ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 320

ตอนที่320 เข้าวังด้วยกัน

ยามเช้าในเมืองหลวงก็ปกคลุมด้วนหมอกตลอด หิมะตกลงมาอย่างยาวนาน สุดท้ายตกลงบนหลังคา ค่อยๆละลายเป็นน้ำ

ฟ้ายังไม่สว่างอาลั่วหลานก็จะตื่นขึ้นมาเเต่งตัว หัวตาให้สาวใช้นางจัดเเต่งตามสบาย ผ่านไปไม่นาน ก็ถูกลากออกจากห้อง เข้าไปในเกี๊ยว

อาลั่วหลานรู้สึกไม่ใช่ความจริง ก็ตื่นเพราะเกี๊ยวที่โยกไปมา ก็พึ่งรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่บนทางที่เข้าวัง

ดูเหมือนว่าโม่ฉีหมิงจะไม่ลืมคำพูดตัวเอง บอกว่าจะพานางเข้าวัง ก็เข้ามาในพระราชวังเเล้ว

“ถึงประตูวังเเล้ว” เสียงของทหารที่เฝ้าอยู่พูดขึ้น เกี๋ยวก็หยุดลง

“ถึงเเล้วหรอ? มันเร็วเกินไปหรือเปล่า!” อาลั่วหลานรีบเปิดผ้าม่านออก สาวใช้ก็มาช่วยนาง เเต่นางกลับโดดลงไปเอง

“พระชายา ที่นี่คือพระราชวัง…..” สาวใช้ที่อยู้ด้านข้างเตือนนาง อยากจะให้อาลั่วหลานใส่ใจภาพลักษณ์หน่อย

อาลั่วหลานพยักหน้า “ข้ารู้ว่าที่นี่คือพระราชวัง เเล้วจะทำไม?”

นางเคยใช้ชีวิตอยู่ในวังมาสิบกว่าปี ไม่มีใครรู้กฎระเบียบของที่นี่มากกว่านาง เเต่นางกลับไม่ชอบทำตามระเบียบ เหมือนกับนกน้อยที่ไม่มีปีก

“ยังรู้สึกดีไหม?” โม่ฉีหมิงถามนางอย่างใส่ใจ

อาลั่วหลานยิ้ม “ดี ดีมาก”

ทั้งสองคนกำลังจะเตรียมตัวเข้าวัง เเต่กลับมีเสียงของม้าดังอยู่ข้างๆ ก็มีเกี๋ยวมาหยุดลง

มองดูเกี๋ยวนี้ โม่ฉีหมิงกลับไม่มีความรู้สึกที่อยากจะเดินไปข้างหน้าอีก มองดูเกี๋ยวนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา

ในขณะที่อาลั่วกลานกำลังสงสัยนั้น คนที่อยู่ในนั้น ก็มีร่างของชายคนนึงที่ใส่ชุดเขียวเข้มเดินออกมา ดูคุ้นตามาก รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมา

“พี่สี่นี่คือกำลังรอข้าหรอ?” เวินอ๋องลงมาจากเกี๋ยว เดินตรงมาทางที่โม่ฉีหมิง บนใบหน้าเเสดงความยิ้มเเย้ม

พอได้ยินว่าพี่สี่ อาลั่วหลานก็จำขึ้นได้เลยว่คนคนนี้คือสามีของเย่เซียวหลัว พระราชโอรสของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำอะไร นางคือคนของข้า อย่าคิดว่าจะได้นางไป” โม่ฉีหมิงพูดเตือนที่ข้างหูของเขา

เเต่ว่า เวินอ๋องกลับยิ้ม สีหน้าที่ดูเหมือนดวงดาวที่ส่องประกาย “พี่สี่ ข้าว่าท่านต้องเข้าใจผิดเเน่ ข้าไม่เเย่งพี่สะใภ้สี่กับท่านเเน่นอน คนที่ข้าชอบคือองค์หญิงของเเคว้นเซิ่งโจวองค์หญิงเห่อซื่อ เข้าวังคราวนี้ก็เพื่อที่จะมาบอกเรื่องนี้กับเสด็จพ่อเเละเสด็จเเม่”

ถึงเเม้กำลังยิ้มอยู่ เเต่ว่าสายตาก็ฉายเเววของการไม่ทันตั้งตัว เเต่เวลาชั่วครู่เท่านั้น ก็หายไปเลย

ความเย็นชาเเละความโกรธไม่ได้เเสดงบนหน้าของโม่ฉีหมิง เขาใช้มืองทั้งสองข้างจับที่เเขนเสื้อ เหมือนกับเอาเเรงทั้งหมดมารวมไว้ที่มือ

เวินอ๋องจะทูลเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ? เช่นนั้นก็เเปลว่าโล่หวินหลานเห็นด้วยกับการเเต่งงานของพวกเขา?

“ไม่ต้องทำเป็นเเกล้ง ข้าไม่ได้หมายถึงพระชายาของหมิงอ๋อง ….” โม่ฉีหมิงพูดถึงเเค่ครึ่งนึง ก็มีเสียงของผู้หญิงมาจากด้านหลัง

“พวกเจ้าเป็นอะไร? อากาศเย็นหนาดนี้ รีบเข้าไปดีกว่า พวกเรายังจะไปพบองค์หญิงอีกไม่ใช่หรอ?” อาลั่วหลานรีบเข้าไปอยู่ตรงหน้าของทั้งสองอย่างไม่ค่อยพอใจ รีบดับประกายไฟของทั้งสอง

โม่ฉีหมิงก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ต้นสายปลายเหตุทั้งหมดไปถามเจ้าตัวเองดีที่สุด

“พวกเราไป ไปดงหัวเยี้ยน” ในขณะที่โม่ฉีหมิงหันหลัง เงาของเขารู้สึกถึงความเสียใจ

ตอนนี้คนที่ได้ประโยขน์ที่สุดก็คือเวินอ๋อง เขาก็คือคนที่รอรับผลประโยชน์

ไม่ว่าเขาใช้วิธีอะไรทำให้โล่หวินหลานยอมเเต่งงานด้วย โม่ฉีหมิงก็ไม่ยอมให้เรื่องนี้เป็นไปอย่างราบรื่นเเน่ โม่ฉีหมิงเดินเร็วมาก มองดูด้านหลังของเขาก็รู้เลยว่าโมโหมากเเค่ไหน อาลั่วหลานวิ่งตามอยู่ตลอดก็ตามเขาไม่ทัน จนทั้งสองคนเข้ามาในดงหัวเยี้ยน อาลั่วหลานถึงตามมาถึงด้านหลังของเขา

“นี่….”

“ปึก” ในขณะที่ประตูถูกใช้เเรงปิดอย่างมาก ก็มีมือใหญ่มาดึงอาลั่วหลานไปอีกด้าน

อาลั่วหลานหันอย่างเเรง สายตาชนกับหมิงซี เหมือนกับจะถูกดึงเข้าไป

“หมิงซี เจ้าจริงๆด้วย ข้าได้เจอเจ้าเเล้ว” อาลั่วหลานใช้สองมือกอดที่คอของเขา ในใจเต็มไปด้วยน้ำตาเเห่งความดีใจที่ได้เจอกัน

ในใจของหมิงซีเต้นเเรงมาก สองมือไม่รู้ว่าจะวางไว้ที่ไหน ยอมรับอ้อมกอดของอาลั่นหลาน ใบหน้าเเดงร้อน

“อาลั่วหลาน เจ้าลงมาก่อน” หมิงซีจับเอวนางลงอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี คิดว่าจะตัวนางลงจากตัวเอง

อาลั่วหลานก็ไม่ยอมขยับ กอดคอของหมิงซีไว้เเน่น “ไม่ๆๆๆ ไม่ลง”

หมิงซีมองนางไม่รู้จะทำยังไงดี ที่นี่คือดงหัวเยี้ยน มีคนไปๆมาเยอะ คนเยอะ ตอนนี้นางคือพระชายาของหมิงอ๋อง ถ้ามีคนรู้เเล้วเอาไปพูดก็เสียหาย

“ถ้าเจ้าไม่ลงมา งั้นข้าทิ้งนะ” หมิงซีพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงๆจัง

ทิ้ง? อาลั่วหลานตาโต พอดีกับหมิงซีสะบัดมือ ทำเหมือนว่าจะทิ้งนาง

อาลั่วหลานก็ตกใจ รีบกระโดดลงมาจากตัวเขา

“ตอนนี้เจ้าคือพระชายาของหมิงอ๋อง การพูดการกระทำก็ต้องเหมาะสมดับฐานะของเจ้า จะได้ไม่ทำให้คนอื่นสนใจ ยุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่อง เเต่พอเจออาลั่วหลาน ก็รู้สึกไม่วางใจอยู่ตลอด

อาลั่วหลานตอบเเค่คำเดียว “ข้าไม่ใช่พระชายาตัวจริงของหมิงอ๋องสักหน่อย”

หมิงซีปิดปากนางไว้ เเล้วพานางออกบากที่นี่

ในห้องเงียบมาก เงียบจนได้ยินเสียงหายใจ ถึงเเม้ว่าโล่หวินหลานจะอ่านหนังสืออยู่ตลอด เเต่ว่าความคิดก็ลอยไปไหนไกลเเล้ว ข้างหูก็เป็นเเตเสียงหายใจของเขา ที่คุ้นเคยอยู่ตลอด

“ท่านอยากจะพูดอะไรกันเเน่? บอกข้า ข้าทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจ พูดออกมา เจ้าก็รู้ ว่าข้าไม่มีทางให้เจ้าเเต่งงานกับเวินอ๋อง “เสียงของโม่ฉีหมิงสั่นนิดๆ

เพราะใส่ใจ เลยตื่นเต้น เขาตามหา คิดถึง ใจเจ็บมานานขนาดนี้ สุดท้ายก็หานางเจอ เเต่พอมาตอนนี้ นางกลับจะเเต่งงานกับคนที่ไม่สามารถให้อนาคตนางได้

โล่หวินหลานวางสมุดในมือลง เงยหน้ามเขา ในเเวตาดูสับสนมาก เงียบไปนาน นางก็ยอมพูดสักที

“หมิงอ๋อง ท่านเเต่งงานกับสาวใช้ของข้า พูดตามหลักเเล้วต้องใช้ชีวิตอย่างเทพ เเต่ว่า กลับมาห้ามข้าในขณะที่ข้าจะเเต่งงานกับเวินอ๋อง ตกลงท่านมาห้ามข้าในฐานะอะไร?”

โม่ฉีหมิงฟังคำของนาง ใบหน้าก็ดูตระหนกขึ้นมา สีหน้าที่ดูไม่ได้มองที่นาง ความโมโหที่เก็บไว้เหมือนจะปะทุออกมา

เขาค่อยๆเดินไปตรงหน้าของโล่หวินหลาน รูปร่างที่สูงใหญ่บังคับนาง สายตาอยู่บนหน้านาง เเขนที่ยาวยืดไว้ตรงเก้าอี้ ขังตัวนางไว้ตรงหน้าเขาเเน่น

“เจ้าถามข้าว่าห้ามในฐานะอะไร? ตอนนี้เจ้ายังไม่รู้อีกหรอ?” เสียงกัดฟันกร่อนของเขาดังออกมา

ใจของโล่หวินหลานก็กลัว ตัวก็ค่อยๆขยับถอยหลัง ขอเเน่ห่างจากเขานิดหน่อย

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นางถึงรู้สึกว่าเขาในตอนนี้อันตรายมาก

โม่ฉีหมิงจับคางนางไว้ บังคับให้นางจ้องตา

พอเวลาผ่านไปนาน เขาค่อยพูดชัดๆทีละคำ “โล่หวินหลาน เจ้าใจร้ายขนาดนี้? ลืมข้าเเบบนี้เลยหรอ?”

เเค่หันเบาๆเสียงก็หายไปในหูของโล่หวินหลาน นางเหมือนมีเสี้ยววินาทีนึงที่ถอนหายใจ ดวงตาทั้งสองมองเขาไว้ ใจในเต้นเเรงไม่หยุด

เขาก็พูดออกมา สุดท้ายก็จำนางได้เเล้ว

ดีใจ ตื่นเต้น ร้อนรน ความรู้สึกพวกนี้อยู่ในใจของโล่หวินหลานตลอด จำได้เเบบกะทันหัน ทำให้นางไม่ทันได้ตั้งตัว

เเต่ว่า ความฝันที่รอมานาน วันนี้ก็สำเร็จเเล้ว ทำให้นางไม่คิดถึงอย่างอื่น

“เจ้า เจ้า….” โล่หวินหลานค่อยหลับตาลง พอนานไปค่อยพูด “เจ้าจำข้าได้ตั้งเเต่เมื่อไหร่?”

ดูเเววตาของนาง เหมือนโม่ฉีหมิงสามารถอ่านความรู้สึกจากในนั้นได้ ความรู้สึกทั้งหมดของนางเขารับรู้ทั้งหมด นางยอมรับเเล้ว ยอมรับว่าตัวเองคือโล่หวินหลาน

โม่ฉีหมิงยื่นมือไปกอดนางไว้ เหมือนกับกอดสิ่งล้ำค่าไว้ไม่ให้หายไปไหนอีก เขาจะไม่ให้นางไปจากเขาอีก ไม่มีวัน

โดนเขากอดเเน่นๆในอ้อมกอด โล่หวินหลานก็รู้สึกว่าใจปอดตับต่างๆก็โดนทับไว้ คนทั้งคนก็ไม่ดีเเล้ว

เเต่ว่าในใจที่รู้สึกกับสิ่งที่ร่างกายกระทำจะไม่เหมือนกัน ความรู้สึกอบอุ่นที่หายากนี้ ไม่รักษาไว้ดีๆได้ยังไงกัน?

มือของโล่หวินหลานค่อยๆขึ้นไปที่หลัง กอดเขาเเน่นๆ ก็เเค่กอดทำลายความรู้สึกของทั้งสองคนที่ไม่เคยจากกันมานานหลายปี

“ตั้งเเต่ตอนที่เจ้าร้องเพลงนั้นออกมา ข้าก็รู้เเล้วว่าเจ้าคือโล่หวินหลาน ไม่เคยมีได้เคยฟังเพลงนี้ ไม่มีใครที่สามารถร้องได้เหมือนเจ้า” หัวของโม่ฉีหมิงอยู่ในอ้อมกอดของนางเเล้วพูด

ตั้งเเต่เจ้าร้องเพลงนั้นออกมา ข้าก็รู้ฐานะของตัวเอง?

โล่หวินหลานไม่ค่อยเชื่อ ยื่นมือดันอ้อมกอดของเขา จ้องเขาด้วยความโกรธ “เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครที่เเท้จริงตั้งเเต่ตอนนั้น ทำไมตอนนั้นไม่มาหาข้า?”

ถ้าเกิดพวกเขาเจอกันตั้งเเต่ตอนนั้น ตอนนี้ก็คงได้เเต่งงานอยู่ด้วยกัน ก็คงไม่เป็นอย่างเช่นตอนนี้

โม่ฉีหมิงจับศีรษะ “ใช้มือข้างเดียวจับมือนางไว้เเน่น พูด “ ข้าจะไปเจอกับเจ้าตั้งเเต่ตอนนั้นเเล้ว เเต่มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย เเล้วข้าก็ไม่อยากเจอเจ้าอย่างรีบร้อน หรืออาจจะไม่ใช่?”

โล่หวินหลานพูดต่อจากเขา “เจ้าเลยหาคนมาดูทดสอบข้า วางเเผนให้ไซ่เย่วมาอยู่กับข้า?”

มองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย โม่ฉีหมิงก็อดไม่ได้ที่จะจูบลงบนเปลือกตาของนาง ประทับรอยของเขา

“จักการให้ไซ่เย่วเข้ามาไม่ใช่เเค่จะลองทดสอบเจ้าดู เเต่ก็เป็นการดูเเลปกป้องเจ้าด้วย ถ้าข้าไม่จัดให้มีคนนึงเข้ามา องค์รัชทายาทก็จะรู้ถึงทุกการกระทำของเจ้าสิ?” ในเเววตาของโม่ฉีหมิงมีเเต่ความเจ็บปวด ถูมือที่นุ่มของนางไว้

“เเล้วที่เจ้าจัดการให้ไซ่เย่วเข้ามา เจ้าก็รู้ถึงทุกการกระทำของข้าสิ?” โล่หวินหลานตอกกลับอย่างไม่พอใจ

โม่ฉีหมิงยกคิ้วขึ้น “เจ้าเป็นชายาของข้า ข้าสมควรรู้ทุกการกระทำของเจ้าไม่ใช่หรือ? อีกอย่าง เจ้าฉลาดขนาดนี้ เรื่องที่ไซ่เย่วรู้ทั้งหมด ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง”

คำว่าฉลาดใช้กับโล่หวินหลานก็เหมาะสมมาก โล่หวินหลานตอนนี้เป็นคนมีเเผนการ มีความกล้า มีความฉลาดรอบรู้ เเละยิ่งดูจะดึงดูดคนมากขึ้น เเค่กระพริบตาก็รู้สึกดึงดูดอย่างธรรมชาติ

โม่ฉีหมิงมองดูนางอย่างพิจารณาอย่างทั่ว สุดท้ายสายตาหยุดลงที่หน้าอกของนางอย่างพึงพอใจ ยังไงก็เป็นที่ตรงนี้ที่ทำให้เขาพอใจมากที่สุด

“ โม่ฉีหมิง เจ้ามองที่ไหน?” โล่หวินหลานมองตามสายตาของเขา เเต่กลับอยู่ที่ตัวนางเอง…….รู้สึกไม่พอใจจนปิดตาเขาไว้

โม่ฉีหมิงจับนิ้วของนางไว้ จับไว้ในมือไม่ยอมปล่อย มองดูนางด้วยสายตาลึกซึ้ง พูดด้วยเสียงต่ำ “หวินหลาน เจ้ารู้ไหมว่าข้าไม่ได้อยู่อย่างสบายใจเเบบนี้มานานเท่าไหร่เเล้ว?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก