ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 335

ตอนที่335 สั่งสอนสาวใช้

เช้าตรู่ หมอกสีขาวด้านนอกยังไม่ทันกระจัดกระจายหายไป รถม้าสีดำคันหนึ่งผ่านใจกลางตลาดไป บนถนนถูกวาดร่องยาวบนหิมะดูแล้วมันน่าตกใจเล็กน้อย

รถม้าวิ่งเข้ามาอย่างเร็วแบบไม่คิดที่จะหยุด ตรงไปทางทิศเหนือของเมืองหลวงทางตำหนักเวินอ๋อง

โม่ฉีหมิงจับมือโล่หวินหลานแน่น ทั้งทางนำตัวนางทั้งตัวเข้าไว้ในอ้อมกอด

ทันใดนั้นเขาเอาผ้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงเขา ใส่ไว้ในมือของโล่หวินหลานบนผ้ามีคาบสีแดงของความสดใหม่ที่เพิ่งแห้ง

“อันนี้ไม่ต้องแล้วมั้ง?”โล่หวินหลานมองผ้าในมือ แบบอึดอัดเขินอายแล้วยิ้ม

โม่ฉีหมิงใส่หัว “เขาขี้สงสัยมาก หากไม่เห็นกับตา เขาไม่มีทางเชื่อแน่นอน นี้ก็เพื่อป้องกันความปลอดภัยของเจ้า เอาให้เขาดู”

สมัยโบราณคนต้องใช้อันนี้เพื่อเป็นหลักฐาน ว่าตัวเองยังบริสุทธิ์นี่เป็นสัญลักษณ์ของความภักดี

โล่หวินหลานเข้าใจความหมายของเขา แค่อยากให้เอาผ้านี้ให้เวินอ๋องดู ให้เขาคิดว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นไปแล้วและเพื่อให้เขาวางใจ

“งั้นก็ได้งั้น ข้าเก็บไว้แล้วนะ”โล่หวินหลานเก็บผ้าเอาไว้

“ไม่อยากให้เจ้าไปเลย”โม่ฉีหมิงถอนหายใจแบบไม่สบอารมณ์

“ประเดี๋ยวเอง ให้เวลาข้าหนึ่งเดือน”โล่หวินหลานเหยียดนิ้วออกมาและทำท่าทีละนิ้วหนึ่งนิ้ว

มองหน้าที่ยิ้มอยู่ของนาง โม่ฉีหมิงยื่นมือไปหยิกแก้มนางแรงๆหนึ่งที

“แค่หนึ่งเดือน หากถึงเวลายังไม่เสร็จ ข้าก็จะเอาตัวเจ้าออกมา แล้วใช้วิธีของข้าจัดการเอง”โม่ฉีหมิงพูดแบบเย็นชา

โล่หวินหลานพยักหน้า ยังอยากพูดอะไรต่ออีก

รถม้าก็จอดลงในขณะนั้น ข้างนอกเสียงของฉินหยิ่นส่งเข้ามา ”ท่านอ๋อง องค์หญิงถึงประตูหลังตำหนักเวินอ๋องแล้ว”

ถึงเร็วขนาดนี้ เลยโล่หวินหลานโบกมือให้เขา กำลังเตรียมตัวลงรถม้า แต่มือกลับถูกเขาจับไว้

โม่ฉีหมิงมองเขาแบบม่วางใจ“ไม่อนุญาตให้อยู่กับเขาสองต่อสอง ห้ามคุยกับเขาตอนกลางคืน ถ้าออกไปข้างนอกกับเขาสองต่อสองห้าม……”

โล่หวินหลานมองดูเขาบ่นแล้ว จูบลงตรงริมฝีปากของเขา อุดปากขี้บ่นของเขาไว้

ลมหายใจของทั้งสอง ถูกโอบล้อมเข้าด้วยกัน โม่ฉีหมิงจับศีรษะนางไว้จูบนี้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

โม่ฉีหมิงปล่อยนางแบบไม่เต็มใจข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมข้าถึงกลายเป็นผู้ชายที่ขี้เหนียวและขี้กังวลหลังได้รู้จัดกับนาง

ลมหิมะข้างนอกค่อนข้างใหญ่นิดหนึ่ง โดยเฉพาะตอนเช้ามองหลังของนางค่อยๆเดินเข้าตำหนักเวินอ๋องไป ขณะนั้นโม่ฉีหมิงหลับตาลง

ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยมือนางอีก ไม่ว่านางจะไปถึงที่ไหน

หลับตาแล้วคิดไปสักพัก เสียงของฉินหยิ่นส่งมาจากข้างนอก“ท่านอ๋อง ข้ายังต้องเข้าไปดูแลองค์หญิงไหม?”

ตำหนักเวินอ๋องก็คือถ้ำเสือดีดีนี่เอง แต่ถ้ำเสืออันนี้ก็มีจุดด้อยของเขา เหมือนโม่ฉีหมิงคิดอะไรออกแล้วใส่หัว “วันนี้ไม่ต้องเข้าไปแล้ว พวกข้าไปสถานที่ที่หนึ่ง”

ฉินหยิ่นพยักหน้าข้าหัวม้ากลับไป ไปทางทิศทางตรงข้ามกับตำหนักเวินอ๋อง

เดินเข้าสู่ตำหนักเวินอ๋อง ในตำหนักเงียบสงบมาก ไม่เห็นแม้แต่เงาคนน่าจะยังฝันดีกันอยู่

โล่หวินหลานเดินจากประตูหลังเข้าไปยังเรือนวี่หยวน สาวใช้ด้านนอกทุกคนยังหลับอยู่ มีแค่ไซ่เยว่คนเดียวที่อยู่นอกระเบียงเดินไปเดินมา

พอเห็นโล่หวินหลานก็รีบเดินเข้าไปชี้เข้าไปในห้องด้วยความเครียด พูดเสียงต่ำ “องค์หญิง กว่าท่านจะกลับมารีบเข้าไปเถอะ”

ไซ่เยว่ที่อยู่ในตำหนักอ๋องไม่ได้นอนทั้งคืน จนถึงคนทั้งตำหนักไม่มีการเคลื่อนไหวแล้วถึงกล้าที่จะหลับตาไปประเดี๋ยวที่หน้าประตู

กังวลมาโดยตลอดว่าเวินอ๋องจะตื่นขึ้นมาในเวลาสำคัญ ยังดีที่โล่หวินหลานกลับมาได้ทันเวลา

“ไซ่เยว่ ลำบากเจ้าแล้ว”โล่หวินหลานตบๆที่ไหล่นาง เปิดประตูออกด้วยเสียงเบาเบาแล้วเดินเข้าไป

เวินอ๋องกำลังนอนฝันดี โล่หวินหลานกำลังเตรียมตัวขึ้นเตียง ก็นึกคำของโม่ฉีหมิงขึ้นมาทันที เลยหยุดการกระทำนั้นเดินออกไปทางด้านนอก

ตอนเช้าตำหนักเวินอ๋องเงียบสงบเหมือนดังภาพวาด โล่หวินหลานยืนอยู่ที่ประตูและสวมเสื้อคลุมไว้แน่น มองหิมะที่ตกไม่หยุดอยู่ด้านนอก มุมปากยิ้มออกมาเบา ๆ

“ทำไมตื่นเช้าจัง?ไม่นอนนานหน่อย?”เวินอ๋องผลักประตูออก มีเพียงเสื้อคลุมตัวเดียวบนร่างกายของเขา

ทั้งหัวรู้สึกมึนๆ เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นเขาจำไม่ได้หมด แล้วจำได้แค่ว่าตัวเองดื่มไปมาก แต่ตนเองไม่ได้ขออ่อนขนาดนั้นถึงขั้นนอนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

จนถึงเช้าวันนี้ ท่าทางของโล่หวินหลานถึงทำให้เขาตื่นขึ้นมา

“ท่านอ๋อง ด้านนอกหนาวเข้าไปด้านในดีกว่า เดี๋ยวเย็นจนร่างกายรับไหว จะไม่สบายเอา”โล่หวินหลานผลักเขาเข้าไปด้านในแล้วปิดประตูแน่น

อากาศด้านในอบอุ่นมาก ทำให้ร่างกายทั้งสองคนอุ่นขึ้นมาไม่น้อย

“เพราะว่าห้องนี้ เจ้านอนไม่ชินใช่ไหม?หรือว่าเป็นเพราะเตียง?พรุ่งนี้ข้าให้คนมาทำห้องนี้ให้เหมือนแคว้นเซิ่งโจวของเจ้าดีมั้ย?”เวินอ๋องถามไม่หยุด

เหตุผลนี้ เขาไม่มีวันเดาถูกแน่นอน โล่หวินหลานรู้ความรู้สึกที่เขามีต่อตนเอง ถ้าตนเองตกลง เขาก็สามารถทำได้ แต่หากเป็นอย่างนั้น ไม่มีข้อดีใดที่ดีกับตนเองเลย

“ไม่ใช่ แค่อยากตื่นขึ้นมาดูหิมะตกเท่านั้น เหมือนกับว่าหิมะที่ตำหนักเวินอ๋องกับในวังไม่เหมือนกันเลย”โล่หวินหลานแถไปเรื่อย

เวินอ๋องก็มองนางด้วยความอยากรู้อยากฟัง ดูว่าสรุปว่ามีอะไรที่มันไม่เหมือนกัน

“ยังไง?ลองพูดมาฟังดู?”

“หิมะของพระราชวังมีจำกัด เป็นสี่เหลี่ยม หิมะในตำหนักเวินอ๋อง ก็ต้องไม่เหมือนอยู่แล้ว ตกตามใจชอบไม่มีจำกัดแม้แต่ลมก็ยังพัดเบาสบาย”

แต่เดิมเป็นเพียงคำพูดที่แถๆ แต่กลับถูกเวินอ๋องชม“คิดแท้องค์หญิงก็เป็นคนรักอิสระ ถ้าเป็นอย่างนั้นงั้น คราวหลังข้าพาองค์หญิงออกไปเที่ยวบ่อยบ่อยดีมั้ย?”

โล่หวินหลานพยักหน้า และไม่อยากพูดเรื่องต่อ

“สายมากแล้ว เดี๋ยวจะเข้าวังไม่ใช่หรอ?”โล่หวินหลานเตือนสติเขา

ถ้าเป็นธรรมเนียมของแคว้นโม่ฉี วันนี้เวินอ๋องต้องพาพระชายาใหม่เข้าไปในวังเพื่อไปกินข้าวกับฮ่องเต้และต้วนกุ้ยเฟยหนึ่งมือ เป็นอันว่าพิธีทุกอย่างก็เสร็จสิ้น

ใครจะไปคิดว่าเสอนอ๋องจะส่ายหัว ”ไม่ต้องรีบ ยังเช้าอยู่”

พอพูดเสร็จ ก็หันตัวไปที่เตียงดึงผ้าห่มทิ้งหมด เหมือนกำลังหาอะไรอยู่

เห็นเขาที่กำลังหาของอยู่นั้น ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเช้าโม่ฉีหมิงให้ผ้าตัวเองมา จึงเอาออกมา ”ท่านอ๋องกำลังหาสิ่งนี้อยู่ใช่มั้ย?”

สีแดงด้านบนนั้นค่อนข้างน่าตกใจ เวินอ๋องยื่นมือไปหยิบมา ทิงแป๊บนึงแล้วถาม “ทำไมถึงอยู่ที่เจ้า ”

โล่หวินหลานก็ไม่อยากให้เขาสงสัย คิดคำแก้ตัวที่ดีหนึ่งอัน“ตอนเช้าข้าเห็นมันรู้สึกว่ามันน่าเกลียดเลยเก็บขึ้นมา”

ฟังดูคำแก้ตัวของนาง เวินอ๋องก็รู้สึกสงสัยตามหลัก แล้วหากหญิงสาวเห็นสิ่งนี้ต้องเขินอาย ไม่กล้าดูถึงจะถูกทำไมถึงคิดที่จะเก็บขึ้นมา?

แต่เวินอ๋องก็ไม่ได้ถามอะไรต่อมากมาย เพราะที่เขาได้แต่งงานกับองค์หญิงเหอซื่อซื่อนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว

“ของสิ่งนี้มันจะดูไม่ดีได้ยังไง?นี่คือสิ่งที่เป็นพยานของความรู้สึกของเรา ต้องเก็บไว้ดีๆถึงจะถูก”เวินอ๋องพูดเสร็จก็เดินไปข้างๆตู้ แล้วเอากล่องสีดำออกมาอันนึง

ผ้าที่มีรอยเลือดนี้ก็ถูกเขาเก็บเข้ากล่องอย่างระมัดระวัง จากนั้นข้าถูกนำไปวางไว้ที่ด้านบนตู้

โล่หวิหลานเห็นท่าทางเขาแบบนั้น คงไม่ใช่พวกโรคจิตที่ชอบเก็บผ้าของผู้หญิง?

คิดอยู่แบบนี้ก็พูดออกมาแบบไม่รู้ตัว“ท่าอ๋องคงไม่ได้เก็บของพระชายาหลวงไว้เหมือนกัน?ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เก็บทั้งสองอันไว้ด้วยกัน ไม่งั้นถ้าหายมันคงไม่ดี”

เวินอ๋องปล่อยมือออก ได้ยินถ้อยคำที่ดูหึงของโล่หวินหลาน อารมณ์ก็ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ข้าสามารถเข้าใจว่าเจ้าหึงได้ใช่มั้ย?”เขาใช้มือทั้งสองข้างอบกอดที่ไหล่ของโล่หวินหลานแล่วยิ้มที่มุมปาก

โล่หวินหลานหลบออกมา สีหน้าเพิกเฉยแล้วหันกลับมาพูดว่า“ข้าพูดมากไปเอง”

แค่เขาหันตัว ก็มีมือมาดึงไหล่นางไว้แน่นแน่นมือ ใหญ่ๆของเขาใช้แรงก็พานางไปถึงด้านหน้าชนเข้าอ้อมกอดที่แข็งของเขา

“ไม่ ข้าไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ มีแค่นางที่สามารถทำให้ข้าทำแบบนี้”เวินอ๋องตอบแบบพอใจ

เขาที่ไม่เคยอธิบายอะไรมา ก่อนมาอธิบายให้โล่หวินหลานฟัง ขนาดเขาเองยังคิดไม่ถึงเลย

โล่หวินหลานไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับคำพูดของเขาเลย แค่ยิ้มเบาเบาแล้วหันกลับไป

สาวใช้หลายคนด้านนอกคืนน้ำร้อนรออยู่หน้าประตู รอจนถึงทั้งสองคนไม่ได้คุยอะไรกันแล้ว ถึงกล้าที่จะเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา

ทั้งสองคนล้างหน้าแต่งตัวเสร็จก็เตรียมตัวเก็บของเพื่อเข้าวัง

ที่โล่หวินหลานอาศัยอย่นั้นคือเรือนวี่หยวน ซึ่งห่างกับเรือนของเย่เซียวหลัวแค่สายน้ำลำธารเล็กๆ หากตั้งใจจะเดินผ่านก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดี

ไซ่เยว่ที่สอบถามเรื่องราวของตำหนักเวินอ๋องจนรู้เรื่องหมดแล้ว นั้นก็ใช้โอกาสที่เวินอ๋องไม่อยู่พาโล่หวินหลานเดินไปทางเรือนของเย่เซียวหลัว

ที่นั่นช่างเงียบสงบไม่มีเสียงรบกวนใดใด นอกจากเสียงหิมะที่หล่นลงพื้นแต่ในขณะที่สองคนเดินไปถึงเพียงสวนหน้าห้องก็ได้ยินเสียง”ปั้ง”ส่งมามันคือเสียงของแก้วหล่นลงพื้น

“เจ้ากับองค์หญิงนั้นเป็นพวกเดียวกันใช้มั้ย?อะไรคือเชิญไม่มาท่านอ๋อง?เอาเจ้ามาทำมั้ย?เอาเจ้ามาทำอะไร?”เย่เซียวหลัวโยนของทุกอย่างในมือใส่สาวใช้คนนั้น

เสียง“เพล้ง”มีความคมชัดเป็นพิเศษหลังจากนั้น ก็มีเสียงสาวใช้ร้องไห้ตามมา

“ร้องๆๆร้องไห้เป็นอย่างเดียว ร้องไห้อีกครั้ง ข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้ง!เจ้ามันไร้ยางอายทำเป็น แค่มาทำตัวหน้าสงสารต่อหน้าข้าวันนี้ ข้าต้องสั่งสอนเจ้าให้ได้!”เย่เซียวหลัวด่าเสียงดังส่งออกไปด้านนอกแบบชัดเจน

สิ่งที่ไม่สามารถได้มาก็รู้แต่ว่าใส่อารมณ์ให้คนใช้ ถึงจะไม่ใช่สมัยนี้โล่หวินหลานก็ไม่ชอบคนประเภทนี้

ตบมือของไซ่เยว่ ให้เขาเตรียมตัวพร้อมที่จะเข้าไปกับตนเอง

ไม่ได้เคาะประตูก็เดินเข้าไปเลย

ด้านในยุ่งเหยิงไปหมดแก้วชาของใช้ชงชาแตกละเอียดอยู่บนพื้น หากเดินไม่ระวังก็จะเหยียบ โดนสาวใช้คนหนึ่งล้มอยู่บนพื้นหิมะ บนตัวใส่เพียงเสื้อตัวเดียวตัวนั่งตัวสั่นอยู่บนพื้น

เย่เซียวหลัวเงยหน้าขึ้นมองโล่หวินหลานที่เดินเข้าประตูมา ในใจเป็นสุขพูดถึงก็มาถึงไฟในใจไม่มีที่ลงพอดีเลย

“ก็นึงว่าใครที่แท้ ก็องค์หญิงเหอซื่อไม่รู้ที่ต่ำที่สูง หรือไงเข้าห้องพระชายาอย่างข้าก็ไม่เคาะประตู?เจ้าคิดว่าที่นี้คิดตลาดสดหรือไง ที่จะมาก็มาจะกลับก็กลับ?”เย่เซียวหลัวทิ้งของในมือแล้วค่อยๆเดินลงบันไดมา

ไซ่เยว่กำลังจะไปบังอยู่ตรงหน้าของโล่หวินหลาน แต่ถูกเธอห้ามไว้

“ข้าแค่เดินพามาได้ยินด้านในเสียงดัง เลยเข้ามาดูคิดไม่ถึงว่าพระชายากำลังส่งสอนสาวใช้อยู่ ไม่รู้ว่านางทำอะไรผิดถึงได้โมโหนักขนาดนี้”โล่หวินหลานยิ้มออกมาเบาๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก