ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 379

ตอนที่ 379 ความเป็นความตาย

มองจากสายตาอันชั่วร้ายของ เวินอ๋อง โล่หวินหลานหวังรู้ว่าเขาไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ ไม่แน่อาจจะใช้ตัวเองมาขมขู่โม่ฉีหมิง

“เวินอ๋อง นางอยากทำยังไงก็ได้ นางปล่อยพวกเขาไป แล้วแต่นางจะทำอัไรกับข้าก็ได้” โล่หวินหลานยักคิ้ว หนึ่งก้าวหนึ่งก้าวค่อยๆเดินเข้ามาตรงหน้า

ลองใช้วิธีนี้มายับยั้งความโกรธในใจเขาโล่หวินหลานค่อยๆเดินเข้ามา ระหว่างนั้นก็กำแน่นมีดอันเย็นฉาบในแขนเสื้อตัวเอง

เข้าใกล้เวินอ๋องเพื่อเป้าหมายของเขาแต่ว่ายังเดินไม่ถึงหน้าเขาเวินอ๋องกลับแฉเป้าหมายของเขา

“เหอซื่อ นางจะแอบโจมข้าใช่หรือไม่ ครั้งนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นไม่ต้องคิดว่าครั้งนี้”นางจะสำเร็จเวินอ๋องเสียงเริ่มต่ำ ฝีเท้าของโล่หวินหลานได้หยุดลง

ฉินหยิ่นกัดฟันดึงโล่หวินหลานกลับมาเขาพุ่งไปด้านหน้าของเวินหวังการกระทำทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกันเสียงดาบดังสนั่นเสียงนั้นดังอยู่ข้างหู

โล่หวินหลานมองดูร่างที่วุ่นวายของทั้งสองลูบไปที่ผ้าคลุมของนางความจริงแล้วกิ๊บหยกลายผีเสื้อนั้นนางตั้งใจจะนำมายึดกับเข็มเงิน

นางมุ้งเป้าไปการ์ดที่อยู่ใกล้กับแนวทางกระแทกเข้ากับหลุมหลับของเขา

นางหายใจแรงค่อยๆถอยออกด้านหลังร่างกายของนางติดกับกำแพงอันเย็นเยือกการ์ดข้างหน้าถือดาบแน่นชั่วพริบตาดาบก็ไปอยู่บนคอของนาง

"ยังคิดจะใช้เข็มอยู่อีกหรือ?" การ์ดแย่งเข็มหยกในมือของนางเหยียบไปมา

ดาบที่เย็นนั้นอยู่ใกล้คอนางคนคนนั้นแค่เดินเข้ามาใกล้อีกก้าวดาบนั้นก็แนบอยู่บนคอของนาง

นิ้วของนางประสานกันแน่นด้านหลังและกระซิบ"ออกไป!"

ฉินหยิ่นที่อยู่อีกฝั่งในใจของเขารู้สึกไม่ดีเพื่อจัดการกับเวินอ๋องทำให้เหอซื่อต้องตกอยู่ในอันตราย

ชักดาบออกมาสู้กันอย่างรวดเร็ว สมาธิไม่อยู่กับตัวดาบสุดท้ายทำให้เวินอ๋องได้เปรียบและบาดเจ็บ ดาบแทงไปที่หัวใจ เขาจับตรงที่หน้าอกของตนล้มลงบนพื้นหิมะและกระอักเลือด

"ฉินหยิ่น!" โล่หวินหลานตะโกนเรียกอย่างรีบร้อน ยังช่วยตัวเองไม่รอดแล้วจะไปช่วยเขาได้ยังไง?

เวินอ๋องที่อยู่ด้านบนมองลงข้างล่างอย่างรู้ชัดทุกอย่างค่อยๆเดินไปหาโล่หวินหลานและหยุดอยู่ด้านหน้าของฉินหยิ่นใช้ดาบชี้ไปทางเขา

"ข้าจะทำให้นางดูว่าข้าฆ่าขี้ข้าโม่ฉีหมิงยังไง"เวินอ๋องหัวเราะอย่างสะใจ

ใช้มีดฉับไวเป็นเพียงแค่กลยุทธ์ชั่วพริบตาแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง"ตัง"!ดาบในมือของเวินอ๋องก็แตกออก

ชั่วพริบตาโม่ฉีหมิงก็ปรากฎอยู่หน้าเขา

ด้านหลังของเขามีผู้ติดตามตามมาด้วยลมยามค่ำคืนมาทันเวลาการต่อสู้ครั้งนี้เปลี่ยนแพ้เป็นชนะ

"โม่ฉีหมิง?"เวินอ๋องตกใจนิดหน่อยเห็นเขาใกล้เข้ามาก็จะพุ่งตัวไปที่โล่หวินหลาน

แล้วอะไรโม่ฉีหมิงจะให้เขาได้ใจพุ่งตัวไปทางเขาพร้อมกับดาบในมือแทงดาบไปที่ด้านหน้าจมูกของเขาเฉียดทุละกำแพงด้านหลัง

ใบหน้าของโม่ฉีหมิงเต็มไปด้วยเลือดสดเพิ่งจะรบเสร็จไปหนึ่งสนามในเวลานี้ยิ่งเหมือนผู้ชนะจากขุมนรกกลับมา เขาเย็นชาดุจน้ำแข็ง

"สุดท้ายเจ้าก็แพ้"โม่ฉีหมิงพูดอย่างเย็นชา

เวินอ๋องนิ่งและหันกลับมา" ข้าแพ้แล้ว? เจ้าดูสิ คนของเจ้ายังอยู่ที่นั่น"

เขาชี้ไปที่โล่หวินหลานอยู่ในตอนนั้นดาบที่ชุ่มไปด้วยเลือดแนบอยู่บนคอของนาง สายตาของนางหวาดกลัวและสิ้นหวัง

สุดท้ายตัวเองก็กลายเป็นเบี้ยต่อรองของพวกเขาไม่ว่าจะอยู่หรือตายน้ำหนักระหว่างชนะหรือแพ้ก็ยังเป็นตัวสำคัญในการตัดสิน

เพราะเขาประมาทเกินไปถึงทำให้เวินอ๋องได้โอกาสนึกว่าตัวเองจะช่วยทุกคนได้แต่ใครจะไปรู้ว่าจะโดนจับมาด้วย

โม่ฉีหมิงมองย้อนกลับไป หลับตาลงสักพัก ดาบที่เปื้อนเลือดบนมือชี้ไปทางเวินอ๋อง

โม่ฉีหมิงกัดฟันพูด "นางโอเคดีก็ดี แต่ถ้าบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียวคืนนี้ข้าจะทำลายทุกอย่างในเวินอ๋อง"

เสียงยังคงเย็นชาแต่โทนเสียงที่โกรธแค้นนั้นสามารถฟังออกได้ชัด

เหอซื่อเป็นใครกันแน่ทำไมทำให้โม่ฉีหมิงพูดคำพวกนี้ออกมา?

เวินอ๋องหัวเราะไม่สนใจคำขู่ของโม่ฉีหมิงและพูดอย่างใจเย็น"เหอซื่อเพิ่งจะถึงเมืองหวันฉีไม่นานเจ้าก็จะทำร้ายคนของเวินอ๋องเพื่อนาง?ตัวตนของนางไม่ง่ายเลย"

เขาเดินไปด้านหน้าของโล่หวินหลานอย่างช้าๆเอื้อมมือไปหยิบดาบของการ์ดและนำตัวของนางไปสวนหลักของเวินอ๋อง

เขารู้ชัดอยู่ในใจแล้วว่าถ้านางยังอยู่ในมือเขาโม่ฉีหมิงไม่มีทางทำอะไรเขาได้เพราะนางเป็นหมากสำคัญ

"เวินอ๋อง เจ้ายอมแพ้เถิด ข้าจะบอกเขาไว้ชีวิตเจ้าเรื่องในคืนนี้ก็ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"โล่หวินหลานมองดูที่มีดของตนและกระซิบบอกเวินอ๋อง

เสียงนี้มีแค่เขาสองคนที่ได้ยินเวินอ๋องถามด้วยโทนเสียงต่ำ"กลัวแล้ว?"

"เจ้าเชื่อข้าข้ามีวิธีโน้มน้าวเขา"โล่หวินหลานพูดเสียงเบา"ไม่งั้นเจ้าไม่มีทางหนีไปได้หรอก"

เวินอ๋องยิ้ม"ไม่คิดเลยว่าเวลานี้เจ้ายังคิดเพื่อข้าแต่น่าเสียดายข้าไม่คิดจะหนีข้ากลายเป็นตัวอะไรข้าก็จะทำให้เจ้าเป็นเหมือนข้า เจ้าไม่กลัว?

โม่ฉีหมิงที่อยู่ไม่ไกลจับดาบในมือของเขาแน่นคนที่อยู่หลังเขาพร้อมจะพุ่งไปด้านหน้าเสมอ

สายตาของเขานิ่งแต่ก็ยังมีความตื่นเต้นนิดหน่อย

"โม่ฉีหมิง เรามาเล่นสักเกมกันหน่อยดีหรือไม่?"เวินอ๋องบอก

โม่ฉีหมิงขยับตัวตามดาบของเขาแต่กลัวว่าดาบของเขาจะไปโดนคอของโล่หวินหลาน

เวินอ๋องลากโล่หวินหลานเดินเข้ามาใกล้คนมีมากกว่าสามส่วนสองของสวนแล้วแต่ว่าระยะทางยังห่างโม่ฉีหมิงอีกไกล

"เรามาแข่งกันดูว่าดาบข้าเร็วกว่าหรือเท้าเจ้าเร็วกว่าหากเจ้าสามารถช่วยนางก่อนที่ดาบข้าจะแทงนางได้ถือว่าเจ้าชนะ" เวินอ๋องพูดอย่างเย็นชา

ใครก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้คนอย่างโม่ฉีหมิงไม่มีทางตกลงแน่นอน

เวินอ๋องเสนอเกมนี้ขึ้นมาเพียงเพราะว่าอยากเห็นปฏิกิริยาของโม่ฉีหมิงเป็นอย่างไรและสุดท้ายก็จะขอให้ได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการ

"เจ้าไม่ตอบ ข้าจะถือว่าเจ้าตกลง" เวินอ๋องพูดเสียงนิ่ง

ตาของโม่ฉีหมิงเป็นสีแดงมือทั้งสองจับดาบแน่นตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากสิงโตที่โดนยั่วโมโห

"ช้าก่อน" เสียงของเขาค่อนข้างหงุดหงิด "ปล่อยนางไปแล้วข้าจะยอมเจ้าทุกอย่าง"เวินอ๋องมองอย่างสนใจและกำลังคิดอะไรสนุก"เจ้าตัดมือขวาของเจ้าทิ้งซะตอนนี้"

ผู้คนมากมายต่างตกตะลึงพวกเขารู้ว่าโม่ฉีหมิงทำตามที่เวินอ๋องพูดแน่นอน ในตอนนั้นทุกคนต่างโกรธแค้นและคิดอยากจะห้าม โล่หวินหลานตะโกนอย่างขาดจากอยู่อีกฝั่ง

"อย่าไปเชื่อเขา หากเจ้าไม่มีมือขวาแล้วเจ้าก็จะเสียเปรียบแล้วเจ้าจะช่วยข้าได้ยังไง?"

มองไปที่ตานางโม่ฉีหมิงไม่มีความลังเลยกดาบของตนขึ้นและเหวี่ยง ดาบตกลงที่มือซ้ายของตน

แสงของดาบสะท้อนออกมาจากตาของโล่หวินหลานนางกัดฟัน โม่ฉีหมิงไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ อย่าพูดถึงมือเลยแม้แต่ชีวิตเขาก็ยอมสละมันเพื่อนาง

"ข้าทำตามที่พูดเพียงแค่เจ้าตัดมือขวาทิ้ง นางก็จะไม่ได้รับอันตรายใดๆ" เวินอ๋องเพิ่มไฟ

"เจ้าหุบปาก!" โล่หวินหลานตะโกนและดึงปิ่นปักผมของตนหันกลับไปแทงที่คอของเวินอ๋อง

แต่ตอนนี้หันกลับไปก็เจอกับดาบที่เขาไม่สมามรถหลีกเลี่ยงได้ใครจะไปรู้ว่าเขาไม่คิดถึงความเจ็บปวดเลยเวินอ๋องชักดาบกลับ

ปิ่นหยกของนางที่ยังไม่ทันจะแทงเข้าที่คอของเวินอ๋อง อยู่ๆก็มีมือยื่นเข้ามากอดนางแน่น

ทันใดนั้นฝนดาบก็ตกลงมาโม่ฉีหมิงกอดนางไว้ในอ้อมกอดของตนไม่ให้นางมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หน้าผากของนางเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ริมฝีปากซีดขาว กอดเขาอย่างแน่น ฟังเสียงดาบที่ตกกระทบกัน

"ฆ่าทิ้งซะ อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"

สุดท้ายนางได้ยินเสียงของโม่ฉีหมิงที่ออกคำสั่งอย่างเย็นชา

และ

เขากุมมือทั้งสองข้างของตน

ดีจังมือขวายังอยู่

ผ่านไปสักพัก รอบข้างเงียบสงบ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

โม่ฉีหมิงพาโล่หวินหลานออกไปก่อน มองดูใบหน้าซีดขาวและดวงตาที่สั่นของนาง นางคงตกใจแย่

แต่ว่าไม่คิดเลยว่าเวินอ๋องไม่ลงมือกับนางตอนที่นางหันตัวกลับกลับชักดาบออกไปอีกทาง

ไม่ใช่ว่ารู้สึกกับนางหรือไม่กล้าลงมือกับนางแต่กลัวว่าตนจะแพ้ให้กับเวินอ๋อง

มีรถม้าจอดอยู่ข้างนอก เห็นโม่ฉีหมิงออกมาคนขับรถม้าก็รีบลงจากรถ เปิดม่านออกให้ทั้งสองเข้าไป

โม่ฉีหมิงถอนหายใจด้วยความที่โล่งอก มองดูโล่หวินหลานที่อยู่ในอ้อกอดของตน และออกคำสั่ง"กลับเมือง"

คนขับรถม้าพยักหน้าตอบรับ"รับทราบครับ"

รถม้าเดินผ่านถนนที่ไร้ซึ่งผู้คนจอดอยู่ที่พระตำหนักหมิงหวัง

โม่ฉีหมิงเงียบมาตลอดทางเพียงแค่ต้องการที่จะกอดโล่หวินหลานแน่นๆมองดูนางที่เป็นของตนเอง

เข้าไปพระราชตำหนักหมิงหวัง เขาขยับตัวอย่างอ่อนโยนโล่หวินหลานกลับห้องนอน ห่มผ้าให้ แสงจันทร์จากนอกหน้าต่างส่องบนใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน เงียบแต่งดงาม

เขาบรรจงจูบอย่างอ่อนโยนบนหน้าผากของนาง การกระทำนั้นเต็มไปด้วยความสงสารและเจ็บใจ

หลังจากนางตื่นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว

นางยังเป็นโล่หวินหลานคนก่อนคนที่เป็นของเขา

พวกเขายังเป็นเหมือนเดิมอยู่ในวังตามที่เคย ลืมตาขึ้นมาทุกวันก็มองเห็นกันและกันไม่ต้องข้ามไปอีกวังเพื่อตามหากันอีก

ท้องฟ้าด้านนอกนั้นสงบอย่างที่เคยมีมาและเมฆดำหนาก็ปนอยู่บนท้องฟ้าราวกับว่าฝนจะตกตลอดเวลา

เขาตักน้ำหนึ่งถังเช่นรักษาสิ่งของมีค่าที่เปราะบาง เช็ดเลือดบนใบหน้าของโล่หวินหลานด้วยผ้าขนหนู

หยดเลือดสีแดงที่น่ากลัวบนใบหน้าของนางมองเห็นได้ชัดเหมือนกับว่านางได้รับบาดเจ็บ

หนึ่งปีกว่าแล้วที่ใจเขาไม่เคยสงบได้ขนาดนี้

โม่ฉีหมิงออกจากห้องโดยที่ยังไม่ได้จัดการกับรอยเลือดของตน เขาไปที่ห้องหนังสืออย่างรีบร้อน

แน่นอนว่าเย่เฟิงกำลังรอเขาที่ประตูห้องหนังสือแล้ว

เข้าไปจุดเทียนโม่หมิงถามว่า" จัดการเรียบร้อยหรือไม่?"

เย่เฟิงพยักหน้าตอบเขา"จัดการกับนักฆ่าของเวินอ๋องไปเรียบร้อยแล้วและจัดการกับพระตำหนักของเวินอ๋องให้เหมือนกับว่ามีศัตรูมาแก้แค้น ทำลายทุกอย่างที่เกียวข้องกับพวกเราหมดแล้ว"

โม่ฉีหมิงพยักหน้าหลังจากฟังที่เย่เฟิงตอบเขา

"อย่าเพิ่งได้ใจพวกแม่ตำหนักในตำหนักของเวินอ๋องรู้แน่ เจ้าเอาเงินไปปิดปากพวกนั้นซะ" เวินอ๋องพูดเสียงเข้ม

"รับทราบ" เย่เฟิงพยักหน้า

"อาการบาดเจ็บนของฉินหยิ่นเป็นอย่างไรบ้าง" ฉินหยิ่นก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน

"ให้หมอหลวงไปดูอาการแล้วครับ คุณหมอจ่ายยาแล้วและให้เขาพักผ่อนเรียบร้อยแล้วครับ" เย่เฟิงตอบกลับ

โม่ฉีหมิงกำมือแน่นดวงตามืดมนและเย็นชา นี้เป็นโอกาสดีแต่กลับปล่อยให้เวินอ๋องหนีไปได้

"เจ้าแอบส่งคนไปตามล่าเวินอ๋อง ไปดูว่าเขาไปที่ไหน" โม่ฉีหมิงขมวดคิ้ว

หากหาเวินอ๋องไม่เจอ เขาก็รู้สึกใจไม่สงบ

ออกจากห้องหนังสือไม่รีรอที่จะกลับห้องนอน คนในห้องนอนหลับอย่างสงบ

ใจของเขาสงบขึ้นมาทันทีและเข้านอนอย่างสงบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก