ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 36

ตอนที่ 36 เหน็บแนม

ต้วนกุ้ยเฟยปลอบฮ่องเต้ไปด้วย แล้วก็พูดกับคนที่มาแจ้งว่า “บังอาจ รัชทายาทอยู่ดีดี จะตายไปได้ยังไง เจ้ารู้ไหมโทษหลอกลวงเบื้องสูงมันเป็นยังไง?”

ขันทีที่เข้ามารายงานมีความตื่นตระหนก “หม่อมฉันมิกล้า เมื่อครู่องครักษ์ของจวนหมิงอ๋องมาแจ้งว่า องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ต้วนกุ้ยเฟยถึงแม้จะท่าทางเสียใจ แต่ในสายตาของนางมันเป็นสายตาแห่งรอยยิ้ม ทำยังไงก็ปิดไม่มิด

จวนเวินอ๋อง ตัวอักษรคำว่า “เหวิ่น” อยู่บนกระดาษ โม่ฉีหานไม่ได้วางพู่กันลง แต่เหมือนกำลังใช้ความคิด “แน่ใจนะว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง?”

สวินเทียนพยักหน้า “ตอนที่ข้าน้อยกลับมาจากวังหลวง รัชทายาทก็ถูกพิษแล้ว ภายในเรือนมีร่องรอยของการต่อสู้ เยนเยว่น่าจะทำการสำเร็จแล้ว ตอนนี้รัชทายาทตาย พระชายาหมิงอ๋องถูกกุมขังอยู่ในคุกของจวน ตอนนี้ไม่รู้ว่าหมิงอ๋องเป็นยังไงบ้าง”

โม่ฉีหานวางพู่กันลง แล้วค่อยๆเดินมา

เสวินเทียนเห็นเขาไม่พูดอะไร ก็เลยถามกลับไปว่า “นายท่าน เราควรจะทำยังไงต่อไปดี?”

“เจ้าพี่ตายแล้ว ข้าควรจะไปเซ่นไหว้เขาสักหน่อย”

สวินเทียนนคิดแล้วพูดว่า “นายท่าน แล้วเยนเยว่ล่ะ?”

“เจ้าไปหานาง บอกนางว่าอย่าเพิ่งทำอะไร แล้วก็อย่าติดต่อกับทางพระสนมเอกด้วย อย่าให้ต้องมีปัญหาอื่นแทรกขึ้นมาเด็ดขาด”

“ข้าน้อยทราบแล้ว”

หลังจากสวินเทียนไปแล้ว โม่ฉีหานก็เดินออกจากห้องหนังสือ

บนโต๊ะเขียนหนังสือตัวอักษรคำว่า “ติ่ง” น้ำหมึกยังไม่แห้งเลย เวินอ๋องผู้อ่อนโยนที่ไม่ได้มีจิตใจคิดแย่งชิงใดๆในโลก กลับยึดติดกับคำว่าติ่งมากขนาดนี้

ภายในตำหนักฮองเฮา ตอนนี้ก็วุ่นวายไปหมด นางกำนัลกับขันทีต่างคุกเข่าลงอยู่ที่พื้น หลังจากฮองเฮาได้ยินข่าวก็เป็นลมล้มพับไป นางรับไม่ได้ว่าจู่ๆนางก็จะเสียลูกชายคนเดียวของนางไปแบบนี้ เดิมทีนางยังคิดถึงภาพของลูกชายที่หายดีกลับมาแข็งแรงอยู่เลย

ใครจะไปคิดว่าจู่ๆเขาก็มาจากไปแบบนี้ นางกำหมัดไว้แน่น สีหน้าอันซีดเซียวที่เปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวัง นางรู้สึกเสียใจ ที่คิดผิดเชื่อใจโล่หวินหลาน

“ซิวเอ๋อ เจ้ารอก่อนนะ แม่จะแก้แค้นให้เจ้าเอง แม่จะจับโล่หวินหลานมาฉีกเป็นชิ้นๆ”

ฮ่องเต้ ฮองเฮา และต้วนกุ้ยเฟยเดินทางไปยังจวนรัชทายาท โม่ฉีสิงเห็นใบหน้าที่ทรุดโทรมของเย่ฟังเสว่ ในใจของเขาก็รู้สึกทรมานใจ เขาไม่เคยรักผู้หญิงคนนี้มาก่อนเลย ระหว่างพวกเขาก็มีลูกชายที่เพิ่งเสียไปเพียงคนเดียวคนนี้เท่านั้น

ถึงแม้เขาจะไม่ได้รักนาง แต่ก็อดเห็นนางเจ็บปวดไม่ได้ ยังมีซิวเอ๋ออีก เขาเป็นถึงรัชทายาท แต่ร่างกายอ่อนแอมีโรคมากมาย เขาคาดหวังในตัวเขาจริงๆน่ะหรอ? เขาผิดต่อนาง ผิดต่อลูกชายของพวกเขา

เย่ฟังเสว่มองไปที่โม่ฉีสิง นางเหมือนรู้สึกถึงความทุกข์ใจของเขา แต่ว่าเขาทุกข์ทรมานใจแล้วมันได้ประโยชน์อะไร? คนที่ทำให้ลูกชายของนางต้องตาย เป็นชายาของลูกชายของหญิงที่เขารักมากที่สุด โล่หวินหลานต้องตาย ส่วนหมิงอ๋อง ก็จะต้องถูกฝังไปพร้อมกับซิวเอ๋อด้วย

ตอนนี้เย่ฟังเสว่เกือบใกล้กับคำว่าบ้าแล้ว นางมองไปที่ “ศพ” ของรัชทายาทเหมือนคนที่เป็นบ้า นางพุ่งเข้าไปกอดศพของรัชทายาท แล้วร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง

ต้วนกุ้ยเฟยหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาแล้วปลอบว่า “ท่านพี่ทำใจเถอะนะ หากวิญญาณองค์ชายรับรู้ได้ เขาคงไม่อยากเห็นท่านต้องเสียใจแบบนี้หรอก”

โม่ฉีสิงเห็นโม่ฉีซิวที่นอนแน่นิ่งไม่ขยับอยู่บนเตียง น้ำตาก็ไหลลงมา นั่นคือลูกชายของเขา แต่ว่าเขาไม่เคยสนใจเขาเลย ไม่เคยห่วงเขา เมื่อเขานึกได้ว่าโม่ฉีซิวต้องป่วยหนักทุกอย่างเป็นเพราะการห้ำหั่นกันในวังหลัง ตอนนี้ยังต้องมาตายอีก

เขารู้สึกเสียใจมาก นั่นคือลูกชายของเขา แต่ว่าตอนนี้เขาต้องตายไปเพราะกรรมที่เขาก่อไว้ ครู่เดียวเท่านั้น โม่ฉีสิงก็เหมือนแก่ลงไปอีกสิบปี ......

รัชทายาทตายไป ฮ่องเต้ ฮองเฮาเสียใจหนักมาก ต้วนกุ้ยเฟยมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของสนมคนอื่น ทุกคนต่างเศร้าเสียใจต่อการจากไปของรัชทายาท โม่ฉีหานมาถึงได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เข้าพอดี

เขาเห็นทุกคนกำลังร้องไห้ คิดว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็นเขา หากเทียบกับรัชทายาทที่ตายไป ตอนนี้เขาอยากเจอใครอีกคนมากกว่า

องครักษ์หน้าประตูเมื่อเห็นเวินอ๋องมา ก็รีบทำความเคารพ เขายกมือห้ามเอาไว้

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง เดิมที่เขาคิดจะเดินตรงเข้าไปในตำหนักเลย แต่เขากลับถอยหลังกลับไป แล้วเดินไปอีกฟากหนึ่ง คนๆนั้น เขาจะไปเจอ ......

เย่หวินยังคงอยู่ในใบหน้าของสาวใช้ที่ตายไปแล้วคนนั้น นางถูกกักบริเวณในห้องทางกราบซ้ายในตำหนักรัชทายาท หน้าประตูมีทหารเฝ้าอยู่เต็มไปหมด

นอกหน้าต่างฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฉินหยิ่นมองไปที่เทียน แล้วพูดกับเย่หวินว่า “เขามาแล้ว ข้าไปเชิญพระชายามาที่นี่ก่อน ระวังตัวให้ดีนะ” จากนั้นเขาก็หายตัวไป

ตอนที่สวินเทียนเดินเข้ามา ไม่มีแม้แต่ลมพัด แต่ว่าเย่หวินสัมผัสได้ว่าในอากาศมีลมหายใจของคนๆหนึ่ง สวินเทียนมองเย่หวินอยู่ที่ริมหน้าต่าง “เยนเยว่ ท่านอ๋องสั่งให้ข้ามา ......”

เขาพูดยังไม่ทันจบ ก็เห็นเยนเยว่เดินมา จากนั้นก็ซัดผงอะไรก็ไม่รู้ ทำให้ตาของเขามัวไปหมด ท่ามกลางความมึนงง เขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นว่า “ที่แท้นางก็ชื่อเยนเยว่”

เย่หวินลากสวินเทียนที่สลบไปที่เตียง แล้วจ้องไปที่เขา “แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ข้าไม่ใช่นาง”

ฉินหยิ่นกลั้นขำกับการปลอมตัวเป็นแม่นมส่งอาหารของโล่หวินหลาน หากไม่กลัวพระชายากริ้วแล้ว เกรงว่าเขาคงขำออกมาอย่างไม่เกรงใจ เขาก็เลยกลั้นขำเอาไว้ข้างใน

ไม่เพียงเห็นโล่หวินหลานผมขาวทั้งหัว ที่ปากยังมีไฝเม็ดใหญ่ เป็นแม่นมที่ดูแก่เอามาก หากไม่ใช่ว่ากลัวคนอื่นจำความงามของนางได้ นางก็คงไม่เติมปานสีแดงๆบนหน้า จนดูน่ากลัวขนาดนี้ ต่อให้พ่อของนางคืนชีพกลับมา กลัวว่าก็น่าจะจำนางไม่ได้แน่นอน

ฉินหยิ่นสั่งให้องครักษ์เปิดประตู เย่หวินเห็นแม่นมคนนี้เดินเข้ามาตกใจหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม นางมองไปที่ฉินหยิ่นอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร

โล่หวินหลานเห็นเย่หวินอึ้งไป ก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเย่หวินจำนางไม่ได้ ก็เลยพูดว่า “เย่หวิน ยืนอึ้งทำไม ไปเอาน้ำมาทำให้เขาตื่นสิ”

ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้? โล่หวินหลานเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน นางเป็นคนในศตวรรษที่ 21 นะ ผ่านการสอบคัดเลือกมาตั้งหลายด่านจนได้เป็นหมอ จู่ๆก็มาโผล่ในสมัยโบราณ จะสะกดจิตคน ยังต้องมาปลอมตัวเป็นแม่นมแก่ๆจนไม่เหลือความสวยอีก เพียงเพราะหลังจากสะกดจิตไปแล้ว ยังต้องกลับเข้าคุกไปอีก

แต่พอนางคิดถึงโม่ฉีหมิงขึ้นมา ในใจของนางก็รู้สึกเจ็บปวด หากทำเพื่อเขาได้ ทุกอย่างก็ถือว่าคุ้มค่า

ฉินหยิ่นกับเย่หวินมองโล่หวินหลานอย่างอึ้ง ไม่รู้ว่านางกำลังคิดจะทำอะไร รู้แค่ว่าสิ่งที่พระชายากับท่านอ๋องคิดไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องคาดเดา แต่พวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องทำตามเท่านั้น

เย่หวินสาดน้ำใส่สวินเทียน เมื่อสวินเทียนฟื้นขึ้นมา ก็รู้สึกมึนหัว ตรงหน้าของเขามีใบหน้าอัปลักษณ์คนหนึ่งโผล่ขึ้นมา วินาทีนั้นเขาคิดแต่ว่าอยากจะหนีไปให้ไกลจากใบหน้าอัปลักษณ์แบบนี้ แต่ว่าเขายังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เห็นของเล็กๆชิ้นหนึ่งแกว่งไปแกว่งมาตรงหน้าเขา

“ข้าคือสวินเทียน”

“ข้าเป็นคนของเวินอ๋อง”

“เวินอ๋องสั่งให้ข้าทำแบบนี้”

เมื่อโม่ฉีหานมาถึงที่คุก ก็เห็นโล่หวินหลานนั่งอยู่เงียบๆตรงนั้น ผมของนางยุ่งเหยิง แต่เสื้อผ้ายังถือว่าเรียบร้อยอยู่ สีหน้าของนางไม่ได้มีอารมณ์อะไรมากมาย นางแค่นั่งอย่างนั้นอยู่เฉยๆ เหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ......

โม่ฉีหานเห็นสภาพนางแบบนี้ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เขาไม่อยากเห็นนางเป็นแบบนี้ นางไม่ควรเป็นแบบนี้ ในใจเขาคิดแบบนั้น แต่ว่าปากก็ยังคงเหน็บแนมนางอยู่เหมือนเดิม

เวินอ๋องยิ้มร้าย “เป็นอะไรไป? พระชายาหมิงอ๋องที่ชาญฉลาดมีแผนการมากมายทำไมถึงได้ตกอยู่ในสภาพนี้ได้ล่ะ?”

“ท่านเวินอ๋องดูอารมณ์ดีจังเลยนะ เจ้าพี่ของท่านเพิ่งจะตายไป ท่านไม่ไปไว้ทุกข์ แต่กลับมาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยข้า” โล่หวินหลานพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี

“เรื่องนี้ไม่รีบ แล้วหมิงอ๋องของเจ้าล่ะ? ทำไมไม่เห็นเขามาเยี่ยมเจ้าบ้าง?” เวินอ๋องถาม เขาจะต้องทำให้นางเจ็บปวดให้ได้ ถึงแม้ตัวเขาเองก็จะเจ็บปวดเช่นกัน

“มันเรื่องของข้า ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า” โล่หวินหลานตอบอย่างไม่ใยดี

“หวินหลาน จริงๆตอนนี้มีคำพูดหนึ่งมันเหมาะกับเจ้าแล้วก็หมิงอ๋องมากเลย อยากจะฟังไหม?”

“............” โล่หวินหลานแค่ฟัง แต่ไม่ตอบเขา

“เจ้าคิดว่าเจ้าไม่ถามข้าจะไม่พูดหรอ? ผัวเมียก็เหมือนนกที่อยู่ในป่า ตอนเจอเรื่องลำบากก็ต่างคนต่างบินหนี เป็นยังไง เหมาะมากเลยใช่ไหม”

พูดจบ เขาก็นั่งลงจ้องไปที่โล่หวินหลาน “ได้ยินมาว่าที่เจ้ามาอยู่ในคุกนี่ หมิงอ๋องก็เป็นคนจับเข้าส่งเข้ามาใช่ไหม เห้อ เจ้าบอกข้าสิ ความจริงแล้วหมิงอ๋องเป็นคนฆ่ารัชทายาท แล้วโยนความผิดให้เจ้าใช่ไหม”

โล่หวินหลานหัวเราะแล้วพูดว่า “เวินอ๋องท่านนี่จินตนาการภาพได้มากขนาดนี้เลยหรอ รัชทายาทถูกใครคิดร้ายจนตาย ข้าว่าคนๆนั้นเขาก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ ส่วนเรื่องของข้ากับหมิงอ๋อง ใครอนุญาตให้เจ้ามายุ่งหรอ”

โม่ฉีหานได้ยินโล่หวินหลานบอกว่าเรื่องของนางกับหมิงอ๋อง สีหน้าของเขาก็นิ่งไป ถูกต้อง พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ต่อให้เขาส่งนางเข้าคุกมาจริง เขาเองก็เป็นแค่คนนอก

โล่หวินหลานเห็นเขาไม่พูดต่อ ก็พูดว่า “ในจวนของท่านอ๋อง มีองครักษ์คนหนึ่งที่ชื่อว่าสวินเทียนใช่ไหม?”

“ทำไม จู่ๆพระชายาถึงได้นึกเป็นห่วงองครักษ์ในจวนของข้าขึ้นมาได้ล่ะ?”

โล่หวินหลานหัวเราะแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องให้เขาไปทำอะไรหรือเปล่า เขากลับมารายงานผลหรือยัง?”

โม่ฉีหานมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก “เจ้าหัวเราะอะไร?”

“เหอะ ข้ากำลังหัวเราะคนที่กำลังจะตายอยู่แล้ว กลับยังมีอารมณ์ไปเยาะเย้ยคนอื่นได้อีก ท่านอ๋อง ท่านว่ามันน่าขำไหมล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก