ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 324

ตอนที่324 เจราจาเข้าวัง

ตอนที่โม่ฉีหมิงกลับไปก็หมิงซีที่แต่งตัวเป็นทหารออกไปที่ตำหนักหมิงอ๋องด้วยเพื่อไปใช้เอาหน้ากากบนหน้าของอาลั่วหลันออก

เรื่องทุกอย่างก็ตัดสินใจแล้วแค่รอข่าวจากทางเวินอ๋องส่งมา

โล่หวินหลานไม่รู้หรอกว่าเย่เซียวหลัวกับต้วนกุ้ยเฟยจะตกลงมั้ยแต่นิสัยอย่างเวินอ๋องไม่ได้อ่อนๆสิ่งที่เขาตัดสินใจแล้วไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใจเขาได้

“องค์หญิงได้ข่าวว่าวันนี้เวินอ๋องเข้าวังตั้งแต่เช้าเลย”ไซ่เยว่ที่สืบข่าวเรื่องเวินอ๋องเข้าวังตั้งแต่เช้าก็รีบมาส่งข่าว

โล่หวินหลานกำลังอาบแดดอ่านหนังสือได้ยินที่นางพูดก็วางหนังสือลง “เข้าห้องไปช่วยข้าแต่งตัวเดี๋ยวมีงานใหญ่ต้องทำ”

ไซ่เยว่พยักหน้าพาโล่หวินหลานเข้าห้องไป

หลังจากเลิกประชุมเวินอ๋องก็ไปที่ห้องหนังสือเรื่องที่ฮ่องเต้เจียเฉิงลงโทษฮองเฮาเย่ขุนนางทุกคนรู้แล้วก็ยื่นหนังสือให้ปล่อยฮองเฮาเย่พูดว่า ประเทศไม่สามารถไม่มีราชินีได้ก็เหมือนที่ไม่สามารถไม่มีราชาได้ราชินีกับพระราชาก็ล้วนเป็นรากฐานของประเทศ

แต่เรื่องที่ฮ่องเต้เจียงเฉินตัดสินใจแล้วก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ยิ่งไปกว่านั้นคือฮองเฮาเย่ทำให้หลายชีวิตต้องตายไป

“เสด็จพ่อที่ขุนนางพวกนั้นพูดในห้องประชุมก็เพื่อโม่ฉีก็แค่ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นดังนั้นจึงทำแบบนั้นถึงลูกข้าไม่รู้ว่าพระสนมทำเรื่องอะไรลงไปแต่ลูกรู้ว่าทำไม่ผิดแน่นอน”

ในห้องหนังสือมีเพียงเสินอ๋องกับฮ่องเต้เจียเฉิงสองคนฮ่องเต้เจียเฉิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกรได้ยินคำพวกนี้ก็ดีใจ

เขาคือฮ่องเต้จะผิดได้ยังไง?

“ท่านมีใจแล้วเรื่องที่ราชินีทำไม่พูดถึงจะดีกว่าพูดถึงก็ขยะแขยง”ฮ่องเต้เจียเฉิงทำหน้าทำตาเมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลยแค่แป๊บเดียวก็เปลี่ยนไป

เวินอ๋องก็ชินกับเหตุการณ์แบบนี้ไปแล้วแต่นี้คือครั้งแรกที่ได้ยินเขาพูดคำว่าขยะแขยงยิ่งไปกว่านั้นคือใช่กับราชินี

“เสด็จพ่อลูกรู้มาโดยตลอดว่าราชินีเป็นคนหน้าเคารพดูแลทุกคนดีคนดีแบบราชินีไม่รู้ว่าทำเรื่องอะไรถึงทำให้เสด็จพ่อโกรธ?”เวินอ๋องถามโดยความตั้งใจ

ถึงจะเคยได้ยินมาจากต้วนกุ้ยเฟยบ้างแล้วแต่ก็อยากรู้ว่าความคิดและความเชื่อใจของฮ่องเต้เจียเฉิงที่มีต่อเขามีเท่าไร

เรื่องนี้ฮ่องเต้เจียเฉิงก็ไม่อยากให้คนรู้มากเพราะยังไงก็เป็นหน้าตาของราชวงศ์เลยใส่หัว “เรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงจะดีกว่าท่านมาในห้องหนังสือวันนี้มีเรื่องอะไร?”

เขาไม่พูดก็ช่างมันรู้แต่แรกแล้วว่าเหตุการณ์ต้องเป็นแบบนี้วันนี้เรื่องที่สำคัญกับเวินอ๋องคือเรื่องนี้

เขาคุกเข่าเคารพฮ่องเต้เจียเฉิงแล้วยกมือขึ้นไหว้ “ลูกขออนุญาตขอให้พ่อให้องค์หญิงเหอซื่อแต่งงานกับข้า”

ฮ่องเต้เจียเฉิงได้ยินแบบนั้นช่วงนี้ก็ลืมเรื่องแต่งงานขององค์หญิงเหอซื่อไปเลยถูกเรื่องของฮองเฮาเย่มาปั่นป่วนจนทำให้เรื่องสำคัญแบบนี้ถูกยื้อเวลามานาน

แต่ในใจเขาเวินอ๋องไม่ใช่คนที่เขาเลือกคนที่เขาอยากเลือกคือโม่ฉีหมิง

ตั้งแต่ที่เสียโล่หวินหลานไปในใจเขาคิดเพียงจะหาฆาตกรไม่สนใจเรื่องงานไม่เข้าประชุมเรื่องนี้ทำให้ฮ่องเต้เจียเฉิงหนักใจมาก

“เจ้าลุกขึ้นมาก่อนเรื่องเกี่ยวกับองค์หญิงเหอซื่อช่วงนี้ข้าไม่มีเวลาคิดไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงมาพูดเรื่องนี้กระทันหันแบบนี้?”ฮ่องเต้เจียเฉิงมองไปทางเวินอ๋อง

เพราะก่อนหน้านี้เวินอ๋องก็ไม่เคยแสดงออกเลยว่าชอบองค์หญิงเหอซื่อแต่พอฮองเฮาเย่หมอกำลังก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมามันช่างเหมาะเจาะเหลือเกิน

“ลูกไม่ได้มีความคิดอะไรแค่เห็นเสด็จพ่อเหนื่อยเลยอยากช่วยเสด็จพ่อแบ่งเบาภาระเพราะตอนนี้เรื่องมันวุ่นวายไปหมดใกล้ถึงปีใหม่แล้วก็อยากช่วยเรื่องราชินีทำให้ทุกคนมีความสุขทำให้ทุกคนผ่านปีใหม่ไปอย่างราบรื่น”เวินอ๋องยกมือแล้วพูด

คำพูดของเวินอ๋องพวกนี้ทำให้ฮ่องเต้เจียเฉิงรู้สึกว่าพูดถูกใกล้ปีหน้าแล้วนังมาเกิดเรื่องราชินีแบบนี้ขึ้นอีกในใจของทุกคนคงรู้สึกไม่ค่อยดีมากนักหรอก

ถ้าหากตอนนี้มีเรื่องที่ทำให้ทุกคนมีความสุขทุกคนคงดีขึ้นบ้าง

สุดท้ายฮ่องเต้เจียเฉิงพยักหน้าแต่ก็พูดว่า “เรื่องนี้เกี่ยวกับองค์หญิงเหอซื่อข้าต้องถามนางก่อนถ้าหากนางไม่ตกลงก็ไม่สามารถบังคับนางได้?”

เวินอ๋องไม่คิดว่าฮ่องเต้เจียเฉิงใจยังคิดถึงความคิดเห็นขององค์หญิงเหอซื่อดูแล้วเรื่องนี้ในใจของฮ่องเต้เจียเฉิงนั้นมีน้ำหนักมากไม่น้อย

“ เสด็จพ่อพูดถูกแล้วยังต้องรบกวนให้เสด็จพ่อไปบอกกับองค์หญิงเหอซื่อ”เวินอ๋องพูด

จากนั้นฮ่องเต้เจียเฉิงก็เรียกองค์หญิงเหอซื่อมาห้องหนังสือเพื่อถาม

โล่หวินหลานที่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในขนาดนี้นางได้รออยู่ที่ห้องแล้วเพื่อรอให้จ้าวกงกงมาเรียก

จ้าวกงกงดูแลนางแบบทั่วไปโล่หวินหลานก็รู้เพราะเหตุผลที่เกี่ยวกับฮ่องเต้เจียเฉิงอย่างน้อยเขาก็เคยช่วยตนเองพูดความดีต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิงความดีที่เขาทำให้นางในครั้งนี้นางจำไว้ในใจ

“เหอซื่อเคารพฮ่องเต้”โล่หวินหลานทำความเคารพแบบแคว้นเซิ่งโจว

“ลุกขึ้นเถอะวันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามาพบเพราะเหตุผลอะไรจะรู้ไหม?”ฮ่องเต้เจียเฉิงหรี่ตาแล้วมองไปทางโล่หวินหลาน

นางเป็นคนฉลาดฮ่องเต้เจียเฉิงรู้ตั้งแต่แรกเห็นครั้งนี้เขาก็อยากรู้ว่านางจะตอบยังไง

โล่หวินหลานคิดก็ไม่คิดก็ตอบออกไป “เรียนฮ่องเต้ถ้าหากเหอซื่อเดาไม่ผิดเรื่องที่ฮ่องเต้จะพูดคือเรื่องแต่งงานของเหอะซื่อ”

ในสายตาของฮ่องเต้เจียเฉิงมีคราบความชื่นชม

“นี้คือลูกคนที่หกของข้าเวินอ๋องนางน่าจะเคยเห็น”ฮ่องเต้เจียเฉิงชี้ไปทางเวินอ๋องแล้วพูด

โล่หวินหลานเงยหน้าขึ้นมามองหนึ่งทีแล้วรีบก้มหน้าลงแสดงออกให้เห็นถึงความขี้อายของหญิงสาว “เหอซื่อเคยเห็นไม่กี่ครั้งแต่ก็ไม่เคยพูดคุยกันเลยได้ยินข่าวลือว่าเวินอ๋องเก่งทั้งเรียนและการต่อสู้เป็นชายที่ชื่อกล้าหาญ”

พูดเสร็จก็ทำความเคารพเวินอ๋องแบบแคว้นเซิ่งโจวอีกหนึ่งทีอาลั่วหลันเคยบอกนางที่แคว้นเซิ่งโจวถ้าหากรู้สึกมีจะให้ชายคนนึงไม่ต้องพูดออกไปแบบตรงตรงขอเพียงทำความเคารพเขาก็พอ

ตอนนี้ถ้าหากเข้าใจธรรมเนียมของแคว้นเซิ่งโจวก็สามารถดูออกได้ชัดเจน

ใครจะไปรู้ฮ่องเต้บอกทางนางแล้วพูดออกมาหนึ่งคำ “อ่อ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย “ดูแล้วองค์หญิงก็มีใจให้กับองค์ชายหกอยู่ห้าๆ……เวินอ๋องเจ้ารู้มั้ยเมื่อกี้ที่องค์หญิงเหอซื่อทำความเคารพเจ้าความหมายว่าอย่างไร?”

ฮ่องเต้เจียเฉิงมองไปทางเวินอ๋องแล้วยิ้ม

เวินอ๋องรู้แต่ก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ลูกไม่รู้หวังให้เสด็จพ่อบอก”

“เมื่อกี้……ช่างเถอะ ช่างเถอะถ้าองค์หญิงเหอซื่อรู้สึกดีกับเจ้างั้นข้าก็จะลงหนังสือบอกกว่าทุกคนว่าให้องค์หญิงเหอซื่อแต่งกับเจ้าเป็นไง?”ฮ่องเต้เจียเฉิงพูดเสร็จมองไปทางโล่หวินหลานหนึ่งทีแล้วก็มองไปทางเวินอ๋องแล้วถาม

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”เวินอ๋องคุกเข่าลง

โล่หวินหลานที่อยู่ข้างๆเย็นชาแต่ก็แสดงออกว่าดีใจแล้วคุกเข่าลงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความขอบคุณ ขอบพระทัยฝ่าบาท”

อีกไม่กี่วันนางก็จะได้เป็นพระชายารองของเวินอ๋องไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นยังไงแต่นางก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

น้องสองคนออกมาจากห้องหนังสือเวินอ๋องยิ้มที่มุมปาก รักยากที่จะเห็นใบหน้าเย็นชาของเขายิ้มออกมาโล่หวินหลานอารมณ์ไม่ค่อยดีนักจึงหันไปลาเวินอ๋องเพื่อไปก่อน

แต่แค่ช่วงเวลาที่หันกลับไปก็จับมือของนางไว้ “รีบร้อนอะไร?ตอนนี้เสด็จพ่อตกลงเรื่องของเราแล้วเจ้าก็ไม่ต้องรีบร้อนกลับไปแล้วเดินเป็นเพื่อนข้าหน่อย”

โล่หวินหลานไม่มีรอยยิ้มเหมือนอยู่ในห้องหนังสือเมื่อกี้แล้วค่ากล้องไปทางมือที่เวินอ๋องจับนางอยู่แล้วพูด “เวินอ๋องตอนนี้เราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันแบบนี้ถ้าให้คนอื่นเห็นเข้าจะถูกนินทาได้”

เวินอ๋องยิ้มเย็นชา “ใครจะกล้านินทาข้า?ถึงตอนนี้เสด็จพ่อยังจะไม่ได้ลงนามลงมาแต่วันอื่นๆเขาก็ต้องรู้ตอนนี้ก็ให้พวกเขาพูดกันไปก่อน”

พูดกันไปก่อน?คำคำนี้พูดได้โล่หวินหลานขมวดคิ้วสะบัดมือเขาออกจ้องไปทางเขา “เวินอ๋องจะรีบไปทำไม?”

เห็นสีหน้าและอารมณ์ของนางแบบนั้นเวินอ๋องก็รู้สึกได้ว่าตนเองนั้นรีบร้อนไปจริงๆ

เสด็จพ่อก็ตกลงเรื่องการแต่งงานของพวกเขาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในขณะนี้เพราะยังไงสุดท้ายนางก็เป็นของเขา

“เจ้าพูดถูกข้ารีบร้อนไปจริงๆอีกหน่อยมีเวลามากมายตอนนี้ข้าส่งนางกลับไปก่อน”เวินอ๋องสีหน้าแสดงออกด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยแต่ในดวงตาการแสดงออกถึงความดีใจ

โล่หวินหลานไม่ตอบแค่รู้สึกว่าท่าทางของเขาทำมากเกินไปยังไม่ได้แต่งงานก็เป็นแบบนี้แล้วถ้าหลังแต่งงานจะเป็นยังไง?

อย่างดีในตำหนักเวินอ๋องยังมีเย่เซียวหลัวอยู่หวังว่าในเวลานั้นเหตุการณ์จะเป็นไปตามที่นางคาดหวังไว้

บนพื้นที่มีหิมะมากมายช่างเงียบสงบรอบข้างมีสาวใช้ไปๆมาๆอยู่ไม่มากความเงียบนี้ทำให้โล่หวินหลานรู้สึกอึดอัดจึงรีบเดินไปยังทางดงหัวเยี้ยน

“เวินอ๋องส่งถึงแค่นี้ก็พอ ข้าเดินกลับไปเอง”ยังไม่ถึงดงหัวเยี้ยนโล่หวินหลานหันกลับมาบอกให้เขารีบไป

เวินอ๋องมองดูทางข้างหน้าต้องเดินอีกหน่อยถึงจะถึงดงหัวเยี้ยนจึงพูดขึ้น ยังไม่ถึงเลยข้าส่งเจ้าอีกหน่อยแล้วกัน”

“ไม่ต้องแล้วเดี๋ยวข้าจะไปหาแม่ทัพจื๋อเอ่อสักหน่อยเขาส่งข้ามาถึงแคว้นโม่ฉีนานแล้วตอนนี้ข้าจะแต่งงานแล้วข้ามีเรื่องที่จะฝากเขาไปบอกท่านพ่อ”โล่หวินหลาน ไม่ได้มองเขานางคิดว่านางพูดถึงขนาดนี้แล้วเขาคงไม่ดื้อรั้นต่อไป

สิ่งที่สมเหตุสมผลแบบนี้เวินอ๋องก็ไม่ดื้อรั้นต่อไปเขาก็แค่อยากมองนางอีกสักพักเพราะถ้ารอจนเรื่องราวการแต่งงานตัดสินใจลงมาแล้วทั้งสองคนจะเจอกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เวินอ๋องพยักหน้า “ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าไปก่อนแล้วเจ้าระวังตัวด้วย”

เห็นเขาหันกลับไปเพื่อเดินจากไปโล่หวินหลานถึงรู้สึกสบายใจขึ้น

ข้างๆดงหัวเยี้ยนก็คือตำหนักของจื๋อเอ่อทุกครั้งที่นางไปก็เพื่อไปหาหมิงซีนานแล้วที่ไม่ได้เจอจื๋อเอ่อ

เรื่องทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้วนางก็ควรจะไปหาเขาสักครั้งหนึ่งเพราะเขาคงอยู่แคว้นโม่ฉีอีกไม่นานแล้วเวลาที่ทั้งสองคนจะได้เจอหน้ากันก็ไม่มากแล้ว

คิดอยู่อย่างนี้โล่หวินหลานก็เดินเข้าไปในสวนหิมะก็ยังตกอยู่อีกตามเคยตกบนตัวเต็มไปหมด

ก่อนออกมานางไม่ได้พาสาวใช้มาด้วยไซ่เยว่ก็ไม่ได้อยู่ข้างๆนาง

นางเดินเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว ด้านในก็มีเสียงฝีเท้าส่งออกมาเสียงเท้าของนางเดินขึ้นบันไดเพียงไม่กี่ก้าวจื๋อเอ่อก็เปิดประตูทั้งสองคนจ้องตากัน

สายตาของทั้งสองคนนั้นสั่นโล่หวินหลานคือคนที่ทำลายบรรยากาศความเงียบนั้น

“ดูแล้วฝีมือของแม่ทัพจื๋อเอ่อนั้นดีขึ้นอีกขั้นแล้วแค่ฟังก็รู้ว่าเป็นฝีเท้าของข้านี่มาเปิดประตูให้ข้าใช่มั้ย?”โล่หวินหลานหลบสายตาของเขาก้มตัวลงแล้วเดินเข้าไป

ถึงเวลานี้แล้วนางยังมีเวลามาหยอกล้อตนเองอีก?

จื๋อเอ่อมองดูข้างนอกไม่มีคนถึงได้วางใจแล้วปิดประตูเข้าไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก