ตอนที่334 ยากที่จะบันทึก
“ท่านแม่ ท่านสับสนไปแล้ว”รัชทายาทมองฮองเฮาเย่แบบนึกไม่ถึงและไม่มีทางอะไรเลย
ก้าวไปมาในห้องจะพูดก็ไม่พูด แต่สุดท้ายก็ห้ามไปหยุด “ท่านแม่ สรุปท่านทำเพื่อข้าหรือเพื่อตัวเอง ตำแหน่งรัชทายาทอันนี้ ข้าไม่ต้องการตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าท่านทำเพื่อข้างั้นมันก็ไม่จำเป็น”
ฮองเฮาเย่ฟังคำตำหนิของเขา ทำให้เหนื่อยใจเหมือนมีก้อนหินมาอุดอยู่ถอยหลังไปทีละก้าวทีละก้าว
“นาย รัชทายาทพูดคำแบบนี้ออกมาไม่มีความเห็นอกเห็นใจกันเลย ข้าเป็นสภาพแบบนี้ไง ตอนนี้นายไม่มีความรู้สึกขอบคุณกลับมาตำหนิข้า?นายนายเป็นลูกข้าจริงหรือป่าว?” หัวใจของฮองเฮาเย่เจ็บเหมือนใจสลาย
ได้ยินนางพูดแบบนั้น ในใจรัชทายาทก็ไม่ใช่ไม่มีความรู้สึกอะไร เขากระแทกกับเก้าอี้ด้านข้างจนเก้าอี้อันนั้นหักเป็นสามสี่ท่อน
“ ท่านแม่ ข้าไม่ควรพูดแบบนี้ ข้ารู้ว่าท่านทำเพื่อข้าแต่……”รัชทายาทเอามองจับหัวไว้ทั้งสองข้างไม่รู้จะพูดอะไรดี
ลูกตัวเองตัวเอง รู้ดีในใจ ฮองเฮาเย่ไม่คิดที่จะหวังพึ่งอะไรรัชทายาท แต่ความแค้นครั้งนี้นางต้องแก้แค้นแน่นอน
“รัชทายาท ครั้งนี้ข้าถูกคนทำร้ายเข้าตำหนักเหลิ่งกง ก็ไม่ได้คิดที่จะออกไป ถึงตัวข้าอยู่ที่นี้ แต่คนที่ทำร้ายข้าต้องได้รับผลที่เขาก่อ หรงฝินกับอ๋องหลัวข้าไม่ปล่อยให้พวกเจ้าอยู่ดีมีสุขแน่”
ฮองเฮาเย่ใช้มือข้างหนึ่งตบลงบนโต๊ะ ใช้สายตาเย็นชาจ้องมองที่พื้นมือค่อยๆกำแน่น
ไม่หลงเหลือความเป็นฮองเฮาแล้ว เหลือเพียงคนธรรมดาที่คิดแต่จะแก้แค้นอย่างเดียว
รัชทายาทด้านหลังนางเห็นสภาพนางแบบนี้ ริมฝีปากซีดสักครู่ จากนั้นมันจะกลับสู่ปกติในไม่ช้า
“ท่านแม่ ท่านว่า จะทำยังไง?”รัชทายาทค่อยๆปล่อยมือทั้งสองออก มองด้านหลังฮองเฮาเย่อย่างเป็นห่วง
เขาสามารถทำให้นางได้แค่นี้ แล้วช่วยนางแก้แค้นทำให้ใจเย็นลง
ร่างกายของฮองเฮาเย่หันกลับมา มีคำใบ้ที่ชื่นชมในดวงตา
ลมข้างนอกค่ำคืนนี้นั้น เย็นสดชื่นพัดจนคนเย็นเยือกๆ
วิชาตัวเบาของฉินหยิ่นนั้นดีมาก จับมือของนางก็สามารถทำให้นางบินอยู่บนหลังคาได้
โล่หวินหลานค่อยๆลืมตาดูเห็นหลังคาที่ผ่านไปแว๊บๆ รู้สึกไม่ค่อยน่าเชื่อตัวเองบินขึ้นมาอยู่ข้างบน
ยังไม่ทันเห็นชัดเจนตัวเองก็ลงมาอยู่บนพื้นแล้ว
“องค์หญิง ท่านอ๋องรอท่านอยู่ด้านในห้อง”ฉินหยิ่นชี้เข้าไปด้านใน
หลังจากที่โล่หวินหลานยื่นคงที่แล้ว มองไปรอบๆตัวหนึ่งทีที่ นี้คือตำหนักอ๋องหมิงไม่ใช่หรอ?
ที่นี่กับตำหนักเวินอ๋องก็มีระยะห่างกันมาก ถ้านางอยู่ที่นี่นานจะกลับไปยังไง?
ผลักประตูออก โล่หวินหลานที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกร่างเสื้อดำคนนึงกอดไว้ ในอกแน่นกลิ่นบนตัวเขาลอยเข้าจมูกของนางทำให้กลิ่นนี้ทำให้นางวางใจมาก
โล่หวินหลานค่อยๆกอดเอวของเขา ได้กอดกับอ้อมกอดนี้เหมือนเรื่องยากแค่ไหนก็ไม่หนักแล้ว
ขอแค่เขาอยู่ข้างข้างนางก็พอแล้ว
“คืนนี้ไม่ต้องกลับไปแล้ว ดีไหม?”โม่ฉีหมิงค่อยๆปล่อยตัวนางออก ก้มหัวลงถามนาง
“ยังไงยาก็วางแล้ว กลับไม่กลับก็มีค่าเท่ากัน”โล่หวินหลานยิ้มโบกมืออย่างทำอะไรไม่ได้
โม่ฉีหมิงใจเต้นกำลังจะจูบนาง แต่ยังไม่ทันโดนริมฝีปากนางริมฝีปากของตัวเองก็ถูกมือเย็นๆข้างนึงปิดไว้
“เดี๋ยว ที่นายให้ฉินหยิ่นไปอยู่บนหลังคา คงไม่ใช่แค่ให้เขาพาข้ามาที่นี่ใช่มั้ย?”โล่หวินหลานเอนตัวไปด้านหลักเล็กน้อย
ใบหน้าของโม่ฉีหมิงถูกโล่หวินหลานปิดปังอยู่ สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดี เอามือของนางออกแล้วพูด “แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว ให้ดูไว้ข้าไว้ใจมากกว่า ไม่สามารถอยู่ข้างๆนางตลอดเวลา ก็ต้องหาคนควบคุมเขาทุกย่างก้าว ไม่สามารถปล่อยให้เขาใช้ประโยชน์จากเจ้า”
โม่ฉีหมิงดึงนางให้มานั่งที่เตียง สะดวกต่อการพูดคุยกัน
“แต่ยานี้ก็ไม่สามารถวางได้ทุกวัน ไม่ช้าหรือเร็วเขาก็ต้องรู้ และไม่สามารถให้ฉินหยิ่นอยู่บนหลังคาต่อไปได้ มันอันตรายหาก ไม่ทันระวังก็จะมีคนสังเกตเห็นได้”
และเวินอ๋องก็ไม่ได้จัดการง่ายๆ ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องพบเห็นแน่ๆ
“วางใจได้ วิชาตัวเบาของฉินหยิ่นดีมาก ไม่พบง่ายๆหรอก แต่ที่นางพูดก็ถูก ทำแบบนี้ทุกวันไม่ได้ ต้องทำโดยด่วนรีบทำรีบเสร็จ”โม่ฉีหมิงขมวดคิ้วคิดคิดว่า จะทำยังไงเรื่องนี้จะได้จบลงโดยด่วน
โล่หวินหลานพยักหน้า “ข้าจะเริ่มค้นหาตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เรื่องแรกเลยก็คือต้องให้เย่เซียวหลัวยอมรับว่าฆ่าข้า และต้องให้เวินอ๋องได้ยิน จากนั้นก็คือต้วนกุ้ยเฟย ตั้งแต่ที่ฮองเฮาเย่ถูกส่งไปตำหนักเหลิ่งกง อำนาจทั้งหมดก็อยู่ในมือนาง ตอนนี้จะจับผิดของนาง มันเป็นเรื่องง่ายๆ”
ขอแค่พบหลักฐานจะล้มตำหนักเวินอ๋องหรือตระกูลเย่มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ใบหน้าของโล่หวินหลานมีรอยยิ้มที่หายาก เริ่มจัดการทุกอย่างให้เสร็จก็จะได้อยู่กับโล่ฉีหมิงอย่างสบายใจ
“เรื่องนี้ข้าจะช่วยเจ้าอยู่ห่างๆ ไม่ให้เจ้าต้องไปเสี่ยงอันตรายแน่นอน แต่คืนวันนี้หลินอ๋องได้ทำอะไรเจ้าหรือเปล่า”โม่ฉีหมิงแค่คิดถึงหลินอ๋อง หน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
แต่ก่อนฮองเฮาเย่มีอำนาจเหมือนฟ้าตระกูลเย่ยิ่งใหญ่ ในวังมีเพียงเขาและต้วนกุ้ยเฟยที่หารชุปกันถ้วยสองคนได้
ตอนนี้เวลาเปลี่ยนแปลง เรื่องไม่เหมือนเดิมฮองเฮาเย่ถูกส่งตัวไปตำหนักเหลิ่งกงตระกูลเย่ค่อยตกลงมาเวลาเป็นฤกษ์ดีที่จะทำลายตระกูลเย่
“ไม่ได้ทำ คาดว่าโรคของหลินอ๋องน่าจะกำเริบ น่าจะแค่อยากมาดูเฉยเฉยแต่ถูกไซ่เยว่เห็น ก่อนไม่ทันเห็นอะไรไซ่เยว่ก็ตับเขาได้แล้ว แต่ท่านเห็นเขาได้ยังไง?”โล่หวินหลานแค่คิดถึงหน้าหลินอ๋องก็อดไม่ได้ที่จะพะอืดพะอม
ดูแล้วตอนนั้นนางลงมือไม่หนักพอ ไม่ได้ตัดความบ้ากามของเขาออกไปด้วย
“เขาหลบอยู่หลังภูเขาปลอมอย่างลับๆล่อๆในเรือนวี่หยวน ตอนข้าออกไปก็เห็นเขาแล้วดังนั้นก็เลยตามเขาดูว่าเขาจะทำอะไร” ใบหน้าของโม่ฉีหมิงเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เหยียดหยาม นึกถึงฉากนั้นเหมือนต้องการฆ่าเขาให้ตาย
ช่วงเวลาก็พอดีไม่คิดว่าหลินอ๋องเป็นคนบ้ากามมากขนาดนี้ ขนาดพระชายาของพี่น้องตัวเองยังกล้ามาถ้ำมอง
แต่เวินอ๋องนั่นก็เป็นคนนิสัยดี ถึงได้ปล่อยให้เขาทำแบบนี้โดยไม่พูดอะไร
โล่หวินหลานคิดถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
“หลังจากที่ท่านออกไปไม่นาน ในตำหนักก็มีมามามาเคาะประตู ถามว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น หาข้ออ้างที่จะเข้ามา ดีตอนนั้นจับหลินอ๋องได้ แล้วถึงได้ไม่สังเกตเห็นท่านแต่เวลาที่พวกเขามานั้นช่างพอดีอะไรขนาดนั้น เหมือนเตรียมทุกอย่างไว้แล้วเลย”
โล่หวินหลานพูดไปแบบหัวเอียงๆไว้ หากบอกว่าเป็นเพราะเย่เซียวหลัวงั้นนางก็คาดการณ์เก่งมากถึงนางจะส่งสาวใช้มาสอดส่อง อยู่ข้างนอกแต่ก็ไม่สามารถรู้ได้ชัดว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น
ในตำหนักก็เป็นถ้ำเสือลองทันหากจะเข้าไปก็ต้องเตรียมใจไว้ให้ดี
“ข้างกายเจ้ามีสาวใช้คนเดียว ไม่ปลอดภัยเลยพรุ่งนี้ เจ้าแอบวาดภาพสาวใช้พวกนั้น มาให้หมิงซีทำหน้ากากหน้าให้พวกนางเปลี่ยนมาเป็นคนของเราให้หมด ข้าถึงจะวางใจ”โม่ฉีหมิงสายตาแน่วแน่
มุมปากของโล่หวินหลานค่อยยิ้มขึ้น ใช้สายตาเสน่หามองเขา
“ไม่ใช่แค่คนรอบข้างข้า ยังมีคนรอบข้างของเย่เซียวหลัว โดยเฉพาะคนที่นางไว้วางใจ”
ต้องเปลี่ยนคนของเย่เซียวหลัวให้เป็นคนของเราให้หมด ถึงจะรู้ว่านางคิดที่จะทำอะไรนางทำเรื่องอะไรกันแน่
ถึงจะสามารถรู้เรื่องที่นางทำทั้งหมดออกมาได้ ให้คนที่อยากรู้นั้นรู้ให้คนที่อยากแก้แค้นนั้นได้แก้แค้น
โม่ฉีหมิงยื่นมือมากอดที่ไหล่นาง นำหัวของนางมาซบที่ไหล่ของตัวเองซึมซับความหวานและอบอุ่นในขนาดนั้น
“รอจนจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ พวกข้าก็ไปจากที่นี่ไปที่ที่มีแค่เราสองคนเป็นไง?”โม่ฉีหมิงลูบที่ไหล่ของนาง ซึมซับความรู้สึกนางในอ้อมกอดของตนเอง
มีเพียงเวลาที่ได้จับต้องนาง เขาถึงจะรู้สึกวางใจ
ได้ยินคำนั้นจากเขา โล่หวินหลานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย เขาไม่อยากได้ตำแหน่งนั้นหรอ?
“เป็นอะไร?”โม่ฉีหมิงมองเธอพร้อมกับยิ้มที่มุมปากของเขา
โล่หวินหลานกลับไปอยู่ในอ้อมกอดเขาอีกครั้ง ขอแค่เป็นแบบนี้ในตอนนี้ก็ดีแล้ว
ไม่ว่าเขาจะอยากได้ตำแหน่งนั้นหรือไม่ นางก็จะสนับสนุนเขาขอแค่ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันบนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เป็นไร
“ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดเรื่องของอนาคต”โล่หวินหลานกอดเขาไว้แล้วยิ้มที่มุมปาก
เรื่องของอนาคต ไม่มีใครรู้แต่ระยะนี้ เขาคิดเพ้อบ่อยๆระหว่างพวกเขาจะมีวันที่ดีในวันพรุ่งนี้หรือไม่
“อนาคต?”โม่ฉีหมิงพูดคำนี้ซ้ำออกมาอีกหนึ่งที แล้วยิ้มออกมาอย่างชัดเจน
“อนาคตเราจะมีลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง พวกข้าจะมองดูการเติบโตของพวกเขาใช้ชีวิตแบบเทพนิยาย ไม่เป็นห่วงไม่คิดมาก ไม่ทะเลาะเป็นไปตามสถานการณ์อยู่แบบเรียบง่าย”โม่ฉีหมิงพูดไปพร้อมกับกอดเธอแน่นขึ้น
นี้คือสิ่งที่เขาอยากได้ และเป็นสิ่งที่เขารักมากที่สุด แค่คนนี้คนเดียวทั้งชีวิตก็พอแล้ว
“ความคิดไม่เลว สิ่งที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้ ก็แค่นี้แหละนายต้องการหมดนี้เลยเหรอ?”โล่หวินหลานเงยหน้ามองเขาทีหนึ่งพร้องพูดขึ้น
โม่ฉีหมิงพูดแบบไม่สบอารมณ์“ทำไงได้ ก่อนที่จะเจอเจ้า ข้าไม่เคยรู้ว่าต้องการอะไร จนได้มาเจอเจ้า ข้าถึงจะเพียบพร้อมดังนั้นนี้คือสิ่งที่สวรรค์ติดข้า”
พูดเสร็จ ก็จะจูบนาง โล่หวินหลานตั้งใจจะหลบออก แต่หลบออกไม่ทันถูกเขาจับไว้แน่น
“ปัง”หนึ่งเสียงประตูก็ถูกผลักออกในเวลานี้
สองคนออกห่างจากกันในขนาดนั้น
สายตามองออกไปด้านนอกอย่างใจจดใจจ่อ สายตาที่เย็นชาของโม่ฉีหมิงมองออกไปที่ร่างนั้น แสดงความรู้สึกแบบไม่พอใจออกมา
ใครกล้ามาผลักประตูเวลานี้ ไม่คิดเอาชีวิตแล้วหรือไง?
อาลั่วหลันลืมตาโตมองทั้งสองคน แล้วทันใดนั้นก็กระพริบตา ยื่นมือมาปิดตาตัวเองไว้ “ข้าไม่เห็นอะไร ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
โล่หวินหลานมองโม่ฉีหมิงแบบลังเล คิดว่าวันนี้คงไม่ได้สวีทหวานกันสองคนแล้ว
อาลั่วหลันหน้าแดงขยับตัวเองไปข้างประตูข้างหนึ่ง หายใจถี่คิดภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ในใจของเธอก็เต้นไม่หยุด
นางรู้ว่าวันนี้เสี่ยวฮัวจะมาที่ตำหนักหมิง ดังนั้นเลยหาโอกาสมาคิดที่จะมาคุยเล่นกับนาง ใครจะไปรู้……จะมาเจอภาพน่าอายขนาดนี้จริงๆเลย……
“หนึ่งครั้งสองครั้งก็เป็นแบบนี้ คิดว่าตำหนักหมิงเป็นอะไร……”โม่ฉีหมิงกัดฟันคิดที่จะด่าเธอแต่ก็ถูกโล่หวินหลานจับไว้
“อาลั่วหลันน่าจะมีเรื่องพูดกับข้านายก็หลบๆเจ้าหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก