ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 378

ตอนที่378 การให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาว

เจ้าต้องการทำอะไร ทำให้ข้าอยู่ภายใต้การคุ้มครองแบบนี้ส่งทหารจำนวนมากมาดูข้ามันเป็นการเคลื่อนไหวบ้างหรือเปล่า? โล่หวินหลานมองที่มุมตาของเขาแล้วถามอย่างเย็นชา

ทันใดนั้นดวงตาของเวินอ๋องก็จะกลบไปทั่วใบหน้าของนางและในไม่ช้านางก็ยิ้มได้อย่างอ่อนโยนและดูว่าอ่อนโยนอย่างไร

"ไม่มีอะไร! เพื่อความปลอดภัยของเจ้าช่วงนี้ในวังยังไม่ค่อยปลอดภัย" เวินอ๋องยิ้ม

ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหัวใจของเขานอกจากนี้เขายังกรีดร้องและสาบานในใจของเขาความคิดที่ปรารถนาในหัวใจของเขาคืออะไร?

“ แม้ว่าท่านอ๋องนึกถึงความปลอดภัยของข้าจริง ๆ แล้วทำไมข้าถึงออกไปข้างนอกไม่ได้เลยแม้แต่ยามก็ควรส่งอาหารไปด้วย” โล่หวินหลานถาม

เวินอ๋องปากแขวนรอยยิ้มจาง ๆ ค่อย ๆ เดินไปที่ด้านข้างของนางกระซิบ "พวกเขาทั้งหมดมาเพื่อจะปกป้องเจ้า เจ้ายังไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของโม่ฉีหมิง ถ้าเขาจะทำร้ายเจ้า เจ้าจะทำยังไงล่ะ"

โม่ฉีหมิงจะทำร้ายข้า?เขากำลังพูดถึงอะไร

“ งั้นก็ตามใจเจ้าเถอะ ออกไปข้างนอกได้แล้ว ข้าง่วงนอน” โล่หวินหลานอี้หันหลังและจากไป แต่เพียงหันหลังกลับข้อมือของเขาก็ถูกจับ

โล่หวินหลานนั่งลงบนตักของนาง จมูกอุ่น ๆ กระแทกใบหน้าของนางและริมฝีปากบาง ๆ ก็เข้ามาหานางอย่างช้าๆ

โล่หวินหลานกระชากมือของเขาแล้วผลักเขาออกไป แต่หัวใจของเขาก็เต้นอย่างรุนแรง

"อย่าลืมว่าเจ้าคือราชาของข้าตอนนี้ข้ามีข้อผูกมัดที่ต้องทำสามีและภรรยา" เวินอ๋องเตือนอย่างเย็นชา

โล่หวินหลานจ้องมองที่อื่น ไม่ได้มองเขา

มือของเขากำแน่นมืออีกข้างหนึ่งไว้บนไหล่ของนางและริมฝีปากที่เรียวบางอยู่บนแก้มของนาง

แก้มของนางออกสีชมพูๆและมีกลิ่นสีแดงเวินอ๋องถอนหายใจและเดินขึ้นไปเพื่อจะดมกลิ่นริมฝีปากของนาง

"อย่าแตะต้องข้า!" โล่หวินหลานผลักเขาออกไปและวิ่งหนีไป

รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินอ๋องแข็งตัวในเวลานี้เขายืนยันความคิดของตัวเองมากขึ้นว่าเขาไม่เคยแตะนางเลย

"เมื่อก่อนข้ายังเคยแตะนางเลย ทำไมตอนนี้ถึงไม่ให้ข้าแตะล่ะ" เวินอ๋องเหล่นาง

เมื่อก่อน? ก็แค่เป็นภาพลวงตาที่ทำให้นางและทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเกิดอะไรขึ้นเฉยๆ

โล่หวินหลานหัวเราะเบาๆ "ไม่ให้ก็คือไม่ให้ ไม่มีเหตุผล ไม่งั้นทำสิ่งที่มีประโยชน์กว่านี้"

การดูนางหลีกเลี่ยงตัวเองเหมือนรสชาติของงูพิษ เวินอ๋องดวงตานั้นใหญ่มากจนนางอยากเห็นว่ามีข้อแก้ตัวอะไรที่ทำให้นางปฏิเสธตัวเองได้

“ ข้าคิดว่าสิ่งที่มีประโยชน์กว่านี้คือการมีลูก ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่านี้แล้ว เราควรมีลูกด้วยใช่มั้ย” เวินอ๋องกระซิบ

หัวใจของโล่หวินหลานเต้นอย่างรุนแรง แล้วนางก็คิด เขาบ้าไปแล้วหรือ กล้าพูดแบบนี้ออกมาด้วย

เขาเดินเข้ามาหานางอย่างช้าๆ ก็เหมือนราวกับหมาป่ากำลังจะเข้ามาหาลูกแกะ

โล่หวินหลานมองไปที่เขาด้วยอารมณ์โกรธแค้น ด้านหลังของนางแจกันวางไว้บนโต๊ะ ตราบใดที่เขายังกล้าเข้าหาตัวเองนางก็จะใช้แจกันโยนใส่เขา

เวินอ๋องหยุดอยู่ตรงหน้านางและแตะแก้มของนางอย่างชั่วร้าย

โล่หวินหลานจับแจกันไว้ในมือแล้วโยน แต่ทันใดนั้น เขาจับแจกันไม่แน่น แจกันก็ตกบนพื้น

เขาไม่รู้หนีตั้งแต่เมื่อไหร่

เสียงแจกันที่ตกบนพื้นคมชัดและห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยเศษแจกัน

สายตาของเวินอ๋องเย็นชาและดวงตาที่แหลมคมของเขาก็จ้องมองนาง

"ดีมากดีมากดีมาก" เวินอ๋องพูดอย่างต่อเนื่องสามครั้ง

ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ มือของเขากำแน่น เขาไม่ได้มองนางแล้วก็กระแทกประตูออก

มันเป็นเสียงปิดประตูอีกครั้ง หัวใจของโล่หวินหลานหล่นลงมาและร่างกายที่อ่อนแอ เขาก็นั่งบนเตียง

คืนนี้หนาวเหมือนหิมะตกและนางก็ไม่รู้สึกอบอุ่นในใจ

นางไม่ทราบว่าเวินอ๋องกำลังพิสูจน์นางหรือต้องการทำอะไรให้นางจริง ๆ แต่ดวงตาของเขาก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ทุกอย่าง

นางเหนื่อยมากและไม่รู้จะทำอะไร

นางนอนอยู่บนเตียงแล้วค่อยๆหลับตาลง

บนหัวของนางนั้นดูวุ่นวายมาก คิดย้อนไปถึงอดีตอย่างต่อเนื่อง เหมือนถูกแก้ไขเป็นรูปภาพและกระพริบอยู่ในใจ

ข้ารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจับใบหน้าของข้าอยู่อย่างอ่อนโยน

แต่นางไม่อยากเปิดตาและทันใดนั้นนางก็ได้ยินมีใครบางคนพูดว่า "อย่าปลุกนาง"

เขาหยิบเอากลิ่นหอมที่เขานำติดตัวไปไว้ข้างนอกแล้วยามก็สลบไป

โม่ฉีหมิงเอื้อมมือออกไปแล้วอุ้มโล่หวินหลานเห็นนางเหงื่อออกอย่างต่อเนื่องบนหน้าผาก คิ้วล็อคแน่นมากเหมือนกับว่านางมีปัญหา

“ ท่านอ๋อง รีบไปเถอะ” เขาเปิดประตูบนพื้น

โล่หวินหลานกล่าวว่า "เจ้าไปจับผู้หญิงคนนึงเข้ามา ช้าหน่อยๆอย่าให้คนอื่นรู้"

เขาพยักหน้าและหันหลังออกจากห้อง

ถนนลับก็เพียงพอที่จะรองรับคนเดียวที่จะเข้าและเป็นประตูสู่ประตูหลังของ ตำหนักเวินอ๋อง โม่ฉีหมิงพยายามที่จะเข้าไปข้างในแต่ค้นพบว่าไฟข้างนอก

กลั้นไว้แล้ว

หลังของโม่ฉีหมิงกลับตรง สิ่งควรมาในที่สุดก็มาจริงๆ

เวินอ๋องไม่ใช่คนโง่ มิเช่นนั้นคงไม่เข้าไปช่วยโล่หวินหลานเช่นนั้น

"พี่สี่ ไม่ได้เจอกันเสียนาน เหตุใดดึกดื่นเพียงนี้จึงมาตำหนักข้าได้ มีเรื่องอันใดหรือ?" ด้านนอกมีเสียงของเวินอ๋องดังขึ้น

โม่ฉีหมิงตบหน้าของโล่หวินหลานเบาๆ ให้นางตื่น “หวินหลาน หวินหลาน?"

เขาพูดเรียกนาง โล่หวินหลานค่อยๆลืมตาขึ้น จากนั้นก็มองดูเขา เป็นเขาได้อย่างไร?

"ฉีหมิง? ท่านมาได้อย่างไร?" โล่หวินหลานถามด้วยความดีใจ

เมื่อเห็นว่าตนออยู่ในอ้อมกอดของเขานั้น ก็รีบผลักเขาออก

"เกิดอะไรขึ้น?" โล่หวินหลานมองดูด้านนอก แล้วถามขึ้น

โม่ฉีหมิงมายังเรือนวี่หยวนเพื่อช่วยนาง แต่กลับถูกเวินอ๋องล้อมเอาไว้ นี่มันกับดักชัดๆ

"อย่าพึ่งพูดสิ่งใด เจ้าอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามออกไป ต้องดูแลตนเอง"

โม่ฉีหมิงกล่าว พลางหยิบดาบออกมา

โม่ฉีหมิงเดินออกไป

ด้านนอกมีองค์รักษ์และทหารมากมาย บนกำแพงเองก็มีธนูที่ตั้งท่าเอาไว้พร้อมยิง

เวินอ๋องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของสวนนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มือของเขาถือธนูเอาไว้

"ข้าแค่มาเอาของของข้ากลับไป เหตุใดน้องหกถึงต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย เจ้าอยากจะข้าพี่งั้นหรือ?" โม่ฉีหมิงกล่าว

เวินอ๋องหัวเราะในลำคอ จากนั้นก็มองไปยังเรือนวี่หยวน “พี่มาที่นี่เพื่อเหอซื่อ?"

"เจ้ารู้ก็ดีแล้ว" โม่ฉีหมิงตอบ

เพื่อเหอซื่อจริงๆด้วย ความหวังแม้เพียงเล็กน้อยในใจของเขา กลับดับลง

เวินอ๋องขมวดคิ้ว แล้วกระตุกยิ้ม “ช่างน่าเสียดาย วันนี้ข้าคงต้องให้ท่านพี่กลับไปมือเปล่า เหอซื่ออภิเษกกับข้าแล้ว นางเป็นสนมของข้า แม้ว่าตายนางก็ต้องตายที่ตำหนักเวินอ๋อง"

"เจ้ามั่นใจได้อย่างไร ว่าพี่จะกลับไปมือเปล่า?" โม่ฉีหมิงกระตุกยิ้มแล้วถาม

เมื่อเห็นใบหน้าที่แสนสุขและแสนละลื่นของเขา ภายในใจเวินอ๋องใจคันยิ่งหนัก จะตายแล้วยังทำหน้าไม่มีไรเกิดขึ้น

“เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ของข้า”

เวินอ๋องได้เอามือข้างนึงประทับที่บนริมฝีปากและได้ทำการเป่าดังนกวีด

นักธนูด้านบนเปิดคันธนูและลูกธนูทันทีพร้อมกับลูกศรแถวเดียวกันที่ตกลงมาบนท้องฟ้า

เขาถอยหลัง2ก้าว บนเพดานได้มีคนใส่ชุดดำกระโดดลงมาในมือถือดาบและควงดาบไปมา ได้บังลูกศรแต่ละดอกไว้

ภายในห้องของโล่หวินหลานได้แนบชิดกับกับประตูกระดาษและได้ทำการเจาะรูเล็กๆ เพื่อที่ได้จากการสำรวจสถานการณ์ภายนอก

ก็เพราะต้องช่วยเขา เขาไม่มีความอดทนที่จะนำข่าวสารให้โม่ฉีหมิง ก็เลยทำให้เขา ได้ตกรุมกับดักของ เวินอ๋อง

บนใบหน้าของโม่ฉีหมิงช่างเฉยชาเหมือนกับไม่มีสิ่งไรเกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่เขากลับมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยความเฉยชาเหมือนเดิม

“ปล่อยธนูต่อไป ดูสิว่าพวกมันจะทนได้นานแค่ไหน”เวินอ๋องสั่งคำสั่ง ธนูก็กลับโหดร้ายและแรงขึ้น

โม่ฉีหมิง ได้ยิ้มอย่างเย็นชา และได้หมุนตัวเดินกลับห้อง ภายในนั้นเขาได้ให้คนมาขุดทางลับใต้ดิน แค่เข้าไปในทางลับใต้ดินนี้ก็จะทะลุไปที่ถนนใหญ่

“ฉีหมิง นี้คือกับดักที่เวินอ๋องได้วางไว้ เพื่อที่จะจับเจ้า เจ้ารีบหนีไปให้พ้น” โล่หวินหลานได้รีบหนีจากทางหนีใต้ดิน

จับมือของโล่หวินหลานอย่างแน่วแน่ และพานางเข้าไปที่ทางหนีลับตรงทิศทางนั้นเดินตรงไป บนใบหน้าไร้ความรู้สึกและอารมณ์

“ข้าเข้าใจ”

แต่ว่า ก้าวเดินค่อยๆหยุดลง เขาหันหลบไป มีแต่ลูกศรธนูยิ่งลงมาบนพื้น

สายตาขอบโล่หวินหลานดูโหด ของโม่ฉีหมิงก็เช่นกัน

ข้างนอก เวินอ๋องได้ค่อยๆชูธนูในมือขึ้นมา และได้ทำการดึงเชือกให้ตรึง และลูกศรก็ได้ยิงเข้าห้องไปอีก1ดอก

“วินหลาน เจ้าตามหลังข้า ห้ามเดินออกจากข้าเด็ดขาด ”โม่ฉีหมิงจ้องมองตาของนาง

โล่หวินหลานได้พยักหัวอย่างแรง และได้ตามหลังเขาอย่างระยะประชิด

“พวกเจ้าหนีไปไหนไม่พ้นแล้ว “เวินอ๋องพูดอย่างดุร้าย

แค้นของวันนั้นที่นอกจิงจาว เขาจะแก้แค้นอย่างเด็ดขาด

“ฉินหยิ่น พานางหนีไป ”โม่ฉีหมิงพูดกับฉินหยิ่น

โล่หวินหลานได้ดึงมือของโม่ฉีหมิง ส่ายหัวอย่างแรง ไม่เอาไม่เอา ข้าจะไม่อยู่ห่างเจ้า

เชื่อฟัง โม่ฉีหมิงได้พลักนางอย่างแรง มือถึงจะหลุดออก ทางนู้นก็มีลูกศรได้ยิงมาได้กำลังดีเพื่อให้เขาแยกจากกัน

ใครก็อย่าคิดหนี เวินอ๋องมองอย่างเย็นชา ได้สั่งการ รอบล้อมพวกเขาไว้ ข้าจะต้องได้เขอศพของทุกคน

ทหารรอบๆนั้นได้ขยับได้หาพวกเขาอย่างเชิงช้า โม่ฉีหมิงรอบนี้เอาคนมาไม่ได้เยอะมากมาย แต่ก็เป็นแต่คนมีฝีมือเยี่ยมยอด สำหรับพวกเขาจำกัดคนพวกนี้ไม่ได้ด้อยเท่าไหร่

โม่ฉีหมิงได้ออกดาบอย่างว่องไวดั่งเงาดำ แค่แวบเดียวได้สังหารคนจำนวนนับไม่ถ้วน แต่นั้นก็ได้กำจัดทหารพวกนั้น และได้ทำการพลัดโล่หวินหลานไปข้างกายฉินหยิ่น

“องค์หญิ่งไปกับข้า ”ฉินหยิ่นดึงมือโล่หวินหลาน พานางหนีไป

แต่ทะว่าเดินได้แค่ไม่กี่ก้าว กองกำลังทหารได้โจมตีเลื่อยๆ ฉินหยิ่นขว้างมีดใหญ่ไปอย่างเดือด จนเลือดแดงได้สาดไปโดนหน้าโล่หวินหลานเล็กน้อย

ฟังคำข้า จงไล่ตามฝั่งประตูทิศตะวันออก เวินอ๋องได้สั่งการ ส่วนนึงของทหารได้รีบนำทัพไปที่ประตูทางทิศตะวันออก

ฉินหยิ่นได้จับมือของโล่หวินหลาน เยียบพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาว หลบไปทางประตูทิศตะวันออก ตามหลังก็ยังเป็นเสียงที่ดังมาเป็นตอนๆ

ฉินหยิ่น ข้าจะกลับไป โม่ฉีหมิงยังอยู่ข้างใน เจ้าได้ยินมั้ย โล่หวินหลานได้ตะโกนอย่างกังวลใจและไร้สิต

องค์หญิง พวกเราต้องรีบออกจากที่นี่บัดเดี๋ยวนี่ ไม่งั้นท่านอ๋องจะได้ไม่มีเรื่อง ฉินหยิ่นกล่าว

โม่ฉีหมิงให้เขาทำภารกิจนี้ เขาก็ต้องทำสำเร็จ โดยฉะเพราะคนที่ท่านอ๋องตระหนักไว้

เมื่อหมุนตัว ประตูหลังกลับมีเงาดำปรากฎ คนนำคือ เวินอ๋อง เขากับมาถึงที่นี่ได้อย่างชับไว

“ที่นี่คือพระตำหนักของ เวินอ๋อง พวกเจ้ายังอยากจะหนีไปหนใดอีก” เสียงอันเย็นชาของเวินอ๋องได้ดังอยู่ที่ข้างหูพวกเขา

เวินอ๋อง พวกเจ้าตกลงกันก่อนแล้วใช่มั้ย โล่วินหลายกัดฟันพูด

ยังจะต้องตกลงกันอยู่หรอ ตั้งแต่เขาได้เข้ามาช่วยเจ้า ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่มีสิทธิ์์ที่จะมีชีวิตรอดแล้ว เวินอ๋องยิ้มอย่างเยือกเย็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก