ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 357

ตอนที่ 357 แผนการชั่วการกระทำสำเร็จ

พิษชนิดนี้ ไม่ได้เป็นพิษทั่วไป ดูจากอาการของหลัวอ๋องแล้ว เขากินลงไปเยอะพอสมควร ถึงทำให้อวัยวะต่างๆมีเลือดหลั่งออกมาไม่หยุด

“ท่าน…..พ่อ…..” หลัวอ๋องค่อยๆลืมตาขึ้นมองฮ่องเต้

ดวงตาที่แดงมีเลือดไหลริมออกมา และปะปนมากับน้ำตาของเขา

“ลูกเอ๋ย ลูกเอ๋ย เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง? อย่ากลัวเลย ท่านพ่ออยู่นี่ มีพ่ออยู่เคียงข้างเจ้า เจ้าต้องไม่เป็นอะไร” ฮ่องเต้เจียเฉิงจับมือเขาไว้แน่นๆ น้ำเสียงฟังดูสั่น

“ลูก ลูก จะไปก่อนแล้ว….. ถ้าหาก ถ้าหากชาติหน้ามีจริง ลูก จะ จะยังเป็น……”

พูดยังไม่ทันจบ เขาก็ได้หลับมาลง และไม่พูดอะไรอีกเลย

มือของเขาค่อยๆปล่อยออกจากมือของฮ่องเต้อย่างหมดแรง และวางลงพื้นที่มีความหนาวเย็น

เลือดสดๆของเขาได้แปะเปื้อนบนใบหน้าอันผ่องขาวของเขา ในวังเหมือนไม่มีเสียงอะไรใดๆเกิดขึ้น ในหูขอ

ฮ่องเต้เจียเฉิงได้ยินแต่คำพูดสุดท้ายที่เขาบอก

น้ำตาไหลริมลงมาบนหน้าอันเหี่ยวหย่นของเขา เหมือนจะให้เขาดูแก่เฒ่ากว่าเดิม

เย่ฮองเฮากระตุกมุมปากขึ้นและยิ้มเยาะเบาๆ ตามมาด้วยท่าทีที่ค่อยๆเดินไปข้างหลังของฮ่องเต้ ไม่มีใครสังเกตถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นบาน

หรือว่าไม่ทันช่วยเขาแล้ว โล่หวินหลานถอนหายใจเบาๆ ทั้งเรือนร่างของนางลงไปกองอยู่กับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ขนาดหายใจยังหายใจยาก

รู้ทั้งรู้ว่าผลเป็นเยี่ยงไร นางกลับช่วยเขาไว้ไม่ได้ มีชีวิตหนึ่งได้จากไปต่อหน้าต่อตานาง นางรู้บาป บาปที่แสนจะหนักหนาสาหัส

“ลูกพ่อ” ฮ่องเต้เรียกขึ้นอย่างเจ็บปวดใจ

มือใหญ่ๆได้พยุงร่างของโล่หวินหลานขึ้นมา เวินอ๋องดึงนางไปอยู่ข้างหลังตนเอง ขับไล่ทุกคนออกจากนาง แล้วนำสองมือของเขาจับใบหน้าของนางไว้

“เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่? ทำไมไม่พูดไม่จา?” เวินอ๋องจับจ้องสีหน้าของนางไว้ จดจ่อจนเหมือนหน้าของนางใกล้จะเป็นรูขึ้นมา

เมื่อครู่ ที่นางรักษาหลัวอ๋อง ท่าทางของนางเหมือนโล่หวินหลานมาก ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าของนาง เขาคงจะเข้าใจผิดไปแล้ว

“ข้าไม่เป็นไร ข้าอยากอยู่คนเดียวเงียบๆไปสักพัก” โล่หวินหลานทำสายตาเหม่อลอยแล้วเดินไปตรงประตูทางออก

ข้างในเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ ค่ำคืนแห่งวันก่อนขึ้นปีใหม่กลับกลายเป็นงานศพ ในวันขึ้นปีใหม่ต่อๆไป คงไม่มีใครลืมเรื่อง

นางเดินอย่างคนร้องไห้ไม่มีน้ำตา เพราะว่าลมหิมะที่พัดผ่านตัวของนาง ทำให้รู้สึกหนาวและโดดเดี่ยว ยิ่งทำให้นางนึกถึงโชคชะตาที่บางครั้งมิอาจรับได้และความโหดเหี้ยมของใจคน

ทันใดนั้น ก็มีมือใหญ่ๆอันหนึ่งกุมมือนางไว้ และดึงตัวนางเข้าไปอยู่ต่อหน้าเขา มือใหญ่ๆของเขาทำให้ศีรษะของนางไปพิงไว้ตรงกลางอกของตนเอง แล้วโอบกอดร่างของนางไว้อย่างแน่นๆ

“จะอยู่หรือจะตายฟ้าได้กำหนดไว้แล้ว เจ้าไม่ต้องโทษตัวเอง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเจ้าเลย เจ้าทำดีที่สุดแล้ว” โม่ฉีหมิงเห็นนางเป็นแบบนี้ก็รู้ว่านางคิดอะไรอยู่

นึกไม่ถึงว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ในค่ำคืนก่อนขึ้นปีใหม่ ใครก็นึกไม่ถึงว่าต้องป้องกันความอันตรายเยี่ยงนี้

ไม่ว่าเขาจะเป็นเยี่ยงนี้ ไม่มีใครนึกถึงว่าจะมีการลงมือในค่ำคืนก่อนขึ้นปีหใหม่ และทำให้หลัวอ๋องตายต่อหน้าต่อตาฮ่องเต้เจียเฉิง

เพื่อจำกัดหลัวอ๋อง พวกเขาไม่สนเลยว่าฮ่องเต้จะเป็นเยี่ยงไร

โล่หวินหลานโอบกอดร่างของเขาไว้แน่นๆ และหายใจเข้าลึกๆ “ข้าช่วยเขาไว้ไม่ได้ ข้าช่วยเขาไว้ไม่ได้……”

โม่ฉีหมิงค่อยๆตบหลังของนางเบาๆ และปลอบใจด้วยเสียงเบา “หวินหลาน เจ้าทำดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรอีก เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด”

เขาดูแลความรู้สึกของนาง และกำจัดความรู้สึกผิดและโทษตนเองของนาง ถึงแม้มันจะผิด แต่ในสายตาของเขานางถูกเสมอ

โล่หวินหลานแนบชิดอยู่ในอ้อมกอดเขา เรื่องมากมายนางไม่อยากเก็บไปคิด แต่ว่าในหัวสมองของนางก็มีแต่ภาพของหลัวอ๋องและความเจ็บปวดของฮ่องเต้ลอยขึ้นมาทุกที

·”เจ้าว่า นี่เป็นค่ำคืนก่อนวันขึ้นปีใหม่ที่แย่ที่สุดของพวกข้าใช่หรือไม่?” โล่หวินหลานถามขึ้นอย่างเสียงต่ำ

คางของโม่ฉีหมิงวางอยู่บนเส้นผมของนาง เครื่องประดับที่เป็นโลหะเย็นได้สัมผัสกับคางของเขา ทำให้เขารู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา

“เชื่อข้า ข้าจะไม่ให้คนร้ายพวกนั้นลอยนวล ผ่านวันนี้ไป พวกข้าต้องแก้แค้นศัตรู” โม่ฉีหมิงทำสายตาเยียกเย็นขึ้น มือใหญ่ได้กำเป็นหมัด

กำแพงวังได้กั้นเสียงที่เกิดขึ้นในวัง โล่หวินหลานยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา เหมือนได้ผ่านชั่วชีวิตนี้ไปแล้ว

โล่หวินหลานรู้สึกเหนื่อย ไม่ได้พูดอะไร ในใจของนางมักเชื่อใจโม่ฉีหมิงยิ่งกว่าเชื่อใจตนเอง สำหรับคำพูดทุกคำของเขา นางเชื่อจนสลดใจ

ทั้งสองเดินผ่านม่านของศาลา ภาพของทั้งสองคนกอดกันได้มีดวงตาคู่หนึ่งที่อยู่ไกลมองเห็น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ว่าพอหันหน้าไปปุ๊บก็กลายเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

รอยยิ้มแห้งๆของนางได้ปรากฎขึ้นตรงมุมปาก นึกไม่ถึงเลยนำไม่ถึงเลย เหอซื่อกำลังแอบคบกับโม่ฉีหมิงอยู่ เจ้าก็รู้ คนๆนั้นนี่แหละที่เป็นศัตรูของเวินอ๋อง

ถ้าให้เวินอ๋องรู้เรื่องนี้ คิดว่าเจ้าคงไม่ได้มีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้

“พระชายาเจ้าค่ะ ท่านมาอยู่ที่นี่ได้เยี่ยงไร? ข้างนอกลมแรง ท่านเข้าไปข้างในเถอะเจ้าคะ” ดงกวิ๋นทำน้ำเสียงกังวล

นางได้จับจ้องเย่เซียวหลัวไว้ในสายตาตลอดเวลา จะไม่ได้นางคาดสายตาไปไหน แต่ว่าเมื่อครู่ได้เกิดเรื่องวุ่นวาย ผ่านไปสักครู่ นางก็หายตัวไปแล้ว

เดินตามหานางมาตั้งนาน ถึงจะหาเจอมานางอยู่นี่

เย่เซียวหลัวสะพัดเสื้อคลุมของตน แล้วถอนหายใจเบาๆ “ข้างในอึดอัดเกินไป ออกมาสูดอากาศข้างนอกหน่อย”

“พระชายาเจ้าค่ะ ท่านเข้ามาข้างในเถอะเจ้าคะ ข้างในยังยุ่งวุ่นวายกันอยู่เจ้าคะ” ดงกวิ๋นทูลขึ้น

พึ่งเดินไปถึงข้างใน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ส่งมาข้างหู ฮ่องเต้นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆอย่างโกรธเคืองและลุกเป็นไฟ ทรงผมยุ่งเหยิง ดวงตาสองข้างแดงบวม ไม่เคยเห็นเขาเป็นสภาพเยี่ยงนี้ ในใจของเขารู้สึกนึกคิดอะไรไม่ออก

คนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ก็ร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างๆ ผู้เฒ่าคนนี้ไม่มีประโยชน์แล้วจริงๆ

“ไปเรียกหลี่เซิงมาให้ข้า รีบไป” ฮ่องเต้เจียเฉิงโบกมือเรียกบ่าว และก้มหน้าลงมองหลัวอ๋องที่อยู่บนพื้น ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีกที

“ทรงหลัวอ๋องกลับไปยังตำหนักหลัวอ๋อง ข้าต้องสืบให้เจอ คนที่ลงมือทำเรื่องนี้ข้าต้องมีชีวิตที่ทนทุกข์ทรมาน” นี่เป็นคำมั่นสัญญาที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตที่เขาเป็นราชา

บุตรที่รักของตนได้ตายจากไปต่อหน้าต่อตาเขา เขากลับไม่มีปัญญา ได้แค่มองเขาตายจากไปเยี่ยงนี้ เขาได้แค่จะหาฆาตกรให้เจอ แล้วให้มันต้องตายทั้งเป็น

องค์รัชทายาทสีหน้าซี้ดขาวแล้วถอยหลังไปสองก้าว สายตาของเขากวาดมองไปทุกคน จนเขาได้เห็นเย่ฮองเฮา ในใจก็รู้สึกสงบลงบ้ง

แค่เย่ฮองเฮาไม่เกิดเหตุสุดวิสัยก็พอ เขากลัวว่าเรื่องนี้เกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ จะทำให้เย่ฮองเฮาต้องลำบากตาม

เรื่องทุกอย่างเขาแบกรับมันไว้คนเดียวก็พอ แค่รู้ว่าเย่ฮองเฮามีชิวิตที่ดีก็พอ

ทันใดนั้น ไหล่ของเขากลับถูกมือใหญ่ๆที่มีพละกำลังเยอะๆกุมไว้แน่นๆ เขาหันไปมองอย่างตกใจ และทำสายตาเย็นชาใส่เวินอ๋อง

“องค์รัชทายาท เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมหน้าขาวซี้ดได้เยี่ยงนี้?” เวินอ๋องทำสายตาสงสัย แล้วจับจ้องเขาไว้

องค์รัชทายาทตั้งใจหลบสายตาคู่นั้นของเขา และหันไปมองหลัวอ๋อง น้ำเสียงฟังดูวสั่น

“เรื่องของน้องสิบเจ็ดต้องมีคนวางแผนฆ่าแน่นอน ไม่เช่นนั้น ณ ที่นี่ ไม่มีใครวางยาในเหล้าอย่างแน่นอน” องค์รัชทายาทพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง

ตาของเวินอ๋องเกรี้ยวกราดขึ้นมา เขาจ้องมององค์รัชทายาทอย่างไม่กระพริบตา “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไรว่าน้องสิบเจ็ดถูกวางยา และมีคนวางยาไว้ในเหล้า?”

เขาพูดผิดอย่างไม่รู้ตัว องค์รัชทายาททำสีหน้าที่ดูแย่มากขึ้น แต่ว่าเวินอ๋องต้องการขู่เขาให้ตอบ “เมื่อครู่องค์หญิงเหอซื่อพูดว่าโดยวางยา ไม่ใช่อยู่ในสำลักก็คงอยู่ในเหล้า ข้าแค่เดาไปงั้นๆ น้องหกไม่จำเป็นต้องถามขนาดนี้?”

เวินอ๋องจ้องเขาอย่างไม่เชื่อ รู้สึกว่าวันนี้เขาดูแปลกๆ

เขายังไม่ทันพูดอะไรใดๆ องค์รัชทายาทก็ใช้สายตาอันเกรี้ยวกราดมองเขาแล้ว นัยน์ตาดูแปลกและน่าสงสัย

·”ทำไมไม่เห็นองค์หญิงเหอซื่อ? หรือเพราะว่าเมื่อกี้ช่วยหลัวอ๋องไว้ไม่ทัน เลยรู้สึกเสียใจ วิ่งหนีกลับไปคนเดียว น้องหกไม่ไปดูหน่อยหรือ?”

พูดถึงเหอซื่อ เวินอ๋องไม่เจอนางจริงๆ เมื่อครู่หลัวอ๋องตายจากไป นางก็วิ่งพุ่งออกไปหายไปเลย

สีหน้าที่ดูคุ้นเคยและเย็นชาเยี่ยงนั้น เหมือนโล่หวินหลานมาก

ตอนนั้น นางก็เป็นเยี่ยงนี้ รักษาองค์รัชทายาทและโม่ฉีหมิงให้หาย

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาต้องถามให้ชัดเจน ต่อให้คล้ายคลึงกันแค่ไหน แต่คงไม่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเยี่ยงนี้

เขารู้อย่างชัดเจน องค์หญิงเหอซื่อไม่สามารถมีท่าทีคล่องแคล่วเยี่ยงนี้ไปช่วยหลัวอ๋อง

“องค์รัชทายาทเป็นห่วงตนเองดีกว่าเถอะ” เวินอ๋องทำทีท่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา พูดสวนกลับเขาหน่อย หันหลังเดินออกไปตามหาโล่หวินหลาน

องค์รัชทายาททำสายตาเยียกเย็นแล้วมองเขาเดินจากไป มือของเขากำเป็นหมัดแน่นๆ

ในราชวังค่อยๆสงบลง ศพของหลัวอ๋องถูกนำกลับไป พวกบ่าวก็กำลังเช็ดเลือดที่พื้น และกำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้ที่สังสรรค์ในงานเลี้ยงที่ยังไม่จบ

ไม่มีใครอยู่ที่นั่นอีกต่อไป ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ

เย่เซียวหลัวก้าวฝีเท้าให้เร็วขึ้น สีหน้าของนางดูเคร่งเครียดมาก

นางจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้เวินอ๋องฟัง ให้เขารู้ความจริง เหอซื่อนางผู้หญิงหลายใจต้องถูกลงโทษให้หนักๆ

“ท่านอ๋อง……” เย่เซียวหลัวไปจับแขนเสื้อขงเวินอ๋องไว้ทันที กำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ๆก็มีเสียงใสๆได้ตะโกนเสียงดังขึ้น

“ท่านอ๋อง ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้? หลัวอ๋องได้ไปมีเรื่องกับใครหรือไม่?” โล่หวินหลานเร็วกว่าเย่เซียวหลัวเพีนงก้าวเดียว และเดินเข้ามากุมมือของเวินอ๋องไว้

โล่หวินหลานมาถึง ทำให้อารมณ์ของเย่เซียวหลัวไม่ดี นางได้แค่กัดฟันแน่นๆแล้วจ้องมองโล่หวินหลาน อยากจะพูดอะไรอีก ทั้งสองก็ได้เดินออกจากราชวังหลักแล้ว

“เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายเยี่ยงนั้น ยังไงก็มีคนกล้าวางยาองค์ชายเยี่ยงนี้ เขาต้องมีความกล้าเป็นอย่างมาก แค่ว่า ปกติน้องสิบเจ็ดก็เป็นคนดี ไม่เคยไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนอยากจัดการเขา?” เวินอ๋องก็รู้สึกนึกไม่ถึงด้วยเช่นกัน

โล่หวินหลานกระตุกคิ้วแล้วซ้ำถึง “หรือว่าหลัวอ๋องเคยไปทำเรื่องอะไรที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน?”

“เขาสามารถทำอะไรไปให้ใครเดือดร้อนได้?” เวินอ๋องถามขึ้นอย่างขบขัน

น้องชายของตนแท้ๆ เขาน่าจะรู้ดีที่สุด อายุก็ไม่เยอะ ถามเป็นคนชาญฉลาด ไม่อยากยุ่งเรื่องของราชสำนัก และไม่เคยไปหลอกใช้องค์ชายท่านอื่น เป็นคนมีสัจธรรม ความยุติธรรมเป็นหนึ่ง

“แต่ว่ากลับโดนคนในวังทำร้าย อีกอย่างได้เป็นวิธีวางยาพิษ ใครกันแน่ที่กล้าวางแผนเยี่ยงนี้?”

เวินอ๋องได้หยุดฝีเท้าลงทันที ค่อยๆหันกลับมามองโล่หวินหลาน ในใจรู้สึกตกใจไม่ใช่เพราะคำพูดของนาง แต่ตกใจที่นางกล้าพูดออกมาได้เยี่ยงไร

ความรู้ของหญิงผู้หนึ่งกลับเดาได้ถึงขั้นนี้ ถึงแม้ในใจของเขารู้สึกอยู่ลึกๆว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาท แต่ก็ไม่กล้าคาดเดาเยี่ยงนี้แบบจริงๆจังๆ

แต่ว่านางกลับกล้าพูดเยี่ยงนี้ออกมาโดยไม่คิด มันทำให้เขารู้สึกแปลกใจ

เวินอ๋องกระตุกมุมขึ้น และทำสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจมองโล่หวินหลานอยู่

ผ่านไปสักพัก เขาจึงเอ่ยปากพูดขึ้น “ดูๆแล้วองค์หญิงเหอซื่อคงเข้าใจการแย่งชิงบัลลังค์ในวังในบ้านแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก