ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 377

ตอนที่ 377 ข้อบังคับในตำหนัก

เพราะเรื่องที่ล้มเหลวเมื่อวานทำให้ยิ่งคิดยิ่งโกรธ เลยมาถามตอนนี้?

หรือว่ามีคนมาพูดอะไรในเวลานั้นพอดี ถึงทำให้โกรธขนาดนี้

โล่หวินหลานเหล่ตามองไปที่อื่นไม่กล้าจองดูราชาเวินอ๋อง ในสมองก็คิดอยู่ว่าควรจะตอบคำถามเขาอย่างไร

“นายท่านพูดอะไรนะ?เหอซื่อไม่รู้ว่าเหอซื่อทำอะไรผิดไป ขอให้นายท่านชี้เเนะ”โล่หวินหลานพูด

เวินอ๋องยิ้มเเบบเย็นชา คิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ รากบัวหักขาเเต่สายยังไม่ขาด ความสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดยิ่งแยกแยะก็ยิ่งซับซ้อน เรื่องเเต่ละเรื่องก็ต่อกันเป็นเเถว เเต่คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือเหอซื่อ

คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะถูกคนที่ตนเชื่อที่อยู่ใกล้ตัวหักหลัง ยังอ้างว่าไม่ได้ทำ ทำตัวน่าสงสาร

“ยังจะตอเเหลยังจะมาเเสดงอีก?”เวินอ๋องตะโกน เขาได้ยกมือขึ้นกำลังจะตีลงหน้าของโล่หวินหลาน เเต่เขาได้อยู่ลงในวิสุดท้าย

นางไม่หลบไปไหนเลย ตาที่เเวววาวก็ยังจดจ่ออยู่กับตนเอง ไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยสักนิด

ในสถานการณ์ที่กำลังโมโหอยู่นั้น เขาลงมือตีไม่ลง ยังบังคับอารมณ์ที่โกรธในใจได้?เขาเป็นอะไรไปนิ?

“ตกลงเจ้ากับโม่ฉีหมิงเป็นอะไรกับ?บอกกับข้ามาให้หมด”เวินอ๋องได้หายใจลึกๆเเล้วนั่งลง

ในใจเขาได้ให้โอกาสนางเป็นครั้งสุดท้าย ถ้านางยอมพูดเรื่องความสัมพันธ์ของนางกับโม่ฉีหมิง เขาจะยอมปล่อยนาง

โล่หวินหลานทำตัวน่าสงสารเเล้วมองที่เขา เขาลงมือตีตนไม่ลง นางควรจะดีใจหรือเป็นห่วงดี?

“ข้าไม่รู้จริงๆว่านายท่านพูดอะไรอยู่ ตั้งเเต่ที่ข้าได้สมรรถกับนายท่านเเล้ว ข้ากับหมิงอ๋องออกจากจะพบเจอเเบบไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ได้พบเจออีกเลย ทำไมนายท่านถึงสงสัยข้าหล่ะ?”โล่หวินหลานได้ร้องไห้เช็ดน้ำตา

เวินอ๋องทายได้หมดทุกเรื่องเเล้ว ถึงนางไม่พูดก็ไม่เป็นไร เพียงเเต่จองมองนาง ไม่ให้นางมีโอกาสที่จะส่งจดหมายกับโม่ฉีหมิง นั้นนางก็ยังอยู่ใกล้ตัวเองได้อยู่

ใจของเวินอ๋องเหมือนถูกตะปูที่ตอกเข้าไป ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เขาจะตาโดนไม่คิดอะไร แต่เหอซื่อ ในใจของเขาก็ยังคงทีความรักอยู่

“ถ้าเจ้าไม่ยอมสารภาพ ข้าก็ถามไม่ได้อะไร เจ้าก็อยู่ที่นี้นั้นเเหละ ไม่มีคำสั่งของข้าห้ามออกมา!”เวินอ๋องปิดตาด้วยความเสียใจเเล้วพูด

ขณะที่หมุนตัว มีรอยยิ้มที่เเอบยิ้มขึ้นมาเเละตาที่ต่ำๆร้ายๆ

เขาสะบัดชายเสื้อเเล้วออกไป

ทหารที่อยู่ด้านนอกก็ยืนตรงเป็นเเถว เขาพูดว่า“ให้เพิ่มคนมาเฝ้าที่เรือนวี่หยวน ไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามให้พระสนมออกมา

ทหารหยักหน้าเเล้วถอยไปเฝ้าที่หน้าประตูเรือนวี่หยวน

เวินอ๋องไม่คิดอะไรเเล้วเดินจากไป

โล่หวินหลานที่อยู่ในห้องก็ได้เเอบฟัง พึ่งรู้ว่าเวินอ๋องจะคังตนไว้ในห้อง

เขาทายได้เเล้วว่าคือจดหมายที่ส่งไปมาของนางกับโม่ฉีหมิง ทำไมถึงไม่ไล่ตนออกจากตำหนัก เเต่กลับคังตนไว้ในห้อง ไม่กลัวตนหาวิธีหนี้ออกไปหรอ

ถ้าโม่ฉีหมิงรู้ว่าตนโดนคังไว้ในห้อง เขาต้องหาวิธีมาช่วยข้าเเน่ๆ หรือว่า

เวินอ๋องจะใช่ข้าล่อโม่ฉีหมิงมา เเล้วสร้างกับดักไว้ในสวนที่ตำหนัก จับโม่ฉีหมิง

โล่หวินหลานหัวใจกระวนกระวาย ไซ่เยว่ทำไมยังไม่กลับมา ถ้านางกลับมาเเล้วเห็นตนโดนคังไว้ในห้อง จะต้องไปบอกกับโม่ฉีหมิงเเน่ๆเลย

ถึงเวลานั้น ก็จะโดนกับดักที่เวินอ๋องสร้างไว้เเน่

หน้าประตูก็มีทหารมานับ10กว่าคนล้อมรอบเรือนวี่หยวน เหมือนกับเฝ้านักโทษที่ทำผิดนักมาก

ตอนที่ไซ่เยว่กลับมาจากตำหนักหมิงอ๋อง เห็นเวินอ๋องออกมาจากรุ่ยหยวนจุนพอดี กะจะเข้าไป เเต่อยู่ดีๆก็มีทหารมาหลาย10คน

นางรีบหลบไปข้างๆ ดูความเปลี่ยนของเรือนวี่หยวน ผ่านกระดาษหน้าต่าง เเล้วรู้เลยว่า น่าจะเวินอ๋องไปนํ้อะไรมาถึงนำธิดาคังไว้ในห้อง

มีความรู้สึกโกรธเเละกังวลใจ เรื่องนี้ควรจะบอกให้หมิงอ๋องดีกว่า ถ้าเกิดว่าเวินอ๋องรู้อะไรขึ้นจริงๆ นั้นชีวิตของธิดาก็ไม่ปลอดภัยเเน่ๆเลย

มาถึงตำหนักหมิงอ๋องด้วยความโกรธ เเต่ไม่เห็นเงาของเย่หยุนกับฉินหยิ่งเลย เลยจับบ่าวมาถาม ถึงจะรู้ว่าโม่ฉีหมิงได้ไปที่ตำหนักขององค์รัชทายาท

ตำหนักองค์รัชทายาท?ทำไมช่วงนี้หมิงอ๋องกับองค์รัชทายาทสนิดกันหรอ?หรือว่าเพราะเรื่องเมื่อวานเขาทั้งสองได้เห็นด้วย

ไม่ว่าเป็นเรื่องอะไร ยังไงก็ต้องหาหมิงอ๋องเเล้วบอกเรื่องนี้ให้เขารู้ก่อนดีกว่า

ตำหนักขององค์รัชทายาทมีทหารเฝ้าเเน่นหนามาก อยากเข้าไปตำหนักขององค์รัชทายาทนั้นยากมาก

ไซ่เยว่เเอบที่มุ่มๆดูสถานการณ์ในตำหนักก่อน สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเข้าไปทางประตูหลัง

ไซ่เยว่ก็ถอนหายใจเพราะประตูหลังมีทหารเเค่สองนายเฝ้าเดินไปมา เขาก็บินขึ้นหลังคา เเอบๆเข้าไป

ทหารด้านล่างก็ไม่รู้สึกอะไรเลย มองซ้ายมองขวา เเล้วพูดกับทหารที่อยู่ข้างตัวว่า“นายได้ยินเสียงอะไรมั้ย?”

ทหารอีกนายก็หัวเราะเเล้วบอกว่า“นี้มันตำหนักขององค์รัชทายาทนะ มีใครกล้าเข้ามา?ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

พึงพูดจบ มีเข็มๆนึงจิ้มเข้าที่คอเขา เขาเปิดตาโต กำลังจะเปิดปากพูดก็ล้มลงเเล้ว

ทหารข้างๆเห็นเช่นนี้เเล้ว ก็ได้ชักดาบตนเองออกมา ฟันซ้ายฟันขวา มีเข็มอีกสองได้บินออกมา เเค่ไม่กี่วิก็ทำให้สองคนนั้นล้มลง

ไซ่เยว่ตบๆหิมะขึ้นตัวตน บินลงจากกำแพง มองดูคนที่อยู่รอบข้าง เเล้วผ่านจากหลังประตูได้อย่างง่ายดาย ค้นหาห้องขององค์รัชทายาท

ถ้าไม่ผิด ตอนนี้พวกเขาน่าจะคุยธุระที่ห้องสมุด ไซ่เยว่ได้ผ่านเดินยาวๆ เเล้วได้ไปชนกับบ่าวคนนึง

การที่ไม่มีการว่างเเผนที่มีบ่าวมาชนโดนตน เห็นได้เลยว่าเป็นความบังเอิญ บ่าวจองไซ่เยว่เเล้วตะโกนอย่างสนั่นดัง เเต่โดนไซ่เยว่ปิดปากไว้ ดาบที่คมและเหน็บหนาวได้เจาะเข้าที่คอของนาง ทำให้นางหนาวจนตัวสั่นไม่หยุด

“ห้ามร้อง ข้าเป็นคนข้างตัวของหมิงอ๋อง มีเรื่องมาหาท่านที่ตำหนักขององค์รัชทายาท พาข้าไปหาท่าน”ไซ่เยว่พูดเสียงเบาๆข้างหูนาง

บ่าวตอบตกลงด้วยความตกใจ ไม่กล้าเปล่งเสียงออกมาสักนิด เเล้วเช้านี้หมิงอ๋องก็มาที่ตำหนักขององค์รัชทายาทจริงๆ

ผ่านทางเดินยาวกับบ่าว ตามรอยเท้าของนางไปอย่างช้าๆ ตอนเดินก็เจอบ่าวเดินผ่าน เเต่ไซ่เยว่ก็เปลี่ยนท่าเดินของเขาทำให้บ่าวที่เดินผ่านไม่เห็นที่เจาะที่ตัวเขา

“มีคนมั้ย มีสายลับมา!”บ่าวตะโกนเรียกร้อง

มีทหารออกมาจากทุกทิศทุกด้าน มีเงาสองเงาออกมาเป็นคนเเรกเลยคือฉินหยิ่งกับเย่หยุน อยู่ดีๆก็หยุดนิ่ง

“ไซ่เยว่ ทำไมเป็นเจ้าหล่ะ?”เย่หยุนเห็นว่าเป็นนางเลยโล้งอกไปที

“พี่เย่หยุน”ไซ่เยว่พึ่งอยากจะพูด ประตูจองห้องสมุดก็ถูกเปิดออก

มีผู้ชายที่มีตาเเหลมคมเดินออกมา สวมเสื้อสีม่วงอันทรงมีพลังอำนาจ เพียงเเต่ว่าสายตาเขานั้นโหดเหี้ยมมาก

“มีเรื่องอะไร?”โม่ฉีหมิงมองไซ่เยว่ พูดด้วยเสียงต่ำ

ไซ่เยว่รีบไปข้างตัวเขา บอกเรื่องข้างหูเขา ทุกคนเห็นสีหน้าโม่ฉีหมิงยิ่งอยู่ยิ่งเย่ สายตายิ่งอยู่ยิ่งเย็นชา เหมือนจะฆ่าคน

เขากำมือเเน่นมาก ยิ้มด้วยสายตาร้ายๆ

“องค์รัชทายาท ข้ายังมีเรื่อง ไปก่อนนะ เรื่องนี้ค่อยคุยกันวันอื่น”โม่ฉีหมิงพูดโดนไม่หันหลัง เเล้วบินออกไปเลย

มีไม่กี่คนก็ถอยจากองค์รัชทายาทเเล้วบินออกตามไป

สายตาขององค์รัชทายาทเริ่มต่ำลง ลายยิ้มที่อยู่ข้างปากก็ค่อยๆน้อยลง

โม่ฉีหมิงเป็นโม่ฉีหมิงจริงๆ ไม่เคยเอาองค์รัชทายาทไว้ในสายตาเลย ไปๆมาๆไม่เคยถือมารยาท2พยางค์นี้เลย

เขาใช้สายตาเย็บชาเเละมีความยิ้มเเบบสงสัย ทำให้ไม่ได้ไม่ทายว่าตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงทำให้เขาตกตะลึงขนาดนี้ เเม้เเต่มารยาทก็ไม่ถือเลยสักนิด

ในเรือนวี่หยวน นั้นเงียบสงบมาก ทหารที่อยู่นอกประตูก็ไปๆมาๆเดินไม่หยุด เเค่เเมลงวันตัวนึงก็ไม่ปล่อย ไม่ต้องพูดถึงว่านางจะเป่าปากให้นกส่งจดหมายมาเลย

เเต่น่าเสียดายไซ่เยว่ยังไม่ได้กลับมาเลย หรือว่าเวินอ๋องรู้ว่านางเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไรแล้ว?

โล่หวินหลานเริ่มขมวดคิ้วเเล้ว เดินไปเดินมาตลอดในห้อง เเล้วอดไม่ไหวที่จะเดินออกนอกประตู ทหารนอกห้องได้ยินก็รีบมาถาม

“พระสนมมีเรื่องอะไร?”ใช้เสียงรุนเเรงเเละเย็นชา

“ในห้องข้ามีหนูตัวใหญ่มากเลย!พวกเจ้ารีบเข้ามาไล่หนูออกไป!”โล่หวินหลานสีหน้าท่าทางน่ากลัวเเล้วพูด

เเต่กำลังออกจากตำหนัก มีดาบเเท่งนึงออกมาต่อหน้าเขา เเสงไฟที่สะท้อนมาจากดาบส่องมาที่ตัวของนาง โล่หวินหลานมองดูรอบตัวของนาง สายตาของเเต่ละคนต่างจองดูนางด้วยสายตาอันโหดเหี้ยม

โล่หวินหลานถอยหลังไป1ก้าว ยิ้มพูด“ตอนนี้น่าจะไม่มีเเล้ว ข้าเข้าไปดู

ปิดประตูเสียงดังมาก สีหน้าของโล่หวินหลานก็ต่ำไปอีก1ขั้น

ทหารที่นอกประตูมีไม่น้อยกว่า10คน เเต่ละคนมีดาบติดตัว เเละทยอยอยู่ที่เหนือใต้ออกตก4ทิศเเละ2ประตู ไม่พูดถึงอย่างอื่นก่อน เเค่เฝ้าประตูก็4คนเเล้ว นางเชื่อว่า ที่ข้างหน้าต่างก็น่าจะมีคนเฝ้า

เวินอ๋องนะเวินอ๋อง ครั้งนี้คือไม่ให้หน้ากันเลย

นางคิดแล้วคิดอีก ในสถานการณ์เเบบนี้นางไม่สามารถออกไปต่อหน้าเหล่าทหารได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใด

กลางคืนก็มาถึงตามเคย โล่หวินหลานนั่งอยู่ปากประตูเเอปฟัง เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนเวรก็คือเวลากินข้าวเย็นของเหล่าทหาร

เเม้ว่าจะเป็นเวลาเปลี่ยนเวร คนก็ไม่ได้น้อยลงเลย จากทหาร10กว่าคนเพิ่มขึ้นถึง30กว่าคน มีเสียงคนเดินสนั่นดังอย่างเห็นได้ชัด

มีคนมาส่งข้าว คนที่ส่งข้าวจะเอาข้าวมาให้ทหารก่อนเเล้ว เเล้วทหารจะเป็นคนเอาส่งเข้าไป

“พระสนมทานข้าวได้เเล้ว”ทหารนำข้าววางบนโต๊ะเเล้วเดินจากไป

โล่หวินหลานมองด้วยความโกรธเเล้วถาม“นายก็เราหรอว่าข้าคือพระสนมนายคือทหาร มาอยู่ห้องเดียวกันกับข้ามันสมควรหรอ?คราวหลังให้บ่าวเข้ามาส่งข้าวให้ข้า

ทหารคนนั้นฟังเเล้วไม่ได้กลับหัว“นี้คือนายท่านสั่งไว้ บ่าวทำเเบบนี้ไม่ได้หรอก”

“นายท่านได้สั่งให้พวกนายมาเเอบดูห้องนอนข้าด้วยหรอ?ถ้าข้าบอกเรื่องนี้กับนายท่าน นายรู้มั้ยว่าจะมีผมอะไรตามมา?”โล่หวินหลานพูดด้วยความเคร่งครัด

แต่ว่า คำพูดของนางไม่ได้ผลอะไรกับทหารเลย

“นี้คือนายท่านสั่งไว้ ถ้าเช่อหวางเฟยมีปัญหาอะไรก็เชิญไปหานายท่าน”ทหารพูดด้วยเสียงเย็นชาเเล้วออกไป

เห็นทหารออกจากห้องเเล้วล็อกประตูโดยไม่คิดอะไร ทำให้โล่หวินหลานรู้สึกไม่มีอำนาจใดๆเป็นครั้งเเรก

เเข็งอ่อนไม่กิน?คมคุยโยงก็ไม่มีประโยชน์?นี้คือทหารอะไรนิ?

นั่งลงบนเก้าอี้ในห้องด้วยความโกรธ มองดูอาหารที่มีกลิ่มหอม เเต่ตอนนี้เขาก็กินไม่ลง

เวินอ๋องคือจะคังนางไว้ในนี้จริง จนถึงโม่ฉีหมิงจะมาช่วย

ตอนนี้ไม่เห็นโม่ฉีหมิงเลย ใจก็ยิ่งวุ่นวายไปหมด

ไซ่เยว่ไปนานขนาดนี้ก็ยังไม่กลับมา น่าจะเพราะว่ากลับเเล้วเห็นถูกคัง เลยไปบอกให้โม่ฉีหมิง ตอนนี้เขาคงรู้เเล้วมั้ง?

ทันใดนั้นก็มีเสียงประตูโดนพลักเปิด เงาของเวินอ๋องก็ได้อยู่ในสายตาของโล่หวินหลาน

เขายืดตัวตรงเเล้วเดินมาถึงหน้าของโล่หวินหลาน สีหน้าเย็นชาเเล้วขมวดคิ้ว ไม่เเสดงออกก็รู้ว่าโกรธ

เขาก็นั่งลงที่เก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ ดูอาหารบนโต๊ะที่ยังไม่ได้ขยับ ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“เป็นไร?อาหารวันนี้เจ้าไม่ชอบ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก