ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 328

ตอนที่328 มีท่าที

ตั้งแต่ในวังเกิดเรื่องของฮองเฮาเย่ขึ้น ใบหน้าของฮ่องเต้เจียเฉิงก็ไม่เคยมีรอยยิ้มโผล่ออกมาเลย

เพราะงานแต่งขององค์หญิงเหอซื่อ ในวังจึงสนุกสนาน ชอบมากจริงๆ ใบหน้าผู้คนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ฮ้องเต้เจียเฉิงเดินออกไปมองเห็นริบบิ้นรอยอยู่ทั่วฟ้า อารมณ์ก็ดีมาก

มีเพียงแต่ตำหนักเหลิ่งกงที่ยังคงเงียบสงบ ราวกับว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมันไม่ได้มาถึงที่นี่ ฮองเฮาเย่นอนอยู่บนเตียงตามเคย สีหน้าดูแย่มาก

“ฮองเฮา ยาต้มเสร็จแล้ว ท่านจะลุกขึ้นมาดื่มเอง หรือจะให้ข้าป้อนท่านเพราะ? นางรับใช้ของฮองเฮาเย่เดินเข้ามา นำยาบนมือวางไว้ข้างๆ

ตั้งแต่งเข้าตำหนักเหลิ่งกงไม่นาน ฮองเฮาเย่ก็ป่วย ถึงแม้จะถูกคังอยู่ในตำหนักเหลิ่งกง แต่ตำแหน่งยศศักดิ์ยังอยู่ เสื้อผ้าอาหารไม่ขาดแคลน ดังนั้นเลยเชิญหมอหลวงมาดูอาการ

ถึงแม้จะมีหมอหลวงมาดูอาการ แต่นั้นก็แค่เดินเป็นพิธีการ ถามใครใครอยากอยู่นานในตำหนักเหลิ่งกงที่อัปมงคล? ยิ่งตอนนี้ใกล้จะตรุษจีนแล้ว ก็ยิ่งต้องห้าม

พูดเพียงแค่ว่าอารมณ์ซึมเศร้า คงเพราะว่าเรื่องในใจก่อให้เกิดไม่สบาย ทานยาดื่มตามที่ให้ ก็จะค่อยๆดีขึ้น

“ประคองข้าลุกขึ้น” ฮองเฮาเย่ยื่นมือ นางรับใช้รีบเดินเข้าหาประตองนางขึ้น

“ยาหลายวันนี้ขมมาก เพิ่มน้ำตาลให้ข้าสักหลายก้อน” ฮองเฮาเย่จิบเล็กน้อยแล้วดันออก

นางรับใช้ก็พูดเสียงเบาว่า “ฮองเฮา ยาดีขมปากน่ะท่าน! เพื่อให้ท่านหายไวๆ ดื่มเถอะเพค่ะฮองเฮา”

“บอกให้เจ้าไปก็ไป คำสั่งของข้าเจ้าก็ไม่ฟังแล้วหรือ?” ฮองเฮาเย่มองไปที่ทาสหลวงอย่างสีหน้าไม่ดี แล้วตะคอก

นางทาสหลวงคนนั่นรับใช้ฮองเฮาเย่ไม่นาน เมื่อตอนวี่จือออกจากวัง นางก็พึ่งได้รับมือดูแลชีวิตประจำวันของฮองเฮาเย่ เรื่องที่รู้ก็ไม่มาก ตอนนี้รีบวิ่งออกไปแล้ว

ฮองเฮาเย่ก้มหน้าดูยาสีดำในถ้วยไว้ แล้วโยนทิ้งอย่าแรง ชามลายครามสีขาวแตกทันที ในห้องที่เงียบนั้นมีเสียงที่คมชัดดังขึ้นมา

นางเป็นแม่แผ่นดิน ทำไมต้องดื่มยาด้วย? นางไม่ได้ป่วย นางแค่อยากออกไปเล่นมากแค่นั้นเอง

เมื่อก่อนคิดว่าร่างกายนางป่วย ฮองเต้จะมายื่ม แล้วพานางออกไป แต่ว่านางรออยู่ที่นี้มานานมากแล้ว สุดท้ายรอไปไม่ได้อะไรเลย แม้กระทั่งคำเป็นห่วงเป็นใยจากฮองเต้ก็ไม่มีสักคำ

เป็นเพราะนางซื่อใสมากเกินไป ไม่รู้ว่าคนราชวงศ์เจ้าชู้กันทั้งนั้น ถึงแม้ไม่มีฮองเฮาอย่างนาง ในวันข้างหน้าก็จะมีฮองเฮาองค์ใหม่อยู่ดี ในวังนี่สิ่งที่ไม่ขาดเลยก็คือผู้หญิง แล้วจะมีใครนึกถึงนางบ่อยๆล่าว?

ทันใดนี้ นางรับใช่กำลังจับน้ำผึ้งไว้หนึ่งขวดแล้วกำลังเดินเข้ามา นี่เป็นน้ำผึ้งขวดสุดท้ายในตำหนักเหลิ่งกงแล้ว

ทุกครั้งที่รับของจากกระทรวงกิจการภายใน สายตาเห่อเหิมเหล่านั้นมักจะมองข้างฮองเฮาเย่ ต้องลากเวลานานเป็นประจำ แม้แต่ปินเฟยที่ปกติไม่ได้รับความชื่นชอบจากฮองเต้ก็กล้าแซงหน้า

“ฮองเฮา น้ำผึ้งมาแล้วเพค่ะ” นางรับใช้จับขวดน้ำผึ้งเดินเข้ามา เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู กูเห็นแค่ยาดำเรี่ยราดเต็มไปหมดบนพื้น และถวมลายครามด้วย

นางรับใช้คนนั้นคักคิ้วพูดขึ้นมา “ฮองเฮา ท่านจะไม่ดื่มยาไม่ได้น่ะเพค่ะ ท่านต้องรักษาดูแลตัวเอง หากวันใดวันหนึ่งได้ออกไปจากที่นี่ แต่ร่างกายไม่ดีจะทำยังไรเพค่ะ?”

แต่ฮองเฮาเย่กลับหัวเราะเยาะ “ข้ายังมีโอกาสได้ออกไปอยู่อีกรึ? ที่นี้ก็คือหลุมศพของข้า ข้าจะถูกฝังอยู่ทานตลอดกาล เจ้าว่าใช่ไหม?”

นางรับใช้ที่เหลือก็เหมือนจะตกใจ ฮองเฮาเย่ไม่เคยพูดอะไรที่มันดูแย่ขนาดนี้มาก่อน และอารมณ์ก็แน่วแต่มาก ไม่รู้ทำวันนี้ถึงพูดเช่นนี้ออกมา

“ฮองเฮา ท่านใจเย็นๆก่อน ยังไงท่านก็ยังคงเป็นฮองเฮาของแคว้นโม่ฉี อยู่ที่นี้มันเป็นแค่ชั่วคราว แล้วท่านจะพูดอย่างนั้นทำไมเพค่ะ” นางรับใช้พูดขึ้นมา

ฮองเฮาเย่เกิดใจสลายขึ้นมา ตำหนังเหลิ่งนี้ลบล้างหยิ่งยโสของนาง ทำลายความหวังของนาง ทำให้ทางมองแสงประกายทางข้างหน้าไม่เห็น ตามด้วยหัวใจที่เย็นชาของนาง

“ข้าไม่มีแรงไปสู้ชิง และไม่มีแรงที่จะไปแก้แค้น ตอนนี้ข้าไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้ข้า เกิดขึ้นเองดับสูญเองเถอะ!” ฮองเฮาเย่ผิงอยู่เก้าอี้พูดอย่างเหี่ยวเฉา สายตาหมดหวัง

นางรับใช้คนนั้นมองเย่ฮ่องเต้อย่างกังวลว่าท่านจะทำอะไรที่ไม่ดี ลูกตาดำค่อยๆหมุนสองรอบ เหมือนนึกอะไรออก

“ฮองเฮา ท่านจะหมดหวังไม่ได้ ท่านยังมีองค์รัชทายาท องค์รัชทายาทคือฮองเต้ในอนาคต ขอแค่ท่านยังอยู่ องค์รัชทายาทก็มีวิธีช่วยท่านออกไป”

ใช่สิ่ องค์รัชทายาท ความหวังเดียวของนางก็องค์ชาย

ตราบใดยศขององค์รัชทายาทยังอยู่ เขาก็คือฮ่องเต้ในอนาคตนี่ และแล้ว ข้าก็ยังเป็นไท่เฮาในอนาคต

ตาทั้งคู่ของฮองเฮาเย่ตาโตขึ้นมา มองไปที่นางรับใช้อย่างตื่นเต้น ลุงขึ้นจับมือนางไว้แน่น “องค์รัชทายาท เจ้าพูดพูด ข้ายังมีองค์ชาย ข้ายังมีหวัง......เจ้ารีบไปตามอาค์ชายมา ข้าจะเจอองค์ชาย”

นางรับใช้คนนั้นมีความยากลำบากขึ้น “แต่ว่าฮองเฮา องค์รัชทายาทอยู่นอกวัง ไม่มีคำสั่งของฮ่องเต้ ไม่มีใครเข้ามาในตำหนักเหลิ่งกงไดเพค่ะ ฉะนั้น......”

ความสุขและความหวังในกะทันหันก็หายไปในพริบตา ฮองเฮาเย่นางลงบนเก้าอี้อีกครั้งอย่างเหี่ยวเฉา สายตายโศกเศร้า

ทันใดนั้น มีไฟระเบิดขึ้นอย่างฉับพลันบนท้องฟ้า ตามด้วยเสียงจุดประทัด สะดุดตามาก

ฮองเฮาเย่เหมือนตกใจ รีบถามต่อ “ข้างนอกเป็นไรกัน?”

นางับใช่คนนั้นก็พอได้ยินข่าวลือบ้าง รีบตอบกลับ “คนจะมาสมรรถองค์หญิงเหอชื่อ อีกไม่กี่วันจะแต่งงานเพค่ะ ฮองเต้เหมือนจะให้ความสําคัญกับงานแต่งนี้มาก ยังไม่ถึงเวลา ในวังก็ประทัดกันแล้ว

องค์หญิงเหอซื่อจะแต่งงาน? เยาฮองเฮายิ้มออ่นๆ มาอยู่แคว้นโม่ฉีตั้งนานแล้ว ถึงเวลาแต่งสักที

“นางเลือกองค์ชายไหน?” เยาฮองเฮาถาม

“ท่านเวินออ๋งเพค่ะ” นางรับใช้ตอบเสียงเบา

เวินออ๋ง แปลกจริง ฮองเฮาเย่ไม่เคยเห็นว่าองค์หญิงเหอซื่อจะชอบเวินออ๋งเลย ทำไมสุดท้ายเลือกเวินออ๋ง?

ทันใดนั้นฮองเฮาเย่หัวเราะออกมา นางรับใช้ที่ได้ยินเสียงหัวเราะนานทีก็แปลกใจ รีบถาม “ฮองเฮา ท่านเป็นอะไรเพค่ะ?”

ทันใด รอยยิ้มของฮองเฮาเย่หยุดลง มองนางรับใช้ที่อยู่ข้างหน้าตัวเองอย่างเย็นชา ยื่นมือออกไปจับแขนเสื้อไว้ หัวเราะเยาะ “ทุกคนต่างมีความสุข สนุกสนานกัน ทำไมต้องมีข้าคนเดียวที่รับผิดอยู่ที่นี้

นางรับใช้คนนั้นยังไม่เข้าใจความหมายของฮองเฮาเย่ ยืนมองยังมืนงงแล้วมองท่านไว้ “ฮองเฮา?”

“ อีกไม่กี่วันก็เป็นงานวันแต่งขององค์หญิงเหอซื่อแล้ว ถ้าจะต้องพบหน้าองค์รัชทายาท ตั้งแต่นี้ไปเจ้าก็อยู่ข้างข้าไม่ห่างไปไหน ถ้าบอกให้เจ้าทำอะไรอยู่เจ้าก็จงทำ เข้าใจหรือไม่? สายตาของฮองเฮาเย่มองไปที่นางรับใช้คนนั้น

ในสายตาทำให้เห็นถึงความเย็นชาและไม่แยแส นางรับใช้รีบใส่หัว แต่ในใจไม่รู้ว่านางกำลังคิดจะทำอะไรอยู่

สองสามวันนี้ นานทีโหล่หวินหลานจะได้เงียบสงบ เรื่องทั้งหมดก็ให้ไซ่เย่วรับผิดชอบหมด ได้ผู้ช่วยฉลาดแถมยังทำงานดีมันไม่ง่ายจริงๆ

แต่ก็มีบางเรื่องที่ก็ต้องทำด้วยตัวเอง กฎของวังนี้ยากเย็นเหลือเกินและยิ่งอย่าพูดถึงเรื่องพิธีแต่งงานในวันนั้นเลย ทุกอย่างต้องเตรียมการไปตามประเพณีของแคว้นโม่ฉี ประเพณีทุกอย่างต้องเรียนใหม่หมด

ก่อนหน้าที่จะแต่งงานสองสามวัน หมิงซีเข้าวังมา มาถึงส่วนดอกไม้อย่างเร่งรีบ แต่ดันไม่เจอโหล่หวินหลาน ทำอะไรไม่ได้จึงนั่งรออยู่มุมกำแพงครึ่งวัน

“หมิงซี เจ้ามาทำอะไรในวัง? เข้ามาพูดกันก่อน? โหล่หวินหลานออกมาจากตำหนักหลี่หยีก็มืดค่ำแล้ว พอเข้ามาถึงสวนดอกไม้ก็เจอหมิงซีนั่งอยู่ด้านล่างกำแพง

หมิงซีดูรอบๆข้าง จนแน่ใจว่ารอบข้างไม่มีผู้คนเดินตามมาจึงวางใจแล้วตามโหล่หวินหลานเข้าไปในห้อง

“เสี่ยงฮัว อีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานแล้ว โม่ฉีหมิงให้ข้านำของมาให้เจ้า” หมิงซีพูดไปเอากล่องออกมาจากช่วงระหว่างแอวด้วย

กล่องเล็กๆดูเหมือนจะใส่ของอะไรไม่ได้เยอะ ไม่รู้ว่าเอาของอะไรมา

“ หลังจากเข้าหวังแล้วเจ้ายังจะออกวางหรือไม่?” โหล่หวินหลาน ไม่ได้สังเกตว่าในกล่องมีอะไร แต่เป็นห่วงหมิงซีสักมากกว่า

แต่แรงที่อยู่ตำหนักหมิงก็เพื่อจะช่วยอาโหล่หลานเอาหน้ากากบนหน้าออก ตอนนี้ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เขาจะอยู่ต่ออีกไปเพื่ออะไร

“ ไม่ล่ะ ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อจะมากปกป้องเจ้า ว่าไปอาโหล่หลายอยู่ในตำหนัดหมิงปลอดภัย ที่ที่อันตรายที่สุดก็ยังคือในวัง” หมิงซีส่ายมือไปมา พูด

ตั้งแต่ที่รู้ลาจากหน้าประตู โหล่หวินหลานก็เป็นห่วงความรู้สึกอาโหล่หลาน “อาโหล่หลานยังสบายดีมั้ย?”

หมิงซีใส่หัวอย่างไม่ลังเล “ สบายดี อาการทางอารมณ์ก็ดีปกติแล้ว แต่ว่าบางครั้งก็เม่อลอยอยู่คนเดียว”

ไม่รู้ว่าจื๋อเอ่อ ก่อนจากไปพูดอะไรกับอาโหล่หลานไว้ ถึงทำให้นางเป็นสภาพนี้ ปกติแล้วเฮฮามาก คนอย่างนางถึงกับเม่อลอยเลย

“ไม่ว่ายังไงท่านขุนศึกจื๋อเอ่อก็อยู่กับอาโหล่หลายตลอด ญาติคนเดียวเดินจากไปมันก็จะปวดใจอยู่สักพัก ผ่านไปสักแป๊บก็คงจะดีขึ้น“ โหล่หวินหลานตอบอย่างเนื้อไม่อยู่กับเนื้อกับตัง

“ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ช่วงนี้ในวังมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง?” ในช่วงที่หมิงซีไม่อยู่ในวัง มีแต่ไซ่เย่วคนเดียวปกป้องโหล่หวินหลาน ไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง

“ เจ้าวางใจได้ สถานการณ์นย์วางยังพอรับมือได้ ฮองเฮาเย่ถูกสั่งไปอยู่ในตำหนักเหลิ่งกง เหลือแค่ต้วนกุ้ยเฟยที่ยังโอ้อวดอยู่ แต่ว่า หลงฝินอยู่กับฮ่องเต้เจียเฉิงประจำ ตอนนี้ในวัง คนที่ถูกพระทัยก็มีแค่สองคนนี้“ โหล่หวินหลานยักคิ้วเบาๆ ใส่หัว

“หรงฝิน? เป็นคนที่เปิดเผยฮองเฮาเย่คนนั้นรึ?” หมิงซีคิดไปมา ภาพจำของนางก็หยุดอยู่ตรงที่เรื่องนั้น

โหล่หวินหลานใส่หัว “ใช่”

หมิงซียักคิ้ว แล้วส่ายหัวไปมา โหล่หวินหลานถามเขาว่าเป็นอะไร เขากลับหัวเราะแล้วพูด “ไม่มีอะไร ข้าไม่ค่อยรู้เรื่องในวัง ถามไปก็เหมือนไม่ถาม”

สิ่งที่หมิงซีถนัดไม่ใช่ส่วนนี้สักหน่อย โหล่หวินหลายถามต่อ “ ทางองค์ชายมีข่าวอะไรบ้าง?”

ฮองเฮาเย่เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ องค์ชายยังไม่มีท่ามีอะไรเลย คงจะหาต้นเหตุเรื่องนี้ทุกทิศอยู่เป็นแน่

“ ทั้งองค์ชายนั้นไม่มีเรื่องอะไรเลย ตั้งแต่ที่ฮองเฮาเย่ถูกสั่งไปอยู่ตำหนักเหลิ่งกง องค์ชายก็กักขังตัวเองอยู่ในตำหนักไม่ออกมา และไม่เห็นมีใต้เท้าคนไหนไปตำหนักท่าน” หมิงซีตอบ

โหล่หวินหลานยักคิ้ว พูดช้าๆ “แปลกจัง เป็นถึงลูกชายฮองเฮาเย่ เขาไม่คิดจะถามหาอะไรเลยรึ? หรือมีแผนอื่น?”

ในห้องไฟกำลังลุก สายตาทั้งสองจ้องมองกัน ในตาหมิงซีเกิดความสงสัยขึ้นมา

โหล่หวินหลานพูดต่อ “ไม่แน่องค์ชายกำลังวางแผนอะไรสักอย่างที่เราไม่รู้ ยังไรก็ตามต้องจับตาจ้องมององค์ชายอย่างดีด้วย”

“ เรื่องที่องชายวางแผนก็คงต้องเกี่ยวข้องกับฮองเฮาเย่ ตอนนี้ฮองเฮาเย่ถูกกักขังอยู่ในตำหนักเหลิ่งกง หรือว่าเขาจะช่วยฮองเฮาเย่ออกมา?” หมิวซีถาม

องค์ชายอยากจะช่วยฮองเฮาเย่คงจะไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะยังไงนางถูกฮ่องเต้เจียเฉิงกักขังในตำหนักเหลิ่งกง หากจะออกมาก็มีแต่ฮ่องเต้เจียเฉิงรับสั่งเท่านั้น

“ไม่แน่ จีบตาดูท่าทีขององค์ไว้แล้วค่อยว่ากัน” โหล่หวินหลายพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก