ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 363

ตอนที่ 363 ความเจ็บปวดของการเสียโฉม

คำพูดของโล่หวินหลานนั้นราวกับเวทมนต์ ที่ทำให้เย่เซียวหลัวคิดถึงเรื่องในอดีต ตอนนี้ในสมองของนางเต็มไปด้วยภาพที่มีเลือดอาบแก้ม ที่มักจะเข้ามาทวงคืนชีวิตในยามที่นางนอนหลับ

"ไม่ต้องพูดแล้ว!ท่านอ๋องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว พวกเจ้าผิดที่มาปรากฎตัวข้างกายเขา ข้าต้องฆ่าพวกเจ้าให้หมด ฆ่าให้หมด!” เย่เซียวหลัวจับที่มีดแน่น แล้วเดินเข้ามาใกล้โล่หวินหลาน

นางมองดูมีดที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ โล่หวินหลานอดไม่ได้ที่จะถอยหนี แต่นางไม่สามารถที่จะเสียโอกาสนี้ไป เพราะถ้าพลาดไปแล้วนางก็จะไม่มีโอกาสอีก

"ท่านเคยฆ่าคนมาก่อน แล้วท่านอ๋องจะยังรักท่านได้อย่างไร? หากท่านอ๋องทราบเรื่องนี้เข้า คงจะส่งท่านไปขังในคุกของวังหลวง และประหารชีวิตเจ้าเพื่อล้างแค้นให้หญิงผู้นั้น!” โล่หวินหลานพูดพลางจับที่หน้าอกของตนเอง นางมองมีดในมือของเย่เซียวหลัวโดยไม่ละสายตา

"ฮ่าๆ หากเวินอ๋องรู้ เขาคงไม่เก็บข้าเอาไว้ที่นี่หรอก? ถ้าเรื่องนี้สามารถสืบทราบได้ เหตุใดนี่ก็หนึ่งปีกว่าแล้วหมิงอ๋องไม่หาโอกาสมาชำระแค้นเล่า? เรื่องที่ตอนนั้นไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน"

เย่เซียวหลัวยิ้ม จากนั้นก็ก้มหน้าลง น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ต่อให้ตอนนี้ข้าฆ่าเจ้า ก็จะไม่มีใครรู้ เจ้าอย่าคาดหวังว่าท่านอ๋องจะชำระแค้นให้เจ้าเลย?"

หมิงอ๋อง? เมื่อครู่นางพูดถึงหมิงอ๋อง?

โล่หวินหลานกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วแสร้งทำเป็นกลัว “หมิงอ๋อง? เจ้าหมายถึงพระชายาหมิงอ๋องที่สิ้นพระชนม์ไปหนึ่งปีกว่าคนนั้นหรือ? เจ้าฆ่าพระชายาหมิงอ๋อง? โล่หวินหลาน?"

เมื่อพูดชื่อของโล่หวินหลานออกมานั้น เย่เซียวหลัวก็กรีดร้องทันที จากนั้นก็มองนิ่งมาที่นาง

"ใช่!ไม่ผิดหรอก!โล่หวินหลาน ข้าเป็นขนฆ่านางเอง!การฆ่านาง คือเรื่องที่ทำให้ข้ามีความสุขที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้การฆ่าเจ้าก็เช่นกัน มันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ข้ามีความสุข ดังนั้นเจ้ามาตายแต่โดยดีเถอะ" พูดจบ นางก็เพ่งมีดนั่นมายังตัวของโล่หวินหลาน

เมื่อเห็นว่านางพุ่งตัวเข้ามา จนเกือบจะโดนตัวเอง โล่หวินหลานจึงรีบหลบ จนตัวเองนั้นชนเข้ากับโต๊ะน้ำชาข้างๆ

กาน้ำชาและแก้วนั้นตกกระจายลงบนพื้น เสียงดัง "เพร้ง เพร้ง"

เวินอ๋องที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้น รีบเปิดเข้าไป

ด้านในดูวุ่นวายไปหมด เย่เซียวหลัวราวกับคนที่เสียสติ ดวงตาของนางแดงก่ำ และนางกำลังพุ่งมีดไปทางโล่หวินหลาน

โดยเฉพาะมีดเล็กนั้น ดวงตาแหลมคมของเวินอ๋องมองเห็นทัน ความโกรธที่เขาเก็บเอาไว้ถึงกับระเบิดออกมา

เขาเดินเข้าไปกระชากตัวเย่เซียวหลัวอย่างแรง

"เพร้ง" เย่เซียวหลัวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองล้มลงได้อย่างไร มีดในมือนางก็หลุดจากมือเช่นเดียวกัน

ตอนนี้นางปวดไปทั้งตัว ราวกับกระดูกในร่างกายกำลังร้าว นางหันกลับไปมองกลับพบเวินอ๋อง

เวินอ๋องสูดหายใจเข้า แล้วมองนิ่งมาที่นาง จากนั้นก็เอาเท้าเหยียบไปบนมือของนาง น้ำเสียงเย็นชานั้นราวกับไม่ใช่เขา

"เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอย่างไร? เจ้าฆ่า โล่หวินหลาน?"

เย่เซียวหลัวที่ล้มอยู่บนพื้นนั้นแสดงท่าทีหวาดกลัว จนเนื้อตัวสั่นเทาไปหมด นางมองมาที่เวินอ๋อง

นางส่ายหน้าอย่างร้อนรน “ไม่ ไม่ใช่ ไม่ใช่เพคะ......"

"การฆ่านาง คือเรื่องที่ทำให้เจ้ามีความสุขที่สุด?" เขาทวนคำพูดของนางพร้อมทั้งเพิ่มแรงในการเหยียบลงบนมือของนาง

โล่หวินหลานที่อยู่ด้านข้างนั้นมองดูเหตุการณ์อย่างนิ่งเฉย นางไม่รู้ว่าเวินอ๋องจะทำอย่างไรกับเย่เซียวหลัวบ้าง

เย่เซียวหลัวไม่เคยเห็นเวินอ๋องเป็นเช่นนี้มาก่อน ดวงตาของเขาแดงก่ำ สีหน้าของเขาดุร้าย เนื้อตัวสั่นเทา ราวกับแค่ยื่นมือออกมา ก็สามารถหักคอนางให้ตายได้แล้ว

"ไม่ ไม่ใช่....." เย่เซียวหลัวได้สติกลับมา ก็รีบส่ายหน้า

มืออีกข้างหนึ่งของนาง พยายามที่ยกเท้าของเวินอ๋องออกจากแขนที่โดนเหยียบ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรนางก็ไม่มีแรงพอที่จะยกเท้าของเขาได้

นางจ้องเขม็งไปที่โล่หวินหลาน ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่อีกทาง สายตาของโล่หวินหลานตอนนี้ช่างเย็นชา

นางนี่เอง นางเป็นคนวางกับดักนี้ไว้.......ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้น ล้วนเป็นแผนการของนาง!

"เจ้าช่างเป็นหญิงที่มีจิตใจโหดเหี้ยม เจ้าไม่ควรเป็นมนุษย์!ตอนนั้นเจ้าฆ่านางเช่นไร ตอนนี้ข้าจะทำกับเจ้าเช่นนั้น" เวินอ๋องพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาหยิบมีดที่ตกลงมา

"อ่า!” เสียงกรีดร้องดังสนั่น ทำลายความเงียบยามค่ำคืน

เลือด ไหลออกมาไม่หยุดจากใบหน้าของเย่เซียวหลัว โล่หวินหลานมองดูเวินอ๋องที่กรีดหน้าของนางต่อหน้าต่อตา จนเป็นร่องหลุมขนาดใหญ่

เขาเกลียดแค้นมากเพียงใดกัน จึงสามารถทำเช่นนี้ได้?เขาทำลายสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของหญิงสาว

การเสียโฉมนั้น ราวกับการตายทั้งเป็น ชีวิตนี้คงไม่กล้าออกไปพบผู้คน

สิ่งที่เขาเหลือทิ้งไว้ให้นางนั้น เต็มไปด้วยความร้ายกาจ

แต่อย่างไรก็ตาม โล่หวินหลานมองดูสองมือของตนเอง ความสามารถในการรักษาของนางนั้น สามารถรักษาใบหน้าที่เสียโฉมของเย่เซียวหลัวได้

เพียงแต่ นางไม่ต้องการ และไม่คิดที่จะทำ

"ข้าไม่มีวันฆ่าเจ้าหรอก มันง่ายไปสำหรับเจ้า ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ ด้วยใบหน้าที่อัปลักษณ์นี่ ให้เจ้าถูกคนทั้งเมืองดูถุกเหยียบหยาม และไม่มีวันได้เฉิดฉายอีกต่อไป" เวินอ๋องทิ้งมีดลง

เย่เซียวหลัวจับที่ใบหน้าของตนเอง นางร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็ร้องตะโกนอย่างสุดเสียง “ฆ่าข้าเถอะ!ฆ่าข้า!หากท่านเป็นคนฆ่า!ฆ่าก็ยอมตายในมือท่าน……”

นางยอมที่จะถูกเขาฆ่าให้ตาย ดีกว่าได้ยินคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเช่นนั้นจากปากเขา นางไม่กลัวตาย นางกลัวเพียงจะไม่ได้เจอเวินอ๋องอีกก็เท่านั้น

ตอนนี้ใบหน้าของนางไม่สามารถพบเจอผู้คนได้แล้ว แม้ว่านางจะเดินไปที่ตลาด ก็ไม่มีใครจดจำนางได้อีก ไม่มีใครรู้ว่านางเป็นพระชายาเวินอ๋องผู้สง่างาม

"ข้าจะเขียนหนังสือปลดเจ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะไม่ใช่พระชายาเวินอ๋องอีกต่อไป พรุ่งนี้เจ้าย้ายออกจากตำหนักเวินอ๋องเสีย ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก" เวินอ๋องพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับหิมะ

ตอนที่เขายืนอยู่หน้าประตูแล้วได้ยินคำพูดของเย่เซียวหลัวนั้น เขาก็มีคำตอบในใจแล้ว

และเขา ก็แค่ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ซึ่งก็คือการแก้แค้นให้โล่หวินหลาน

วันนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถนำหน้าโม่ฉีหมิงได้หนึ่งก้าวใหญ่แล้ว อย่างน้อยการกระทำของเขาก็เป็นการกระทำเพื่อโล่หวินหลาน

และนี่ก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาสามารถทำให้นางได้

"ปึ้ง" เวินอ๋องปิดประตูเสียงดัง พายุหิมะพัดแรงเข้ากับใบหน้าของเย่เซียวหลัว

นางคิดว่าตนเองจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับได้ตลอดชีวิต แต่วันนี้ความจริงกลับถูกเปิดเผย โดยออกมาจากปากของนาง

นางช่างโง่เขลานัก ที่ถูกคำพูดของเหอซื่อล่อลวงเข้าไป นางค่อยๆหลงเข้าไปในกับดักที่เหอซื่อวางเอาไว้

นางค่อยๆลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปตรงหน้าของโล่หวินหลาน พูดด้วยเสียงแหบพร่า “เจ้าเป็นใคร? เจ้าเป็นใครกันแน่? มาที่นี่เพื่ออะไร?"

โล่หวินหลานหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อของตนเอง มีกลิ่นหอมอ่อนๆติดมากด้วย จากนั้นก็ซับเลือดบนใบหน้าของเย่เซียวหลัว

จากนั้น นางก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นว่า “เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร ข้ามาสารภาพผิด"

ผ้าเช็ดหน้าตกลงบนพื้น เต็มไปด้วยคราบเลือดสด

แสงสว่างในห้องค่อยๆมืดลง เข้าสู่ค่ำคืนที่เหน็บหนาว นางรู้สึกหนักอึ้งราวกับก้อนหินขนาดใหญ่กำลังกดทับที่หน้าอก จนยากที่จะหายใจ

ความเจ็บปวดบนใบหน้านั้น ไม่อาจเทียบเท่าความเจ็บปวดในใจได้

"ปึ้ง" ขาอ่อนจนล้มลงกับพื้น

ไซ่เยว่เดินตามโล่หวินหลาน หลังจากที่เห็นสายตาของโล่หวินหลานแล้วนั้น นางก็รีบไปเชิญเวินอ๋องที่ห้องหนังสือ

นางเพียงเข้าไปบอกกับท่านอ๋องว่าเย่เซียวหลัวบุกเข้ามายังเรือนวี่หยวน ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จากนั้นท่านอ๋องก็วางงานทุกอย่างลง แล้วรีบวิ่งที่เรือนวี่หยวน

นางคาดการณ์เวลาเอาไว้ ตอนที่เวินอ๋องไปถึงหน้าเรือนวี่หยวนนั้น ก็ได้ยินเข้ากับเสียงของเย่เซียวหลัวพอดี จากนั้นเวินอ๋องก็หยุดเดิน ไม่ได้เข้าไป

ทั้งสองคนด้านในนั้นพูดถึงช่วงสำคัญพอดี ไซ่เยว่เหลือบมองเห็นตัวของเวินอ๋องนั้นสั่นเท่า

ไม่รู้ว่าเพราะความโกรธ หรือเพราะความตกใจกันแน่

"องค์หญิงเพคะ เวินอ๋องทำเกินไปหรือเปล่าเพคะ" ไซ่เยว่บอก แล้วเอามือทาบอก "หากเวินอ๋องรู้เข้าว่าองค์หญิงเป็นใคร เขาจะ....."

เวินอ๋องเกลียดการถูกหลอกลวงที่สุด โดยเฉพาะการถูกหลอกลวงจากที่ใกล้ชิด

ทั้งที่เรื่องก็ผ่านไปปีกว่าแล้ว แต่ตอนที่เขารู้ความจริงนั้นยังโมโหจนถึงขั้นกรีดหน้าของเย่เซียวหลัว ดูแล้วเขาน่าจะเป็นคนแค้นฝังใจ

ทั้งๆที่เย่เซียวหลัวก็อยู่กับเขามาปีกว่าแล้วเช่นกัน ต่อให้ไม่มีความรักอย่างน้อยก็ต้องมีความผูกพันกันบ้าง แต่เขายังลงมือกับนางได้ลง

โล่หวินหลานเองก็รู้สึกวาบหวิวที่ใจ ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของตนเองตอนนี้อย่างไรดี

"ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนของเรา จะถอยตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ตอนนี้เขาไม่รู้ อนาคตข้างหน้าต้องมีสักวันหนึ่งที่รู้" แล้วจะกังวลไปทำไมเล่า?

"เย่เซียวหลัวต้องกลับไปที่ตระกูลเย่แน่ๆเลยเพคะ คนตระกูลเย่คงไม่ปล่อยองค์หญิงไว้แน่แล้วท่านจะทำอย่างไร?" ไซ่เยว่ไม่อยากคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น

โล่หวินหลานเคาะที่หัวของนางเบาๆ “เจ้าอย่าคิดมากเลย สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้ คือทำตามแผนขั้นต่อไป"

ทั้งสองเดินเข้าไปยังห้อง โล่หวินหลานปิดหน้าต่างและประตูเอาไว้ ด้านในไม่มีแม้แต่ทางลมผ่าน เงียบจนผิดสังเกต

"ตอนนี้ฟ้ายังมืดอยู่ เจ้ารีบนำเรื่องนี้ไปบอกกับโม่ฉีหมิงเถอะ อย่าให้เย่เซียวหลัวได้กลับไปที่ตำหนักตระกูลเย่เด็ดขาด" โล่หวินหลานกระซิบบอกกับไซ่เยว่

ณ ตำหนักหมิงอ๋อง ด้านในห้องหนังสือนั้นมีแสงไฟอ่อนๆ ส่วนมากนั้นโม่ฉีหมิงมักจะอยู่ที่นี่ หากไม่อยู่ที่นี่ก็เป็นเพียงเวลาที่เขาไปฝึกวรยุทธ์ก็เท่านั้น

"กัดเอาไว้ อาจจะเจ็บเล็กน้อย" เสียงทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งดังขึ้น

สวิ่นโม่พันผ้าไว้ที่มือ แล้วให้โม่ฉีหมิงกัดเอาไว้

ในมือของเขาเต็มไปด้วยยาที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งล้วนมีราคาแพง แต่เขาก็ใส่ยาพวกนั้นลงบนแผ่นหลังของโม่ฉีหมิงอย่างไม่เสียดาย แผ่นหลังของเขานั้นเต็มไปด้วยแผลจากการโดนฝัน หากไม่รีบทายาลงไปนั้น ก็คงไม่อาจห้ามเลือดเอาไว้ได้

โม่ฉีหมิงไม่แม้แต่จะร้อง มีเพียงเหงื่อที่ไหลลงมาไม่หยุดก็เท่านั้น

สวินโม่รีบทายาลงบนแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ใช้สมุนไพรทับอีกขึ้น แล้วใช้ผ้าขาวพันตัวเขาเอาไว้

"ก็คงมีแต่ร่างกายของท่านที่สามารถทนกับความเจ็บปวดเช่นนี้ได้ คนอื่นเอาแต่คิดว่าท่านนั้นมีร่างกายอ่อนแอ หารู้ความจริงไม่" สวินโม่กล่าว

โม่ฉีหมิงดึงผ้าออกจากปาก

"ข้าเคยชินแล้ว" เขาพูดอย่างไม่หยีละ

"ข้าขอถามหน่อย ใครกันที่สามารถทำร้ายท่านได้? เจ้าแอบสืบเรื่องของอ๋องหลัว เหตุใดไม่นำมือดีไปหลายคนไหน่อย? เย่เฟิงฉินหยิ่นเหตุใดไม่มีใครอยู่ข้างท่าน?" สวินโม่ขมวดคิ้ว

โม่ฉีหมิงขยับมือเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น “พวกเขาเจ้าเล่ห์มากเกินไป คงเพราะรู้ว่าข้ากำลังสืบเรื่องนี้อยู่ จึงตั้งใจล่อข้าไปติดกับยังป่าสนนั่น ตอนที่ข้าเข้าไปยังป่าสนก็รู้ตัวแล้วว่ามีกับดัก แต่ก็ถอยหนีออกมาไม่ทัน พวกเขารู้แม้กระทั่งท่วงท่าของข้า ซึ่งพูดได้เลยว่า มีการเตรียมการมาอย่างดี"

สวินโม่เก็บกล่องยา แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา “ถ้าเป็นเช่นนี้ คนที่อยู่เบื้องหลังคนพวกนั้น คงรู้จักท่านดี"

"คนพวกนั้นเป็นคนที่ทำงานแลกชีวิต โดยใช้เงินจำนวนมากในการว่าจ้างมา" โม่ฉีหมิงกล่าวเสียงเรียบ

ทั้งๆที่เขากำลังสืบเรื่องยาพิษที่อ๋องหลัวได้รับ แต่กลับมีคนพวกนั้นเข้ามาเกี่ยว ดูแล้วคนพวกนั้นคงจะฆ่าทุกคนที่ต้องการจะสืบเรื่องนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก