ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 380

ตอนที่ 380 ความรักที่ชื่นมื่น

ภายในตำหนักหมิงอ๋องมีความสงบร่มลื่น หิมะในยามเช้าได้ตกลงบนพื้นดิน ทำให้หิมะที่มีอยู่แล้วเพิ่ขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น

แสงแดดในยามเช้าได้ส่องเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่าง ผ่านผ้าม่านที่มัวๆและตกกระทบบนร่างกายของสองคน

เจ็บทั้งตัวไปเลย และที่แขนก็เมื่อยมาก โล่หวินหลานบิดตัวแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ชนกลับร่างกายอันอบอุ่นที่อยู่ข้างๆ

สมองของนางตื่นขึ้นมาทันที หันตัว แค่เห็นโม่ฉีหมิวกำลังจับที่คาง และมียิ้มร้ายๆบนใบหน้า ไม่รู้ว่าจ้องนางอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้ว

"เจ้า มองอะไร? "โล่หวินหลานโดนเขาจ้องจนเจิน

ก้มหัวมองร่างกายของตัวเอง เสื้อ ผ้าอยู่ครบ สายตามองไปที่ร่างกายของเขา เสื้อผ้าก็มีอยู่ครบ เมื่อคืนสองคนนี้ไม่ได้ทำอะไรกัน

"หรือว่าเจ้าอยากจะให้มีอะไรกันระหว่างพวกเรา? "โม่ฉีหมิงพูดแบบกระทันหัน

เห็นสายตาของนางมองไปมองมาระหว่างร่างกายของสองคน โม่ฉีหมิงยิ้แบบสักคิ้ว

เห็นรอยยิ้มร้ายไปของเขา โล่หวินหลานรู้ว่าเขาคิดไปแล้ว ใบหน้าเริ่มแดง

"ส่วนหลังของเมื่อวานเป็นเช่นไร? รู้สึกว่าเวินอ๋องไม่ได้ทำร้ายข้า "โล่วินหลายกำลังคิดถึงเรื่องเมื่อวาน ตอนถึงครึ่งนึง สมองก็เริ่มเบลอ

พูดถึงเงินอ๋อง สายตาของโม่ฉีหมิงก็เริ่มเย็นชา สายตาที่ยังเอ็นดูของเมื่อกี้ ตอนนี้กลายเป็นไม่น่าเอ็นดูแล้ว

เขาพยักหน้าแบบสีหน้าไม่เปลี่ยน อืม

"เวินอ๋องไม่มีทางไปแล้ว ถึงกับว่าต้องใช้วิธีนี้กำจัดเจ้า ดีที่เจ้ายังอยู่ดี "โล่หวินหลานมีความรู้สึกว่าตายแล้วเกิดใหม่

ถ้าเกิดเรื่องกับเจ้า ข้าก็ไม่รู้จะอยู่ต่อไปอย่างไร

"แต่ก็ปล่อยให้เขาหนีไปได้ เขาป้องกันไว้ตั้วแต่แรกแล้ว ขุดทางลัดที่ส่วนหน้าตำหนักตัวเอง หนีออกจากทางลัดแบบไม่มีใครรู้ "โม่ฉีหมิงรู้สึกเสียดาย

ถ้าตอนนี้จับเวินอ๋องได้ แล้วนำเรื่องที่ต้วนก้วยเฟยพูดไปบอกกับฮ่องเต้เจียเฉิง เวินอ๋องหนีไม้ได้แน่นอน

ตอนนี้ เขามีโอกาสแก้แค้น ไม่รู้ว่าจะลงมือทางลัดอย่างไร

"ทางลัด? "โล่หวินหลานพูดพรึมพรำ แล้วก็คิดได้ว่าที่เมื่อวานเขามาถึงหลู่หยวนจี ก็อาจจะเข้ามาจากทางลัด

"เวินอ๋องจับข้าขังไว้ เป้าหมายก็คือเจ้า ข้ากะว่าจะให้ไส้หยวยออกไปบอกกับเจ้า ให้เจ้าอยู่นิ่งๆแต่ก็ช้าไปก้าวนึง "โล่หวินหลานมองด้วยสายตาที่มีพลัง

โม่ฉีหมิ่งถอนหายใจ เล่นผมดำของนางเบาๆ ในคำพูดนั้นมีความรู้สึกเสียดาย "ถ้าเป็นเรื่องของเจ้า ข้าจะไม่ยอมปล่อยมัน

เขาอุสาเลิกแล้วคบใหม่ ก็จะไม่ให้มันมีความเสียหายแม้กระทั่งนิดนึง ไม่ว่าจะครอบครองนาง หรืออย่างอื่นก็ไม่ได้

สายตาของทั้งสองจ้องซึ่งกันและกัน โล่หวินหลานรู้จักเขา ในใจนั้นมีความรู้สึกหวาน ละก็ใจละลาย

"ลุกขึ้นซะ ยังมีเรื่องยุ่งอีกเยอะ ช่วงเวลานี้เจ้าอยู่ในตกหนัก ห้ามออกจากตำหนักไป รู้มั้ย? "โม่ฉีหมิ่งบีบที่จมูกของนางพูดด้วยน้ำเสียงออนหวาน

พักนี้เกิดเรื่องเยอะขนาดนี้ เขาแค่ไม่อยากให้นางเครียดกับโลกภายนอก เขาจะจัดการเรื่องทั้งหมดของข้าง

นาง

ทั้งสองแต่งตัวเสร็จ กำลังจะไปกินอาหารเช้าที่ห้องโถง แต่ยามที่หน้าประตูก็วิ่งมาพูดว่าบุตรของราชามาหา

โม่ฉีหมิงจับมืของโล่หวินหลาน และพานางกลับไปที่ห้องอีกที่นึง

ช่วงนี้สนิดกับเทพชา เรื่องตอนนั้นก็เป็นเเค่เรื่องเข้าใจผิด คนร้ายที่จริงก็คือต้วนกุ้ยเฟย เพราะฉะนั้นทั้งสองกำลังปรึกษากันว่าควรคุยเรื่องนี้กับเสด็จพ่ออย่างไร

“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี้ก่อนนะ ข้าจะนีบกลับมารับแระทานอาหารเช้ากับเจ้า”โม่ฉี่หมิงพูดด้วยความอ่อนหวาน

โล่หวินหลานเดินไปเดินมา บอกเขาให้รีบไป

ที่จริงเเล้วเขาไม่ตำเป็นที่จะลำบากเพื่อตนขนาดนี้ก็ได้ ไม่ต้องทำทุกอย่างให้ตนก่อน เขาสามาราทำเพื่อตัวของเขาเอง

เเต่นางรู้ว่าในใจของเขาก็มีเเค่นางคนเดียว

ออกจากห้อง รีบไปทางด้านห้องสมุด องค์รัชทายาทนั่งดื่มชารอเเล้ว เห็นเขาเข้ามาลุกขึ้นถาม

“ตกลงเมื่อวานมีเรื่องอะไร?ทำไมข้าได้ยินมาว่าเมื่อวานมีคนมาล้างเเค้นที่เวินอ๋องตำหนัก?”องค์รัชทายาทใช้สายตาที่สงสัยจ้องมองโม่ฉี่หมิง

“ใช่นายทำหรือป่าว?”

วันนี้เขาได้มาถึงที่นี้รู้เลยว่าเขามีคำตอบในใจอยู่เเล้ว เเล้วจะถามอีกริบทำไม

โม่ฉี่หมิงพูดเเบบไม่กลัวเลยว่า“ใช่!ข้าทำเองเเล้วทำไม?”

“ทำไมเจ้าต้องทำเเบบนี้?”องค์รัชทายาทพูดด้วยเสียงต่ำ “ทำเเบบนี้มันดีอะไรต้องพวกเรา?”

โม่ฉี่หมิงนั่งลง ยิ้มร้าๆเเล้วพูดว่า“ดีต่อพวกเราเยอะเลย”

สายตาอันเเหลมคมของโม่ฉี่หมิงจองมาที่องค์รัชทายาท รู้ว่าในใจเขามีเเต่เรื่องที่เราจะร่วมมือกันทำร้ายเวินอ๋อง

“นั้นนายว่ามาสิมีข้อดีอะไร?”องค์รัชทายาทอารมณ์เริ่มเย็นลง

โม่ฉี่หมิงทำท่าเตรียมจะพูด/ไอ“อย่างเเรก เวินอ๋องถูกศัตรูไล่ตาย หมายความว่าเขาทำเรื่องไม่มีด้านนอกเยอะ สอง พวกเราต้องใช้เรื่องนิมาล่อให้เรื่องเมื่อก่อนออกมา ให้ต้วนกุ้ยเฟยสารภาพเรื่องที่เคยทำมา

องค์รัชทายาทไม่ใช่คนโง่ องค์รัชทายาทก็รู้ว่าให้ต้วนกุ้ยเฟยสารภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เเต่โม่ฉี่หมิงพูดออกมาได้อย่างง่ายดาย หรือว่าเขามีเเผนการอะไรใหม่ๆ

“นายลองพูดมาสิ พวกเราควรทำอย่างไร?”องค์รัชทายาทขมวดคิ้วเเล้วถาม

“นี่ คนข้างตัวองค์รัชทายาทมีคนที่รู้เรื่องการสะกดจิตมั้ย?โม่ฉี่หมิงถามด้วยสายตาร้ายๆ

การสะกดจิต?อาคมที่เเลดูลึกลับขนาดนี้ องค์รัชทายาทเขย่าหัว

“นั้นก็ยากละ ถ้ารู้การสะกดจิต จะสามารถสะกดจิตให้ต้วนกุ้ยเฟยพูดเรื่องเมื่อก่อนออกมาว่าเกิดอะไรขึ้น”โม่ฉี่หมิงพูดเเบบเบาๆ

องค์รัชทายาทคิดเเล้วคิดอีก“ไม่มีทางอื่นเเล้วหรอ?”

“ตอนนี้ยังไม่มีทางอื่น”โม่ฉี่หมิงพูด

องค์รัชทายาทได้คิดดูอีกดีๆว่ามีคนเเบบนี้มั้ย ในสมองของเขามีเงาคนที่ตนรู้จักเลื่อนผ่านไปมา เเต่ก็ไม่มีสักคน

เขาขมวดคิ้วเเล้วมองมาทางโม่ฉี่หมิง“คนข้างนายมี?”

โม่ฉี่หมิงพยักหน้า“มีคนนึง พวกเราควรร่วมมือกันส่งนางเข้าวังไปสะกดจิตต้วนกุ้ยเฟย เเต่ว่าต้องว่าโอกาสที่ให้จาเฉิงตี่ได้ยินพอดี

สายตาขององค์รัชทายาทมีความสงสัยที่ไม่คิดเลยว่าคนของโม่ฉี่หมิงมีคนที่รู้การสะกดจิตคน คนนี้ไม่ธรรมดา

“นั้นข้าเป็นคนจักเตรียมเอง นายวางใจได้ เเล้วถาม “คนนั้นคือใคร?”

โม่ฉี่หมิงไม่ยอมบอก“ถึงเวลานั้นเจ้าก็รู้เอง”

ส่งองค์รัชทายาทออกไป โม่ฉี่หมิงก็รีบไปห้องของร่องหนุนหลาน ให้บ่าวจะดเตรียมอาหารเเล้วนำเรื่อใเมื่อกี้ที่คุยกับองค์รัชทายาทพูดอีกรอบ โล่หวินหลานมีเเต่พยักหน้า

อาลั่วหลันที่อยู่ด้านนอกก็มาเคาะประตู รู้ว่าเมื่อคือโล่หวินหลานอยู่ที่หมิงหวางตำหนักทั้งคืนเลยไม่อยากมารบกวน ตอนนี้เลือกเวลาดีเเล้วมา

เห็นสายตาอันทรงระวังของอาลั่วหลัน โม่ฉี่หมิงไอเบาๆรอบนึงเเล้วให้นางเข้ามา

“เสี่ยวฮัว เจ้าทำไม่ผอมลง?”อาลั่วหลันตาดี เเว็บตาเดียวก็สังเกตเห็นว่าโครงหน้าของโล่หวินหลานเล็กลง

“ผอมลงหรอ?เเต่เเบบนี้ก็ดี ตอนนี้อ้วนก็ไม่ใช่เกณฑ์ของความสวย”โล่หวินหลานพูดด้วยเสียงปลอบใจ

“เเต่ผอมก็ไม่ใช่เกณฑ์ของความสวยเหมือนกันนิ เจ้าไม่ได้กินข้าวมากี่วันเเล้วนิ?เวินกวางตำหนักรังเเกเจ้าใช่มั้ย?”อาลั่วหลันจับหน้านางเเล้วพูดด้วยความโกรธ

“ช่วงนี้เจ้าอยู่ที่หมิงกวางตำหนักเป็ยไงบ้างหล่ะ?เหอหมิงซีดีต่อเจ้าหรือป่าว?”คนที่โล่หวินหลานคิดถึงที่สุดก็คืออาลั่วหลันนิเเหละ

ตั้งเเต่ที่โชกุนจากไป ก็เหลืออาลั่วหลันอยู่ที่เมืองว้านฉี่คนเดียว คิดว่าน่าจะเหงาเเน่เลย

ถ้ามีหมิงซีอยู่เป็นเพื่อนด้วยคน ชีวิต2คนยังไงก็ดีกว่าชีวิต1คน

“หมิงซี เขา เขาก็ดีต่อข้าอยู่นะ”อาลั่วหลันเขิลเลยไม่กล้าพูดต่อไป

“นั้นก็ดีละ ช่วงนี้ข้าอยากเขียนจดหมายถึงเจ้ามากเเต่ก็ไม่มีโอกาส ตอนนี้เห็นเจ้าดีใจขนาดนี้ข้าก็วางใจละ”โล่หวินหลานปรบๆมือของนาง ให้นางไม่ต้องเป็นห่วง

“เจ้าไม่ใช่อยู่ที่ตำหนักของเวินอ๋องหรอ?จะมาอยู่ค้างคืนที่หมิงกวางตำหนักได้อย่างไร?”อาลั่วหลันถามด้วยความตกใจเเละสงสัย

หรือว่า นางไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเวินอ๋องละ หลังจากนี้จะอยู่ที่หมิงหวางตำหนักบ่อยๆใช่มั้ย?

โล่หวินหลานพยักหน้า เเต่นางได้เเค่ซ้อนอยู่ในด้านในตำหนักหมิงอ๋อง

“ดีเลย!อาลั่วหลันเกาะไหล่ของโล่หวินหลานไว้เเน่น เหมือนจะหายใจไม่ออก

“คราวหลังพวกเราก็จะได้เจอกันบ่อยๆ เยาะล้อเล่นด้วยกันได้

“ใช่”โล่หวินหลานพยักหน้า เเตะๆผมของนาง

ตั้งเเต่ที่นางมาถึงเมืองโม่ฉี ก็คือนางที่อยู้ข้างตนตลอด ถึงจะนำนางมาที่หมิงหวางตำหนักเเล้ว ข้างตัวก็ต้องมีหมิงซีเป็นเพื่อนถึงจะไม่เหงา

ทั้งสองที่ไม่ได้เจอหน้ากันหนาเหมือนมีเรื่องที่พูดไม่จบ โล่หวินหลานฟังนางพูดเรื่องทุกเรื่องที่หมิงหวาฝตำหนัก เเล้วรู้สึกนี้เเหละคือความทรงจำที่ล้ำค่า

อาลั่วหลันพูดจนหยุดไม่ได้ เวลาที่สองคนได้อยู่ด้วยกันนั้นสั้นจนเจ็บใจเเทน ถึงตอนนี้จะได้อยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกโอกาสนี้ยากมาก

เรื่องเมื่อวานก็ไม่พูดต่อๆกันจนถึงวในวัง เขาเล่าลือกันว่าเวินอ๋องมีศัตรูด้านนอกเป็นโหลๆ จนทำให้มีอันตรายถึงชีวิต

ต้วนกุ้ยเฟยตบมุมโต๊ะอย่างแรง ถามด้วยความโกรธว่า“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่?ทำไมอยู่ดีๆก็โดนล้างเเค้นละ?”

เย่เซียวหลัวสวมใส่ผ้าปิดหน้าสีเหลือออกมาจากด้านใน เเล้วสะบัดมือให้บ่าวที่อยู่รอบข้างออกไป เเล้วนั่งข้างๆต้วนกุ้ยเฟย

“เรื่องที่ไม่เป็นจริงพวกนี้ไม่ต้องไปเชื่อหรอก ไม่เเน่นี้อยากจะเป็นเเค่กับดัก ให้ลูกสะภัยไปดูก่อนจะดีกว่า”เย่เซียวหลัวเปิดปากพูดด้วยเสียงงเบาๆ

ตอนนี้ในใจของเย่เซียวหลัวคิดว่าไม่เรื่องจริงก็ต้องเป็นเรื่องเท็จ ในทั่วจิงเฉิงไม่มีใครกฃ้าลองดีกับเวินอ๋อง

“ใช่ เจ้ารีบไปดูที่เงินกวางตำหนัก”ต้วนกุ้ยเฟยพูด

เห็นต้วนกุ้ยเฟยกังวลใจ ในใจของเย่เซียวหลัวก็ยิดีใจ

เสด็จแม่ นั้นสะภัยไปก่อนนะ”เย่เซียวเมิพยักหน้า หันหลังกลับเเล้วออกจากประตู

อยากให้นางไปแอบฟังข่าวคาวของตำหนักเวินอ๋อง รู้ว่าใจของนางนั้นอยู่ที่เวินอ๋อง คล้ายเหมือนว่าจะกลืนกินนางเข้าไป

เห็นว่าที่ตำหนักเวินอ๋องโดนแก้แค้น เย่เชียวหลัวพริกไปพริกมาก็คิดไม่ออกว่ามันเป็นพวกไหน แค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันมาอย่างกะทันหัน

ตำหนักเวินอ๋องสภาพเหมือนโดนขโมยของและพื้นเต็มไปด้วยหิมะที่เปื่อนเลือด เย่เชียวหลัวรู้สึกอยากกระอักคล้ายอยากอ้วก เดินเข้าตำหนักเวินอ๋องอย่างเชื่องช้า

ช่วงเวลาที่นางไม่อยู่ มันเกิดเรื่องเยอะขนาดนี้เลยหรอ ตำหนักเวินอ๋องถึงๆด้ตกต่ำถึงขนาดนี้ และไม่เคยมีใครเข้ามาก่อน

เวินอ๋องก็ไม่อยู่ เขาไปอยู่ที่ไหนกันแน่?

คือมีใครอยากทำให้เวินอ๋องตายหรอ?

นางก้มลงและลูบหิมะบนพื้น สายตาดูเหมือนคิดมาก ศพที่เกลื่อนพื้น เสมือนว่าจะจินตนาการได้ถึงเหตุผลสู้ลบเมื่อคืน

เหอซื่อ ต้องเป็นเหอซื่อแน่นอนนางรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เหอซื่อเป็นคนของโม่ฉีหมิง เหอซื่อไปหาคนร่วมมือจากคนของโม่ฉีหมิง วางแผนที่จะรอบสั่งหารเวินอ๋อง

โทษที่เมื่อก่อนนางใสซื่อเกินไป นางเชื่อว่าเหอซื่อคือจริงใจต่อเวินอ๋อง ไม่คิดว่า ให้คนทรยศคนนึงแต่งงานกับเวินอ๋อง

เย่เชียวหลัวตกใจและคอยๆถอยหลัง ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก