ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 346

ตอนที่ 346 ข่าวในตำหนักเย็น

ทั้งสองเดินออกจากที่นั่นอย่างเร่งรีบ เหยียบอยู่บนพื้นหิมะ ทำให้เดินยากมาก

ในใจของโล่หวินหลานกำลังคิดถึงเรื่องที่องค์รัชทายาทเข้าไปในตำหนักเย็น ช่วงเวลาที่ผ่านมาคงมีคนมากมายที่โดยปิดหูปิดตา นึกว่าเย่ฮองเฮาจะอยู่ที่ตำหนักเย็นเฉยๆอย่างสำนึก

“พระชายาเจ้าค่ะ พื้นหิมะเดินยาก ท่านเดินช้าๆหน่อยเจ้าคะ” ไซ่เยว่เตือนนางอยู่ข้างหลัง และออกแรงพยุงมือของนางไว้

โล่หวินหลานยืดตัวให้ตรง นี่พึ่งเดินไปถึงพระตำหนักกลาง ยังห่างจากฮวี้ฮัวหย้วนอักไกล กลัวนางจะไปไม่ทัน

และหันไปสั่งไซ่เยว่ที่อยู่ข้างๆ “ไซ่เยว่ เจ้าไปรอที่ตำหนักต้วนกุ้ยเฟยก่อน ถ้าองค์รัชทายาทหรือคนที่ติดต่อเขาจะเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นใคร เจ้าต้องขัดขวางไว้ ไม่ใช่จะใช้เหตุผลใดก็ตาม”

สีหน้าของนางดูจริงจัง ไซ่เยว่ไม่กล้าถามมาก เลยรีบใช้วิธีตัวเบาบินขึ้นมาตรงหลังคา ทิ้งไว้แค่ร่องรอยสีเขียวที่กำแพงแล้วก็หายตัวไปเลย

เย่เซียวหลัวจับขอบกระโปรงของตนเองไว้ รีบพุ่งหน้าไปยังตำหนักต้วนกุ้ยเฟย แค่หวังว่าไซ่เยว่จะไปทันเวลาที่นั่น

ตำหนักกลางกับฮวี้ฮัวหย้วนไม่ห่างไกลกันมากนัก แต่เพราะว่าตอนนี้มิหิมะตกเต็ม ทำให้หนทางที่ไปนั้นลำบากหน่อย โล่หวินหลานกำลังจะใช้ระเบียงทางรัดเดินไป แต่ว่าข้างหน้านางกลับมีร่างของใครบางคนขัดขวางทางเดินนางไว้

“น้องหกจะรีบมุ่งหน้าไปที่ไหนหรือ?” เสียงขององค์รัชทายาทดังขึ้นข้างหูของนาง

โล่หวินหลานเงยหน้าขึ้น เห็นแค่เพียงองค์รัชทายาทที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มที่กำลังมองตนเองอยู่ ชุดสีเหลืองที่เขาสวมใส่อยู่ทำให้เขายิ่งมีความเป็นเจ้าชาย ดวงตาที่เผยออกมาทำให้มีบางอย่างแปลกๆจนคนเห็นแล้วรู้สึกเกรงกลัว

ไม่รู้ว่าเขากลายเป็นเยี่ยงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นัยน์ตาของเขามีบางอย่างที่นางดูไม่ออก

“เหอซื่อถวายบังคมแก่องค์รัชทายาท ข้ากำลังจะไปตำหนักท่านแม่เยี่ยมท่าน นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอท่านที่นี่” โล่หวินหลานฝืนยิ้มมากๆ ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกันแน่

สายตาของเขากวาดไปรอบๆสักพัก ดวงตาของเขากำลังยิ้ม “เท่าที่ข้ารู้ ทางเข้าของวังไม่ได้อยู่ตรงตำหนักกลางหรือเปล่าหรือว่าน้องสะใภ้หกเดินผิดทาง? ทำไมถึงไม่มีบ่าวคอยรับใช้เจ้าเลย?”

ฟังดูเขากำลังแกล้งถาม โล่หวืนหลานกำลังเดาว่าเขารู้เรื่องแล้วใช่หรือไม่ ไม่เช่นนั้นทำไมเขาถึงออกจากตำหนักเย็นโดยเร็วแล้วมาถึงที่นี่?

แต่ว่านางก็ไม่ได้แสดงความกังวลออกมา เรื่องเยี่ยงนี้สำหรับนางแล้วนางเจอบ่อย แต่รู้ดีว่าควรตอบสนองเยี่ยงไร

“ดูท่าทางองค์รัชทายาทเหมือนมีความสุข มาเดินเล่นในนี่ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสีหน้าที่ดูผ่อนคลายของท่าน ข้าก็คงนึกว่าฮองเฮาได้ออกจากตำหนักเย็นเสียแล้ว” โล่หวินหลานตั้งใจพูดเยี่ยงนี้

และอยากจะใช้เรื่องของเย่ฮองเฮาทดลองเขาสักหน่อย ดูว่าเขามีปฏิกิริยาใด

องค์รัชทายาทกลับมีการเตรียมการไว้อย่างพร้อม และไม่ได้ทำสีหน้าเปลี่ยนแปลงใดๆ แค่กำมือแล้วถอนหายใจหนักๆ “เรื่องของท่านแม่มีคนคอยอยู่เบื้องหลังทำร้ายท่าน ข้าไม่เชื่อแน่นอนว่าท่านแม่จะทำเรื่องพวกนี้ออกมาได้ ถึงแม้ท่านแม่จะออกจากตำหนักเย็นได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

พูดเยี่ยงนี้ เรื่องมันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น โล่หวินหลานหายใจเข้าลึกๆ ในใจรู้สึกไม่สงบสุข องค์รัชทายาทต้องมีบางอย่างแอบซ่อนไว้ไม่กล้าบอกใครอย่างแน่นอน

นำเรื่องทุกอย่างมาพัวพันกับเย่ฮองเฮาอย่างง่ายดาย ต่อไปพูดอะไรก็น่าจะง่ายและลื่นมากขึ้น ทำตัวทุกอย่างให้เย่ฮองเฮาได้ออกมา ขนาดทำไมนางถึงมาถึงตำหนักกลางเขาก็ไม่ถามต่อไป

โล่หวินหลานรู้สึกใจเต้นขึ้นทันที รู้สึกไม่สบายใจ เลยรีบถอนตัวออกมา “องค์รัชทายาทเจ้าค่ะ ข้ายังต้องไปตำหนักท่านแม่ ก็ตามก่อนนะเจ้าคะ”

ใครจะไปรู้ พอนางจะหันหลังออกมา องค์รัชทายาทก็ได้เรียกนาง “ยังไงก็เจอกันแล้ว เดี๋ยวข้าจะขอตามเจ้าไปเยี่ยมต้วนเหนียงด้วยละกัน ตลอดทางที่มา ไม่ได้เห็นบ่าวที่มาจากตำหนักต้วนเหนียงๆเลย เลยไม่รู้ว่าอาการของท่านเป็นเยี่ยงไร?”

องค์รัชทายาทตั้งแต่พูดคำพูดพวกนี้เข้าไปในหูของโล่หวินหลาน มักจำทำให้รู้สึกเดาอะไรไม่ค่อยออก

ทั้งสองเดินไปถึงฮวี้ฮัวหย้วน ในใจของโล่หวินหลานยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกไม่ดี ฝีเท้าก้าวเร็วขึ้น องค์รัชทายาทที่อยู่ข้างหลังเดินตามนางก้าวใหญ่ๆ และเดินไปถึงประตูตำหนักของต้วนกุ้ยเฟย

“น้องสะใภ้หกทำไมยิ่งอยู่ยิ่งเดินเร็วล่ะ ขนาดข้ายังเดินตามแทบไม่ทัน” องค์รัชทายาทปริตามองโล่หวินหลาน

โล่หวินหลานไม่มีเวลามาสนใจเขา แค่พูดคำเดียวว่ากังวลอาการของท่านแม่

พอเห็นไซ่เยว่เฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูจากที่ไกลๆ ประตูได้ปิดลงอย่างแน่นๆ ข้างนอกมีทหารและบ่าวของฮ่องเต้ยืนอยู่เต็ม ถึงกระแท้จ้าวกงกงยังรออยู่หน้าประตู

ตลอดทางที่โล่หวินหลานเดินมาอย่างกังวล ตอนนี้รู้สึกสงบจิตใจลง หรือว่าไปไม่ทันจริงๆ

ตอนที่องค์รัชทายาทปรากฎตัว นางก็มาไม่ทันแล้ว

“องค์หญิงเจ้าค่ะ ท่านมาได้สักที” ไซ่เยว่รีบมาหานาง และกระซิบข้างหูนาง “ตอนที่บ่าวมาถึง เย่ฮองเฮาก็อยู่ข้างในนั้นแล้ว ไม่รู้เพราะเหตุใด ผ่านไปไม่ได้ ฮองเฮาก็มาด้วย”

เย่เซียวหลัวตบบนมือของนางเบาๆ แสดงถึงตนเองรู้แล้ว

และใช้หางตามองไปยังองค์รัชทายาท แสดงละครได้ดีจริงๆ กลับร่วมมือกับเย่ฮองเฮากลั่นแกล้งและขัดขวางนางเยี่ยงนี้

ดูๆแล้วเรื่องนี้น่าจะรู้ผลสรุปแล้ว อยากจะชนะกลับมาอีกสักตั้งก็คงยาก

ถึงแม้ฮ่องเต้เจียเฉิงพูดเหมือนเป็นคนไม่มีจิตใจ และอาจจะสงสัยหลายๆอย่าง มักจะจัดการเรื่องในราชสำนักอย่างเข้มงวด และทำกฎผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าเย่ฮองเฮาทำการรักษาต้วนกุ้ยเฟยให้หาย และองค์รัชทายาทคอยพูดอะไรดีให้เขาฟังเข้าหู เรื่องมันก็น่าจะเป็นไปตามที่พวกเขาวางแผนไว้

“ท่านพ่ออยู่ที่นี่นี่เอง มิใช่เพราะมาดูต้วนเหนียงๆด้วยเช่นกัน?” องค์รัชทายาทพูดเองเออเอว และผลักประตูเข้าไปข้างใน

โล่หวินหลานหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆเดินตามเขาเข้าไปข้างใน

บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น ตำแหน่งตรงกลางของห้องมีเตาผิงอยู่ ถ่านข้างในกำลังลุกเป็นไฟ ลมร้อนลอยออกมาจากในนั้น

บ่าวที่อยู่ข้างในยืนอยู่สองข้างเป็นแถว แต่ละคนเหมือนแปลกหน้าแปลกตาไม่เคยเห็น เสื้อผ้าที่สวมใส่ม่เหมือนบ่าวทั่วไป

โล่หวินหลานกวาดสายตามองไป กลับเห็นเย่ฮองเฮาอยู่ข้างเตียง ร่างกายของนางผอมแห้ง ทรงผมดูเรียบง่าย สวมใส่เสื้อผ้าที่ดูธรรมดา ไม่มีความสง่างดงามเหมือนแต่ก่อน

แต่ไม่ว่านางจะแต่งตัวในดูดีและสะอาด ก็แค่จะปฏิบัติแผนการร้ายของตนเองให้สำเร็จ

แค่ฮ่องเต้เจียเฉิงเห็นนางแต่งตัวเยี่ยงนี้ ก็น่าจะรู้ว่านางใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักเย็นเยี่ยงไร ก็น่าจะคิดว่านางกลับตัวกลับใจอย่างแท้จริง ก็คงจะไม่เรียกร้องอะไรใดๆกับเรื่องที่ผ่านมา ไม่แน่อาจจะรู้สึกสงสารที่นางแต่งตัวเยี่ยงนี้

ทั้งสองน้อมคำนับ ฮ่องเต้เจียเฉิงจึงพึ่งรู้ว่าพวกเขาเข้ามา พอเห็นองค์รัชทายาท สายตาของเขาหยุดอยู่ที่เขา

แค่ว่าฮ่องเต้ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา องค์รัชทายาทกลับเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน “ท่านพ่อ ลูกได้ข่าวมาว่าต้วนเหนียงๆป่วยหนัก วันนี้ตอนเช้าตรู่ข้าเลยรีบมาเยี่ยม แต่กลับเจอน้องสะใภ้หกตรงฮวี้ฮัวหย้วน เลยมานี่พร้อมกัน”

ฮ่องเต้พยักหน้า สายตามองไปยังโล่หวินหลาน เหมือนกำลังถามนางว่าจริงหรือไม่

จริงๆทั้งสองเจอกันที่ตำหนักกลาง ทำไมองค์รัชทายาทจึงพูดว่าฮวี้ฮัวหย้วน?

ในใจของโล่หวินหลานเข้าใจขึ้นทันที ตำหนักกลางไม่ใช่ทางเข้าวัง อีกอย่างห่างจากตำหนักเย็นไม่ไกล ถ้าพูดว่าเจอที่ตำหนักกลาง ก็คงทำให้ฮ่องเต้สงสัย

“ใช่เจ้าค่ะ พอดีเจอองค์รัชทายาทที่ฮวี้ฮัวหย้วน เลยมาพร้อมกัน” โล่หวินหลานพูดด้วยเสียงต่ำ

ฮ่องเต้จึงพึ่งจะพยักหน้า “องค์รัชทายาทมีใจจริงๆ”

สายตาขององค์รัชทายาทเปล่งประกายซึ่งความเร่าร้อนขึ้นมาทันที และมองไปยังต้วนกุ้ยเฟย และทูลถามขึ้นทันที “ท่านพ่อขอรับ คนๆนั้นคือแพทย์ธรรมดาที่เชิญมาจากข้างนอกหรือขอรับ? ทำไมรู้สึกว่าข้างหลังของเขาชินตามากๆ?”

ฮ่องเต้เจียเฉิงเหมือนจะอึ้งไปสักพัก หันหน้าไปยังทิศทางที่เย่ฮองเฮาอยู่ นางแต่งตัวธรรมดา ชุดคุมสีเหลืองอ่อนที่ดูเก่า ผมของนางก็ไม่มีปิ่นอะไรใดๆประดับอยู่ มองจากข้างหลังแล้ว ใครจะไปรู้ว่าเป็นฮองเฮาของชาวบ้าน?

เย่ฮองเฮาตั้งใจวัดชีพจรให้ต้วนกุ้ยเฟย ดวงตาและหูเหมือนไม่สนใจเสียงใดๆเลย ในใจและในสายตาคิดแต่เรื่องรักษาต้วนกุ้ยเฟย

“เจ้า รู้สึกคุ้นตา ก็ถือว่าถูก” ฮ่องเต้เจียเฉิงกำลังจะพูดต่อไป เย่ฮองเฮาที่อยู่ทางโน่นก็คุกเข่าลงกับพื้น

“ฮ่องเต้เจ้าค่ะ คุณน้องต้วนป่วยเป็นพิษเยียกเย็น ทีแรกก็ไม่เป็นไร แต่เพราะร่างกายภายในของนางยังอะไรบางอย่างบดบังชีพเจ้าของนางไว้ จนทำให้น้องต้วนยังไม่ตื่นเยี่ยงนี้” เย่ฮองเฮาเปล่งเสียงออกมาคำเดียวก็ทำให้องค์รัชทายาทพุ่งไปข้างหน้า

ฝีเท้าของเขาเดินอยู่ต่อหน้าเย่ฮองเฮาขึ้นโดยทันที ทั้งตัวของเขารู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก

“ท่านแม่…..ท่านแม่…..ท่านไม่ใช่ว่าอยู่ตำหนักเย็นหรือ? ทำไมถึงออกมาได้? หรือว่า หรือว่าท่านพ่อให้ท่านออกมา?” องค์รัชทายาทพยายามกดเสียงของตนเอง

น้ำตาของเย่ฮองเฮาไหลริมลงมาจากตา ตอนที่นางหันหน้ากลับมา โล่หวินหลานก็ได้เห็นหน้าตาของนางอย่างแท้จริง นางแทบจะไม่ได้แต่งหน้าเลย ทำให้นางดูแก่และหนังเหี่ยวไปหมด ร่างกายก็ผอมลงไม่น้อย

“ลูกแม่!”เย่ฮองเฮายื่นมือออกไปโอบกอดองค์รัชทายาท ร้องไห้จนฟังอะไรไม่ออก

แม่ลูกทั้งสองโอบกอดกันอย่างแน่น ไม่สนใจฮ่องเต้เจียเฉิงและคนอื่นๆเลย ความรักระหว่างแม่ลูกมันลึกซึ้งจนทำให้คนอื่นซาบซึ้ง

โล่หวินหลานทำสีหน้าปกติและถอยออกจากที่นั่น มองฝีมือการแสดงละครของทั้งสองอย่างเฉยเมย ในใจรู้สึกอยู่ไม่นิ่งขึ้นมา ถ้าจะให้สงบลงคงยาก

นางก็ยังคงขัดขวางแผนการร้ายของพวกเขาไว้ไม่ทัน นางมาช้าไปเพียงก้าวเดียว

ฮ่องเต้เห็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของทั้งสอง ทำให้รู้สึกอึดอัดเพราะถูกมองห้าม และทำเสียงขัดเบาๆ “ฮองเฮา ที่เจ้าบอกอาการของต้วนกุ้ยเฟยควรรักษาเยี่ยงไร้กันแน่?”

ทั้งสองที่กำลังกอดกันแน่นๆยังคงไม่อยากแยกออกจากกัน เย่ฮองเฮาเช็ดน้ำตาบนหน้าเบาๆ และหายใจเข้าลึกๆ

“ทูลฮ่องเต้ น้องต้วนได้รับพิษเยียกเย็นและพิษไฟ พิษเยียกเย็นมีธาตุเย็น พิษไฟมีธาตุร้อน ทำให้ร่างกายภายในผิดปกติ ดังนั้นจึงนอนยาวไม่ตื่น ข้ามียาแก้พิษ แค่ให้น้องต้วนกินเข้าไปก็จะดีขึ้น”

เย่ฮองเฮาเช็ดคราบน้ำตาบนหน้า และกลั้นเสียงร้องไห้ตัวเองไว้

ที่แท้ก็คือพิษไฟนี่เอง โล่หวินหลานปริตาเล็กน้อย แต่ว่าเย่ฮองเฮารู้ได้เยี่ยงไรหรือ?

หรือว่า นางก็รู้เรื่องการแพทย์ด้วยเช่นกัน?

นี่น่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเย่ฮองเฮารู้เรื่องจริง องค์รัชทายาทก็ไม่ป่วยนานจนไม่หายเยี่ยงนี้

ขนาดพิษไฟนางยังไม่รู้ ทำไมเย่ฮองเฮาถึงรู้ได้?

“ฮองเฮา ข้าจำได้ว่าเจ้าไม่รู้เรื่องการแพทย์ ทำไมเจ้าถึงรู้ชัดเจนเยี่ยงนี้? อีกอย่างยังมียาแก้พิษ? เจ้าพูดมาให้ละเอียด” ฮ่องเต้สะบัดเสื้อของตนแล้วนั่งลงบนตำแหน่งหลัก

ฮองเฮาที่ได้เตรียมคำพูดที่จะตอบเขา ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวอะไรออกมาใดๆ แค่ค่อยๆคุกเข่าลง สีหน้าเหมือนดูปวดใจมากๆ

“ทูลฮ่องเต้ ญาติของข้าเคยป่วยเป็นโรคเยี่ยงนี้ ตอนนั้นข้ายังอายุน้อยอยู่ เพราะว่าหายาไม่เจอ ญาติคนนั้นของข้าจึงป่วยตาย หลังจากนั้น ตอนนี้ปู่ของข้าจึงขอให้หมอที่มีฝีมือปรุงยาแก้พิษนี้ จึงเก็บมาจนถึงทุกวันนี้” เย่ฮองเฮาพูดด้วยเสียงต่ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก