ตอนที่ 369 ความจริงในตอนนั้น
มองดูหลินอ๋องที่เดินจากไปนั้น โล่หวินหลานก็พิงตัวลงบนเสา นางกระตุกยิ้ม
คนอย่างหลินอ๋องนั้น นางเห็นมานักต่อนักแล้ว ไม่คู่ควรที่จะไปเสวนาด้วย
คำพูดไม่กี่คำก็สามารถไล่เขาไปได้ หากไม่ใช่เพราะเขาแอบเข้ามายังเรือนวี่หยวนเพื่อจับผิดนาง วันนี้หลินอ๋องคงไปเรีบนเวินอ๋องในสิ่งที่เขาเห็นแน่
"หลินอ๋องง่ายที่จะต่อกร คราวหน้าเวลาเจอเขา เจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ไม่ก็ให้ไซ่เยว่เป็นคนจัดการเขาก็ได้" โม่ฉีหมิงกล่าว
คนอยางหลินอ๋องนั้น ง่ายที่จะจัดการยิ่งนัก
เย่ฮองเฮาถูกไล่ไปวังต้องห้าม ต้วนห้วยเฟยทำผิดในการลอบวางยาพิษ ก็ไม่อาจทำให้เขาตระหนักได้เลย ยังเที่ยวหาเรื่องผู้คนอีก
"เขา คราวหน้าเวลาเจอคงต้องเดินหนี" โล่หวินหลานยิ้ม
โม่ฉีหมิงหัวเราะ อยากจะจับที่หน้าของนาง แต่ไม่กล้าที่เจ้าเข้าใกล้นางมากนัก สุดท้ายเขายื่นมือไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็วางลง
"ที่นี่ไม่เหมาะแก่การพูดคุย ไปคุยกันที่ตำหนักหมิงอ๋องเถอะ เจ้าออกไปก่อน เดี๋ยวข้าตามไป" โม่ฉีหมิงมองไปทั้งสี่ทิศ แล้วบอกกับนาง
ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เขาและนางควรพูดคุยกัน โล่หวินหลานยังมีหลายอย่างที่อยากบอกกับเขา
ทั้งสองคนแยกย้ายกันออกไปจากสวนดอกไม้ แล้วไปยังตำหนักหมิงอ๋อง
ทุกอย่างในตำหนักยังคงเหมือนเดิม ความคุ้นเคยนี้ทำให้โล่หวินหลานรู้สึกสบายใจยิ่งนัก
นางเดินอยู่ที่สวนของตำหนัก เดินบนพื้นหิมะ ตอนนี้นางพึ่งรู้สีกปลอดภัย และอยากมีชีวิตที่สงบสุข
โม่ฉีหมิงที่มองนางจากด้านหลังนั้น เขาก็ยิ้มออกมา ราวกับการกลับมาของฤดูใบไม้ผลิ
ด้านข้างของสวนมีเงาของใครบางคนซ่อนอยู่ คนหนึ่งดูตื่นเต้นดีใจ คนหนึ่งดูไร้อารมณ์
แต่นางเดินไปเพียงครึ่งก้าว ก็ถูกร่างใหญ่คว้าเอาไว้
"หมิงซีปล่อยข้า ข้าจะไปหาเสี่ยวฮัว !
อาลั่วหลันดีดดิ้น
หมิงซีเองก็ไม่ได้คลายมือ เพียงบอกกับนางด้วยเสียงเรียบ “อย่าไป เดี๋ยวหมิงอ๋องกับเสี่ยวฮัวจะไม่มีความสุขเอาได้"
"เหตุใดเล่า? ข้าเห็นหมิงอ๋องยิ้มหนิ" อาลั่วหลันยังคงขัดขืน
"เจ้ามองผิดแล้ว สีหน้าของหมิงอ๋องนั้นกำลังอารมณ์ไม่ดีมาก หากเจ้าเข้าไปในตอนนี้ คราวหน้าคงไม่ใช่แค่นางกำนัลสิบกว่าคนคอยจับตาดูเจ้าแล้ว" หมิงซีตอบ
อาลั่วหลันถูกเขาห้ามเอาไว้อีกครั้ง นางหยุดขัดขืน จากนั้นก็ถูกหมิงซีโผเข้ากอด มือของเขาจับที่เอวของนางแน่น
หน้าของนาง "ฟ่า" ร้อนผ่าว
แต่ในใจของนางกลับรู้สึกมีความสุขยิ่งนัก จนลืมเสี่ยวฮัวไปเสียสนิท ตอนนี้นางคิดแต่เพียงเรื่องของหมิงซี
โม่ฉีหมิงและนางเดินเข้าไปในห้อง ทุกอย่างถูกจัดวางไว้ตามเดิม ไม่แปลเปลี่ยน
เตียงที่นางและเขาเคยนอนร่วมกัน เต็มไปด้วยความทรงจำที่งดงาม มีคำพูดที่เคยพูดให้กันฟัง และ......
ทุกอย่างคล้ายจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ราวกับไกลเกินเอื้อม
โม่ฉีหมิงมองดูนางที่จ้องเขม็งไปบนเตียงนั้น ก็เข้าไปโอบกอดนางเอาไว้ นางสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
"คิดถึงมันใช่ไหม? อยากจะสัมผัสอีกครั้งไหม?ที่นี่ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไป" โม่ฉีหมิงพูดกระซิบที่ข้างหูของนาง
โล่หวินหลานจับที่มือของเขา แล้วยิ้ม “ดีเพคะ หม่อมข้าจะดูสิว่ามีร่องรอยของหญิงอื่นหรือไม่ ไม่เจอกันปีกว่า คงต้องตรวจให้ละเอียด"
เขากอดนางแน่น แล้วขมวดคิ้ว “ที่นี่นอกจากเจ้าแล้วก็ไม่มีใคร หากไม่เชื่อเจ้าก็สามารถตรวจดูตามเนื้อตัวข้าได้ ดูว่ายังมีแต่กลิ่นของเจ้าหรือไม่"
หากจะตวรจเพียงเตียงก็คงไม่ยุติธรรม ต้องตรวจที่ตัวเขาด้วยสิ
โล่หวินหลานเขินอาย นางใช้มือกั้นที่หน้าอกของเขา จากนั้นก็ยิ้มอย่างขวยเขิน
"ข้าพูดตามจริงนะ ข้าจัดการทุกอย่างแล้ว หลังจากนี้อีกสองวัน ข้าจะทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น จากนั้นข้าก็จะรับเจ้าออกมาจากตำหนักเวินอ๋อง" โม่ฉีหมิงพูดราวกับเรื่องที่จะทำนั้นแสนง่าย
โล่หวินหลานนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่คิดเลยว่าเขาจะวางแผนได้เร็วเช่นนี้
ถึงแม้ว่านางเองก็อยากออกมาจากตำหนักเวินอ๋อง แต่เรื่องที่นางได้ยินในวันนี้นางก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้
ต้วนก้วยเฟยวางแผนเรื่องทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์ นางคิดที่จะเอาชีวิตขององค์รัชทายาท เพื่อให้เวินอ๋องได้รับการแต่งตั้งแทน
โชคชะตาของพวกเขานั้น อยู่ในมือของพวกเขา
แตกต่างจากปลาบนเคียง ที่ง่ายต่อการถูกฆ่า
"ตอนนี้ยังไม่ได้เพคะ....." โล่หวินหลานพูดเสียงเบา
นางสัมผัสได้ถึงมือของโม่ฉีหมิงที่ค่อยๆคลายออกไป มือที่อบอุ่นนั้นไม่ได้โอบกอดนางเอาไว้แล้ว
โม่ฉีหมิงหมุนตัวนางกลับมา แล้วมองด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นก็ถามขึ้น “เจ้า!ไม่!อยาก!"
เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของเขา โล่หวินหลานก็กุมมือเขาเอาไว้ จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา “หม่อมข้าอยากสิเพคะ แต่เพียงไม่ใช่ตอนนี้ ยังมีเรื่องหนึ่งที่เรายังทำไม่สำเร็จ....."
"ในเมื่อเจ้าเองก็ต้องการ เหตุใดจึงไม่ออกมาจากที่นั่นในตอนนี้? แล้วยังมีเรื่องอันใดอีก?" โม่ฉีหมิงทำหน้าตาสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก