ตอนที่ 295 โดดเดี่ยว
สีหน้าของฮ่องเต้เจียเฉิงถึงจุดที่ไม่น่ามองอย่างสุด เขาเองก็ไม่รู้เหตุใดเรื่องราวมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เทียบกับการปกครองบ้านเมือง เขากลับคิดว่าปกครองเรื่องในบ้านของตนยังน่าปวดหัวกว่าเสียอีก
“ในเมื่อเรื่องมาถึงขึ้นนี้ ที่พวกเจ้าว่ามาก็ไม่ผิด ให้ข้าได้ไตร่ตรองสองวันแล้วจะให้คำตอบ” ฮ่องเต้เจียเฉิงสีหน้าเคร่งขรึมขณะกล่าวไป
เอ่ยอย่างสุกเอาเผากินเช่นนี้ก็ปล่อยผ่านเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไปได้งั้นรึ? โดยเฉพาะเมื่อประโยคหลังที่เอ่ยออกมายิ่งทำให้โม่ฉีหมิงรู้สึกกังวลใจ
เพียงแค่วันเดียวที่ไม่ได้ครอบครองโล่หวินหลานในใจเขาก็ไม่สามารถสงบลงได้ หากเพราะเรื่องนี้ทำให้เขาต้องสูญเสียโอกาสครั้งใหญ่ไปเช่นนั้นต่อให้นำชีวิตที่เหลือมาชดใช้ก็ชดใช้ไม่ได้
“เสด็จพ่อ ต่อให้ลูกมิได้แต่งงานกับองค์หญิงเหอซื่อแต่ต้องได้แต่งงานกับหญิงรับใช้ข้างกายนาง หากเสด็จพ่อไม่ทรงรับปากลูกคงได้แต่พานางหนีไป” โม่ฉีหมิงกัดฟันเอ่ยเสียงเย็น
แววตาเขาหนักแน่นไม่เปลี่ยนแปลง บนใบหน้าไม่มีร่องรอยอารมณ์ให้เห็นสักกระผีกเดียว
อาลั่วหลันจากด้านข้างเห็นเขายืนขึ้นก็รีบร้อนถอยหลังไปไม่นึกเลยว่าข้อมือเล็กบางของนางพลันถูกเขาจับไว้แน่น
เรี่ยวแรงของเขามากจนนางไม่สามารถปลดมือออกได้ ทำได้เพียงถูกเขากักขังไว้ใต้ฝ่ามืออย่างเอาเป็นเอาตาย
“ท่านปล่อยข้า....ปล่อยข้า...ข้าไม่ไปกับท่าน!” อาลั่วหลันเมื่อตีไม่ได้ดึงไม่ออกก็ร้องออกมาเสียงดังต้องการเรียกความสนใจจากผู้อื่น
แต่ว่าเบื้องหน้าแผ่นหลังอันกว้างใหญ่นี้กลับไม่มีโอกาสแม้เพียงที่นางจะสลัดเขาออกไปได้ ยามเมื่อนางคิดจะกระโดดหนีไปข้อมือก็ยิ่งถูกเขารัดแน่นเข้าไปอีก
“หมิงอ๋อง! ข้ายังไม่ได้กล่าวสิ่งใดเจ้าก็กล้าเอาคนไปต่อหน้าต่อตาข้าอย่างงั้นเรอะ? ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าทำเรื่องบังอาจเช่นนั้น?” ฮ่องเต้ตบโต๊ะผุดลุกขึ้นยืน
ทั่งร่างของโม่ฉีหมิงไม่มีอาการสั่นสะเทือนแม้แต่น้อยและไม่มีอารมณ์หวาดกลัวออกมาให้เห็นราวกับว่าเมื่อเขาก้าวออกจากประตูนี้ไปด้านหน้าก็เป็นเพียงดินแดนอันกว้างใหญ่
เขาสามารถย่ำไปบนดินแดนเหล่านั้นกับคนที่เขารักที่สุด ใช้ชีวิตผ่านวันเวลาราวกับเทพเซียน
อาลั่วหลันกลับคิดหาทางให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของเขา อย่างไม่ได้คาดการไว้ล่วงหน้า นางพลันกระทืบเท้าของโม่ฉีหมิงโน้มตัวเองไปข้างหลัง หลุดเป็นอิสระในที่สุด
แต่เพราะด้านหลังไม่มีที่พิงอีกต่อไปร่างของนางจึงเอนไปตามแรงโน้มถ่วง เมื่อเห็นตัวเองกำลังจะล้มกระแทกพื้นนางก็รีบหลับตาลง
ในวินาทีที่กำลังจะกระแทกพื้นก็มีมือหนึ่งมาช่วยพยุงนางเอาไว้ เอวเล็กบางถูกมือใหญ่เกาะกุมแน่น เมื่อเขาออกแรงดึงร่างของนางก็ถูกดึงให้ยืนตรงทันที
“เจ้า...”
อาลั่วหลันเห็นสีหน้าเย็นเยียบ กิริยามั่นคงทั้งยังฉายแววคาดโทษของโม่ฉีหมิง แต่เพิ่งกล่าวได้หนึ่งคำผ้าคลุมบนหน้าก็ร่วงหล่นลงมา
ผ้าคลุมหน้าสีขาวผืนบางอ่อนนุ่มปลิวไปตามลม เมื่อไม่มีสิ่งใดปกปิดอาลั่วหลันก็เห็นทุกอย่างชัดเจนแต่สายตาของทุกคนกลับสะท้อนไปที่ตัวนางเป็นจุดเดียว
ทุกคนประหลาดใจจนทยอยพากันลุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
แก้วสุราในมือของเวินอ๋องตกลงสู่พื้นในเสี้ยววินาทีแต่เขากลับไม่รู้ตัวสักนิด สายตาทั้งสองหยุดอยู่ที่ใบหน้าของอาลั่วหลัน ไม่สามารถเอ่ยถ้อยคำออกมาได้อยู่เป็นนาน
“หวินหลาน...” ริมฝีปากบางของเขาเผยอออก เอ่ยชื่อที่ทั้งแปลกหน้าทั้งคุ้นเคยในเวลาเดียวกันออกมา
ภายในโถงใหญ่วินาทีนั้นราวกับน้ำร้อนบนหม้อต้มเดือด ในสมองคนทุกคนต่างมีคำคาดเดาต่อเรื่องปริศนานี้ผุดออกมาไม่หยุด
โล่หวินหวานที่ตายไปตั้งหนึ่งปีกว่ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง?
“เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร?” รัชทายาทก็ลุกขึ้นด้วยเช่นกัน เบนตามองไปยังโม่ฉีหมิง
แม้แต่ดวงตาทั้งสองข้างของฮ่องเต้เจียเฉิงก็ยังมุ่งตรงไปที่ร่างของอาลั่วหลัน
ในใจของทุกคนพลันแจ่มแจ้งในทันทีว่าเหตุใดโม่ฉีหมิงจึงไม่ยอมทำตามกฎแคว้น ต้องการแต่งกับหญิงรับใช้ผู้นี้ให้ได้ ไม่ยอมทำตามคำสั่งของฮ่องเต้เจียเฉิงทั้งยังจะพานางจากไปอีก
ที่แท้เรื่องทั้งหมดก็มีมูลเหตุ
คนตรงหน้านี้คือโล่หวินหลาน!
คนที่อยู่ที่นี่คล้ายกับรู้จักโล่หวินหลานกันทุกคน เงาร่างของนางยังคงประทับอยู่ในความทรงจำของพวกเขา
อาลั่วหลันรีบกุมใบหน้าของตัวเองไม่ให้พวกเขาเห็น แม้นางจะไม่รู้ว่าเหตุใดใบหน้าของตนถึงทำให้ทุกคนตกใจได้ถึงขนาดนี้แต่นางก็รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีจุดประสงค์ดีแน่
“อาหลัน” โล่หวินหลานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรีบกอดร่างสั่งเทาของนางเอาไว้ ปกป้องนางไว้ด้านหลังของตนเอง
ฮ่องเต้เจียเฉิงชี้ไปที่อาลั่วหลันด้วยความประหลาดใจ “เจ้า เจ้าเป็นใครกันแน่? เหตุใด เหตุใดจึงหน้าตาเหมือนกับพระชายาหมิงอ๋องที่ตายไปแล้ว?”
โม่ฉีหมิงสาวเท้าเข้ามาตรงหน้าอาลั่วหลันหนึ่งก้าว สาดสายตาเย็นชาไปยังโล่หวินหลานยกมือผลักร่างของนางออกแล้วพาอาลั่วหลันจากไป
“โม่ฉีหมิงเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้แต่เจ้าคิดจะจากไปอย่างนั้นหรือ? ไม่แม้แต่จะให้คำอธิบายแก่ข้าเลยเชียวรึ?” ฮ่องเต้เจียเฉิงมีความคิดที่จะลงจากแท่นที่นั่งไปจับตัวโม่ฉีหมิงแต่เย่ฮองเฮาคอยดึงเอาไว้อยู่หลายรอบ
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะ หม่อมฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา หมิงอ๋องก็ไม่มีความคิดที่จะกล่าวออกมา ไม่สู้เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนค่อยพูดกันวันหลังเถอะเพคะ” เย่ฮองเฮาดึงร่างของฮ่องเต้เจียเฉิงเอาไว้ สองมือเรียวยาววางไว้บนอกของอีกฝ่ายช่วยปลอบให้เขาหายใจ
สีหน้าของทุกคนแตกต่างกันออกไป มีทั้งตกใจ ไม่กล้าเชื่อสายตา หวาดกลัว เหยียดหยาม...อารมณ์มากมายถูกแสดงออกผ่านใบหน้าของทุกคน
“อกตัญญู...ลูกอกตัญญู!” ฮ่องเต้เจียเฉิงเกือบหายใจไม่ทันจนต้องล้มตัวนั่งบนบัลลังก์มังกร
โม่ฉีหมิงจับมือของอาลั่วหลันแน่น ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้อาลั่วหลันหลุดจากมือไปอีก
เขาหันไปมองโล่หวินหลานที่ถูกผลักไปด้านข้าง ขนตายาวหรี่ต่ำราวกับหมดความอดทน แต่ท่าทางนั้นก็ถูกซ่อนไว้ใต้ความเย็นชาของเขาอย่างรวดเร็ว
ถึงที่สุดแล้วเขาไม่ได้มีความรู้สึกต่อนางแม้แต่นิดเดียวและไม่มีทางเห็นคุณค่าของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก