ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 355

ตอนที่ 355 ทุบหยกตัดความสัมพันธ์

ผ้าห่มที่อยู่บนเตียงมากองอยู่กับพื้น โต๊ะเก้าอี้ก็จัดวางไม่เป็นระเบียบ ขนาดกล่องกำไลมือที่เขาให้นางก็ถูกทุบเสียไปหมด กล่องแตกเป็นสองซาก

เวินอ๋องเม้มปากเป็นรูปทรงเส้นด้าย สายตาเย็นชาจนสามารถฆ่าคนได้ เส้นเอ็นตรงหน้าผากก็ได้โผล่จนเห็นชัด ดูๆแล้วก็รู้ว่าเหมือนคนที่กำลังอดทนเหลือทน

เขาค่อยๆเดินไปถึงข้างๆโต๊ะแป้ง ก้มตัวลงเก็บกล่องบนพื้น กำไรที่อยู่ข้างในก็ยังคงอยู่เยี่ยงนั้น จุดจบคือกำไรแตกหักเหมือนกล่องๆนั้น

มือใหญ่ๆของเขาค่อยๆเก็บกล่องและกำไรขึ้นมา และกำมันไว้แน่นๆ

“พระชายาล่ะ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เสียงกัดฟันพูดของเขาฟังดูเยียกเย็น สีหน้าไม่สบอารมณ์ใดๆ

บ่าวที่คอยติดตามเขาไม่กี่วันนี้ก็อยู่แต่ในตำหนัก ไม่ได้ติดตามเขาไปเมืองมู้เฉิง ตอนนี้เห็นเขาถามเยี่ยงนี้ ในใจของเขารู้ดี แต่ไม่รู้ว่าสมควรตอบกลับหรือไม่

“พูด” เวินอ๋องทำเสียงเยียกเย็น ความอดทนของเขาสุดขีดจำกัดแล้ว

บ่าวผู้นั้นสั่นไปทั้งตัว เลยรีบคุกเข่าลง “ท่านอ๋องขอรับ ตั้งแต่ที่ท่านออกจากตำหนัก พระชายาใช้ข้ออ้างที่ทำพลอยเขียวที่ท่านให้หายไป แล้วมาค้นเรือนหวี่หยวน สุดท้าย สุดท้ายหามันเจอในกล่องของพระชายารอง นางจึงถูกพระชายาไปขังที่ห้องกักขังขอรับ”

เวินอ๋องเหมือนจะเดาถูก เขายิ้มเยาะเบาๆ “นางช่างกล้ามัน ที่ถือโอกาสตอนที่ข้าไม่อยู่ ไปใส่ร้ายเหอซื่อ”

พูดไปก็เครียดจนทนไม่ได้ ไม่รู้ว่ารู้สึกหมั่นไส้หรือว่าโกรธ เขาจับเก้าอี้ที่อยู่จ้าวหน้าเขา ตอนนี้เขาเหมือนสิงโตที่กำลังโมโห

บ่าวคนนั้นรับใช้เขามานาน ไม่เคยเห็นเขาโมโหเพราะหญิงผู้ใดขนาดนี้มาก่อน

และเขาได้ทำตัวอย่างหวาดระแวง กำลังจะเอ่ยปากพูดบางอย่าง แต่เขาก็ได้วิ่งพุ่งออกไปอย่างโมโห

เขารีบวิ่งตามออกไป เห็นเวินอ๋องกำลังมุ่งหน้าไปยังฝูเซิงหย้วน ในใจรู้สึกไม่ดี

แต่ว่าเวินอ๋องเดินไปไม่กี่ก้าว แล้วหันมาคิดสักพัก แล้วเดินไปยังห้องกักขัง

อยากจะเจอเหอซื่อโดยเร็ว ไม่รู้ว่านางจะบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้หรือไม่ ตลอดทางไม่สนใจใครหรือเรื่องใดเลย สีหน้าดูแย่แล้วเดินเข้าไปในห้องกักขัง

เขาได้ผลักประตูที่ปิดไว้แน่นๆ ข้างในเงียบสงบไม่มีผู้ใดเลย เขาเดินวนรอบห้องแล้วเดินไปยังห้องอาบน้ำที่อยู่ข้างๆ มีแค่ควันที่ล้อมรอบห้องๆนั้นอยู่

เขาเลยรีบเดินรัดเข้าไปข้างใน เห็นแค่อ่างอาบน้ำที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบและเรือนร่างที่ดูคุ้นเคย คนๆนั้นได้หลับตาลง เหมือนคนกำลังนอนหลับ

แต่ว่าพอนางได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง หญิงสาวงดงามผู้นั้นได้ลืมตาขึ้น จากนั้น ลูกตายิ่งอยู่ยิ่งขยายขึ้น ทั้งตัวของนางจมเข้าไปใต้น้ำ

“ท่านอ๋อง” ไซ่เยว่เรียกขึ้นอย่างตกใจ นางรีบยืนขึ้นตรงข้างๆอ่างอย่างตกใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เวินอ๋อวได้เห็นสถานการณ์เยี่ยงนี้ แก้มของเขาเริ่มแดง และยืนอยู่ที่เดิมอย่างทำตัวไม่ถูก แล้วหยุดชะงักไป

“ท่านอ๋อง พระชายารองกำลังอาบน้ำอยู่ ขอเชิญท่านออกไปก่อนเจ้าคะ” ไซ่เยว่หันไปมองโล่หวินหลานที่กำลังจมอยู่ใต้น้ำ และผลักเวินอ๋องออกไปโดยไม่สนใจว่าตนเป็นใคร

“อ่อ อ่อ……” เวินอ๋องตอบกลับสองคำ แล้วพยักหน้า และไม่ได้สนใจว่าไซ่เยว่ผลักตนหรือไม่ เขาก็ถอยออกไปตามแรงมือของนาง

หน้าอันขาวซี้ดของเขา ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ เขาตบหน้าตนเองเบาๆ แล้วเดินไปอยู่นอกฉากกั้น

ในสมองของเขาคิดแต่ภาพที่ได้เห็นเมื่อครู่ ผิวอันผ่องใสของนางโผล่มาอยู่ในสายตาของเขา ไหล่อันสวยงามของทำให้คนดูทนไม่ไหวอยากจะเข้าไปโอบ เหมือนน้ำตกที่มีน้ำไหลลงออกมาอย่างอ่อนโยน ทำให้น่าดึงดูดมากๆ

นางเป็นพระชายาของตน เป็นผู้หญิงของเขา ถึงแม้มันจะผิด และเขาตั้งใจไปมอง แล้วมันจะเป็นเยี่ยงไร?

ทำไมเขาต้องรีบออกมาเยี่ยงนี้? เหมือนเรื่องเมื่อครู่เขาได้สูญเสียโอกาสดีๆไป เขากับพระชายาของตนอยู่ด้วยกัน มันผิดหรือเยี่ยงไร?

พอคิดๆดูแล้ว ฝีเท้าของเขากลับก้าวไปอยู่ตรงฉากกั้นอย่างไม่รู้ตัว แค่ว่าโล่หวินหลานที่อยู่ข้างหน้าได้สวมเสื้อแล้วออกมาเรียบร้อย

“ท่านอ๋องเจ้าค่ะ ท่านมาอย่างเร่งรีบเยี่ยงนี้ มิทราบว่ามีธุระอะไรหรือไม่เจ้าคะ?” โล่หวินหลานสวมเสื้อคลุมหนาๆไว้ หน้าที่ไม่ได้แต่งช่างดูขาวสะอาดจริงๆ

เวินอ๋องค่อยๆปรับอารมณ์ตัวเองกลับมา และมองนางอย่างนิ่งสงบ “ข้ารู้เรื่องแล้ว ข้าเองที่เป็นคนมองข้ามเจ้าไป ทำให้เจ้าถูกกระทำมากเยี่ยงนี้ กลับไปกับข้าเถอะ”

โล่หวินหลานนั่งลงตรงเก้าอี้อย่างไม่เร่งไม่รีบ และค่อยๆมองเวินอ๋อง “เจ้าเชื่อข้าว่าไม่ได้ขโมยพลอยเขียวของพระชายานั้นหรือ?”

เขาเชื่ออยู่แล้ว แค่ใช้สมองลองคิดดู เขาก็รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“ไม่ใช่ข้าเชื่อหรือไม่เชื่อ แค่ว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเกิดขึ้น” เวินอ๋องใคร่ครวญถึง

“พลอยเขียวคือข้าให้นางเอง มันถูกล็อกไว้ที่ห้องเก็บของตลอด ไม่มีใครไปขโมยมันได้ นอกจากนางเองที่เอาออกมา” สีหน้าของเขาดูแย่

เย่เซียวหลัวชนะเอง แต่ว่า ที่นางนึกไม่ถึงคือ การแข่งขันครั้งนี้ยังไม่ได้เริ่ม นางก็แพ้ไปแล้ว

“ถ้าพูดเยี่ยงนี้ นางตั้งแต่จะใส่ร้ายข้า ดูๆแล้วในสายตาของพระชายา ข้าเป็นเศษหินในตาของนาง เรื่องพลอยเขียวครั้งนี้ มีแค่นางที่สร้างเรื่องใส่ร้ายข้า” โล่หวินหลานส่ายหัว แล้วยิ้มแห้งๆเบาๆ

เวินอ๋องรู้ลึกๆในใจ แต่ว่า ถ้าครั้งนี้เขาสู่ขอคนอื่นอีก คิดว่าเรื่องมันก็จะเป็นเยี่ยงนี้อีก

ไม่ใช่เย่เซียวหลัวต้องการให้นางกลัว แต่นางจะให้พระชายารองของเวินอ๋องกลัวกันทุกคน

“เรื่องนี้ ข้าจะให้ความยุติธรรมกับเจ้า ไหนๆนางกล้าทำเยี่ยงนี้กับเจ้า ก็คือรับผิดชอบผลที่จะตามมา” สายตาของเวินอ๋องเยียกเย็นขึ้นเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

ทีแรกเขานึกว่าโล่หวินหลานจะดีใจ ควรจะพยักหน้าเห็นด้วย ใครจะไปรู้ว่านางกลับส่ายหัว

“ท่านอ๋องเจ้าค่ะ พระชายาจะทำกับข้าคนเดียว ถ้ามี่ครั้วนี้ นั้นก็ต้องมีครั้งต่อไป ท่านจะลงโทษนางเพราะเรื่องนี้ นางต้องหาว่าข้าฟ้องท่านอย่างแน่นอน ในใจของนางก็จะยิ่งเกลียดข้า” โล่หวินหลานปฏิเสธถึง

เหมือนนางเดาใจเย่เซียวหลัวออก นี่ขนาดต่อไปนางจะทำอะไรก็เดาได้อย่างชัดเจน

ถึงจะพูดเยี่ยงนี้ แต่ว่าเวินอ๋องก็รู้สึกไม่มีความสุข เขาอยากปกป้องนาง แต่ว่านางพูดก็มีเหตุผล ครั้งต่อไป…….

ถ้าเขาไม่อยู่เคียงข้างนาง นางจะปกป้องตนเองได้เยี่ยงไร?

นิสัยของเย่เซียวหลัว เขารู้ดีที่สุด ถ้าครั้งนี้เขาลงโทษนางเพราะเหอซื่อ นางคงไม่ยอมแน่นอน

ในราชสำนักเขาจัดการทุกอย่างได้ดี แต่สำหรับเผชิญกับเรื่องตำหนักของตน เขากลับไม่มีปัญญา

“เย่เซียวหลัว…….เย่เซียวหลัว เจ้าเก่งจริงๆเลยนะ” เวินอ๋องลุกขึ้น แตะเก้าอี้ตรงหน้าของตนจนพังเป็นซากๆ

“ท่านอ๋องเจ้าค่ะ เรื่องนี้ก็ปล่อยให้มันเป็นเยี่ยงนี้เถอะเจ้าคะ อยู่ที่ห้องกักขัง ก็ไม่ต่างจากอยู่เรือนหวี่หยวน ถ้าทำเยี่ยงนี้ทำให้นางสงบสุข และทำให้ตำหนักนี้สงบสุข ก็ไม่เป็นไรเจ้าคะ”

ความใจดีของนางทำให้เวินอ๋องรู้สึกละอายใจ เขาชอบเหอซื่อ ไม่ได้ชอบเย่เซียวหลัว แต่กลับไม่มีปัญญาแสดงความรู้สึกของตนเอง แค่เพราะว่าตระกูลเย่

“ข้ารู้ เจ้าไม่ได้รู้สึกว่ามันต่าง สำหรับนาง สำหรับข้า มันมีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเยี่ยงไร ห้องกักขังอาศัยอยู่ไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวข้าจะหาที่อื่นให้เจ้าอยู่” เวินอ๋องไม่ได้หันหน้ากลับไป แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ

พูดจบ เขาไม่มีความกล้าที่จะหันกลับไปมอง ยกฝีเท้าของตนแล้วเดินออกไป

แต่ว่าตอนที่หันกลับไป มีร่างอันผอมเล็กพุ่งเข้าไปข้างหน้าเขา คนๆนั้นยกส้นเท้าขึ้น และค่อยๆผูกโบว์ให้กับเสื้อคลุมของเขา

“ข้างนอกลมแรง ต้องระวังตัวหน่อย” โล่หวินหลานผูกโบว์ให้เขาอย่างตั้งใจ สุดท้ายก็อมยิ้มใส่เขา

รอยยิ้มของนางกลับทำให้เขาเกือบไม่มีสติ ทำให้เขารู้สึกเข้าใจผิด นึกว่าตนเองได้เจอ…..อีกครั้ง

แต่ครั้งนี้เขากลับส่ายหัว

ทั้งๆที่ไม่ใช่คนเดียวกัน ใบหน้านั้นก็ไม่เหมือนกัน ทำไมเขาถึงเอามาคิดปนกันได้?

แต่ว่า ความรู้สึกนี้มันเหมือนจริงๆ

ตาขวาของเย่เซียหลัวกระตุกไม่หยุด นางนั่งอยู่หน้ากระจก แกะเครื่องประดับบนหัวออก และกดตาขวาของตนเองไว้อย่างโมโห

“พระชายาเจ้าค่ะ ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ?” ดองกวิ๋นเห็นว่าเอ่ยปากถามขึ้น

เปลือกตากระตุกอยู่ตลอดเวลา เย่เซียวหลัวรู้สึกโมโหจนปล่อยมือออกแล้วพูดขึ้น “เปลือกตาขวาเต้นไม่หยุด ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นหรือไม่”

ดงกวิ๋นพูดขึ้น “พระชายาเจ้าค่ะ ท่านคือพระชายาตำหนักเวินอ๋อง จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับท่านได้เยี่ยงไร…….”

พึ่งพูดจบ เสียงถีบประตูก็ได้ดังขึ้น เวินอ๋องใช้ขาถีบประตูให้เปิด ร่างอันสูงใหญ่ของเขากระทบในนัยน์ตาของเย่เซียวหลัว

ไปถึงเรือนหวี่หยวนไม่เห็นคนอยู่ ตอนนี้รีบเดินมาฝูเซิงหย้วน ไม่ต้องคิดก็รุ้ว่าเขามาทำอะไรกันแน่

เย่เซียวหลัวพิงอยู่บนเก้าอี้อย่างขี้เกียจ กำลังรอเขามาอยู่

“เจ้า เอากำไรทั้งหมดในห้องออกมาวางไว้” เวินอ๋องชี้ดองกวิ๋นอย่างโมโห แล้วพูดด้วยเสียงเยียกเย็น

ดงกวิ๋นยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ คนๆนั้นก็นั่งลงแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ และดูแย่มาก

นางมองไปที่เย่เซียวหลัว กำลังถามความคิดเห็นของนาง ควรทำตามคำพูดของเวินอ๋ฮงหรือไม่

เย่เซียวหลับกระตุกคิ้วขึ้นแล้วบอก “ไปสิ”

กล่องกำไลมือในห้องก็มีไม่น้อยเลย อ๋องเวินมองไปคร่าวๆ ในกำไรที่ปะปนไปหลายสี สุดท้ายเขาได้เลือกพลอยเขียวออกมา และค่อยๆจับไว้ในมือ

มืออันเรียวยาวจับพลอยเขียวมาดูไปดูมาต่อหน้า มุมปากของเขากระตุกขี้นแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “เพราะว่าของชิ้นนี้ เจ้าว่ามันถูกหรือว่าผิด?”

ยังไงก็เพื่อจะเรียกความยุติธรรมสำหรับเหอซื่อกลับมา มันก็แค่พลอยเขียวเท่านั้น ก็แค่ขังนางไว้ที่ห้องกักขัง และก็ยังรับใช้ดูแลนางให้กินอยู่ดี ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ?

แค่จะให้บทเรียนนางเท่านั้น ให้นางรู้ ความแตกต่างระหว่างพระชายากับพระยาชารอง

“นี่เป็นพลอยที่ท่านให้ข้าตอนแต่งงาน สำหรับข้าแล้ว มันมีความหมายสำคัญมากๆ

เวินอ๋องไม่สนใจความหมายสำคัญที่นางพูด สายตามองไปที่พลอยเขียวนั้น และใช้สายตาอันเยียกเย็นมองเย่เซียวหลัว

“ถ้ามันมีความหมายสำคัญเจ้านัก ทำไมเจ้าต้องทิ้งๆขว้างๆ อีกอย่างอยู่ในตำหนักเวินอ๋อง ใครจะกล้าเข้าไปเรือนของเขาขโมยของ? และนางจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าพลอยเส้นนี้มันสำคัญหรือไม่?”

เวินอ๋องถามคำถามติดตามกันอย่างไม่พักหายใจ ทำให้เย่เซียวหลัวไม่รู้จะตอบเยี่ยงไร

ทำไม? ไม่กล้าตอบหรือ? มีความชั่วในใจ?

เย่เซียวหลัวขยับริมฝีปากขึ้น “น่าขบขนมาก นางบริสุทธิ์เยี่ยงนี้ ทำไมไม่มาพูดด้วยตนเองล่ะ? ท่านมาช่วยนางขอความยุติธรรมนี้ทำไม?

“นางบอกว่า นางไม่อยากมาเรียกร้องอะไร” เวินอ๋องทำสายตาเย็นชาและน่ากลัวขึ้นไปอีก มือจับพลอยเขียวนั้นไว้ “ถ้าไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”

พึ่งพูดจบ ก็ตามมีความเสียงของแตก พอเย่เซียวหลัวเงยหน้าขึ้น พลอยเขียวนั่นถูกทิ้งขว้างลงบนพื้น และแตกหักเป็นซากๆ

สิ่งที่แตกไปควบคู่กับพลอยเขียวนั่นคือความสัมพันธ์คู่สามีภรรยา และความรักของนางที่มีต่อเขา

เย่เซียวหลัวหยุดชะงักไป ตาของนางเริ่มแดงเหมือนกำลังจะร้องไห้ ร่างของเขาค่อยๆเดินออกจากที่นั้น ตอนนี้นางรู้สึกพูดอะไรไม่ออก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก