ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 323

ตอนที่323 เปิดใจ

เรื่องทุกเรื่องก็ต้องมีที่สิ้นสุดก็แค่ต้องใช้เวลาพอถึงเวลานั้นก็ย่อมมีสายรุ้งเสมอ

ก็เหมือนกับโม่ฉีหมิงในตอนนี้ที่อยู่ไม่ห่างกับโล่หวินหลานทั้งสองคนอยู่ในสวนของหมิงซีข้างนอกหิมะตกแรงโม่ฉีหมิงใช้ตัวเขาบังนางไว้

โล่หวินหลานจับมือใหญ่ใหญ่ของเขาไว้แล้วเงยหน้าขึ้นถาม “ท่านรู้ไหมสาวใช้ที่ทำหน้าเหมือนข้านั้นคือใคร?”

สายตาของโม่ฉีหมิงมองตรงไปด้านหน้าสีหน้าเย็นชาแล้วพูดพร้องจับมือนางไว้ “น่าจะเป็นเพื่อนนางมั้ง”

ดูแล้วเขาน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับอาลั่วหลันแล้วแต่ก็ไม่ได้ไปสืบหาเหตุผลที่อาลั่วหลันมา

“ข้าบอกท่านนะที่จริงอาลั่วหลัน……”โล่หวินหลานยังพูดไม่จบประตูตรงหน้าถูกผลักออกอากาศอุ่นๆด้านในถูกพัดออกไป

“เสี่ยวฮัว!พวกเราไปไม่ต้องอยู่ที่นี้ต่อแล้ว!”อาลั่วหลันออกจากประตูมาก็มองไปทางโล่หวินหลานดึงมือนางขึ้นแบบโกรธ

แต่โม่ฉีหมิงจับมือของนางไว้แน่นดึงนางไว้ตรงหน้าตัวเอง

มีเสียงประตูดังขึ้นมาจากสวนหมิงซีอีกครั้งมองไปทางอาลั่วหลันแบบรีบร้อนเหมือนอยากอธิบายแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา

“พวกเจ้าเป็นอะไรกัน?”โล่หวินหลานถาม

หมิงซีทำหน้าเข้มมองไปทางอาลั่วหลันไม่พูดอะไรออกมา

“ข้าบอกแล้ว ข้า……มันไม่ใช่แบบที่เจ้าคิดเลย……”ในที่สุดหมิงซีก็พูดออกมา

อาลั่วหลันค่อยๆปล่อยมือโล่หวินหลานออกสีหน้าของนางแสดงออกมาแบบไม่ราบรื่นไม่คิดที่จะยอมรับผิดเลยแม้แต่น้อย

“ท่านก็เป็นเหมินที่ข้าคิดยังจะเถียงอีกท่านชอบข้ายังไม่กล้ายอมรับอีก!”อาลั่วหลันชี้หน้าหมิงซีแล้วพูดขึ้นแบบโกรธทั้งหน้าเพราะโกรธมากเลยกลายเป็นสีแดงสด

ต่อหน้าโล่หวินหลานกับโม่ฉีหมิงหมิงซีก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงยิ่งไปกว่านั้นคืออาลั่วหลันคือพระชายาของโม่ฉีหมิงเขายิ่งไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง

ขมวดคิ้วก้มหน้าหมิงซีห้ามใจที่ดิ้นรนไม่ได้จึงเดินไปมาถ้ำกลางหิมะสีหน้าไม่สงบเลย

อาลั่วหลันชอบหมิงซีเป็นเรื่องที่ทุกคนดูออกแต่ความรู้สึกของหมิงซีนั้นไม่มีใครรู้

เดินเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเองแล้วถาม

โล่หวินหลานตอบ “เขาคือหมิงซีลูกศิษย์คนเดียวของตาข้าครั้งนี้ก็คือตาข้าให้เขามาปกป้องข้า”

หมิงซี?แซ่หมิง?โม่ฉีหมิงพยักหน้าคิดขึ้นได้ทันทีในวันนั้นตอนที่จะพาอาลั่วหลันเข้าวังนางพูดเพียงหมิงตัวเดียวก็ไม่ได้พูดต่อ

ที่แท้คือเขานี่เอง

“พวกเขาสองคนดูเหมือนจะมีความลับเราไปนั่งที่นั้นเพื่อรอดูการแสดง”โม่ฉัหมิงยิ้มพร้องดึงมือโล่หวินหลานไปทางนั้น

โบราณว่าศาลพิพากษาเรื่องคนในครอบครัวยากยิ่งไปกว่านั้นคือเรื่องความรู้สึกของค์ชายหญิง?

“อาลั่วหลันนิสัยแรงตรงไปตรงมาถ้าไม่มีคนห้ามไม่รู้ว่านางจะทำเรื่องอะไรออกมา”โล่หวินหลานกำลังจะลุกขึ้นเรียกอาลั่วหลันมาแต่ยังไม่ทันลุกขึ้นก็ถูกกดไว้

ในสมองของโม่ฉีหมิงมีแต่ชื่อๆหนึ่งขมวดคิ้วแล้วถาม “อาลั่วหลัน?ที่เจ้าพูดใช่องค์หญิงเหอซื่อไหม?”

ตอนนั้นที่หนังสือของฮ่องเต้เจียเฉิงมาถึงเขายังคือคนแรกที่เปิดดูข้างบนเขียนไว้องค์หญิงเหอซื่อกับอาลั่วหลันเขาคงฟังไม่ผิดและดูไม่ผิด

โล่หวินหลานพยักหน้าแบบไม่เดือดร้อน “เมื่อกี้เรื่องที่ข้าจะพูดก็เรื่องนี้แหละคนที่ทำหน้าเหมือนข้าคือองค์หญิงเหอซื่อตอนนั้นที่เราสลับตัวกันนางอยู่ข้างๆข้ามาโดยตลอด”

คนสองคนทางนู้นก็กำลังคุยกันอยู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทางนี้คุยอะไรกันอยู่

อาลั่วหลันเงยหน้าขึ้นมองหมิงซี “ถ้าหากท่านไม่ชอบข้า?ทำไมเมื่อกี้ต้องตอบสนองกับข้า?ถ้าไม่ชอบข้าทำไมยังจะจูบข้า?”

เสียงของนางนั้นดังมากทำให้หมิงซีหน้าแดงเล็กน้อยแล้วมองไปทางโล่หวินหลานกับโม่ฉีหมิงจึงดึงอาลั่วหลันไปข้างข้างแล้วบอกให้นางเสียงเบาเบาหน่อย

“เจ้าเบาเบาหน่อยเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องพูดเสียงดังมั้ง?ให้คนอื่นได้ยินมันไม่ดี”หมิงซีพูดออกมาแบบเขินอาย

เขาที่ไม่เคยผ่านเรื่องราวความรักแบบหญิงชายมาก่อนเรื่องนี้จึงทำให้เขาเบี่ยงเบนและไม่ยอมรับอาลั่วหลันมาพูดความในใจแบบนี้กระทันหันทำให้เขาไม่รู้ใจตัวเอง

ตั้งแต่วินาทีที่เขาลงจากเขาชิวโม่ไป๋ให้เขาปกป้องโล่หวินหลาน เขาก็รู้หน้าที่ตนเองดีว่าต้องอยู่ข้างๆโล่หวินหลาน

เป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้ดวงตาของเขาบอดเขายอมรับว่าในใจของเขาไม่รู้สึกไม่ชอบอาลั่วหลันแล้วยังรู้สึกดีกับนางนิดหนึ่ง

ดังนั้นเมื่อกี้ที่อาลั่วหลันบอกเขาว่านางชอบตัวเองแล้วจูบตัวเองในใจเขาก็เต้นแรงก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้ตอบสนองอาลั่วหลัน

เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เขาเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างในใจตัวเอง

“ที่แท้ก็กลัวคนอื่นรู้งั้นข้ายิ่งจะพูดเมื่อกี้ท่าน……”ทันใดนั้นอาลั่วหลันก็พูดเสียงดังขึ้นมาแต่พอจะพูดถึงจุดสำคัญปากของนางก็ถูกมือใหญ่ปิดไว้

กลิ่นที่คุ้นเคยเข้าไปในจมูกของนางวนอยู่รอบรอบตัวนาง

“ท่านทำอะไร?”อาลั่วหลันพูดออกมาเรื่อยเรื่อยแต่ก็ถูกมือใหญ่ใหญ่ปิดเอาไว้ทำให้นางพูดออกมาได้ยาก

“ขอแค่เจ้าไม่พูดข้าจะปล่อยเจ้า”หมิงซีมองหัวของนางเตือนขึ้นมาด้วยอารมณ์รีบร้อน

อาลั่หลันพยักหน้าแบบไม่คิดเลย

จากนั้นนางก็รู้สึกได้ว่ามือของหมิงซีค่อยค่อยปล่อยออกจากริมฝีปากของนางนางได้สูบบรรยากาศใหม่ใหม่เข้าไป

แต่ในขณะที่เขาปล่อยมือออกจากริมฝีปากของนางนั้นอาลั่วหลันก็หันตัวกลับไปกอดเขา

“ข้ารู้ว่าท่านต้องมีความรู้สึกดีๆให้ข้าใช่ไหม?”อาลั่วหลันที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาพูดขึ้นมา

หมิงซีไม่รู้จริงๆว่าตนเองต้องพูดอะไรในใจของเขารู้สึกดีกับนางจริงๆแต่เขาไม่กล้าที่จะยอมรับ

“คนที่รับหน้าที่รับส่งองค์หญิงเหอซื่อคือแม่ทัพจื๋อเอ่อจะไม่รู้เสียงและหน้าตาของเจ้าได้ยังไง?”โม่ฉีหมิงมองไปทางอาลั่นหลันและหมิงซีแล้วถาม

โล่หวินหลานพยักหน้าแล้วยิ้ม “ถ้าหากเป็นแบบนั้นก็ไม่สามารถปกปิดเรื่องนี้กับจื๋อเอ่อได้แต่ข้าไม่เคยให้พวกเขาได้เจอกันมาก่อนเลยหลังจะที่ทำหน้าแล้วก็ไม่เคย”

จื๋อเอ่อกับอาลั่วหลันทั้งคู่ก็เป็นคนแคว้นเซิ่งโจวทั้งสองรู้จักกันมาสิบกว่าปีถึงไม่เห็นหน้าตาแค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้ว

“เจ้าในหนึ่งปีมานี้ไม่ใช่แค่หน้าตาที่เปลี่ยนไปสมองก็ฉลาดขึ้นแล้วถ้าไม่ใช่ฝีมือการรักษาที่เก่งเยี่ยมของเจ้าข้ายังไม่กล้าที่จะเชื่อเลยว่าเจ้าคือหวินหลานที่ข้าคุ้นเคย”โม่ฉีหมิงจับมือนางแล้วพูด

ถึงตอนนี้เขาจะอยู่กับนางและได้จับต้องนางอยู่แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเชื่อว่าทุกอย่างจะมาเร็วแบบนี้

คงเป็นเพราะตัวเองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกลัวที่จะเสียของพวกนี้ไปดังนั้นจึงดูแลเป็นพิเศษ

“ข้าก็ไม่กล้าเชื่อว่าข้าจะหานายเจอได้ง่ายขนาดนี้นะข้าไม่อยู่ที่นี่ก็มาปีกว่ากว่านายสบายดีมั้ย?”โล่หวินหลานอยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบขี้เกียจเงยหน้าขึ้นมาเห็นเพียงคางของเขา

“ไม่ดี”โม่ฉีหมิงนิ่งไปในหนึ่งปีมานี้เขาไม่ค่อยสบายดีเลย

ชีวิตที่ไม่มีนางเขาทำอะไรก็ไม่คุ้นชินทุกครั้งในตอนกลางคืนที่ผู้คนเงียบสงบตื่นจากความฝันตอนกลางคืนผ่านไปจะกอดคนข้างๆก็มีแต่เพียงความว่างเปล่า

ไม่รู้ว่าต้องทนความเหงามากเพียงใดในค่ำคืนที่มืดมนถึงจะทำให้เขาคุ้นชินกับความเหน็ดหนาวตัวคนเดียวในค่ำคืนถึงทำให้ใจเขากลายเป็นด้านชา

“หลังจากนี้ไปเจ้าอย่าทิ้งข้าไปอีกข้าไม่กล้าที่จะใช้ชีวิตที่ไม่มีนางอีกข้าอาจจะกลายเป็นคนบ้าได้จริงๆ”โม่ฉีหมิงก้มหน้ามองนางน้ำเสียงเย็นชา

ถ้าหากไม่ใช่ในใจของเขายังรู้สึกคิดถึงเขาบางทีเขาอาจจะยอมแพ้ไปนานแล้ว

โล่หวินหลานพยักหน้า “ข้าจะไม่ทิ้งนายไปไหนอีกไม่ไปแน่นอน”

หิมะด้านนอกยิ่งตกยิ่งแรงหมิงซีดึงอาลั่วหลันเข้าไปด้านในเข้ามาด้านในก็ไม่ค่อยหนาวแล้วจริงๆ

ในห้องนั้นกว้างขวางถึงจะมีคนสี่คนอยู่ด้านในก็ไม่รู้สึกเบียดสี่คนนั่งหน้าเข้าหากันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองกลัวเห็นสายตาเย็นชาของโม่ฉีหมิง

“อาลั่วหลันพวกเจ้าเมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?ทำไมถึงได้โกรธขนาดนั้น?หมิงซีรังแกเจ้าหรอ?”โล่หวินหลานยิ้มที่มุมปากแล้วมองไปทางหมิงซี

หมิงซีตอบแบบสีหน้านิ่งเฉย “ไม่ใช่ข้าไม่ได้รังแกนาง”

อาลั่วหลันตอบแบบยิ้ม “ไม่มีจริงๆมีแต่ข้ารังแกเขา”

อาลั่วหลันเป็นหญิงสาวที่กล้าหาญมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าตนเองแต่งงานเพื่อความสงบสุขและหรือความรู้สึกที่นางมีนางไม่เคยยอมแพ้ยอมให้คนอื่นทำร้ายอย่างเดียว

หมิงซีไม่อยากให้พูดเรื่องนี้ต่อเลยเปลี่ยนประเด็น “เสี่ยวฮัวเรื่องของพวกเจ้าเป็นยังไงบ้าง?ตัดสินใจกันเสร็จหรือยัง?”

พูดเสร็จสายตาของหมิงซีก็จองไปทางโม่ฉีหมิงทั้งสองคนจ้องตากันเหมือนมีแสงประกายออกมา

ที่จริงดูจากสายตาที่หวานของพวกเขาสองคนทุกคนก็ดูออกว่าพวกเขาตัดสินใจกันเสร็จแล้ว

โล่หวินหลานพยักหน้าในใจนางไม่เคยรู้สึกโล่งขนาดนี้มาก่อน

“ความเข้าใจผิดระหว่างเราได้รับการอธิบายอย่างชัดเจนแล้วอาลั่วหลันจากนี้ไปเจ้าไม่ต้องใส่หน้ากากไปเจอผู้คนแล้วเจ้าสามารถกลับสู่สภาพเดิมของเจ้าได้แล้ว”โล่หวินหลานมองอาลั่วหลันแล้วพูด

อาลั่วหลันยื่นมือออกมาจากหน้าของตนเองใส่หน้ากากอันนี้นั้นอึดอัดจริงๆที่จริงก็แค่อยากลองของใหม่ใหม่ไม่คิดว่าเกือบทำให้ตนเองถูกบีบจนตาย

“หน้ากากอันนี้ข้าอยากเอาออกตั้งนานแล้วหมืงซีเดี๋ยวนายช่วยข้าเอาออก”อาลั่วหลันจับที่ไหล่ของหมิงซีแล้วพูด “เสี่ยวฮัวจากนี้ไป ข้าก็ไม่ต้องไปที่ตำหนักหมิงแล้วสามารถอยู่ในวังได้เลยไหม?”

อยู่ในวังได้อยู่กับหมิงซีดีกว่าอยู่ในตำหนักหมิงที่ต้องเจอหน้าสาวใช้ที่ไม่มีอารมณ์พวกนั้น

สีหน้าของโล่หวินหลานเข้มขึ้นมาทันที “ต่อจากนี้ก็คือเรื่องที่ ข้าจะพูดพวกเจ้าก็รู้ว่าข้าต้องการแก้แค้นคนที่ทำร้ายข้าในตอนนั้นเพราะฉะนั้นข้าจึงเลือกที่จะแต่งงานกับเวินอ๋องก็เพราะเรื่องในตอนนั้น”

ทุกคนตั้งใจฟังที่นางพูดนางเม้มปากแล้วพูดต่อ “ดังนั้นอาลั่วหลันข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถอยู่ในตำหนักหมิงต่อไปก่อนวันนี้ถึงจะสามารถทำให้เวินอ๋องตายใจและง่ายต่อการติดต่อของพวกเราแต่ไม่รู้ว่าเจ้าจะเต็มใจมั้ย?”

อาลั่วหลันดวงตาที่หมุนไปมาของนางตอบออกมาแบบลำบากใจ “เต็มใจน่ะเต็มใจแต่สามารถให้หมิงซีไปอยู่กับข้าได้ไหม?”

พอพูดถึงหมิงซีตาของอาลั่วหลันเหมือนดวงดาวสายตามองของนางไปทางหมิงซี

“อาลั่วหลันตอนนี้ทำเรื่องที่เป็นทางการเจ้าเป็นทางการหน่อยได้ไหม?ถ้าเจ้าไม่เต็มใจเจ้าก็เข้าหวังไปได้แล้ว”หมิงซีพูดแบบโกรธ

อาลั่วหลันจะยอมให้เขาโกรธได้ไงจึงพูดต่อ “ข้าแค่ล้อเล่นเสี่ยวฮัวไม่ว่าจะยังไงข้าก็จะช่วยเจ้าแน่นอน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก