ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 354

ตอนที่ 354 วางแผนชั่วร้าย

“น้องหก ทำไมเข้าวังเร็วเยี่ยงนี้?” องค์รัชทายาทยิ้มได้อ่อนโยนมาก ค่อยๆเดินมาอยู่ต่อหน้าเขา

เวินอ๋องไม่ได้ทำสีหน้าอะไรใดๆ ตอนนี้เขากำลังเผชิญองค์รัชทายาท คงไม่ต้องเล่นละครตบตาอีกต่อไป และพูดขึ้นด้วยความเยียกเย็น “เขาวังมาเยี่ยมท่านแม่ องค์รัชทายาทเชิญก่อน”

มองสีหน้าของเวินอ๋อง องค์รัชทายาทคาดว่าเขาน่าจะรู้แล้ว แต่ไม่ได้บอกอะไรออกมาใดๆ

“น้องหกก็เชิญไปก่อน” องค์รัชทายาทอมยิ้มเบาๆ

สายตาอันเย็นชาของทั้งสองสบกัน เหมือนมีกระแสไฟฟ้าบางอย่าง ทั้งสองไม่มีใครยอมใคร แล้วยืนขวางอยู่ตรงประตูเข้าวัง

เย่เซียวหลัวเห็นว่าเป็นเยี่ยงนี้ น่าจะเป็นเพราะคำพูดเมื่อวานที่นางพูดจึงแทงใจเวินอ๋องเป็นอย่างมาก วันนี้เห็นองค์รัชทายาทจึงมีอาการเรื่องนี้

ยืนอยู่ที่นี่ไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ ถ้าถูกคนที่จ้องจะทำร้ายเห็นเข้า คงไปทูลเรื่องนี้กับฮ่องเต้ ไม่แน่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา

นางรวบรวมความกล้าของตน เดินไปอยู่ต่อหน้าเวินอ๋อง แล้วบอกเตือนด้วยเสียงเบา “ท่านอ๋อง พวกข้าไปเยี่ยมท่านแม่กันเถอะ หิมะตกหนักมาก หมอเทวดายังรอพวกข้าอยู่ พวกข้ารีบไปกันเถอะ”

พอพูดถึงหมอเทวดากับต้วนกุ้ยเฟย เวินอ๋องจึงได้สติ และเก็บสายตาอันเยียกเย็นของตน หันหลังแล้วเดินจากไป

พอเห็นเวินอ๋องเดินจากไป สมองอันตึงเครียดขององค์รัชทายาทก็ได้ผ่อนคลายลง และค่อยๆหันกลับแล้วเดินไปทิศทางตรงกันข้ามกับเขา

ตั้งแต่เย่ฮองเฮาออกจากตำหนักเย็น มีคนมากมายที่เข้าเฝ้าเยี่ยมเยียนเพื่อแสดงความยินดี

เย่ฮองเฮาค้นดูของที่คนพวกนั้นนำมาตอนที่มาเข้าเฝ้า ของส่วนมากก็ไม่ได้มีค่าและไม่ดีแต่อย่างไร

ก็ใช่ นางเป็นฮองเฮาอยู่แล้ว สิ่งของที่มีก็เป็นแต่ของดีและล้ำค่าที่สุด จะไปใช้ของที่คนอื่นให้ได้เยี่ยงไร

“ฮองเฮาเจ้าค่ะ ของขวัญพวกนี้ของท่านคือของที่พระชายาในวังส่งมาให้ มีลี่ปิง หลี่เหม่ยเหยิน จิ๋งเฟย…….” บ่าวข้างๆกำลังอ่านนามอยู่ ยังไม่ทันได้อ่านจบ ก็ถูกนางขัดจังหวะ

“ข้ารูแล้ว เจ้าไม่ต้องอ่านแล้ว ของพวกนี้ ข้าไม่โปรดปราน เจ้าไปมันไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของ” เย่ฮองเฮาไม่ได้ดูเลยด้วยซ้ำ

“รับทราบเจ้าคะ” บ่าวผู้นั้นค่อยๆเดินออกไป

ในห้องเงียบสงบขึ้นมาทันที เย่ฮองเฮามองนิ้วชี้ของตนเอง ในใจกำลังเหม่อลอยอยู่

องค์รัชทายาทเดินไปถึงประตูพอดี และเห็นบ่าวที่อยู่ข้างในกำลังเดินออกมา เขาคุยกับบ่าวผู้นั้นไปสักพัก แล้วเดินเข้าไปข้างใน

“ลูกมาเข้าเฝ้าท่านแม่ขอรับ” องค์รัชทายาทน้อมคำนับ พอเย่ฮองเฮาเห็นเขา ใบหน้าของนางเบิกบานขึ้นมาทันที เลยรีบไปพยุงเขาให้ลุกขึ้น

ตั้งแต่ช่วงเวลาที่นางเข้าไปอยู่ในตำหนักเย็น นางได้มองเห็นโลกแห่งความเป็นจริงว่ามันช่างโหดร้าย ตอนนี้นอกจากตำแหน่งที่ตนมี ก็มีแค่ลูกของตนเองที่จะคุ้มครองตนเองในอนาคต

“เจ้ามาแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่แล้ว ข้าได้เตรียมชุดใหม่ให้เจ้า เจ้ามาลองสวมดูว่าจะเป็นเยี่ยงไร” เย่ฮองเฮารู้สึกเบิกบานมากๆ นางจูงเขาเดินไปฉากกั้นห้อง

ในตู้มีชุดสีเหลืองพับอยู่ เย่ฮองเฮายื่นมือไปเอาออกมา มือเรียวยาวของนางลูบชุดสีเหลืองนั้นให้เรียบ นี่เป็นชุดที่เขาตัดเย็บเองกับมือตอนที่อยู่ตำหนักเย็น

ชุดๆนี้ทำให้ทุ่มเทเป็นอย่างมาก วันนี้สามารถมอบมันให้กับองค์รัชทายาท ในใจของนางก็รู้สึกสงบสุขขึ้นมาก

“เจ้าลองสวมดูว่าเข้ากับเจ้าหรือไม่?”เย่ฮองเฮาเอาชุดวางไว้บนมือขององค์รัชทายาท เหมือนตอนเด็กๆที่นางชอบเปลี่ยนชุดให้เขาเองกับมือ

พอเห็นชุดนี้ที่เย่ฮองเฮาเย็บให้เขาเองกับมือ เขาจึงรื้อฟื้นถึงช่วงเวลาตอนเด็กๆ

ถึงแม้ตำแหน่งของท่านแม่จะสูงส่ง แต่ว่านางก็มักจะได้เลี้ยงเขาที่มีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอตั้งแต่เด็ก นางไม่เคยแม้แต่จะรังเกียจเขาเลย กลับยิ่งเป็นห่วงและรักใคร่เขามากกว่าเก่า หลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่นางมอบให้มันไกลยิ่งที่เข่าจะจินตนาการได้

เสื้อผ้าใหม่ที่เขาได้สวมใส่ตั้งแต่เด็กมีเกือบครึ่งหนึ่งที่นางเย็บเองกับมือ ถึงแม้งานในวังในจะยุ่งแค่ไหน นางก็จะหาเวลามาตัดเย็บขุดให้ และมักจะเย็บอย่างไม่พักผ่อนจนถึงดึกดื่น

พอมองชายรูปงามในกระจก ทั้งเรือนร่างของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของราชา เย่ฮองเฮานึกถึงวันข้างหลัง จินตนาการถึงอนาคต นางคงจะเป็นพระพันปีแห่งแคว้นโม่ฉีที่สูงส่ง และจะมีอำนาจสูงสุดหลังจากที่องค์รัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์ คงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

“ลูกรัก หลังจากที่ท่านแม่ออกจากตำหนักเย็น และกลับมาอยู่ในตำหนัก ไม่มีวันไหนที่หลับสบาย บางครั้งก็ฝันร้ายจนตื่น ยังนึกว่าตนเองอยู่ที่ตำหนักเย็น ความทรงจำของช่วงเวลานั้นมันยากที่จะลืมจริงๆ กลัวว่ามันจะจดจำในความทรงจำของท่านแม่ตลอดไป” เย่ฮองเฮาระบายความเครียดออกมาอย่างเคร่งเครียด

พอนึกถึงช่วงเวลานั้น เหมือนในใจของนางยังมีหลุมพรำ

ฮองเฮาที่เคยเข้าไปอยู่ในตำหนักเย็น ก็คงจะเป็นขี้ปากของชาวบ้าน

พอองค์รัชทายาทเห็นนางทนทุกข์ทรมานเยี่ยงนี้ ก็รู้สึกว่านางได้รับเยี่ยงนี้มันไม่ถูกต้อง “ท่านแม่ ช่วงเวลานั้นทำให้ท่านแม่ลำบากจริงๆ โชคดีที่ตอนนี้ท่านได้ออกมาจากตำหนักเย็น วันข้างหน้าลูกจะปกป้องท่านแม่เอง จะไม่ยอมให้ท่านแม่ต้องมาลำบากและถูกห่มเหงเยี่ยงนี้”

คำพูดที่นางอยากได้ฟังไม่ใช่คำๆนี้ ถึงแม้ว่าองค์รัชทายาทจะไม่พูด นางก็จะไม่ยอมให้ตนเข้าไปอยู่ตำหนักเย็นเป็นครั้งที่สอง

แค่ว่าคนที่เคยทำร้ายนางตอนนั้น ไม่ควรปล่อยไว้สักคน

แค่กลัวมันสักวันหนึ่ง ถ้ายังไม่จัดการกับพวกนาง นางก็คงใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นสุข

“ลูกรัก ท่านแม่เชื่อเจ้า แค่ว่าคนร้ายมันโหดเหี้ยมเกินไป และมักจะทำอะไรอยู่เบื้องหลัง เจ้าก็อยู่ห่างไกลจากในวัง ถ้าหากพวกเขาแอบวางยาพิษ ท่านแม่ควรจะทำเช่นไร?

หรงฝินเป็นผู้ที่เจ้าเล่ห์ ท่านพ่อของเจ้าก็โปรดปรานนางเป็นอย่างมาก นี่ท่านแม่พึ่งออกมาจากตำหนักเย็น จิตใจยังอ่อนแอ กลัวว่าจะไม่มีจิตใจที่แข็งกระด้างพอที่จะไปปะทะกับนาง ยังไงก็ต้องหาวิธีอะไรบางอย่างถึงจะดี” เย่ฮองเฮากำลังวิเคราะห์แยกแยะอย่างละเอียด พอวัดน้ำหนักของเรื่องนี้ดูแล้ว ไม่ควรให้นางมีชีวิตอย่างสงบสุขอีกต่อไป

องค์รัชทายาทได้ยินแล้วรู้สึกมันสมเหตุสมผลมาก แค่ว่าเรื่องนี้มันยาก

สีหน้าของเย่ฮองเฮายิ้มซึ่งความมีเล่ห์สนัยออกมา หันไปมองหน้าต่างข้างๆนั้นได้ปิดหมดแล้ว หลังจากนั้นก็เอาของสิ่งหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้า ทำเหมือนเป็นขวดที่ล้ำค่าสำหรัยนางมาก

“ลูกรัก นี่เป็นยาพิษที่ไร้ซึ่งกลิ่นและรสชาติ แค่เจ้าสั่งคนไปแอบใส่ในสำลักของหรงฝิน ก็สามารถฆ่าคนได้อย่างไม่ต้องลงมือทำอะไร” เย่ฮองเฮาทำสีหน้าเยียกเย็นและโหดเหี้ยม และจับขวดที่อยู่ในมือไว้แน่นๆ

ลูกตาขององค์รัชทายาทปริลงเล็กน้อย และเขาได้ถอยหลังสองก้าว พูดขึ้นอย่างหวาดกลัว “ท่านแม่ ถึงจะเป็นยาพิษธรรมดา แต่ท่านได้มาจากที่ไหน?”

เย่ฮองเฮาหยุดชะงักไป นางไม่ได้พูดถึงที่มาของยาพิษนี้ คนทำได้ตายจากไปแล้ว พอนึกถึงก็รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ วันนี้นางไม่มีสิทธิ์จะพูดถึงมันอีกต่อไป

แค่ว่าน่ำตาคอ ร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วย “นี่เป็นช่วงก่อนตอนที่ข้าอยู่ตำหนักเย็น ข้าสั่งคำไปหามา ถ้าไม่ได้ออกจากตำหนักเย็น คนที่จะได้ใช้ก็คือข้า”

องค์รัชทายาทสะดุ้งขึ้นเบาๆ นึกไม่ถึงช่วงเวลาที่อยู่ตำหนักเย็น กลับสะเทือนนางได้มากเยี่ยงนี้ ยังเคยมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายด้วยยาพิษ

“ถ้าวันนี้ โรคแทรกซ้อนที่มียังไม่ถูกกำจัด วันนี้ท่านแม่ก็คงอยู่อย่างไม่สงบสุข เจ้าก็คงไม่อยากเห็นท่านแม่อยู่อย่างกระวนกระวายตลอดเวลา และคอยป้องกันตนเองตลอดใช่หรือไม่” เย่ฮองเฮามีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก องค์รัชทายาทฟังแล้วรู้สึกทรมานจริงๆ

เขาได้จับมือของเย่ฮองเฮาไว้ และจับไว้อย่างแน่น สายตาของเขาดูเยียกเย็นมาก

กัดฟันตนเอง และสุดท้ายก็ตกลงไป “ท่านแม่วางใจเถอะ ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายท่าน”

พูดๆไป มือของเขาก็ได้รับขวดๆนั้นจากมือนาง และเขาก็จับมันไว้แน่นๆ

วันนี้ทั้งวันเวินอ๋องไม่โผล่หน้ามาเลย โล่หวินหลานรู้สึกอยู่อย่างอิสระและว่างมาก

แต่ในใจก็ยังคงกังวลหน่อย นางอุตส่าห์ตกแต่งห้องให้ดูรก อย่ามีใครอื่นใดไปจัดมันเลย

“องค์หญิงเจ้าคะ ท่านดู นี่เป็นชุดใหม่ที่พี่เย่หวินส่งมาให้เมื่อครู่ บอกว่าวันก่อนขึ้นปีใหม่ยุ่งมาก ท่านอ๋องมาหาท่านไม่ได้ รอให้ถึงปีใหม่ จะมาหาท่านอย่างแน่นอน” ไซ่เยว่เอาชุดนั้นวางบนโต๊ะอย่างดีอกดีใจ

โล่หวินหลานพยักหน้า แสดงว่านางเข้าใจ

คืนก่อนวันขึ้นปีใหม่ องค์ชายทุกท่านก็พาครอบครัวของตนเองเข้าวัง งานค่ำคืนนั้นอลังการมากๆ และก็เป็นงานที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่นานปีมีหนึ่งหน

ดังนั้น ทุกครั้งที่ถึงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นในวังหรือตำหนักองค์ชายต่างๆต่างก็ยุ่งกันมาก ต้องเตรียมของขวัญ และยังต้องหาเวลาว่างสำหรับปีใหม่โดยเฉพาะ

โล่หวินหลานเคยอยู่ในตำหนักหมิงอ๋อง ก็รู้เกี่ยวกับกฎระเบียบที่แสนวุ่นวายของปีใหม่

แต่ก่อนตอนปีใหม่ นางมักจะดูโม่ฉีหมิงที่ยุ่งและวุ่นวายไปทั้งวัน แต่นางกลับอยู่อย่างมีความสุข คืนก่อนขึ้นปีใหม่นางก็จุดดอกไม้ไฟไปสองดอก

แต่ว่าโล่หวินหลานกลับรู้สึกไม่ดีใจ และเชิดหน้าเบาๆแล้วเก็บนัยน์ตานั้นไว้

“มาอาบน้ำให้ข้าที” โล่หวินหลานลุกขึ้น และเดินไปยังด้านหลังฉากกั้น

ข้างในได้เตรียมน้ำร้อนไว้นานแล้ว ความร้อนระเหยมาเป็นควันที่ลอยไปลอยมาแล้วล้อมรอบทั่วห้อง ดูๆแล้วเหมือนจะมัวจนมองไม่เห็นอะไร

“พระชายาเจ้าค่ะ ข้าน้อยช่วยท่านถอดเสื้อเจ้าคะ” ไซ่เยว่ถอดเสื้อคลุมของนางออก แล้วแขวนไว้ที่ฉากกั้น และได้ปิดประตูและหน้าต่างไว้แน่นๆ

โล่หวินหลานได้ถอดเสื้อออก ทั้งเรือนร่างของนางค่อยๆจุ่มเข้าไปในน้ำร้อน และกำลังผ่อนคลายตัวเอง ตอนนี้นางรู้สึกสบายมาก

น้ำร้อนทำให้ทั่วร่างกายของนางอบอุ่นขึ้นมา และรูขุมขนได้ผ่อนคลาย บนน้ำร้อนลอยไปด้วยกลีบกุหลาบ กลิ่นหอมอ่อนๆลอยเข้าจมูกของนาง ทำให้นางอยากหลับใหล

·”องค์หญิงเจ้าค่ะ น้ำจะเริ่มเย็นแล้ว ท่านอย่าหลับนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะโดนความเย็น” ไซ่เยว่พูดขึ้นข้างหูของนาง

โล่หวินหลานพยักหน้า แต่ว่ายังไม่อยากขึ้นมา พอแช่ตัวอยู่ในน้ำร้อน เหมือนความเครียดทุกอย่างหายไป

ตอนที่เวินอ๋องกลับตำหนัก ฟ้าได้มืดลงแล้ว วันนี้เข้าวังมาทั้งวัน ข้างหูของเขายังมีเสียงของเย่เซียวหลัวดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเมื่อคืนเย่เซียวหลัวเล่าทุกอย่างให้เขา เขาก็คงไม่เข้าวังวันนี้ ขนาดนางตามมาอยู่ข้างๆเขา เขายังไม่รู้เรื่องเลย

“ท่านอ๋องเจ้าค่ะ เจ้าจะไปไหน?” เย่เซียวหลัวรีบเรียกเขา

พอทั้งสองเดินเข้าไปถึงสวน เวินอ๋องก็ไม่อยากแม้แต่จอมองหน้านาง และรีบแยกทางกับนาง

พอได้ยินเรียกตะโกนของเย่เซียวหลัว เวินอ๋องได้หยุดฝีเท้าลง แล้วตอบกลับอย่างไม่มองนาง “นอน”

เย๋เซียวหลัวกัดริมฝีปากตนเอง พึ่งจะกลับมาก็รีบไปหานางนั้น หรือว่าทุกครั้งที่อยู่กับนาง เขารู้สึกหนึ่งวันเหมือนนานหนึ่งปี?

“ท่านอ๋องเจ้าค่ะ ที่นี่นอนไม่ได้หรือเจ้าค่ะ? เจ้าถึงจะไปแต่ทางโน้น?” เย่เซียวหลัวใกล้จะเดินตามเขาทัน

·ทำเยี่ยงนี้ก็ไม่เป็นไร ขนาดมองตาด้วยสายตาตรงก็ไม่ได้เลยหรือไง?

“ข้าจะไปไหน ต้องรายงานเจ้าหรือไง?” เวินอ๋องทำเสียงต่ำและแฝงซึ่งความโกรธ จึงทำให้เย่เซียวหลัวถอยหลังไปหนึ่งก้าว

พูดจบ ตัวของเขาเองก็กำลังก้าวเดินไปยังทิศทางไปเรือนหวี่หยวน ไม่เจอกันหลายวัน เขาคิดถึงคนๆนั้นจริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แค่มีนางอยู่ข้างกาย เขาก็รู้สึกได้รับการปลอบใจ

ที่นี่ห่างจากเรือนหวี่หยวนไม่ไกลแล้ว ในหัวสมองของเขาสงบลง สิ่งแวดล้อมรอบข้างของเขาตอนนี้เหมือนได้สัมผัสถึงลมหายใจของนาง ทำให้ฝีเท้าของเขาก้าวเร็วมากยิ่งขึ้น

แค่ว่าตอนที่เขาผลักประตูเรือนหวี่หยวนออก เขาก็ได้หยุดชะงักไป

ความรู้สึกเยียกเย็นนั้นได้พุ่งเข้ามาในตัวเขา ทำให้เขาไม่มีสีหน้าที่เบิกบานอีกต่อไป

ของข้างในยังคงอยู่เหมือนเดิม เหมือนมีโจรได้เข้าไปปล้น ทำให้ห้องมีวุ่นวายและยุ่งเหยิงไปหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก