ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 330

ตอนที่330 สถานการณ์งานแต่ง

บนรถเกี้ยวของโล่หวินหลานเข้าใจเข้าลึกๆตลอดเวลา รอฉากที่ครึกครักน่าดู ขอแค่ให้รักษาเวลาในช่วงงานแต่งนี้ก็พอ

นางจับเเอปเปิลไว้เเน่นๆ เล็บถูกงอลึกราวกับว่าจะฉีกมันออกเป็นสองส่วน

ข้างนอกเสียงประทัดนั้นดังขึ้น โล่หวินหลานคาดว่าใกล้ถึงเวลาเเล้ว แล้วยิ่งใกล้กับหน้าต่างของรถเกี้ยว

“ไซ่เย่ว นางเรียกเเบบเสียงเบา

ข้างนอกทันทีมีเสียงตอบของไซ่เย่ว คาดว่านางอยู่เคียงข้างตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยจากไป

“ถึงไหนเเล้ว?” โล่หวินหลานถามอีกครั้ง

คนต้อนรับนั้นยาวนอกจากวัง คนที่เดินอยู่ข้างหน้าถึงซอยเเล้ว

“องค์หญิง ตอนนี้ออกจากวังอยู่ ใกล้ถึงตำหนักเเล้ว ไซ่เย่วตอบกลับ

โล่หวินหลานไม่ได้ตอบ เมื่อถึงจุดนี้เเล้ว ก็ไม่สามารถหันกลับได้เเล้ว หายใจเข้าลึกๆ วางฮิญาบลง

งานต้อนรับคนในซอยเดินอย่างช้าๆ โล่หวินหลานได้ยินเสียงผู้คนมากมายทั้งข้าง คาดว่าออกมาชมฉาก องค์หญิงของเเคว้นเซิ่งโจวเเต่งงานกับองค์ชายของเเคว้นโม่ฉี

การเคาะและการตีเสียงกลองไม่เคยหยุด และเสียงการขว้างเงินเงินก็มาถึงที่หน้าประตูของตำหนักเวิน

เสียงเท้าที่พลุ่งพล่านพลุ่งพล่านจากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ชายที่เปล่งปลั่งและสดใส "ตำหนักเวินมาถึงแล้ว วางรถเกี้ยงลง"

คนที่ยกรถเกี้ยวก็วางรถเกี้ยวลง จากนั้นก็คือซีอาน ชุดสีเเดงทั้งตัวยืนอยู่ที่หน้าประตูอย่างปีติ เสียงหัวเราะทำให้ไม่สามารถลืมตาได้

“เวินอ๋องโปรดมาข้างหน้าเพื่อเตะรถเกี้ยว รับพระชายารองลงรถเกี้ยว” ซีอานมาทีละขั้นตามกฎ

วันนี้เวินอ๋องดูสดใสมาก ถ้าเทียบกันวันปกติเเล้วมีความหล่อเเละสีสันมากขึ้นก็ยิ้มตลอดเวลา

พลิกกลับ กระโดดจากม้าลงมา รูปร่างที่สูงค่อยๆเดินถึงหน้าประตูของรถเกี้ยว ยกขาไม่หนักเเละไม่เบาเตะหนึ่งครั้ง กลัวว่าจะทำร้ายโล่หวินหลาน

“เจ้าสาวลงจากรถเกี้ยว ข้ามเตาอั้งโล่ จากนั้นชีวิตจะเฟื่องฟู” เสียงของซีอานปรากฏอีกครั้ง

โล่หวินหลานดูที่พื้น ข้างไซ่เย่วก็มีคนช่วยนางเดินไปที่ข้างเตาอั้งโล่ ยกขาขึ้นหนึ่งข้าง ก็ข้ามเตาอั้งโล่แล้ว

ฉากข้างนี้มีความสุข ไม่รู้ว่า สายตาที่เย็นชากำลังมองไปข้างพวกเขา ไม่เคยไปไหน

หินใต้กำเเพงปิดกั้นตัสของเย่เซียวหลัว นางยังสามารถมองเห็นเหตุการณ์ได้เเล้วยังสามารถดูออกสีหน้าของเเต่ล่ะคน โดยเฉพาะเวินอ๋อง

ตอนที่เเต่งงานกับนาง ใบหน้าของนางไม่เคยที่จะยิ้ม ตอนนั้นนางคิดว่าเขาเพิ่งจะเคยเเต่งงานเป็นครั้งเเรก เพราะเเบบนั้นไม่ค่อยชิน

ใครจะรู้ วันนี้เห็นบรรยากาศด้านหนึ่ง เพิ่งรู้ว่าทั้งหมดนี้นางเเค่เเสดงเเค่นั้นเอง

กับหญิงผู้อื่น เขายิ้มได้อย่างมีความสุข เเต่กับตัวเอง ทำสีหน้าที่หนาวเย็น หากไม่รักทำไมถึงต้องขอร้อง?

เย่เซียวหลัวยิ้มเเบบเย็นชา เเล้ววางมือไปที่หิมะเป็นเวลานานไม่รู้สึกว่าหนาวเย็น เวลานี้ใจของนาง สันดันทุกอย่างที่เป็นหนาวเย็น

หันไปอย่างช้าๆ ไม่อยากเห็นภาพที่ทำร้ายจิตใจถึงเช่นนี้

องค์หญิงเหอซื่อ เเต่งงานกับเวินอ๋องเจ้าเป็นคนหาเรื่องเอง ถ้าเจ้าไม่เเต่ง ก็จะไม่มีเรื่องเยอะเช่นนี้

หันกลับ ร่างกายละลายไปในความมืดแล้วหายไป

วันนี้เเม้เเต่ฮองเต้เจียเฉิงก็มาถึงสถานที่เองเลย ข้างๆมีต้วนกุ้ยเฟยอยู่ ตอนนี้กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน

ไซ่เย่วช่วยพาโล่หวินหลานเข้าไปในห้องโถงใหญ่เเละพิธีต่อไปค่อนข้างง่าย คือกราบไหว้ตามประเพณี

พร้อมกับเสียงเฮฮาของซีอาน มีการกราบไหว้เเละยังมรการให้ดื่มน้ำชา

หูข้างๆของโล่หวินหลานไม่มีอะไร คิดเเต่โม่ฉีหมิงเเอบมองนางอยู่ในมุมใดมุมใดอยู่หรือเปล่า คิดเเต่ว่าจะพานางออกไป ไม่รู้ว่าให้กำลังใจกับตัวเองมากเพียงใดที่จะดูฉากภาะเหล่านี้

“เชิญพระชายารองกลับห้องพักผ่อนก่อน” ข้างๆของซีอานเเละคนรับใช้ในตำหนักพานางโล่หวินหลานกลับห้อง

มองไปทางพื้นเฉลียงที่สะอาด ในใจของโล่หวินหลานกังวลเดินไปเดินมา หันไปมาหลายมุมแล้วจดจำเส้นทางที่เคยผ่าน

ใครจะรู้ว่า ห้องไม่ไกลจากห้องโถงใหญ่เพียงเดินไปสักพัก ซีอานกล่าวว่า “นี้คือห้องพราะชายารอง กรุณารอสักครู่ ดึกหน่อยเวินอ๋องจะมาดื่มกับท่าน”

ช่างเถิด จากนั้นเหลือคนรับใช้บางคนให้รับใช้ที่ตำหนักอ๋อง ดูเหมือนห้องที่เงียบสงบก็ดูเป็นธรรมดา ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากภายนอก

โล่หวินหลานปรับที่นั่งให้สบาย เเละทันใดนั้น “พวกเจ้าออกไปเถิด มีไซ่เย่วรับใช้ก็พอเเล้ว”

ไซ่เย่วเดินเข้ามาหนึ่งก้าว ปิดกั้นข้างหน้าของโล่หวินหลานไว้เเล้วทำท่าทีเชิญให้กับพวกคนรับใช้ที่ไม่ยอมไป

พวกคนรับใช้ลำบากใจเเล้วมองโล่หวินหลาน ยากที่จะพูด “เเต่ว่า พวกข้าไม่รับใช้อยู่ข้าง กลัวว่าไม่ถูกกฎ”

“ไม่ได้ต้องการให้พวกเจ้ามารับใช้ พระชายาเเค่เหนื่อยล้า ตอนที่มีผู้คนมากมายพระชายารองไม่สามารถสงบจิตลง หักมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา พวกเจ้าชดใช้ได้รึ?” ไซ่เย่วดูพวกนาง น้ำเสียงหนาวเย็นเล็กน้อย

ฟังสำเนียนไม่ดีของไซ่เย่ว พวกคนรับใช้ก็ลำบากใจ มิรู้ว่าพระชายารองนิสัยเป็นอย่างไร เเต่ถ้าเหมือนเย่เซียวหลัวอนาคตคงเศร้าเเน่

“ใช่ งั้นทาสก็กลับก่อนเพค่ะ” ผู้นำของทาสพูดว่าช่างเถิดเเล้วกันกลับไป

บรรยากาศที่อัดอั้นในห้องนั้นหายไปในไม่ช้า โล่หวินหบานเอื้อมมือเเล้วเอาฮิญาบลง เเสงเทียนอันสดใสเเทงตาเล็กน้อยไม่สามารถลืมตาได้ จะดีขึ้นสักระยะหนึ่ง

“ไซ่เย่ว เมื่อกี้อยู่ข้างนอกไม่เห็นเจ้า?” โล่หวินหลานเเค่ถามหนึ่งถามคำถาม จนถึงตอนนี้ สิ่งที่นางเป็นห่วงที่สุดก็คือเรื่องนี้เเหละ

ไซ่เย่วหยุดพูด เเต่ในที่สุดก็ยังพูดว่า “ไม่เจอท่านอ๋อง”

เขาไม่อยู่นี้เอง ก็จริง ฉากเเบบนี้เจ้าจะอยู่ได้อย่างไร เต็มใจที่จะอยู่ได้อย่างไร

โล่หวินหลานเอามือถูกหน้าผากเเล้วเขย่าหัวเล็กน้อยเเล้วนั่งลงอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นก็พิงอกที่เเข็งเเรงเเล้วใช้มือทั้งสองข้างจับนางไว้เเน่นๆคางอยู่บนไหล่ของนาง

นอกจากโม่ฉีหมิงนางก็ยังไม่เคยให้กับคนอื่น สีหน้าเย็นชาของโล่หวินหลาน ทันใดนั้นเขาดึกข้าศอกออกมาเเล้วกระเเทกมันไว้ข้างหลัง เขาน่าจะรู้ว่าจะทำไงอะไร นางยื่นมือออกมาเเล้วรอจากนั้นจับจองนางนิ้วหัวเเม่มือไว้เเน่นๆ

“อยากหรือข้าอยู่หรือไม่อยู่ ทำไมไม่ถามข้าตรงๆ?” เสียงต่ำด้วยรอยยิ้ม

โล่หวินหลานตกตะลึกอย่างกระทันหัน เมื่อเขาหันหลังกลับเเล้วยิ้มให้กับตัวเอง ดวงตาอ่อนโยนเหมือนน้ำ

ขณะนี้ ราวกับทั้งโลกนี้มีเพียงลมหายใจของนาง

เเขนของเขาโอบเอวไว้อย่างเเน่น ไม่ปล่อยให้นางมีโอกาสหนีไปได้ ทั้งสองต่างเงียบสงบในการรวมตัวอันยาวนานนี้ รู้สึกนี้ราวเหมือนกับสายน้ำ

“เจ้ามาอย่างไร? ไม่มีใครจับได้ใช่ไหม?” ในที่สุดโล่หวินหลานทำลายความเงียบนี้

“ข้าอยู่นี้รอเจ้าตลอด ไม่มีใครพบข้า” โม่ฉีหมิงขันมืออีกครั้ง

อยู่นี้รอเจ้าอยู่ตลอด? เเต่ไซ่เย่วบอกว่าเจ้าไม่ได้อยู่ในโถงใหญ่อย่างนี้นี่เอง เวลานั้นเขาก็อยู่ที่นี้ข้าอยู่เเล้ว

ในใจของโล่หวินหลานค่อนข้างเปรี้ยวพูดไม่ออก เขาก็ไปยืนอยู่ข้างหน้าของนาง ยกมือขึ้นถูเเก้มนางเบาๆ

“เจ้าทำเช่นนี้ ให้ข้าอิจฉายิ่งนัก เเต่งตัวเพื่อผู้ชาย” โม่ฉีหมิงไม่สามารถพูดประโยคนี้ได้

นี้เป็นสิ่งที่เขาอยากจะบอกให้ ขอเเค่สิ่งนางทำไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง หัวใจของเขาเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ปิดกั้น

“นี้คือการเเต่งงาน หรือไม่ควรเเต่งตัวเช่นนี้?” โล่หวินหลานถามกลับ

ดวงตาที่ห่าวเย็นของโม่ฉีหมิง “ไม่ควร เเต่ข้าไม่มีวิธี”

บางเวลาเขาเกลียดตัวเอง ไม่สามารถปกป้องนางได้ตลอดเวลา

“ข้ารู้ นี้เป็นเพียงช่วงคราว หลังจากวันนี้ ข้าจะไม่เเต่งตัวให้ผู้อื่นดูนอกจากเจ้า” โล่หวินหลานยักคิ้วเล็กน้อยราวกับถามความคิดเห็น

เมื่อมองดวงตาของนาง ดวงตาของโม่ฉีหมิงเปร่งประกาย ค่อนข้างอึดอัด ทดไม่ที่อยากกอดนางไว้เเน่นๆ

ครั้งก่อนข้าให้หมิงซีเอาของให้เจ้า เอาไว้กับตัวหรือเปล่า?” โม่ฉีหมิงระงับอารมณ์ของตัวเองนี้ก็คือจุดประสงค์ที่เขามาในวันนี้

โล่หวินหลานแตะที่เอวของตัวเอง ของที่เจ้าให้ข้าเก็บกับตัวตลอดเเล้วไม่กล้าเอาออกมา

เมื่อเขาถามว่า หยิบจากกกล่องเล็กๆออกมาจากเสื้อใช่เเล้วคราวก่อนข้าให้สวินโม่ส่งกล่องมา

ทั้งคืน เย่เซียวหลัวไม่ได้ก้าวออกจากห้องของเขา เเม้ว่าจะมีคนชวนนางออกไป นางก็เกร่งว่าตัวเองไม่สบาย

ใครจะยอมเห็นภาพคนนรักของตัวเองเเต่งงานกับคนอื่นกันล่าว? ถึงเเม้ว่าจะเป็นคนใจเเข็งเห็นภาพเหล่านั้นมันจะอึดอัดไหม?

“พระชายา พระชายา” เสียงของดงหยุนดังมาจากนอกประตูเเละหลังจากเคาะประตูนางก็รีบเข้ามา

“เป็นอะไรรึ? ตื่นตระหนกถึงเช่นนี้? ข้าก็มิรู้วันนี้ข้ารู้สึกไม่สบายใจ?” เย่เซียวหลัวยักคิ้วตะโกน

ดงหยุนเป็นผู้รู้นิสัยเเละอารมณ์ของเย่เซียวหลัว หักไม่มีสิ่งสำคัญเเล้ว ก็ไม่กล้ามารบกวนเย่เซียวหลัวเวลานี้หรอก

“พระชายา เมื่อกี้ ข้าไปที่ลี่วเย่วจีมาเพค่ะเเละพบว่าทาสที่พระชายาให้เข้าไปก็ถูกไล่ออกมาหมดเเล้วเพค่ะ จากที่หม่อมฉันถาม รู้ว่าในห้องมีเสียงของผู้ชาย เเล้วยังมีเงาของคนสองเดินไปเดินมาเพค่ะ” ดงหยุ่นพูดเสียงต่ำกับเย่เซียวหลัว

ที่จริงเย่เซียวหลัวเป็นคนขี้เกียจเเละกระจัดกระจาย ได้ยินคำพูดนี้อีก ยกศีรษะขึ้นทันที ดวงตาของเขาก็เปร่งประกาย

มีความตื่นเต้นเเล้วถาม “ที่เจ้าพูดมันเป็นจริงรึ?”

ดงหยุนพลักหน้าอย่างมั่นใจ “เป็นคนจนิงเพค่ะ หม่อมฉันยังได้ยินการเคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อย อย่ากล้ากรีดร้องและรีบมากล่าทุนพระชายาเพค่ะ” เย่เซีนงหลัวยิ้มเเบบเย็นชา ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเห่อซื่อวันเเรกก็ทำเรื่องน่ารังเกียจออกมา นางไม่ต้องการที่จะจัดการกับนางอย่างรวดเร็ว

“ ดี เจ้าไปกับข้า ว่ามันเป็นเรื่องอะไรกัน” เย่เซียวหลัวยิ้มเเบบเย็นชา ทันทีสวมเสื้อเเล้วออกไป

เเต่ว่า ยังไม่ถึงหน้าประตู ก็ถูกดงหยุนห้ามไว้ “พระชายา ตอนนี้ท่านไม่สามารถออกไป หักท่านไปเอง ก็ไม่สามารถจับได้ เวินอ๋องอาจจะไม่สงสัยหรือไม่ชอบก็ได้. เเล้วรอเวินอ๋องถามขึ้นมาว่าท่านรู้ได้อย่างไร ท่านก็ตอบยากมิใช่รึ?”

ดังนั้นเย่เซียวหลัวก็หยุดลง “เเล้วเจ้าว่าทำอย่างไรต่อ?”

ดงหยุนหัวตาเเล้วสักครู่หนึ่งพูดว่า “พระชายา ตำหนักทั้งหมดนี้เป็นคนของท่าน สั่งให้คนมามาที่ไว้ใจไปจับก็ได้เเล้ว ถ้าจับไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องพระชายาเเล้วท่านก็เเก้ตัวได้สบายนิ่เพค่ะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก