางก็คงไม่มายืนอยู่ที่หรอก

“หมิงอ๋อง ท่านกล่าวเช่นนี้ไม่รู้สึกฝืนใจบ้างหรือเพคะ? เห็นได้ชัดว่าพวกท่านแคว้นโม่ฉีกำลังรังแกคน ยังต้องการทำให้หม่อมฉันเสื่อมเสีย หม่อมฉันมาจากแดนไกลไม่ใช่เพื่อให้ท่านรังแกกันเฉยๆหรอกนะเพคะ” ใบหน้างดงามเปี่ยมเสน่ห์ของโล่หวินหลานยามโกรธก็ยังมีความคุกคามอยู่ไม่น้อย

จื๋อเอ่อที่อยู่ด้านข้างดึงดาบยาวออกมาจากข้างเอว เสียใสกังวาลของคมมีดที่ถูกชักออกจากฝักราวกับดังอยู่ข้างหูของทุกคน

ยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิงไม่อนุญาตให้ผู้ใดพกดาบ แต่จื๋อเอ่อเป็นทูตที่มาเยือนแคว้นโม่ฉีจึงมีสิทธิในการพกดาบได้เบื้องหน้าพระพักตร์ได้

ทุกคนเห็นเขาดึงดาบออกมาก็ค่อยๆพากันก้าวถอยหลังไป

“จื๋อเอ่อ คนผู้นี้ทำให้แคว้นเซิ่งโจวของเราต้องอับอาย มีแค้นมิชำระหาใช่วิญญูชน เจ้าจงสั่งสอนให้บทเรียนเขาสักเล็กน้อยเถอะ แต่ห้ามทำร้ายผู้อื่น” โล่หวินหลานกล่าวจบก็ถอยหลังไปสองก้าว

ได้ยินโล่หวินหลานเอ่ยว่าต้องการสั่งสอนพระโอรสของฮ่องเต้สีหน้าของคนทุกผู้ก็เปลี่ยนไป ทยอยหันไปมองฮ่องเต้เจียเฉิงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ใบหน้าเผยแววหวาดกลัวออกมา

ด้านล่างจื๋อเอ่อได้เริ่มประมือกับโม่ฉีอันแล้ว พละกำลังขอทั้งสองเทียบเท่ากันแต่สองปีมานี้ฝีมือของโม่ฉีหมิงได้พัฒนาขึ้นมาก หากจื๋อเอ่อคิดจะเอาชนะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ว่ายังไงเสียโม่ฉีหมิงก็ไม่ได้พกอาวุธเทียบกับจื๋อเอ่อที่มีดาบถืออยู่ในมือแล้วเขาต้องเปลืองแรงไปไน้อย

“พวกเจ้าหยุดมือเดี๋ยวนี้! ที่นี่คือตำหนักของข้า ข้ายังนั่งอยู่ตรงนี้ พวกเจ้ากลับกล้าลงมือชกต่อยกันต่อหน้าข้า? ยังเห็นข้าอยู่ในสายตาอยู่ไม่?” ฮ่องเต้เจียเฉิงบันดาลโทสะตบโต๊ะอย่างแรง หน้าผากขึ้นสีแดง ตะโกนร้องจนหน้าเขียวม่วง

จ้าวกงกงที่อยู่ข้างๆรีบประชิดตัวตบเบาๆที่หลังของเขาปากก็พูดว่า “ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะ ฝ่าบาทโปรดระงับสะ!”

โล่หวินหลานเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็พลันรู้สึกว่าเหตุการณ์เริ่มบานปลายทั้งยังกลัวฮ่องเต้เจียเฉิงกล่าวโทษจึงรีบร้องบอกให้จื๋อเอ่อหยุดมือ

“จื๋อเอ่อ หยุดมือ”

จื๋อเอ่อหยุดมือชะงัก ใช้เรี่ยวแรงเพียงนิดเดียวก็มาปรากฏร่างอยู่ด้านข้างโล่หวินหลานแล้ว

นัยน์ตาของโม่ฉีหมินดำลึกจนมองไม่เห็นก้น เมื่อการเคลื่อนไหวหยุดลงเขาก็หันไปจ้องโล่หวินหลาน

เขาเดินกลับมายังกลางท้องพระโรงแต่สายตาไม่ได้ละไปจากโล่หวินหลานเลยราวกับต้องการมองให้ลึกลงไปอีก

“พวกเจ้ายังเห็นข้าอยู่ในสายตารึไม่? ใต้หล้านี้เป็นของข้าพวกเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?” ฮ่องเต้เจียเฉิงตบโต๊ะเสียงดัง

ครั้นบันดาลโทสะอย่างรุนแรงลำคอจึงรู้สึกเจ็บอยู่บ้างจนไอออกมาสองครั้ง

ราชโอรสหลายคนที่อยู่ด้านล่างได้ชมเรื่องครื้นเครงตรงหน้าในใจก็ลอบร้องว่าดี

ตอนนี้คอยดูฮ่องเต้เจียเฉิงสั่งลงโทษสองคนนั่น พวกเขาก็จะไม่เพียงแค่ได้ชมละครสนุกๆทั้งยังไม่ต้องเสียแรงกดดันโอรสผู้ซึ่งเหมือนดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือขอบฟ้าขององค์ฮ่องเต้ผู้นั้น

“ฝ่าบาท เรื่องนี้หม่อมฉันทำไม่ถูก หม่อมฉันยินดีรับโทษเพคะ แต่ว่าของฝ่าบาทได้โปรดถอนรับสั่งด้วยเถิดเพคะ อย่าให้อาหลันแต่งให้หมิงอ๋องเลยเพคะ” โล่หวินหลานยอมสละแรงกายถึงเพียงนี้ก็เพื่อให้ฮ่องเต้เจียเฉิงถอนรับสั่ง

“ฝ่าบาทเพคะ แม้เรื่องนี้จะไม่เหมาะสม แต่ในเมื่อองค์หญิงกับหญิงรับใช้ไม่เต็มใจ ไม่สู้ช่วยให้คนสมปรารถนา เลือกคู่ครองใหม่ให้พวกนางดีมั้ยเพคะ” หรงฝินเอ่ยเสียงเบา

การที่สองคนนั่นกัดกันไม่ยอมปล่อยไม่เป็นผลดีแก่ใครยกเว้นก็แต่เย่ฮองเฮาคนเดียวเท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วไม่สู้ไม่ให้ใครได้ประโยชน์ไปสักคนเลยจะดีกว่า

“เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าที่หรงฝินกล่าวนั้นไม่ผิด เรื่องนี้ผิดธรรมเนียม ขอให้เสด็จพ่อถอนรับสั่งด้วยเถอะพะย่ะค่ะ” รัชาทายาทที่ไม่ได้เปิดปากอยู่นานกลับใช้เวลานี้เออออตามน้ำเกลี้ยกล่อมบิดาตน

แต่คำพูดที่ฮ่องเต้เจียเฉิงกล่าวออกไปแล้วจะให้เอากลับคืนมาได้อย่างไรกัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก