ตอนที่336 เข้าวังเข้าเฝ้า
เย่เซียวหลัวยิ้มเยาะด้วยความรังเกียจ นางแค่พระชายารองไม่รู้จักชนชั้นวรรณะกล้ามาถามตัวเอง?ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆเลย
ค่อยๆเดินไปถึงด้านหน้าของนาง สีหน้าดูยากขึ้นมาทันที
“ข้าสั่งสอนสาวใช้ของข้าเกี่ยวอะไรกับเจ้า?ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น คิดว่าจะมีวันนึงที่จะมาแทนที่ของข้า แล้วมาสั่งสอนข้า?”เย่เซียวหลัวลืมตาโตใช้ดวงตาเย็นชามองโล่หวินหลาน
จากเดิมคิดว่าถ้าหากนางพูดแบบนี้ โล่หวินหลานจะยอมถอยไป คิดไม่ถึงว่าคิดผิดไป
โล่หวินหลานค่อยๆก้าวเข้ามาด้านหน้าหนึ่งก้าว บนใบหน้าไม่มีสีหน้าว่ากลัวเลย“ใช่มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้า แต่แคว้นโม่ฉีทำดีกับคนอยู่ แล้วพระชายาทำเรื่องแบบนี้ หากคนอื่นรู้เข้าถึงเวลานั่น จะให้คนอื่นมองตำหนักเวินอ๋องยังไง?จะว่าตำหนักเวินอ๋องยังไง?”
นี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปของทุกตำหนักอยู่แล้ว กลับถูกนางพูดเหมือนร้ายแรงมาก
เย่เซียวหลัวยิ้มหนึ่งที“ข้าว่าองค์หญิง ตอนนี้เจ้าแต่งงานกับเวินอ๋องเป็นพระชายารอง ก็ต้องรู้ฐานะตัวเองข้าต่างหากที่เป็นพระชายาหลวง เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสอนข้า?เจ้าไม่รู้กฎของตำหนักนี้งั้นข้าจะลงมือให้เจ้าดูเองให้เจ้าดูว่าอะไรคือกฎระเบียบ”
พูดจบก็หันกลับไปเรียกสาวใช้ของนางตงอวี๋น หญิงสาวที่ตัวเล็กๆรีบวิ่งมาจากด้านหลักเธอ
“เจ้าไปเอากฎระเบียบของตำหนักเวินอ๋องมา ข้าจะให้พระชายารองทำให้ดูทีละข้อ”เย่เซียวหลัวยิ้มเยาะแล้วหันกลับไปเดินขึ้นบันไดไป
เห็นสาวใช้ตรงกลางที่ยังคุกเข่าอยู่ตรงนั้น อย่างน่าลำคานเลยเตะนางออกไป
ตอนนี้หาเจอคนที่มีความหมายมากกว่า จะยอมเสียโอกาสดีอย่างนี้ไปจัดการนางทำไม
กฎระเบียบของตำหนักอ๋อง มีทั้งหมดสองเล่นอย่างน้อยก็ต้องมีร้อยกว่าข้อให้เธอทำมันทีละข้อจนหมดถึงจะสามารถทำให้เย่เซียวหลัวหายแค้นได้
ไซ่เยว่หันกลับไปมองโล่หวินหลานทีนึง ถอยออกไปแบบเงียบๆ คิดที่จะไปเชิญเวินอ๋องมา
แต่ขายังถอยไม่ถึงหน้าประตู เย่เซียวหลัวก็พูดขึ้น“หยุดตัวไม่มีมารยาทข้าอนุญาตให้เธอออกไปแล้วหรอ?ยืนเข้ามาด้านในอีกเดี๋ยวยังต้องการให้เธอขึ้นโรง”
น่าจะไม่มีโอกาสแล้ว ไซ่เยว่ถอยมาอยู่ด้านหลังของโล่หวินหลานอย่างกระวนกระวาย
แต่โล่หวินหลานกลับหันไปนิ้มให้ให้นางวางใจไม่ต้องเป็นห่วง
ผ่านไปประเดี๋ยวสาวใช้ที่ชื่อตงอวี๋น ก็เอากฎระเบียบของตำหนักเวินอ๋องมาทั้งหมดสองเล่มเต็มๆความหนานั้นดูหนักมาก
“พระชายา พวกนี้ใช่หมดเลยค่ะ”ตงอวี๋นวางไว้ด้านหน้านางแล้วพูด
“เปิดออกแล้วอ่านให้ข้าฟัน”เย่เซียวหลัวนั่งอยู่ที่เก้าอี้พูดออกมาแบบขี้เกียจ
ตงอวี๋นก่อนเข้าตำหนักก็เคยเรียนหนังสือ ตัวหนังสือก็พอรู้จักบ้างหนังสือเล่มนี้นางก็เคยอ่านก็เลยอ่านออกมาแบบไม่เสียแรงอะไร
“กฎข้อที่หนึ่งของตำหนังเวินอ๋อง พระชายาที่เข้ามาใหม่ต้องคุกเข่ายกน้ำชาให้กับพระชายาหลวง”ตงอวี๋นอ่านออกมา
คุกเข่ายกน้ำชาอีกแล้ว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์เลย โล่หวินหลานมองเย่เซียวหลัวด้วยสายตาปกติ ยากที่จะมาหนึ่งทีอะไรที่มีความหมายแบบนี้จะไม่ลองได้ไง?
“ที่จริง พระชายารองยกน้ำชาให้พระชายาหลวงก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว”โล่หวินหลานนิ้มพร้อมพยักหน้า
ยังถือว่ารู้เรื่องเย่เซียวหลัวยิ้มออกมาเบาๆ“แค่วันนี้เจ้าทำให้ข้ามีความสุขได้ข้าจะลองพิจารณาเรื่องที่ปล่อยเจ้าไป”
พูดจบก็มองไปทางตงอวี๋นให้เธอไปเอาน้ำชามา
โล่หวินหลานรับแก้วชามาจากที่นางบนแก้วแกะสลักเป็นลายดอกไม้สวยประณีตมากเสียดายที่ชุดชาดีๆแบบนี้มาอยู่กับเย่เซียวหลัว
ในมือถือแก้วโล่หวินหลานก้าวมาด้านหน้าหนึ่งก้าวกำลังจะยกน้ำชาให้ แต่ตอนที่กำลังจะย่อตัวลงพลังที่มองไม่เห็นด้านหลังของนางกระแทกที่หลังนาง
นางยืนไม่มั่นคง ทั้งคนทั้งแก้วก็ล้มและตกลงไป
แต่มือของนางถูกไซ่เยว่จับไว้ได้ทันเวลา พอดีจึงหยุดการลืมครั้งนี้ของนางได้แต่แก้วในมือหลุดออกไปแบบไม่ได้ตั้งใจ
“อ๊าย!”เสียงเย่เซียวหลัวกรีดร้องออกมา บนตัวนางถูกน้ำชาร้อนๆลวกใส่
โชคดีที่ตอนนี้คือฤดูหนาว ใส่เสื้อหนาลวกไม่โดนนาง ไม่งั้นคงลวกจนหนังถลอกแน่!
“เหอซื่อ!เจ้าตั้งใจทำใช่ไหม?ไม่เคารพพระชายาหลวง ต้องโทษอะไรรู้มั้ย?ตงอวี๋นลงโทษโดยการตบมัน!”เย่เซียวหลัวชี้หน้าโล่หวินหลานด้วยความโกรธ
ถูกน้ำชาศาสบนตัวเรื่องแรกที่เย่เซียวหลัวทำ ไม่ใช่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่กลับมาสั่งสอนตนเองก่อนดูแล้วตัวเองก็มีเสน่ห์ไม่น้อย
ตงอวี๋นที่ถูกสั่งได้ยิน ก็ดึงแขนเสื้อตนเองขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าทำเรื่องแบบนี้จนชินแล้วและยังตื่นเต้นกับมัน
ตงอวี๋นก้าวเดินไปจนถึงตรงหน้าของโล่หวินหลานกัดฟันพูด “ขอโทษด้วยจริงๆนะพระชายารองแค่คุณกระพริบตามันก็ผ่านไปแล้ว”
พูดเสร็จกำลังยกมือขึ้นจะตบโล่หวินหลาน ไซ่เยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆกำลังคิดที่จะมือนางไว้แต่มีเสียงดัง“ปัง”มาจากด้านหลังคือเสียงเตะประตู
ประตูถูกเตะออกอย่างแรง ร่างของเวินอ๋องเดินเข้ามาจากประตู กวาดสายตาเยือกเย็นมองไปทางเย่เซียวหลัวหนึ่งที
ท้ายสุดสายตาก็ไปตกอยู่ที่โล่หวินหลาน
มือของตงอวี๋นด้วยความตกใจยังหยุดอยู่ที่กลางอากาศ เห็นสายตาของเวินอ๋องมองไปทางโล่หวินหลานก็รีบเก็บลงมา
เวินอ๋องยกขาขึ้นเตะตงอวี๋นจนกระเด็นไปที่หน้าประตูแล้วเธอก็จับตรงหน้าอกไว้เหมือนจะหายใจไม่ออกในทันที
“สมควรตาย ใครนุให้เธอแตะตัวนาง?”เวินอ๋องใช้สายตาเยือกเย็นมองไปทางเย่เซียวหลัวแล้วเดินเข้าไปหาเธอที่ละก้าว
เห็นเวินอ๋องเดินมาแล้ว ยังลงมือกับสาวใช้ของตัวเอง ในใจของเย่เซียวหลัวเป็นเหมือนถังที่ถูกแขวนไว้ขึ้นเจ็ดลงแปด
พูดความจริง นางยอมรับว่าตัวเองนั้นกลัวเวินอ๋องอยู่เล็กน้อย
“สิ่งที่ข้าพูด เจ้าฟังไม่เข้าไปเลยหรือ?”เวินอ๋องดึงมือออกมาแล้วคว้าคอของนาง
เย่เซียวหลัวถูกมือของเขาจับไว้แน่น ไม่มีแรงพูดด้วยซ้ำหน้ากลายเป็นสีเขียวสองมือจับที่มือเขา
ทุกคนเห็นอย่างนั้นก็เงียบ กลัวว่าทำอะไรแล้วจะทำให้เวินอ๋องพลั้งมือ
โล่หวินหลานมองเขาสองคนอย่างสงสัย นางรู้ว่าเวินอ๋องไม่ได้ดีกับเย้เซียวหลัวอยู่แล้วแต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสถานการณ์แบบนี้
“ไม่……ไม่มี……”เย่เซียวหลัวพูดออกมาด้วยความลำบาก
เวินอ๋องมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหนึ่งที่แล้วผลักนางออกไป
เย่เซียวหลัวล้มไปด้านหลังทั้งตัวล้มอยู่บนเก้าอี้
“ทีหลังอย่าให้ข้าเห็นเรื่องประมาณนี้เกิดขึ้นอีกไม่งั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”เวินอ๋องพูดออกมาแบบเย็นชา
จนเห็นเย่เซียวหลัวพยักหน้า เขาจะหันกลับมาแล้วเดินลงบันได
พอมองเห็นโล่หวินหลาน บนใบหน้าของนางแสดงออกว่าตื่นเต้นกลัวและยังยากที่จะเชื่อ
เวินอ๋องเห็นสภาพนางแบบนั้น กอดไหล่นางไว้แบบรู้สึกไม่ดีแล้วพูดข้างหูนางแบบอ่อนโยน “ทำให้เจ้าตกใจละสิ?ไม่เป็นไรครั้งหน้าไม่ต้องมาที่นี้อยู่เรือนวี่หยวนข้าจะปกป้องเจ้าเอง”
มือใหญ่จับที่ไหล่นางอพอดีแล้วพานางออกไปจากตรงนั้น
ไซ่เยว่ที่อยู่ด้านหลังของพวกเขาสองคน ก็ค่อยๆเดินตามพวกเขาออกไป
“ข้าไม่เป็นไร ก็แค่เดินผิดทางจนถึงตรงนี้ แล้วได้ยินเสียงดังนั้นจึงเข้ามาดูที่จริงพระชายา ไม่ได้ทำอะไรข้าท่านอ๋องก็ไม่จำเป็นต้องอารมณ์เสียมากขนาดนี้”โล่หวินหลานพูด
เย่เซียวหลัวได้ยินพวกเขาสองคนคุยกันเท่านี้ หลังจากนี้ก็ไม่ได้ยินอะไรแล้ว
ทำไมที่ทุกครั้งมีคนอื่นอยู่เวินอ๋องถึงรู้สึกไม่ว่านางอยู่?
เย่เซียวหลัวจับคอที่ถูกเขาบีบเมื่อกี้ ในนั้นมีความโกรธของเขา อุณหภูมิของเขาความจริงจังของเขา ที่กำลังปกป้องผู้หญิงอีกคนแล้วไม่สนใจนาง
มันเป็นสิ่งมีค่าและทำร้าย จิตใจนางอยู่บนความรักและความเจ็บปวดหนึ่งด้านอยากไปต่ออีกด้านเพราะความเจ็บก็อยากปล่อยวาง
นางที่กำลังลังเลตัดสินใจไม่ได้สักที ดังนั้นจึงถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“พระชายาท่านเป็นอย่างไรบ้าง?ให้หมอสักคนมั้ย……”ตงอวี๋นเหมือนกับว่าชินกับเรื่องนี้แล้วไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
เย่เซียวหลัวโบกมือและใส่หน้า “ไม่ต้องเจ้าออกไปเถอะ”
ตงอวี๋นไม่กล้าอยู่อะไร ต่อจึงเปิดประตูออกแล้วเดินออกไป
รถม้าของตำหนักเวินอ๋องจอดรออยู่หน้าประตู แล้วเวินอ๋องพยุงโล่หวินหลานขึ้นรถม้ากำลังเตรียมตัวเข้าวัง
ตอนขึ้นรถม้าก็เน้นให้โล่หวินหลานอีกที ว่าอยากไปหาเรื่องเย่เซียวหลัวก่อน
โล่หวินหลานฟังอย่างตั้งใจทุกข้อ แล้วค่อยๆจำมันทุกข้อ
ไม่คิดว่าความรู้สึกของทั้งสองคนจะแย่ได้ถึงขนาดนี้?
เรื่องเมื่อกี้ทำให้นางตกใจมากจริงๆ ถึงจะรู้ความรู้สึกของพวกเขาสองคนแต่ไม่คิดว่าเวินอ๋องจะลงมือกับเย่เซียวหลัวได้เร็วขนาดนี้
การกระทำแบบนั้นเหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่คุ้นเคยทำเป็นประจำไม่ต้องใช้แรงอะไรมากมายก็บีบคอเย่เซียวหลัวได้อย่างง่ายดาย
เห็นโล่หวินหลานคิดอย่างเป็นทุกข์ และสีหน้าที่ดูกลัวเวินอ๋องก็ตบเบาๆบนไหล่นาง“เจ้าวางใจ ขอแค่เจ้าทำตัวดีๆข้าไม่ทำเจ้าแบบนั้นแน่นอน”
แค่ทำตัวดีดี?แล้วถ้าไม่ทำตัวดีดีล่ะ?เขาจะคิดวิธีอะไรมาทำร้ายตัวเอง?
พูดได้เพียงไม่กี่คำรถม้าก็จอดลงที่หน้าวังเส้นทางที่เหลือพวกเขาสองคนต้องเดินเข้าไปเอง
ทันใดนั้น หน้าประตูวังก็มีเสียงม้า ลองมาอีกม้าของโม่ฉีหมิงก็มาจอดที่ตรงนั้นในขนาดนั้น
มันเหมือนกับว่าเตรียมการไว้ให้มาถึงเวลาเดียวกันเลย
“น้องหก ทำไมเห็นข้าก็เดินไปแล้ว?ก็ไม่ให้ข้าดูหน้าคาดตาน้องสะใภ้หกหน่อย?”โม่ฉีหมิงลงจากม้า เดินตามอยู่ด้านหลังทั้งสอง
เวินอ๋องที่คิดที่จะหลีกเลี่ยงโม่ฉีหมิงตั้ง แต่ตรงนั้นพอได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็หยุดลง
“พี่สี่วันนี้ข้าพาเหอซื่อว่าเข้าเฝ้าท่านแม่ หากพูดถึงเรื่องหน้าตาพี่สี่ก้คยเห็นแล้วงั้นข้าก็ไม่เสียเวลาพี่สี่แล้ว”เวินอ๋องหันกลับมาพูดเสร็จเหมือนกำลังประกาศอยู่เลยแล้วใช้มือไหล่พล่ดที่ไหล่ของโล่หวินหลานกอดเธอแบบสวีทหวาน
ถูกมือใหญ่ของเขากอดไว้ หลังจองโล่หวินหล่นเหมือนกำลังถูกไฟเผาอยู่เลยต้องถูกโม่ฉีหมิงจ้องไว้แน่นอน
นางคิดที่จะผลักอแกต่อก็ถูกอบอีกครั้งทำได้เพียงช่างมัน
ทางด้านโม่ฉีหมิงสึหน้าเย็นไปหมดแล้ว เหมือนกำลังส่งตัวสองคนที่มีความรักจากไป
ใช้ขาเตะกองหิมะดันหน้าจนหิมะ ลอยกระจุยกระจายแล้วค่อยๆโรยลงมา
ยัยซื่อบื้อนั้นไม่รู้จะหลบออกเลยหรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก