ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 325

ตอนที่325 ก่อนจากไป

“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าแต่งงานกับเวินอ๋อง?”จื๋อเอ่อเข้ามาถึงก็ถามขึ้นมาทันที

โล่หวินหลานเทน้ำชาให้กับตนเองแล้วพยัก “หน้าดูแล้วสื่อข่าวของแม่ทัพจื๋อเอ่อนั้นช่างไวนักนี่เป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นตอนเช้านี่เองมั้ง?”

“ใครบอกว่าสื่อข่าวของข้าไวทั้งวังนี้เขารู้กันจนหมดแล้วแค่ทุกคนรู้อยู่แก่ใจไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง”จื๋อเอ่อคิดถึงสาวใช้ที่พูดกันสองคนตอนเช้าก็รู้สึกโกรธในใจ

ฟังจากที่จื๋อเอ่อพูดโล่หวินหลานก็รู้สึกเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว

“ท่านไม่เห็นด้วยที่ข้าแต่งงานกับเวินอ๋องหรอ?”โล่หวินหลานขมวดคิ้วแล้วถาม

จื๋อเอ่อฝืนยิ้มแล้วใส่หัว ”ข้าจะไม่เห็นด้วยได้ไง?แต่แค่มีคนตั้งใจพูดให้ข้าได้ยินเพื่อที่จะมาห้ามเจ้าเพราะเจ้าคือองค์หญิงของแคว้นเซิ่งโจวแต่งงานกับท่านอ๋องเพื่อเป็นพระชายารองจะหาข้ากลับไปบอกก็เจ้าแคว้นว่ายังไง?”

โล่หวินหลานรู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องนี้คนที่ทำก็คือเย่เซียวหลัวเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปเพียงเพื่อทำลายชื่อเสียงของนางเท่านั้นเอง

แต่งงานกับเจ้าชายที่มีพระชายาอยู่แล้วก็เพราะถูกม่ฉีหมิงทิ้งองค์หญิงเหอซื่อของแคว้นเซิ่งโจวก็เป็นได้แค่นี้เอง

ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงของนางที่ถูกทำลายแม้แต่ชื่อเสียงของแคว้นเซิ่งโจวก็ถูกทำลายเช่นกัน

“เรื่องที่จะแต่งงานกับเวินอ๋องข้ารู้ว่ามีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยแต่ข้าคิดมานานแล้วถึงได้ตัดสินใจแบบนี้”โล่หวินหลานไม่ได้อธิบายอะไรมากไปกว่านี้ก้มหน้าแล้วพูด

เห็นท่าทางของนางแบบนั้นแล้วจื๋อเอ่อก็รู้ว่าตนเองไม่มีอำนาจอะไรที่จะบีบคั้นนางได้

แต่นางมีคนที่สามารถเลื่อนได้อีกมากมายทำไมต้องเป็นเงินอ๋อง?

“คนแคว้นโม่ฉีมากมายที่รอหัวเราะเยาะเราอยู่เวินอ๋องไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลยนอกจากหมิงอ๋องก็ยังมีคนอื่นมากมายแต่เวินอ๋องข้าไม่เข้าใจจริงๆ”จื๋อเอ่อพูด

“ใช่เวินอ๋องไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีข้าแต่งงานกับเวินอ๋องไม่ได้หวังความรักอะไรเรื่องของข้าเองต้องให้เวินอ๋องช่วยถึงจะเสร็จได้”โล่หวินหลานสีหน้าดูลำบากเล็กน้อย

นางไม่ได้อยากให้จื๋อเอ่อรู้เรื่องที่นางจะแก้แค้นเพราะในตอนนี้นางอยู่ในฐานะองค์หญิงเหอซื่อไม่สามารถทำเพียงเรื่องของตัวเองแล้วทำให้แคว้นเซิ่งโจวถูกทำร้ายได้

แล้วที่บอกจื๋อเอ่อก็เป็นเพราะมันจำเป็น

แน่นอนว่าจื๋อเอ่อรู้สึกผิดหวังขมวดคิ้วหันไปด้านข้างแล้วมองออกไปทางหน้าต่าง

“ ถ้าเป็นเช่นนี้งั้น ข้าก็ไม่สามารถพูดอะไรได้แล้วทางแคว้นเซิ่งโจว ข้าจะช่วยเจ้าพูดเองและหวังว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จ”จื๋อเอ่อยิ้มที่มุมปากไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องที่นางทำแต่ก็สนับสนุนที่นางตัดสินใจ

โล่หวินหลานรู้สึกโล่งอกดวงตาที่เคร่งขรึมและเย็นชามันเพิ่งมีความโล่งเพียงเล็กน้อยในตอนนั้น

“ แน่นอนทำเรื่องมากมายขนาดนี้ก็เพื่อเวลานี้เลย”โล่หวินหลานมองเขาแบบหนักแน่นถึงจะทำเรื่องอื่นนางก็จะหนักแน่นแบบนี้

จื๋อเอ่อได้ถูดาบของเขาเองที่อยู่ที่เอวใช้นิ้วหัวแม่มือแตะบนดาบเล็กน้อยก็รู้ที่แกะสลักอยู่บนนั้นคนทั้งคนดูเหมือนแม่ทัพที่กำลังจะขึ้นรบ

“ข้าอาจจะไม่ได้เห็นวันที่เจ้าแต่งงานแล้วก่อนหน้านี้เจ้าแคว้น ส่งจดหมายมาเร่งข้ากลับไปบอกว่าเมืองเล็กๆตามใช้แดนมีคนออกมาจลาจลให้ข้าไปดูแล”จื๋อเอ่อสีหน้าหนักแน่น

ก็จริงเป็นแม่ทัพของแคว้นเซิ่งโจวจะมาอยู่ในแคว้นอื่นนานได้อย่างไร?

ความสงบของแคว้นเซิ่งโจวยังต้องให้เขาไปปกป้องดูแล้วเจ้าแคว้นของแคว้นเซิ่งโจวก็คงเร่งเขาบ่อยๆแค่เขาไม่ไว้ใจที่ตนเองจะออกไปคนเดียวเท่านั้นเอง

“ใช้สิแม่ทัพเป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นเซิ่งโจวประชาชนต้องการการปกป้องจากแม่ทัพอยู่ที่แคว้นโม่ฉีเพื่อข้าคนเดียวไม่ได้แม่ทัพไปแม่ไร?ข้าไปส่ง”ทัศนคติของโล่หวินหลานแปลกๆ

“รอทหารเตรียมตัวน่าจะอีกประมาณสามวันก็เริ่มเดินทาง”จื๋อเอ่อหันหน้ากลับไปเหมือนยังมีอะไรที่ยังพูดไม่จบแล้วหันกลับมามองทางโล่หวินหลาน

“ก่อนที่ข้าจะกลับไปข้าอยากจะเจออาลั่วหลันก่อนข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่กลับไปที่แคว้นเซิ่งโจวอีกแล้วแน่ก็มีเรื่องที่อยากจะคุยกับเจ้าอยู่แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหน”จื๋อเอ่อถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมา

เจออาลั่วหลันหนึ่งครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรยิ่งไปกว่านั้นตอนแรกนางก็เคยใช้ชื่อของอาลั่งหลันก็ถือว่าเติมเต็มซึ่งกันและกัน

อย่างน้อยๆอาลั่วหลันก็คือคนแคว้นเซิ่งโจวจื๋อเอ่อออกจากแคว้นโม่ฉีก็ให้สองคนได้เจอกันไม่รู้ว่าหลังจากครั้งนี้จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่

“ท่านอยากเจออาลั่วหลันข้าก็เข้าใจที่จริงอาลั่วหลันก็อยู่ข้างๆท่านมาโดยตลอดแค่หน้าตาเปลี่ยนไปเท่าท่านจำไม่ได้แค่นั้นเอง”โล่หวินหลานพูด

อยู่ข้างๆมาโดยตลอดเขาจำอาลั่วหลันไม่ได้?

“ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหน?”จื๋อเอ่ออารมณ์ตื่นเต้นแล้วถาม

โล่หวินหลานคิดแล้วคิดอีกว่าจะบอกเรื่องที่อาลั่วหลันอยู่ที่ตำหนักหมิงอ๋องให้เขารู้ไหมแล้วพูดออกไป “เจ้าอยู่นอกวัง”

“นอกวังที่ไหน?ข้าต้องทำยังไงถึงจะได้เจอเจ้า?”จื๋อเอ่อยังคงมีอารมณ์แล้วขมวดคิ้วถามต่อ

“ข้าจัดการให้ท่านเจอนางได้แต่ข้าต้องถามนางก่อนว่าต้องการเจอท่านมั้ย”โล่หวินหลานก็ยังอยากถามความคิดเห็นของอาลั่วหลันดูก่อน

จื๋อเอ่อพยักหน้าขอแค่ได้เจออาลั่วหลันเพื่อดูว่านางสบายดีมั้ยก็พอ

ทั้งสองคนมาจากแคว้นเซิ่งโจวด้วยกันก็มีเขาอยู่ข้างนางไม่รู้ว่าอยู่ที่แคว้นโม่ฉีใครที่อยู่ข้างๆนาง

เกลียดคนแคว้นเซิ่งโจว มากขนาดในการถึงได้ยอมอยู่ที่มุมอับๆของนอกวังโม่ฉีก็ไม่ยอมไปแต่งงาน

ในตำหนักหมิงอ๋องหมิงซีกำลังผสมน้ำยาเพื่อเอาหน้ากากออกจากหน้าของอาลั่วหลัน

ขั้นตอนดังต่อไปนี้ดูเหมือนจะง่ายแต่ต้องใช้ความอดทนและความแม่นยำของคนเพื่อจัดการเพราะแม้แต่การผสมน้ำยายังเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก

หมิงซีผสมน้ำยาอย่างระมัดระวังแต่อาลั่วหลันทำหน้าแบบไม่มีเรื่องอะไรไม่กังวลอะไรเลยเดินอ้อมไปอ้อมมาอยู่ที่ข้างข้างเขา

หยิบเอาน้ำยาที่ยังผสมไม่เสร็จดูไปดูมา “ข้าว่าแค่เอาหน้ากากออกเท่านั้นเองต้องผสมน้ำยาให้มันยุ่งยากขนาดนี้เลยหรอ?”

อาลั่วหลันที่เอามือเท้าคางอยู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหมิงซีกำลังใช้ความอดทนมากแค่ไหนขัดจังหวะของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

“อยากจับถ้าผสมออกมาไม่ดีหน้ากากอันนี้อ่าต้องติดตัวเจ้าไปตลอดชีวิต”หมิงซีเงยหน้าขึ้นมาเตือน

“ไม่ขนาดนั้นมั้ง?”อาลั่วหลันวางน้ำยาในมือลงอย่างรวดเร็วเช็คที่กระโปรงของตนเองแล้วหันกลับไปเล่นทางอื่น

ผ่านทางเดินเก้าทางด้านนอกหิมะตกหนักแต่ก็ไม่รู้สึกถึงความหนาวเลยเดินผ่านทางโค้งที่หนึ่งก็เห็นสาวใช้วิ่งเข้ามาในมือถือจดหมาย

“เป็นอะไร?ในมือคือจดหมายอะไร?”โม่ฉีหมิงมองไปยังจุดหมายที่อยู่ในมือของนางอยากเย็นชา

สาวใช้คนนั้นยกขึ้น “เรียนท่านอ๋องนี้คือจดหมายที่มีจากในวังกำชับว่าให้เพียงพระชายาคนเดียวที่ดู”

แต่โม่ฉีหมิงคือท่านอ๋องของตำหนักไม่ว่าจะให้ใครดูก็ต้องให้เขาดูก่อน

โม่ฉีหมิวไม่รีบรับไปดูทำให้สาวใช้คนนั้นกังวลไม่รู้ว่าจะเก็บกลับมาดีหรือวางแบบนั้นต่อไปดี

ลังเลสักครู่ก็ได้ยินเขาถามขึ้น “มีแค่ฉบับเดียวหรอ?”

“ท่านอ๋องเหมือนจะมีแค่ฉบับเดียว”สาวใช้คนนั้นตกใจไปสักครู่แล้วตอบ

ส่งจดหมายส่งแค่ฉบับเดียว!ไม่เจอกันแค่สองวันนางกล้าขนาดนี้แล้วนึกถึงอาลั่วหลันแต่กลับลืมเขา!

โม่ฉีหมิงโยนจดหมายนั้นทิ้ง แล้วหันกลับไปเดินจากไปสาวใช้คนนั้นรับไว้อย่างไว

เห็นโม่ฉีหมิงเดินจากไปแม้แต่กราบบังคมทูลยังไม่ทันเลย

ถึงจะไม่รู้ว่าท่านอ๋องโกรธเพราะอะไรแต่ตอนนี้รีบเอาจดหมายไปให้ถึงมือพระชายาโดยเร็วจะดีกว่า

อาลั่วหลันรับจดหมายพร้อมรอยยิ้มตั้งใจวางไว้หน้าหมิงซีก่อนแล้วค่อยเปิดออก

“จดหมายจากเสี่ยวฮัวเขียนให้ ข้าโดยเฉพาะข้าไม่รังเกียจถ้าคุณฟังด้วยข้าอ่านเสียงดังแล้วนะ”อาลั่วหลันเปิดจดหมายแล้วทำกล่องเสียงเพื่ออ่าน

“อาลั่งหลันหน้ากากบนหน้าเจ้าเอาออกหรือยัง?ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีมั้ย?ตอนเช้าข้าไปเจอ……”อาลั่วหลันที่อ่านเนื้อหาของจดหมายออกมาอย่างเสียงดังทันใดนั้นก็หยุดลง

นางอ้าปากกว้างรู้สึกตกใจแล้วมองเนื้อหาในจดหมายต่อแต่อ่านออกมาไม่ได้สักคำในสายตาเต็มไปด้วยความตกใจ

หมิงซีที่ฟังนางอ่านเนื้อหาของจดหมายมาโดยตลอดเห็นนางหยุดก็เงยหน้าขึ้นมามองนางแล้วถาม “ทำไมไม่อ่านต่อแล้วล่ะ?”

เนื้อหาข้างหลังนางไม่อยากอ่านต่อและไม่มีกระจิดกระใจที่จะอ่านต่อคนที่ไม่อยากเจออยู่แล้วแต่ทำไมในใจเจ็บปวดเหมือนถูกบีบอยู่?

เห็นอาการแปลกแปลกของอาลั่งหล่นหมิงซีเอายาที่กำลังผสมอยู่วางไว้ข้างข้างแล้วเดินไปตรงหน้านางหยิบเอาจดหมายในมือนางมาดู

ดูจนถึงสุดท้ายแล้วพูดขึ้น“แม่ทัพจื๋อเอ่อจะกลับไปภายในอีกสามวันบอกว่าอยากเจอเจ้า เจ้าคือคนที่แม่ทัพจื๋อเอ่อดูแลส่งตัวมามีความสัมพันธ์ที่แยกกันไม่ออกกับเขาตอนนี้เขาจะไปแล้วไปเจอเขาสักครั้งเถอะ”

อาลั่วหลานขมวดคิ้วมองหน้าเขา “ท่านอยากให้ ข้าไปเจอเขาจริงๆหรอ?”

หมิงซีถามกลับ “ทำไมข้าถึงไม่อยากให้เจ้าไปเจอเขา?”

อาลั่วหลันกดคิ้วลงแล้วจ้องไปทางเขา “ท่านไม่กลัวเขาจะเอาตัวข้ากลับไปหรอ?”

“เจ้าเป็นคนแคว้นเซิ่งโจวอยู่แล้วกลับไปก็เป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่แล้ว”

อาลั่วหลันโกรธกว่าเดิม “ท่านไม่กลัวว่าข้ากลับไปแล้วจะไม่กลับมาอีกหรอ?”

“เจ้ามีเรื่องของเจ้าไม่มีใครสามารถบีบบังคับเจ้าได้”

อาลั่งหลันโกรธจนขึ้นตาเขาคงตั้งใจพูดแบบนี้แหละ?เพื่อกระตุ้นให้นางไม่ให้นางไปเจอจื๋อเอ่อแหละ?

“หมิงซีข้ารู้ว่าท่านกำลังโกรธแล้วในใจของท้านไม่อยากให้ข้าไปเจอเขาใช่ไหม?งั้น ข้าก็ไม่ไปถึงเจอเขาแล้วเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้”อาลั่วหลันยิ้มให้เขาเหมือนกำลังปลอบใจเขาอยู่เลย

แต่หมิงซีส่ายหน้าให้นางแบบหนักแน่น “แม่ทัพจื๋อเอ่อรับคำสั่งจากเจ้าแคว้นแคว้นเซิ่งโจวส่งเจ้ามาโม่ฉีแต่ไม่เห็นว่าตอนนี้นางสบายดีไหมถึงเขากลับไปก็ไม่สบายใจดังนั้นนางไปเจอเขาเถอะ”

อาลั่วหลันตั้งใจที่จะไม่ไปเจอจื๋อเอ่อนางกลัวว่าถ้าเจอเขาก็จะนึกถึงเรื่องราวที่ไม่มีความสุขที่แคว้นเซิ่งโจว

เสด็จพ่อเสด็จแม่พี่น้องญาติของนางล้วนเป็นศัตรูของนางคนที่จะทำร้ายนางจากด้านหลังแม้แต่สายเลือดเดียวกันก็หยุดพวกเขาไม่ได้

แต่ถ้าหากไม่ไปนางก็กลัวตนเองจะเสียใจทีหลัง

นางตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่แคว้นโม่ฉีหลังจากที่เขาไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่สิ่งที่ควรพูดก็ควรจะได้พูด

อาลั่วหลันถอนหายใจมองไปทางหมิงซีแบบขมวดคิ้วแล้วพูด “ข้าจะไปเจอเขาแต่ท่านต้องไปกับข้า”

สายตาของหมิงซีมองไปทางนางเกี่ยวก้อยนางด้วยสีหน้าเย็นชา “เอาหน้ากากออกก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก