ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 344

ตอนที่ 344 วางแผนปฏิบัติการ

บ่าวผู้นั้นแสดงสีหน้าเกรงกลัวและมองไปยังเย่ฮองเฮา สายตาของนางเหมือนกำลังทูลถามว่านางควรไปเปิดประตูหรือไม่

เย่ฮองเฮาผู้ซึ่งรู้ดีแก่ใจว่าใครเป็นคนมาเคาะประตู และรีบพยักหน้าให้นาง “ไปเปิดประตู”

พอตอบกลับ คนๆนั้นก็ไปเปิดประตู นึกไม่ถึงว่าจะเป็นองค์รัชทายาท

นางน้อมคำนับเบาๆ และเดินถอยออกไป

“ลูกมาถวายบังคมท่านแม่” องค์รัชทายาทสวมใส่ชุดสีดำ ทำให้เขาดูธรรมดาไม่โดดเดี่ยว

เย่ฮองเฮาวางถุงผ้าลง และเดินไปอยู่ต่อหน้าเขา

“ลุกขึ้นเร็วๆ นั่งสิ ที่นี่ข้าไม่มีอะไรเลย ลูกดื่มชาร้อนหน่อยนะ” เย่ฮองเฮาเทชาในเชากับมือ

องค์รัชทายาทจับถ้วยชาเอาไว้ และค่อยๆจิบน้ำร้อนข้างใน มองไปยังฮองเฮาแล้วทูลขึ้น “ท่านแม่ เรื่องทุกอย่างข้าได้ทำตามที่ท่านบอกแล้ว กุ้ยเฟยเหนียงๆได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย แม้กระทั่งฮัวถวออยู่ก็คงรักษาหายยาก

พอเย่ฮองเฮาได้ยิน จึงค่อยๆเผยรอยยิ้มมุมปากออกมา และตามด้วยเสียงหัวเราะดังๆ และไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ หน้าอกของนางได้สั่นไหวอย่างไม่หยุดไม่หย่น เหมือนได้ยินข่าวดี

องค์รัชทายาทรู้สึกสงสัยมากๆ คนที่นางต้องจัดการคือหรงฝินถึงจะถูก ทำไมต้องไปจัดการกับคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง?

“ท่านแม่ ท่านจะจัดการกับต้วนกุ้ยเฟยไปทำไมหรือ? ลูกโง่เขลาหน่อยๆ ขอให้ท่านแม่ช่วยบอกเหตุผล” คิดๆดูแล้ว องค์รัชทายาทจึงเอ่ยปากทูลถาม

เย่ฮองเฮาหยุดหัวเราะ สายตาของนางดูเฉยชาขึ้นทันที “หรงฝินข้าก็ต้องจัดการด้วยเช่นกัน แค่ต้วนกุ้ยเฟยรู้เรื่องของข้ามากเกินไป นางก็กระทำผิดไม่น้อยกว่านาง แค่จะทำให้นางรู้สึกกลัวเท่านั้น”

ต้วนกุ้ยเฟยรู้เรื่องของนาง หรือไม่นางก็เคยช่วยนางทำเรื่องชั่วๆ

องค์รัชทายาทยังคงสงสัยไม่หยุด เรื่องของท่านแม่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ แค่รู้ว่ายังไงเขาก็สมควรต้องช่วยเย่ฮองเฮา ไม่ได้จะยังไงเขาก็จะช่วยให้ถึงที่สุด

“ท่านแม่ นี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว ไม่กี่วันข้าจะไปขอท่านพ่อให้ปล่อยท่านออกมา ไม่ว่าเขาจะพูดเยี่ยงไร ปีใหม่ปีนี้ ยังไงก็ต้องมีฮองเฮามาอยู่ร่วมกัน·” องค์รัชทายาทเขี่ยถ่านที่กำลังเผาไหม้อยู่ ทำให้ถ่านพวกนั้นเผาได้ดีขึ้น

พูดเย่ฮองเฮาได้ยินเยี่ยงนี้ นางก็ทำหน้าทึ่งแล้วมองไปที่เขาไปสักพัก หน้าของนางยิ้มเยาะออกไปทันที “ลูก ลูกอย่าคิดว่ามันจะง่ายเยี่ยงนี้ ท่านพ่อของลูกเป็นเยี่ยงนี้ลูกก็รู้ดีแก่ใจ ท่านแม่รู้ดีกว่าลูก เรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้เยี่ยงนี้ ยังไงก็ไม่ต้องทำเยี่ยงนี้จะดีกว่า แค่ลูกใช้ชีวิตอยู่อย่างดีๆก็พอ”

เคียงท่านก็เหมือนดั่งเคียงเสือ ความรักที่มีต่อกันมาสิบกว่าปีก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ ถึงแม้นางจะควักทั้งใจให้เขา เขาก็คงไม่เห็นถึงความรักสิบกว่าปีแล้วมาอภัยให้นางสักครั้ง

วันนี้จะทำเรื่องนี้ สำหรับนางแล้วมันไม่มีประโยชน์ไปแล้ว

แค่องค์รัชทายาทอยู่อย่างดีๆ และคงตำแหน่งองค์รัชทายาทไว้ดีๆ นางก็พอใจแล้ว

“ท่านแม่ ข้าเป็นลูกท่านแม่ ข้าก็ต้องทำตามหน้าที่ ไม่ว่าท่านพ่อจะยินยอมหรือไม่ยินยอม ลูกก็จะลองดูสักครั้ง ท่านแม่ก็อย่ารู้สึกสิ้นหวังเกินไป” องค์รัชทายาทยืนหยัดในความคิดตนเอง

เย่ฮองเฮาเงยหน้ามองเขา ใบหน้าของเขาเหมือนสีหน้าตอนที่ฮ่องเต้เจียเฉิงทำสีหน้าจริงจัง นางได้ลูกที่กตัญญูเยี่ยงนี้ ถือว่าเป็นบุญอันประเสริฐ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกต่อไป

“ได้ๆๆ” เย่ฮองเฮาพูดคำๆนี้ติดต่อกัน 3 ครั้ง ในใจรู้สึกซาบซึ้งจนจับมือขององค์รัชทายาทไว้ “ลูกกับท่านแม่มีใจที่เชื่อมโยงกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันวางแผนปฏิบัติการ”

แต่ยังไงเรื่องนี้เย่ฮองเฮาก็มีแผนที่ตนวางไว้แล้ว สายตาของนางเผยความเขื่อออกมาเบาๆ

ถ้าในวังไม่มีนางในแล้ว เรื่องที่ต้วนกุ้ยเฟยจะทำไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ยังไงหมอหลวงจะไปห้องของต้วนกุ้ยเฟยตรวจอาการนางทุกวัน แต่ก็คงตรวจอะไรไม่เจอ ฮ่องเต้เจียเฉิงก็คงไม่เลิกจากราชสำนักเอีกต่อไป แต่ว่านี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว เขายังมีเรื่องอีกมากมายให้จัดการ คงไม่มีเวลาไปดูแลเรื่องวังในอีกต่อไป

โล่หวินนหลานพลิกตำราไปมากลับไม่เจอพิษของต้วนกุ้ยเฟย แค่ว่าอาการของนางมีความคล้านคลึงกับผู้ป่วยที่ชิวโม่ไป๋เคยรักษา

“เป็นเยี่ยงนี้บ้าง? ได้เห็นอะไรบ้างหรือไม่?” เวินอ๋องไปถึงเรือนวี่หยวนอย่างเหน็ดเหนื่อย ไปถึงก็เห็นโล่หวินหลานั่งพลิกตำราอยู่ข้างหน้าต่าง

“อาการของท่านแม่ดูแปลกมากๆ ต่างจากพิษปกติที่เคยเจอ เหมือนโดนพิษหลายๆอย่างมาปะปนกัน แค่เสียดายตำราแพทย์แค่จารึกถึงบางอย่างเท่านั้น” โล่หวินหลานส่ายหัวไปมา และบอกเขาเรื่องนี้ไม่ได้จัดการง่ายๆ

“และเสียดายที่ตอนนี้ท่านแม่ยังคงหลับใหลไม่ตื่น ถ้าท่านแม่สามารถตื่นชึ้นมา ก็จะสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนวางยานาง” เวินอ๋องรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา และจับแก้วในมือไว้แน่นๆ

โล่หวินหลานยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นโดยธรรมชาติ “ท่านอ๋อง พิษที่อยู่ในร่างกายของท่านแม่ไม่ใช่ได้มาเพียงวันสองวัน ยังไงก็ต้องเป็นเดือนแล้ว ถึงแม้ท่านแม่จะตื่นขึ้นมา ก็อาจจะไม่รู้ว่าใครอยากจะทำร้ายนาง”

ที่นางพูดก็ถูก สำหรับคนที่คิดแผนชั่วจะทำร้ายคนอื่น เขาจะทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้ได้เยี่ยงไร?

“ทางหมอหลวงในวังก็เอื่อยๆเฉื่อยๆ ทางเจ้าก็ตรวจหาอะไรไม่เจอ วันนี้ท่านแม่ไม่ตื่นขึ้นมา แค่กลัวเรื่องมันจะยิ่งบานปลายและพิษจะยิ่งทำร้ายร่างกาย ข้ามันไม่ได้เรื่องจริงๆ ขนาดท่านแม่ก็ยังปกป้องไว้ไม่ได้” เวินอ๋องก้มหน้าโทษตนเอง และรู้สึกเบื่อหน่ายตนเอง

ตอนนี้เขาก็เหมือนเด็กที่ทำความผิดแต่ไม่มีคนช่วย เอาเรื่องของต้วนกุ้ยเฟยมาโทษตนเองไว้สักหมด นานๆครั้งที่ โล่หวินหลานจะเห็นด้านนี้ของเขา ในใจก็รู้สึกทนไม่ไหว

“ท่านอ๋อง ท่านอย่างกังวลไปเลย ยังไงข้าก็จะพยายามหาพิษที่ท่านแม่ได้รับให้เจอ ท่านลองไปหาดูว่าได้รู้จักหมดเทวดาในเจียงหูหรือไม่ ให้พวกเขามาช่วยอีกสักแรง” โล่หวินหลานไม่ได้เดินไปอยู่ข้างๆเขา แค่พูดขึ้นเท่านั้น

เขาลืมเรื่องนี้ไปเลยจริงๆ ตอนที่เขาไปท่องโลกข้างนอกได้รู้จักหมดเทวดาคนที่จงเฉิง ฝีมือของเขายอดเยี่ยมมาก แค่เขาชอบใช้ชีวิตแบบไปไหนมาไหน ชอบท่องโลก ก็คงยากที่จะหาเขาเจอ

โชคดีที่เวินอ๋องเคยช่วยชีวิตเขา และเขาเคยสัญญาว่า แค่อนาคตจะเขาต้องการอะไร เขาก็จะมาช่วยสุดกำลัง

แค่คนเยอะเยี่ยงนี้ เขาจะไปหาเขาเจอได้ที่ไหน?

พอเวินอ๋องนึกได้ขึ้นมา และเข้ามากุมมือโล่หวินหลานไว้ “ตอนนี้ข้าจะออกเดินทางไปเมืองจงเฉิงสักพัก ไปหาหมอเทวดาที่ข้าเคยช่วยเหลือ ข้าจะไปอย่างมากสุด 5 วัน อย่างเร็วสุด 3 วันก็จะกลับมา อย่าไปไหนมาไหนเอง ตอนข้ากลับมาเจ้าต้องคงอยู่ดีๆ”

พูดจบ เขาก็หันไปเดินออกไปนอกประตู โล่หวินหลานรู้สึกแปลกใจเบาๆ เวลานี้ทำไมบอกว่าจะไปก็ไปเลย?

นางรีบเดินตามฝีเท้าของเขาไป ตอนนั้นเขาได้เดินไปถึงหลังตำหนักแล้ว และยังไม่ทันพูดอะไรสักคำ

นางสูดลมหายใจเขาลึกๆ ไม่กี่วันก็จะถึงปีใหม่แล้ว ถ้าเขาไปตอนนี้ จะกลับทันปีใหม่หรือไม่?

เรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมนางถึงหาเบาะแสอะไรไม่เจอเลย ทางโม่ฉีหมิงก็ไม่ได้ข่าวอะไรใดๆ อีกอย่างต้วนกุ้ยเฟยก็คงตกอยู่ในอันตราย พอมานึกย้อนดูแล้ว เหมือนวางไม่เห็นนิมิตอะไรเลย

พอหันหลังไป กลับสบตาของโม่ฉีหมิง เขาสวมใส่เสื้อสีม่วงที่ทำให้เขาดูสง่าและสุขุม ต่างจากคนธรรมดา ทำให้เขาดูเป็นวีรบุรุษกว่าเก่า

พอเห็นโล่หวินหลานหันหลังกลับมา เขาก็เตรียมตัวจะจับร่างของนางไว้

โล่หวินหลานเดินไปอยู่ต่อหน้าเขา ไม่ได้สนใจอ้อมกอดของเขา “เจ้ามาได้เยี่ยงไร?”

พอเห็นนางไม่มีท่าทีใดๆ โม่ฉีหมิงเลยดึงตัวนางเข้ามากอด เหมือนเขารอคอยมานาน จนตอนนี้เขาได้เติมเต็มความต้องนี้มาบ้าง

“ข้ามานานแล้ว รอให้เขาออกไปมานมนาน” โม่ฉีหมิงอ้อมกอดนางเข้าไปในห้อง เขาทำเยี่ยงนี้แบบกลางแจ้งอย่างไม่สนใจใดๆ ทำเหมือนที่นี่เป็นบ้านของเขา

โล่หวินหลานเดินตามฝีเท้าของนางเข้าไปในห้อง ปิดประตูลง เพื่อปิดกั้นโลกภายนอกไว้

“ข้าได้ตรวจเจอแล้ว พิษชนิดนั้นคือพิษเอื่อยเฉื่อย คนที่ถูกวางยาจะไม่รู้ตัว แค่รอถึงวันที่พิษได้ออกฤทธิ์ จึงจะทำให้ตายได้อย่างกะทันหัน”

ครั้งนี้ต้วนกุ้ยเฟยได้ป่วยขึ้นกะทันหัน อาจจะเป็นเพราะว่านางได้ล้มลงบนพื้นหิมะ เลยกระตุ้นให้พิษออกฤทธิ์” โม่ฉีหมิงคิดวิเคราะห์เสร็จค่อยพูดออกมาอย่างชัดเจน

โล่หวินหลานกลับนึกถึงตำราเล่มนั้นที่ชิวโม่ไป๋เก็บไว้ให้นาง ข้างในนั้นจารึกอาการคล้ายๆกับที่เขาบอก แค่จารึกไว้น้อยมาก

“ข้าได้ยินตำราเล่มนั้นที่ปู่ข้าได้เก็บไว้ให้ข้า แกไม่ได้บันทึกโดยละเอียด และไม่รู้ว่าพิษนี้เรียกว่าอะไร ข้าคิดว่าถ้าอยากรู้วิธีแก้พิษ ก็คงต้องใช้นกพิราบส่งจดหมายให้ปู่ข้า” โล่หวินหลานเงยหน้ามองเขา นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด

ยังไงในตำราก็ได้บันทึกไว้แล้ว คิดว่าตอนนี้ปู่คงเคยแก้พิษชนิดนี้

“เจ้าอย่าพึ่งรีบร้อน พิษชนิดนี้ไม่ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ คนที่วางยาพิษต้องรู้แน่ๆว่าจะแก้เยี่ยงไร” โม่ฉีหมิงดึงนางที่กำลังจะลุกขึ้น

และดึงนางเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง มือใหญ่ๆของเขาจับมืออันผอมเรียวของนางไว้ นานๆเขาจะมานี่ จะปล่อยนางจากไปง่ายๆเยี่ยงนี้ได้เยี่ยงไร?

“พูดเยี่ยงนี้ ท่านสืบเจอแล้วหรือว่าใครเป็นคนวางยา?” สายตาของโล่หวินหลานเปล่งประกายออกมาแล้วเงยหน้ามองเขา และเผยแสงแห่งความขี้สงสัยออกมา

พอมองตาของโม่ฉีหมิงก็รู้เลยว่าเขาสืบเจอแล้วว่าใครเป็นคนทำ สายตาของเขาหลอกคนอื่น แต่ไม่ใช่กับโล่หวินหลาน

“คือฮองเฮา” โม่ฉีหมิงเม้มปากเบาๆ และทำเสียงแหบ

“ฮองเฮา? ทำไมนางถึงทำเยี่ยงนี้? นางได้เข้าไปอยู่ตำหนักเย็นแล้ว ทำไมถึงไปวางยาต้วนกุ้ยเฟยได้?” โล่หวินหลานยิ่งตกใจเข้าไปกันใหญ่

ที่น่าสงสัยที่สุดคือ เย่ฮองเฮาไม่มีเหตุผลใดจะไปทำร้านต้วนกุ้ยเฟยเลย

โม่ฉีหมิงยิ้มเยาะขึ้น “เรื่องที่เย่ฮองเฮาจะทำยังมีอีกเยอะ ตอนนี้ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว ถ้าไม่มีใครรักษาต้วนกุ้ยเฟย ถ้าเย่ฮองเฮาเป็นคนรักษานางให้หาย เจ้าคิดว่าฮ่องเต้จะเห็นแกสิ่งนี้ปล่อยนางออกมาหรือไม่ ความคิดที่นางอยากกลับมามีครอบครัวที่สมบูรณ์อีกครั้งก็ไม่ยากอีกต่อไป?”

ปีใหม่ก็คือวันที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องฮองเฮามาจัดการทุกอย่าง ไม่กี่เดือนมานี่ไม่มีฮองเฮาคอยจัดการเรื่องวังใน วังในคงวุ่นวายน่าดู

แค่จะสามารถทำอะไรโดนใจฮ่องเต้เจียเฉิง เย่ฮองเฮาออกจากตำหนักเย็นก็เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ที่สำคัญคือวังในไม่สามารถไม่มีฮองเฮา

โล่หวินหลานขมวดคิ้วแล้วคิดถึง “เย่ฮองเฮาสามารถควบคุมเวลาที่พอเหมาะสมไว้ได้ นี่ก็คงเป็นแผนการที่นางคิดไว้ตั้งแต่วันแรกที่นางเข้าไปในตำหนักเย็น”

แค่นึกถึงว่าอยากจะล่มเย่ฮองเฮา ก็คงไม่ง่ายอย่างที่คิด แค่นางสามารถออกจากตำหนักเย็น ตอนแรกใครที่เคยทำอะไรกับนาง ก็คงใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่ดีอย่างแน่นอน

“นางเป็นฮองเฮามานาน คงคิดวางแผนเก่งอยู่แล้ว แค่คิดวิธีที่จะทำให้ตนออกจากตำหนักเย็น ก็คงไม่ยากสำหรับนาง ถ้าเรื่องนี้ข้าเดาถูก ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือจะขัดขวางนางเยี่ยงนี้?” โม่ฉีหมิงปล่อยมือนางออก เขาขมวดคิ้วเดินไปเดินมา

“ตอนนี้ได้แค่รักษาต้วนกุ้ยเฟยก่อนนาง จะได้ขัดขวางนางได้ แต่ตอนนี้ข้ายังคิดไม่ออกเลยว่าจะรักษาเยี่ยงไร” โล่หวินหลานถอนหายใจเบาๆ นางพึ่งจะสังเกตเห็นว่า เรื่องที่นางทำไม่ได้ก็ยังมีอีกเยอะ

พอฟังจากน้ำเสียงที่กำลังโทษตนเอง โม่ฉีหมิงกอดนางไว้อย่างเป็นห่วง และพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ “ข้าก็แค่เดาเท่านั้น ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่เย่ฮองเฮาทำ แสดงว่าพวกข้ายังมีโอกาส”

แต่ว่าเรื่องนี้ไม่มีคำว่าถ้า ถ้าเย่ฮองเฮาได้ออกมา นางต้องคิดวิธีจัดการกับผู้อื่นที่ทำให้นางได้เข้าไปอยู่ตำหนักเย็น

โล่หวินหลานคิดๆแล้วก็พูดขึ้น “ตอนนี้ข้าเขียนจดหมายได้ปู่ข้าก่อน ถามเขาว่ามิวิธีหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก