ตอนที่ 37 สถานการณ์พลิก
โม่ฉีหานมองไปที่โล่หวินหลาน ในใจก็คิดตามคำพูดของนาง เท่าที่เข้ารู้จักนาง นางไม่มีทางพูดอะไรโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ จะต้องมีเรื่องอะไรที่นางไม่รู้อีกแน่นอน เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ กลัวแต่เรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้มากกว่า
หากมันเป็นผลของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ...... เขาคิดในใจว่า เดิมที่เรื่องที่หมิงอ๋องจับนางส่งเข้าคุกก็ทำให้เขาแปลกใจมากพออยู่แล้ว โล่หวินหลานยังมาพูดแบบนี้อีก
“หึ ใกล้จะตายงั้นหรอ?” โม่ฉีหานรู้สึกสงสัยอยู่ลึกๆ ใบหน้าของเขาเหมือนจะโมโหนิดหน่อย เขาลุกขึ้นยืนมองโล่หวินหลาน สายตามีอาการเหน็บแนมเล็กน้อย จากนั้นก็เอียงหูไปทางโล่หวินหลาน แล้วเหลือบไปมองนาง “พระชายา ข้าไม่ค่อยเข้าใจที่เจ้าพูดเลย? ที่นี่ในคุกนะ ตอนนี้พระชายาตัวเจ้าอยู่ในคุกตัวข้าอยู่นอกคุก ใครกันแน่จะใกล้จะตายอยู่แล้ว?”
โล่หวินหลานจ้องไปที่สายตาของเขากลับไป นางจ้องไปที่เขาไม่หลบสายตาเลย “ท่านอ๋องเชี่ยวชาญเรื่องโบราณ เคยได้ยินคำพูดหนึ่งไหมว่า?”
โม่ฉีหานไม่ได้คิดจะตอบคำถามของนาง มันแสดงว่าให้นางพูดต่อไป
โล่หวินหลานพูดต่อไปว่า “สามสิบปีเห๋อตง สามสิบปีเห๋อซี ท่านอ๋องจะลองพนันกับข้าดูไหมล่ะ ว่าใครกันแน่ที่ใกล้จะตายแล้ว?”
โม่ฉีหมิงถูกนางจ้องจนใจไม่ดี “พระชายาไม่รู้สึกหรอว่าสามสิบปีมันนานเกินไป?”
โล่หวินหลานยังคงนั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม สายตาของนางยังคงจ้องไปที่ใบหน้าของเวินอ๋องอยู่ คนๆนี้เป็นคนที่มองไม่ออก นางคิดอยากจะฉีกใบหน้าที่แท้จริงของเขาออก ฉีกทุกคำโกหกของเขา บนตัวของเขามีกำแพงหลายชั้นเกินไป
โม่ฉีหานถูกนางจ้องจนขนลุกไปหมด แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ ปกติเขาเป็นเวินอ๋องที่ “ไม่ยุ่งกับเรื่องการแย่งชิง” แต่ในตอนนี้เขากลับแสดงท่าทีแข็งกร้าว
โล่หวินหลานจู่ๆก็ยิ้ม จากนั้นก็หันหน้ากลับมาโดยไม่มองเขาอีก “ท่านอ๋องท่านนี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหม? เยาะเย้ยก็ทำแล้วเหน็บแนมก็ทำแล้ว ข้าได้รับ ‘ความหวังดี’ ของท่านแล้ว แล้วทำไมท่านยังไม่ไปอีกล่ะ?”
โม่ฉีหานมองไปที่โล่หวินหลาน สายตาของสับสนมาก เขาเป็นถึงอ๋อง อยู่เหนือคนนับหมื่นนับแสน นางอยู่ในคุก แต่กลับพูดจาไล่เขา คิดว่าในโลกใบนี้คงมีคนแบบนางไม่กี่คนเท่านั้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกขำตัวเอง
ไม่ว่าจะหน้าตา ความรู้ ความสามารถ มีตรงไหนบ้างที่เขาสู้โม่ฉีหมิงไม่ได้
ทำไมนางถึงได้รักโม่ฉีหมิงขนาดนั้น แล้วทำไมเขาถึงไม่สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว เขาอยากจะเอ่ยปากถามนางออกไป แต่ว่าเขารู้ดีว่าคำพูดแบบนี้ เขาไม่สามารถพูดกับนางได้
เขาอ้าปากแล้วก็หุบปากอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เขายังมีเรื่องสำคัญต้องไปทำอีก ......
โม่ฉีหานเดิมที่ตั้งใจจะมาเหน็บแนมนาง แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว เหมือนเขาจะทำตามเป้าหมายไม่สำเร็จ โม่ฉีหานจากไป รัชทายาทตายแล้ว ก็ถือซะว่าแกล้งเคารพเขาในฐานะพี่ชายสักครั้ง เขาจะไม่โผล่หน้าไปเลยไม่ได้
โล่หวินหลานได้ยินเสียงฝีเท้าของโม่ฉีหานไกลออกไป นางก็ยิ้ม “จะนั่งรอรับผลประโยชน์เฉยๆ ก็ต้องดูว่าเจ้ามีบุญแบบนั้นไหม” จากนั้นนางก็ลุกขึ้นยืน แล้วมองออกไปที่ท้องฟ้า จากนั้นก็นับนิ้ว “คิดว่าคนๆนั้นก็น่าจะตื่นแล้วนะ”
ภายในตำหนักรัชทายาท ฮองเฮาหยุดร้องไห้แล้ว ตอนนี้ในใจของนางมีเพียงความคิดเดียว ก็คือจัดการฉีกเนื้อของคนที่ฆ่าลูกชายของนางออกมาเป็นพันๆชิ้น
นางมองไปที่ฮ่องเต้ที่อยู่ข้างๆ ในสายตาของนาง โม่ฉีสิงก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ลูกชายของนางต้องตาย เหมือนเขาจะสัมผัสถึงสายตาของนาง โม่ฉีสิงเองก็มองไปที่นาง แต่ว่าสายตาของเขาไม่เหมือนของนาง สายตาของเขามันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งโทษตัวเอง ทั้งสงสาร ทั้งทุกข์ทรมานใจ ใช่ เขาทุกข์ใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในฐานะฮ่องเต้ของแผ่นดิน มันมีหลายเรื่องที่ตัวเขาไม่สามารถทำได้
พวกเขามองหน้ากัน ไม่มีใครยอมเอ่ยปากขึ้นมาก่อน ผ่านไปพักใหญ่ ฮองเฮาก็พูดขึ้นมาว่า
“ฝ่าบาทเพคะ ซิวเอ๋อจากไปแล้ว ตอนนี้คนที่ฆ่าซิวเอ๋อ ยังอยู่ในคุก ฝ่าบาทคิดจะจัดการนางยังไงเพคะ?”
โม่ฉิสิงคิดแล้วพูดว่า “ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต อีกทั้งคนที่นางทำร้ายคือรัชทายาท เป็นมกุฎราชกุมาร โทษหนักมากขึ้นไปอีก”
ฮองเฮายิ้ม สายตาที่นางมองโม่ฉีสิงมันมีความโกรธแค้นอยู่ คนที่อยู่ตรงหน้านางตอนนี้ไม่เคยรักนางเลย ตอนนี้ลูกชายคนเดียวของนางมาตายไป เขายังคิดจะปกป้องลูกชายของนังแพศยาที่ฆ่าลูกชายของเขาด้วย นางเกลียด ทำไมนางตายไปนานขนาดนี้แล้ว เขายังคิดถึงแต่นางอีก “ฝ่าบาทคิดจะทรงลงอาญาแค่โล่หวินหลานหรือเพคะ หรือว่าฝ่าบาททรงอยากจะปกป้องใคร?”
โม่ฉีสิงรู้สึกจนปัญญา ทำไมลูกชายของเขา สนมของเขาต้องเข่นฆ่ากันด้วย ซิวเอ๋อตายไป ตอนนี้ฮองเฮายังจ้องไปที่หมิงเอ๋ออีกคน
หมิงเอ๋อ เป็นลูกชายของเขากับฉือซู่ เขาไม่มีปัญญาปกป้องฉือซู่ ทำให้หมิงเอ๋อต้องสูญเสียใบหน้า ชาตินี้ทั้งชาติเขาไม่มีกลับมายืนได้อีก แล้วในตอนนี้เขาก็ยังจะไม่สามารถปกป้องหมิงเอ๋อได้อีกงั้นหรอ?
พอฮ่องเต้คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นก็ได้ยินเสียง “เสด็จ ...... เสด็จแม่?”
เย่ฟังเสว่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะเห็นโม่ฉีซิวฟื้นขึ้นมา เขาไม่ต่อล้อต่อเถียงกับโม่ฉีสิงอีก นางมองหน้าลูกชายที่ฟื้นขึ้นมา จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาโม่ฉีซิว นางรู้สึกทรมานใจมาก แล้วพูดว่า “ซิวเอ๋อเจ้ายังไม่ตาย ซิวเอ๋อเจ้ายังไม่ตาย”
โม่ฉีซิวเห็นแม่ของตัวเองสติหลุด เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาต้องปลอบแม่ของเขายังไงดี เขาจำได้ว่าตอนที่โล่หวินหลานฉีดยาให้เขา มีนางกำนัลคนหนึ่งยื่นผ้ามาให้เขา ตอนที่เขากัดมันก็รู้สึกว่ามันแปลก แต่เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอ ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็น่าจะถูกพิษไปแล้ว
โม่ฉีซิวไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ที่เขาเห็น ทำไมในจวนรัชทายาทของเขามีคนมากมายขนาดนี้ อีกทั้งเขายังเห็นคนมากมายร้องไห้ไม่หยุด นี่มันอะไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก