ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 367

ตอนที่ 367 ล้วงความลับ

หลังจากที่ต้วนก้วยเฟยฟังสิ่งที่นางพูดจบ นางก็แสดงสีหน้าตกใจอย่างหาไม่ได้ แล้วมองมาที่โล่หวินหลาน

"เจ้าพูดว่าอย่างไร? หลัวเอ่อถูกกรีดหน้าจนเป็นแผล? แล้วนางจะฆ่าเจ้าเพราะเหตุใด?" ต้วนก้วยเฟยยกมือขึ้นแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าปิดที่ปากของตนเองเอาไว้ อดไม่ได้ที่จะตกใจ

ด้านในห้องมีเพียงพวกนางสองคน ต้วนก้วยเฟยร้องไห้ขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

นางร้องไห้เพื่อแสดงละครให้โล่หวินหลานดู หรือร้องไห้เพราะเสียใจจริงๆกันแน่

"ท่านแม่ เรื่องนี้หม่อมข้าเองก็ไม่อยากพูดให้มากความ หากท่านแม่อยากรู้ ได้โปรดไปเรียนถามท่านอ๋องเถอะเพคะ" โล่หวินหลานบอกแล้วมองต่ำลง

กลับไปถามท่านอ๋องงั้นหรือ? ต้วยก้วยเฟยนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะในลำคอ นี่นางคิดว่าตนเองเป็นชายาที่ท่านอ๋องหลงใหลใช่ไหม จึงให้ไปถามท่านอ๋องในทุกๆเรื่อง

ต้วนก้วยเฟยวางผ้าเช็ดหน้าลง ดวงตาของนางแดงเล็กน้อย “ในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว ข้าก็ต้องไปถามให้แน่ชัด เพียงแต่.....เรื่องของเจ้ากับหมิงอ๋องมันคืออะไรกัน?"

ตอนนี้กลับถามถึงหมิงอ๋องอีก โล่หวินหลานขมวดคิ้ว แล้วมองสีหน้าของต้วนก้วยเฟย นางเพียงอยากรู้ว่าต้วนก้วยเฟยทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร?

เรื่องของนางกับโม่ฉีหมิง แม้แต่เวินอ๋องยังไม่รู้เลย คนเดียวที่เคยเอ๋ยเรื่องนี้กับนางก็มีเพียงเย่เซียวหลัว ตอนนี้ก็ไม่อาจรู้ได้ว่านางหายไปอยู่ที่ไหน แล้วนางจะนำเรื่องนี้มาบอกกับต้วนก้วยเฟยเวลาใด?

จากนิสัยของต้วนก้วยเฟยแล้วนั้น นางไม่น่าพึ่งจะมาถามในเวลานี้ นอกจากจะรู้เรื่องนี้ไม่นาน แสดงว่าเย่เซียวหลัว......

โล่หวินหลานครุ่นคิด การหายตัวไปของเย่เซียวหลัวเกี่ยวข้องกับต้วนก้วยเฟย?

ต้วนก้วยเฟยก็ไม่เคยเป็นห่วงเรื่องของนางมาก่อน ส่วนหมิงอ๋องนั้นมีใจจะอภิเษกกับนางตั้งแต่แรก เรื่องนี้ทุกคนต่างก็รู้ดี และไม่มีใครเอ๋ยถึง

จู่ๆนางกลับถามถึงเรื่องนี้ ก็คงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว

"ความสัมพันธ์ของหม่อมข้ากับหมิงอ๋อง ทุกคนล้วนรู้ดีเพคะ หลังจากที่หม่อมข้าอภิเษกกับเวินอ๋อง ก็ไม่เคยได้พบกับหมิงอ๋องอีก วันนี้เหตุใดท่านแม่จึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาเพคะ?" โล่หวินหลานถามขึ้น

สีหน้าของต้วนก้วยเฟยนั้นเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ แต่ไม่นานก็หายไป แล้วกลายเป็นยิ้มบางๆ

"ก็ไม่ได้มีสิ่งใดเป็นพิเศษหรอก เพียงถามไถ่เท่านั้น"

ต้วนก้วยเฟยมองไปทางโล่หวินหลาน แววตาของนางดูน่าสงสัย

"กินขนมนี่เถอะ เย็นหมดแล้ว" ต้วนก้วยเฟยกล่าว

โล่หวินหลานเองก็แปลกใจเหตุใดนางจึงไม่ถามต่อ ขณะที่นางกำลังคิดนั้น ต้วนก้วยเฟยก็พูดขึ้น

"รีบกินเถอะ หรือเพราะว่ารสชาติไม่ถูกปาก?" นางถาม

เมื่อได้ยินต้วนก้วยเฟยพูดเช่นนี้ โล่หวินหลานจึงตักมาใส่ถ้วยของตนเอง แล้วค่อยๆกินเข้าปาก

แต่เมื่อช้อนเข้าปาก นางก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคย โล่หวินหลานกระตุกยิ้ม

ต้วนก้วยเฟยเป็นถึงก้วยเฟย แต่กลับใช้วิธีที่ชั่วช้า นางวางยาพิษไว้ในขนม

โล่หวินหลานมองไปทางต้วนก้วยเฟย แล้วกระตุกยิ้ม ในเมื่ออยากจะทำร้ายนางถึงเพียงนี้ นางก็คงต้องแผนซ้อนแผน แล้วช้อนความลับของนางออกมา

คิดแล้วเวลาก็ผ่านไปเร็วนัก ที่นางไม่ได้ใช้วิชาสะกดจิต ไม่รู้ว่าจะลืมเลือนไปหรือยัง

"ท่านแม่ หม่อมข้าคิดเรื่องหนึ่งได้พอดี ที่หม่อมข้ามีสิ่งหนึ่งที่เหมาะในการกินร่วมกับขนมเถาฮัว" โล่หวินหลานยิ้ม แล้วนำบางสิ่งออกมา

ต้วนก้วยเฟยถามด้วยความสงสัย “สิ่งใด?"

โล่หวินหลานนำของสิ่งนั้นออกมาตรงหน้าของต้วนก้วยเฟย ของที่นางนำออกมานั้นดูภายนอก เหมือนไม่ได้มีสิ่งใดพิเศษ เพียงแต่ของสิ่งนั้นมีลวดลายการแกะสลักที่งดงาม

แล้วยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเวียนหัว ลวดลายบนของสิ่งนั้นเป็นลายแกะสลักชั้นๆวนไป ราวกับกำลังหมุนไปมา

ต้วนก้วยเฟยจึงพูดขึ้น “เอามันออกไป!ยิ่งมองก็ยิ่งเวียนหัว!”

โล่หวินหลานกลับไปไม่เอาออกไป นางเพียงกระซิบที่ข้างหู “ตอนนี้เจ้าไม่ใช่ก้วยเฟย ไม่ได้อยู่ในวังหลวง เจ้ากับคนที่เจ้ารักกำลังวิ่งเล่นอยู่บนทุ่งหญ้า มีกลิ่นดอกไม้หอม และแม่น้ำที่ไหลริน รอบด้านนั้นเงียบสงัด....."

มองดูต้วนก้วยเฟยที่ค่อยๆเข้ามายังวังวนของการสะกดจิต โล่หวินหลานก็รู้เลยว่าตอนนี้นางตกอยู่ในกับดักแล้ว

มองดูเวลาที่ประจวบเหมาะ โล่หวินหลานจึงพูดขึ้น “ตอนนี้ไม่ว่าข้าถามสิ่งใด เจ้าก็ต้องตอบสิ่งนั้น และหลังจากที่เจ้าฟื้นขึ้นมา เจ้าจะลืมทุกสิ่ง"

ต้นก้วยเฟยยังคงไม่ตอบ โล่หวินหลานรู้ว่านางได้ยินแล้ว

ตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุด

นางพูดเสียงเบา “เหตุใดเจ้าต้องวางยาพิษให้องค์หญิงเหอซื่อ?"

"นางสารเลวนั่น ทำให้หลัวเอ๋อต้องเสียโฉม ข้าจะให้นางไสหัวออกไปจากตำหนักเวินอ๋อง"

ต้วนก้วยเฟยราวกับผีดิบ นางพูดความจริงทุกอย่างออกมา

ถึงแม้ว่านางจะเดาเรื่องนี้ได้แต่แรกแล้ว แต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะไม่มีอะไรจะน่าเชื่อเท่าการได้ยินด้วยตนเอง

หากไม่ใช่วันนี้ โล่หวินหลานก็คงไม่รู้เลยว่าต้วนก้วยเฟยที่ทำดีกับนางอยู่ตลอดเวลานั้น กำลังคิดสิ่งใดในใจอยู่

"แล้วเหตุใดตอนนั้นเจ้าจึงยอมให้องค์หญิงเหอซื่ออภิเษกับเวินอ๋อง?" โล่หวินหลานถามอีกครั้ง

นางค่อยๆคายความจริงออกมา “เพื่อให้เวินอ๋องสามารถเป็นองค์รัชทายาทได้ องค์หญิงเหอซื่อสามารถเกลี้ยกล่อมฮ่องเต้ได้"

โล่หวินหลานหัวเราะในลำคอ ไม่คิดเลยว่าตนเองจะมีประโยชน์ถึงเพียงนี้

กลายเป็นองค์รัชทายาทงั้นหรือ? โล่หวินหลานตกใจเล็กน้อย นางขมวดคิ้ว หรือว่า.....

"เย่ฮองเฮาออกจากราชวังต้องห้ามแล้ว องค์รัชทายาทก็เป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้ทรงรัก แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไรให้เวินอ๋องได้อยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาท?" โล่หวินหลานถาม

"องค์รัชทายาทร่างกายอ่อนแอ เอาแต่ป่วย ต่อให้รักษาหายแล้ว ร่างกายก็ยังคงอ่อนแอ ขอเพียงวางยาพิษให้เขาอีกครั้ง ก็สามารถคร่าชีวิตของเขาได้ ถึงเวลานั้นตำแหน่งองค์รัชทายาทก็ต้องตกเป็นของเวินอ๋อง" ต้วนก้วยเฟยกล่าว

หากนางมีสติเพียงเล็กน้อย ก็คงจะรู้ว่าตนเองกำลังพูดสิ่งใดอยู่ คงไม่คายออกมาจนหมดเปลือกเช่นนี้

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้น ล้วนเป็นความต้องการของทุกคน

ช้าก่อน!

เมื่อครู่นางบอกว่า "อีกครั้ง"

โล่หวินหลานสูดลมหายใจ แล้วครุ่นคิดคำว่า "อีกครั้ง"? หรือว่า สาเหตุที่องค์รัชทายาทประชวร ก็เพราะต้วนก้วยเฟยวางยา?

นางมองดูแววตาของต้วนก้วยเฟย แล้วพูดขึ้น"องค์รัชทายาทเอาแต่ประชวรมาตลอดสิบกว่าปี เพราะเจ้าเป็นคนวางยา?"

หลังจากที่นางถามแล้วนั้น ต้วนก้วยเฟยก็เอาแต่ขมวดคิ้ว แล้วกัดฟันแน่น จากนั้นก็พูดพึมพำ ไม่รู้ว่านางกำลังพูดสิ่งใด

แย่แล้ว!โล่หวินหลานลืมไป ว่าการสะกดจิตของนางนั้นสามารถสะกดจิตทุกคนได้ แต่หากนางถามถึงสิ่งที่ทำให้เจ็บปวด หรือสิ่งที่ไม่ต้องการพูดนั้น คนที่ถูกสะกดจิตก็จะอยู่เหนือการควบคุม

ความลับนี้ถูกซ่อนเอาไว้ในใจส่วนลึกของต้วนก้วยเฟย ดังนั้นนางจึงไม่ยอมพูดออกมาง่ายๆ แม้ว่าจะตกอยู่ใต้การสะกดจิตก็ตาม

โล่หวินหลานมองดูนางที่อยู่เหนือการควบคุม จากนั้นก็รีบกดไหล่นางเอาไว้ แล้วหยิบของที่ใช้สะกดจิตไว้ตรงหน้านาง

"ผ่อนคลาย ผ่อนคลาย ไม่ต้องคิดสิ่งใด ไม่ต้องทำสิ่งใด......เจ้ายังคงล่องลอยอยู่บนเมฆขาว อยู่กับคนรักของเจ้า....." โล่หวินหลานกล่าว

ต้วนก้วยเฟยขมวดคิ้ว แล้วหยุดการกระทำของนางลง ตอนนี้นางเริ่มนิ่งลงแล้ว

เวลานั้น ด้านนอกก็เสียงเคาะประตูดังขึ้น นางกำนัลข้างกายนางเป็นคนเคาะเอง

"ก้วยเฟยเหนียงเหนียง ของที่ท่านต้องการหม่อมข้านำมาแล้วเพคะ" นางกำนัลกล่าว

โล่หวินหลานบีบแน่นที่หัวใจ หากมีคนเห็นต้วนก้วยเฟยในสภาพนี้ คงต้องคิดว่านางเป็นสายของแคว้นเซิ่งโจวแน่แท้ ที่มาที่นี่เพื่อทำลายราชวงค์

นางจะเข้ามาด้านในไม่ได้เด็ดขาด ห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด

นางครุ่นคิดสักพัก จากนั้นโล่หวินหลานก็เดินไปที่ข้างประตู แล้วตอบไป

"ท่านแม่เข้าไปหาของด้านใน เจ้ารอประเดี๋ยวค่อยมาเถอะ"

แปลกจัง ต้วนก้วยเฟยต้องหาของสิ่งใด? และของที่นางต้องการนั้นก็เอามาให้ตรงตามเวลา ซึ่งก็เป็นประสงค์ของต้วนก้วยเฟย

"พระสนมเพคะ หม่อมข้านำของที่เหนียงเหนียงรับสั่งมาถวาย หม่อมข้าไม่กล้ากลับไป รบกวนท่านบอกกับเหนียงเหนียงด้วยนะเพคะ หม่อมข้าจะรอตรงหน้าประตู" นางกำนัลที่อยู่ด้านนอกกล่าว

นางกำนัลคนนี้ช่างฉลาดนัก คงคาดการณ์บางอย่างไว้ว่าด้านในอาจเกิดเรื่องขึ้น จึงไม่ยอมไป

โล่หวินหลานมองดูต้วนก้วยฟย แล้วมาตรงหน้านาง

สูดลมหายใจเข้า “ตอนนี้เจ้าต้องพูดตามข้า พูดให้เสียงดัง ข้ากำลังพูดคุยกับองค์หญิง เดี๋ยวเจ้าค่อยมาส่งของนั่น"

ต้วนก้วยเฟยพูดขึ้น แต่สีหน้าของนางยังเรียบเฉย นางพูดตามที่โล่หวินหลานกล่าว

นางกำนัลที่อยู่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงของต้วนก้วยเฟยแล้วนั้น จึงขานรับ แล้วรีบออกไป

เมื่อแน่ใจแล้วว่าด้านนอกไม่มีคน โล่หวินหลานจึงเอียงหน้ามองดูต้วนก้วยเฟย เพื่อที่จะถามอีกครั้ง

"ที่องค์รัชทายาทล้มป่วยมานานสิบกว่าปี ตอนนั้นใครเป็นคนวางยาองค์รัชทายาท?"

ถึงแม้ว่านางจะมีอาการเช่นเดิม แต่ครั้งนี้นางค่อยๆพูดออกมา “คนที่วางยาคือ....คนที่วางยาคือ....ข้าเอง"

โล่หวินหลานอึ้งกับคำตอบของต้วนก้วยเฟย เรื่องในตอนนั้นนางก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้น แต่เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของโม่ฉีหมิงมานานราวกับบาดแผล ที่เอ๋ยทุกครั้งเขาก็เจ็บทุกครั้ง

ใครจะไปคิด ว่าคนที่วางยากลับเป็นต้วนก้วยเฟย!

"ฮ่องเต้สืบทราบว่าคนที่วางยาคือเฉินเฟย และเฉินเฟยเองก็ถูกไฟแผดเผาจนตาย เหตุใดคนที่วางยากลับเป็นเจ้า? แล้วเจ้าวางยาให้องค์รัชทายาทได้อย่างไร? เจ้าเล่ามาให้ละเอียด" โล่หวินหลานถามอีกครั้ง

ต้วนก้วยเฟยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา

โล่หวินหลานมองดูนางอย่างไม่เชื่อสายตา คิดว่านางจะอยู่เหนือการควบคุมอีกครั้ง นางจึงรีบไปคว้าของที่อยู่ในมือ

แต่นางคว้าได้เพียงครึ่งเดียว ต้วนก้วยเฟยก็หยุดหัวเราะ แล้วก็มองมาทางโล่หวินหลาน

"ตอนนั้นองค์รัชทายาทกำลังเป็นที่ถูกรัก องค์รัชทายาทเกิดมาก็ถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท เย่ฮองเฮาจึงมีทั้งเงินและอำนาจ นางสามารถทำทุกอย่างในวังหลังได้ โดยไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใด

แต่ว่า ยังมีคนคนหนึ่ง ที่มีทั้งความสามารถและหน้าตาที่งดงาม ทำให้คนมองนั้นเพ้อละเมอ นางคือเฉินเฟย ทั้งสองต่างได้รับความรักจากฮ่องเต้อย่างท่วมท้น ไม่มีใครยอมใคร

เวลานั้น หากไม่ใช่เพราะข้า หลัวอ๋องและหลินอ๋องก็คงไม่อาจอยู่รอดได้ ข้าจึงส่งหลินอ๋องไปให้เย่ฮองเฮาเลี้ยงดู เพื่อให้เป็นที่โปรดปราน แต่ก็ไร้ประโยชน์

เย่ฮองเฮาไม่เคยปรายตามองข้า ไม่เคยเห็นข้าอยู่ในสายตา ข้าจึงโมโหมาก จึงวางยาพิษลงในสุราขององค์รัชทายาท จากนั้นก็โยนความผิดให้ เฉินเฟย ซึ่งก็จบอย่างงดงาม?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก