ตอนที่340 ล่อเสือออกจากถ้ำ
พอถึงเวลาที่นัดหมายไว้แล้ว บนหลังคาของเรือนวี่หยวนก็มีเสียงนกร้อง โล่หวินหลานก็พูดคำใบ้ที่ได้นัดหมายไว้กับโม่ฉีหมิงออกมา
พอเสียงนี้ดังขึ้น ก็แสดงว่าเขามาถึงตำหนักเวินอ๋องแล้ว
“ไซ่เยว่เจ้าไปเฝ้าดูที่ลานเหลียนฝู ถ้าหากเวินอ๋องออกมาแล้ว เจ้ารีบไปเรียกข้าที่ประตูหลัง”โล่หวินหลานเก็บภาพวาดบนโต๊ะพร้อมกับพูด
ไซ่เยว่พยักหน้าแล้วออกไป
ทางนี้ โล่หวินหลานใส่เสื้อคลุมแล้ว ปีนลงไปลงหน้าต่างด้วยเชือกหนึ่งเส้นและกระโดดลงไปลงพื้นอย่างปลอดภัย แล้วก็รีบวิ่งไปทางประตูหลัง
ขนาดที่นางเข้าไปประตูหลัง แล้วก็มีสาวใช้สองคนเดินมา คนหนึ่งสูงคนหนึ่งเตี้ยส่วนสูงนั้นต่างกันมาก
“มามา อากาศหนาวขนาดนี้ จะมีคนออกมาหรือ?คิดมากไปหรือเปล่า?”สาวใช้คนหนึ่งพูดออกมาแบบลำคาน
มามาข้างข้างเธอนั้นน่าจะเป็นคนที่นิสัยดีไม่ได้ว่าอะไรกับคำพูดที่เธอพูดออกมาเพียงแค่ตอบนางเบาเบา“อย่าพูดไปเรื่อย พระชายาให้เราดูความเคลื่อนไหวขององค์หญิงเหอซื่อ พวกข้าต้องดูอย่างละเอียดไม่อย่างงั้น ถ้าหากเราทำไม่ดีเจ้าก็รู้นิสัยของพระชายา”
พวกเขาสองคนน่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ในขนาดนั้น จึงก้มหน้าลงแล้วเดินไปด้านหน้าอย่างระมัดระวังอยู่ในเรือนวี่หยวน
ด้านนอกที่มีคนคอยอยู่แล้ว โม่ฉีหมิงที่คิดถึงทั้งวันทั้งคืนก็รีบวิ่งมาแล้ว ปีนกำแพงเข้ามากระโดดลงมากอดเอวโล่หวินหลานไว้แน่
เวลาเพียงประเดี๋ยวโล่หวินหลานรู้สึกได้ว่า มีคนกอดนางแน่น แค่หันตัวก็ขึ้นไปอยู่บนกำแพงแล้ว ด้านล่างมีกองหิมะสีขาวมากมาย
เร็วจนมองไม่ทันและทำให้เวียนหัว
“ทำให้ข้าตกใจหมด”โล่หวินหลาน โล่อกไปตบไหล่เขาแบบอ้อน
โม่ฉีหมิงยื่นมือไปจับมือของนางมาไว้ ในมือของตนเองเขาจับมือของนางนั่นจนรู้สึกอบอุ่นอบอุ่นไปถึงในใจ
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ ก็แค่อยากอุ้มเจ้า”โม่ฉีหมิงกอดที่ไหล่นางดึงตัวเองเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
อยู่ในอ้อมกอดของเขา เหมือนกับว่าเรื่องทุกอย่างที่ไม่สบายใจก็จางหายไปหมดโล่หวินหลานหลงรักอ้อมกอดอันอบอุ่นนี้ แต่ในตอนนี้ไม่สามารถพิงได้อย่างโจ่งแจ้ง
“นี้คือรูปวาดไซ่เยว่วาดได้ เหมือนจนไม่มีข้อบกพ่อง”โล่หวินหลานเอาภาพวาดออกมาจากเอานาง
โม่ฉีหมิงก็รับไปเก็บเข้าไปในเอวตัวเองยิ้มบาง“นางไม่เคยเห็นฝีมือการวาดของข้านั้นถึงจะถือว่าดีแต่เสียดายข้าว่าเป็นแค่คนคนเดียว”
โล่หวินหลานซบอยู่ที่อกของเขาแบบขี้เกียจ ไม่ได้คิดอะไร ถามต่อจากคำพูดของเขา“คือใคร?”
ทางนั้นไม่มีคำจะพูด คางของโม่ฉีหมิงก้มลงไปที่คอของนาง หนวดเคราสั้น ๆ เลียคอนางทำให้นางหดตัวโดยไม่รู้ตัว
“คนนั้นเมื่อกี้ถามข้าว่าใคร”สักพักเขาก็ตอบออกมา
โล่หวินหลานนิ่งไปสักพัก คิดไม่ทันที่เขาพูดจึงค่อยปรับอารมณ์ ทันใดนั้นก็เหมือนเข้าใจอะไรบ้างอย่าง
คนคนนี้จริงๆเลยไม่โรแมนติกชนิด ขนาดจะพูดคำหวานยังจะต้องพูดอ้อมอ้อมอีก
แต่ขอเพียงแค่มีเขาอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว
ด้านนอกจะมีลมฝนหิมะมากมายขนาดไหน ก็มีเขากันไว้ทางข้างหน้าจะอันตรายมากเพียงใด ท่านสองคนก็จะคิดวิธีผ่านมันไปให้ได้
“พอแล้ว ข้าควรกลับไปแล้ว”โล่หวินหลานลุกขึ้นจากอ้อมกอดของเขา ตบหิมะบนกระโปรงของนาง
ทางด้านเวินอ๋องก็ไปถึงที่เย่เซียวหลัวแล้ว ด้วยความไม่ชอบเย่เซียวหลัวของเขาคืนนี้อาจไม่นอนที่นั้นก็ได้ ถึงจะมีไซ่เยว่เฝ้าดูอยู่ตาเธอก็ไม่วางใจ
“ดีแล้ว ข้าก็ควรไปแล้ว”โม่ฉีหมิงลุกขึ้นจับตัวนางไว้แล้ว กระโดดพานางลงมา
ยืนอยู่บนพื้นอย่างปลอดภัย โล่หวินฟลานค่อยปล่อยมือเขาออก ยากที่วันนี้ไม่รั้งตัวเอง
“ระวังตัวด้วย”โล่หวินหลานโบกมือ กลับไปแบบไม่หันกลับไปมอง
นางรู้ว่าโม่ฉีหมิงต้องยืนดูนางจนมองไม่เห็นถึงจะไป
จนนางหายไปในความมืดแล้ว โม่ฉีหมิงถึงจะหันกลับไปฉินหยิ่นที่รออยู่ด้านนอกนั้น ก็เตรียมม้าพร้อมไว้ให้แล้วเห็นโม่ฉีหมิงมาเปิดม่านทันที
“เรื่องจักการเสร็จหรือยัง?”เสียงโม่ฉีหมิงส่งออกมาจากด้านในรถม้า
ฉินหยิ่นพยักหน้าหันตัวขึ้นรถม้าตอบ หลังจากที่คว้าสายบังเหียนได้แล้ว“จักการเสร็จแล้วไม่มีคนเห็นข้า”
ฉินหยิ่งทำให้บังเหียนแน่น และม้าก็เดินออกรถม้าเดินทางช้าๆในหิมะที่หนาวเย็น
“ทิ้งหลักฐานอะไรที่มันเกี่ยวกับเวินอ๋องไว้ไหม ให้นางนึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเวินอ๋องเป็นคนทำ”โม่ฉีหมิงส่งเสียงออกมาจากรถมาอีกครั้ง
ฉินหยิ่งตอบ “ตอนที่นางตกน้ำ ข้าตั้งใจพูดชื่อเวินอ๋องขึ้นมา นางน่าจะได้ยินจากนั้นข้าก็ตั้งใจที่จะหลอกล่อคนเข้ามาในสวนของตำหนัก ก่อนที่คนจะมาข้าก็ออกมาแล้ว”
ได้ยินคำตอบจากฉินหยิ่นแบบนั้นแล้ว โม่ฉีหมิงก็พยักหน้าเรื่องนี้ทำให้เย่เซียวหลัวสงสารในตัวเวินอ๋องก็พอแล้ว ความแตกร้าวของพวกเขาสองคนคือโอกาสดีที่จะลงมือ
กลับถึงห้องด้านนอกที่เงียบสงบ โล่หวินหล่นลองฟังดูแล้วไม่มีเสียงอะไรส่งมาคืนนี้เวินอ๋องน่าจะพักผ่อนที่เย่เซียวหลัวไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก