ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 386

ตอนที่ 386 แผนในแผน

ไม่รู้ว่าทำไม เสียงของโม่ฉีหมิงมันเหมือนมีอำนาจที่ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ คำสั่งของเขา แม้แต่รัชทายาทก็ยังไม่กล้าปฏิเสธ

หลังจากที่รัชทายาทกลับไปแล้ว โม่ฉีหมิงก็เดินมายังหลังฉากบังลม แล้วก็โอบตัวโล่หวินหลานไว้

“ต้องไปสอบสวนคนพวกนั้นตอนนี้เลยหรอ?” โล่หวินหลานเงยหน้ามองเขา

โม่ฉีหมิงพานางกลับมาที่ห้อง แล้วเรียกไซ่เย่วมา แต่งหน้าทำผมนางให้เป็นผู้ชาย จากนั้นก็ไปหาเสื้อผ้าผู้ชายมาให้นางใส่

“เดี๋ยวเจ้าไปที่คุกหลวงกับข้า เพื่อจำเป็น” โม่ฉีหมิงมองมาที่นางอย่างจริงจัง

เรื่องที่จะทำหลังจากนี้สำคัญมาก จะให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด หากไม่เตรียมตัวให้พร้อม ไม่มีทางสะกดจิตให้ต้วนกุ้ยเฟยหลับได้แน่นอน

โล่หวินหลานพยักหน้า แล้วส่งสายตาให้เขาวางใจ

“เดี๋ยวเจ้าตามอยู่ข้างๆตัวข้านะ หากมีใครถามว่าทำไมเจ้าถึงมาที่คุกหลวงได้ เจ้าก็บอกไปว่าถูกคนกลุ่มนี้ทำร้ายอีกทั้งยังถูกจับตัวไป เวินอ๋องไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ข้าเป็นคนช่วยเจ้าออกมา” โม่ฉีหมิงมองไปที่ตาของนาง แล้วพูดเสียงนิ่ง

เสียงของเขาเหมือนมีเวทย์มนต์ แต่คำมันค่อยๆเข้าไปในหูของโล่หวินหลานอย่างช้าๆ

หากไม่พูดแบบนี้ นางมาปรากฏตัวกับโม่ฉีหมิงจะทำให้คนอื่นสงสัยได้

ต่อให้โม่ฉีหมิงไม่พูด นางก็หาคำแก้ตัวเอาไว้แล้ว

โล่หวินหลานแต่งการเหมือนกว่าคุณชาย ไซ่เย่วเขียนคิ้วให้นางหนาหน่อย แต่ว่าดวงตาของนางมันก็ยังแตกต่างอยู่ดี

การกระตุกปลายตา มันเป็นนิสัยเคยชินของนาง

ไม่มีผู้หญิงคนนั้นทำแบบนี้ได้ มีเพียงนางคนเดียวเท่านั้น อาจพูดได้ว่า ดวงตาของนางคู่นี้ แตกต่างกับโล่หวินหลานคนก่อนมาก

“ไม่เลว” โม่ฉีหมิงพยักหน้าอย่างพอใจ

ยังดีที่แต่งตัวไม่เหมือนผู้หญิง ไม่งั้นคงมีคนแอบมองแน่ ผู้หญิงของโม่ฉีหมิง ต่อให้ไม่สวย ก็จะถูกคนอื่นลวนลามทางสายตาไม่ได้เด็ดขาด

“ไม่เลวแค่นั้นเองหรอ?” โล่หวินหลานยิ้ม

“ไม่เลวจริงๆ” โม่ฉีหมิงยิ้มตอบ

“หากข้าไปที่ยองเชียงโหลวพร้อมกับเจ้า เจ้าว่าเสน่ห์ของใครจะมีมากกว่ากัน?” โล่หวินหลานได้คืบจะเอาศอกแล้ว

เมื่อพูดจบ สายตาของโม่ฉีหมิงก็นิ่งลง สายตาของเขาเหมือนจะมองทะลุตัวโล่หวินหลาน

“พูดเหลวไหลอะไรกัน?” โม่ฉีหมิงตำหนิเบาๆ

สถานที่แบบนั้น เขาจะไปได้ยังไง? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโล่หวินหลานเลย

โล่หวินหลานรู้ว่าเขาล้มเล่นไม่เป็น นางก็ไม่ได้สนใจ ใครจะไปคิดว่าเขาจะโกรธ

“ต่อไปถ้าพูดแบบนี้อีก ข้าจะลงโทษเจ้า?” โม่ฉีหมิงโอบตัวนางเอาไว้ แล้วเดินออกไปอย่างไม่พอใจ

โล่หวินหลานพยักหน้า เหมือนอยากจะบอกว่าท่าทางของเขาแบบนี้ในสายตาคนนอก คงแขนหักไปแล้ว?

แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูด เขายังคงนิ่งอย่างจริงจัง ยิ้มแค่ไม่พูด ท่าทางดูน่ากลัวมาก

เมื่อขึ้นรถม้าไป สีหน้าของเขาดูดีขึ้น นั่งรถม้าราบรื่นมาจนถึงคุกหลวง

เมื่อมาถึงหน้าประตูคุกหลวง ก็เห็นรถม้าคันหนึ่งตรงมาจากทางด้านของวังหลวง

ฉินหยิ่นหลบเหลือบไปมอง แล้วก็เขยิบไปพูดข้างรถม้าว่า “ท่านอ๋อง เป็นรถม้าคันสีน้ำเงินเล็กคันหนึ่ง”

รถม้าสีน้ำเงินคันเล็ก? โม่ฉีหมิงคิด “ฉินหยิ่น เจ้าบังคับรถม้าไปตรงหน้าประตูทางออก ให้ห่างจากสายตาของพวกเขาหน่อย”

ฉินหยิ่นรับคำ แล้วก็บังคับม้าไป จากนั้นก็เลี้ยงไปทางด้านหน้า

กำแพงสูงที่หนาวเหน็บ โม่ฉีหมิงพลิกลงจากรถม้า แล้วพยุงโล่หวินหลานลงมา จากนั้นถึงให้ฉินหยิ่นบัคับรถม้าออกไป

“เราจะทำอะไรหรอ?” โล่หวินหลานถามอย่างสงสัย

โม่ฉีหมิงจูงมือของนางเอาไว้ แล้วก็เข้าไปตรอกด้านข้าง แล้วทำสัญลักษณ์ให้นางเงียบ

ไม่นานนัก รถม้าคันหนึ่งก็ผ่านไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“รถของต้วนกุ้ยเฟยหรอ?” โล่หวินหลานเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

หากรัชทายาทปล่อยข่าวเรื่องการสอบสวนนักโทษออกไปแล้ว ต้วนกุ้ยเฟยอาจจะอยู่บนรถม้าคันข้างหน้านั่น

“ใช่หรือเปล่า เราเข้าวังไปดูก็จะรู้ทันที” โม่ฉีหมิงจับมือของนางไว้ แล้วพานางไปยังวังหลวง

คนที่อยู่หน้าห้องอักษรคือจ้าวกงกง

เกิดอะไรขึ้น แม้แต่จ้าวกงกงขันทีคนสนิทของฮ่องเต้เจียเฉิงยังต้องอยู่ข้างนอกแบบนี้?

“ถวายพระพรท่านอ๋อง ...... พระชายาเวินอ๋อง?” จ้าวกงกงตาค้าง แล้วมองไปที่โล่หวินหลาน

ทำไมพระชายาเวินอ๋องถึงได้อยู่กับหมิงอ๋องได้ล่ะ?

หลังจากเกิดเรื่องที่ตำหนักเวินอ๋องทุกคนหายตัวไปหมด แม้แต่พระชายาทั้งสองก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน แต่ในเวลาแบบนี้องค์หญิงเหอซื่อกลับปรากฎตัวขึ้น แล้วเย่เซียวหลัวไปอยู่ที่ไหนล่ะ?

“จ้าวกงกง ข้าเอง” โล่หวินหลานพยักหน้า

จ้าวกงกงสะดุ้ง ไม่รู้ควรจะพูดอะไร

“ขอถามท่านกงกง ใครอยู่ด้านในงั้นหรอ?” โม่ฉีหมิงถาม

“องค์รัชทายาทพะยะค่ะ”

รัชทายาทจริงๆ โม่ฉีหมิงถามอีกว่า “รัชทายาทเข้าไปนานหรือยัง?”

“ไม่นานเท่าไหร่พะยะค่ะ”

โม่ฉีหมิงขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่โล่หวินหลาน แล้วพยักหน้าให้นาง ไม่นานนัก นางก็ถอยไปอยู่หลังเขา

เมื่อเปิดประตูห้องอักษรเข้าไป บรรยากาศที่เงียบสงบถูกทำลายลง ฮ่องเต้เจียเฉิงมองคนที่มาด้วยสายตาไม่พอใจ

“ข้าสั่งแล้วไม่ใช่หรอว่าห้ามใครเข้ามาทั้งนั้น ออกไปเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เจียเฉิงตำหนิ

รัชทายาทมองมาที่โม่ฉีหมิงอย่างตกใจ ตอนนี้เขาควรจะอยู่ที่คุกหลวงไม่ใช่หรอ?

“เสด็จพ่อ ลูกบังอาจเข้ามาเพราะมีเรื่องจะรายงานพะยะค่ะ” โม่ฉีหมิงคุกเข่าลงตรงระนาบเดียวกับรัชทายาท

“ตอนที่ลูกไปกวาดล้างกลุ่มนักฆ่าที่ด่านเย่นเหมิน ได้ช่วยตัวประกันออกมาได้และพาพระชายารองของเวินอ๋องกลับมาด้วยพะยะค่ะ ตอนนั้นนักฆ่าใช้พระชายารองเป็นตัวประกันข่มขู่เวินอ๋อง แต่ว่าเวินอ๋องยังเลือกที่จะหนีไปคนเดียว แล้วทิ้งพระชายาเอาไว้พะยะค่ะ”

โม่ฉีหมิงพูดอย่างเสียงดังฟังชัด แล้วมองไปที่โล่หวินหลานข้างๆ

ฮ่องเต้เจียเฉิงมองไป มองหญิงที่แต่ตัวเป็นชาย องค์หญิงเหอซื่อนี่นา?

คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ไม่เห็นหน้า กลับถูกพวกนักฆ่าจับตัวไปด้วย เขาละเลยไปจริงๆ ทำไมถึงคิดไม่ถึงนะ

“พระชายารอง ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้าเล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียดได้ไหม?” ความสงสัยของฮ่องเต้เจียเฉิงมีมากขึ้นเรื่อยๆ

โล่หวินหลานพยักหน้า “เสด็จพ่อ คืนนั้นหม่อมฉันหลับสนิทไปแล้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนต่อสู้กัน ในใจก็นึกสงสัย ไม่รู้ว่าใคร ก็เลยออกไปดู

ใครจะคิด ว่าจะมีกลุ่มคนชุดดำมาล้อมจวนเวินอ๋องเอาไว้ เวินอ๋องรับมือกับคนพวกนั้นคนเดียว หม่อมฉันยืนอยู่ข้างๆอย่างตะลึง

คนพวกนั้นเห็นหม่อมฉันเข้า ก็เลยจับหม่อมฉันเพื่อข่มขู่เวินอ๋อง แต่ว่าเวินอ๋องไม่ยอมฟังที่พวกเขาร้องขอ อีกทั้งยังเรียกพลธนูมา เพื่อที่จะยิงสังหารพวกเขาอีก ต่อมา พวกเขาก็หนีไปแล้ว แล้วจับหม่อมฉันขังไว้ที่ด่านเย่นเหมิน

เป็นเพราะหมิงอ๋องพาคนไปบุกจับนักฆ่าที่ด่านเย่นเหมิน ถึงได้ไปพบหม่อมฉันเข้า แล้วช่วยหม่อมฉันออกมาเพคะ”

น้ำเสียงของโล่หวินหลานมีเสียงสะอื้นอยู่ด้วย ทำให้ฮ่องเต้เจียเฉิงจะไม่เชื่อก็คงไม่ได้

เวินอ๋องทำไมถึงเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ แม้แต่ชายาของตัวเองก็ไม่สนใจ คิดแต่จะเอาชีวิตตัวเอง

“เวินอ๋อง” ฮ่องเต้เจียเฉิงตบโต๊ะ เขาโกรธจนควันออกหู

หนีเอาตัวรอดคนเดียว ยังกล้าบอกว่าตัวเองเป็นลูกผู้ชายของราชวงศ์อีกหรอ?

โม่ฉีหมิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตอนนั้นหม่อมฉันเจอน้องสะใภ้ ก็แทบจำนางไม่ได้ บนร่างกายของนางมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด”

“เสด็จพ่อ เมื่อรู้ลูกทูลแล้วว่าเรื่องนี้สำคัญมาก ยังไงให้น้องสี่ไปสอบสวนนักโทษเถอะพะยะค่ะ” รัชทายาทเตือน

ฮ่องเต้เจียเฉิงนึกขึ้นมาได้พอดี แล้วรีบพูดว่า “เมื่อกี้สายสืบของรัชทายาทมารายงานว่า พวกของนักโทษวางแผนชิงตัวนักโทษหนีไป เจ้ารีบไปที่คุกหลวงเดี๋ยวนี้เลย”

“หนี? คุกของแคว้นโม่ฉีจะให้พวกเขามาชิงตัวง่ายๆได้ยังไง? ลูกจะไปที่คุกหลวงเดี๋ยวนี้เลย” โม่ฉีหมิงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง จากนั้นก็เดินออกไป

ในตอนนี้เอง จ้าวกงกงก็เดินเข้ามาในห้องอักษรด้วยสีหน้าท่าทางแตกตื่น จากนั้นก็กระซิบอะไรที่ข้างหูของฮ่องเต้เจียเฉิง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

“ไปเอาตัวนางเข้ามา” เสียงของฮ่องเต้เจียเฉิงดุมาก

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้เป็นอย่างนี้ แล้วเขาให้ไปพาตัวใครมา?

“เสด็จพ่อ เกิดอะไรขึ้น?” รัชทายาทเอ่ยปากถาม

ฮ่องเต้เจียเฉิงยกมือ “พวกเจ้าเดี๋ยวค่อยไปถามต้วนกุ้ยเฟยก่อนว่าไปที่คุกหลวงทำไมก่อนล่ะกัน”

ต้วนกุ้ยเฟย? โม่ฉีหมิงยิ้มมุมปาก

นางคิดจะฉวยโอกาสก่อนที่เขาจะไปสอบสวน เพื่อเปลี่ยนแปลงคำให้การของพวกเขา ช่วยให้เวินอ๋องหลุดออกจากข้อกล่าวหา

เพียงแต่นางคิดไม่ถึงเลยว่า นางด่วนร้อนใจเกินไปทำให้ทุกอย่างพังลง

“หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาท” ต้วนกุ้ยเฟยคุกเข่าลงตรงหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง

เหมือนรู้ว่าสถานการณ์ของนางจบแล้ว สีหน้าของนางไม่มีราศีอีกแล้ว ไม่มีความหยิ่งเหมือนเมื่อก่อนเลย

“ต้วนกุ้ยเฟย ข้าขอถามเจ้า เมื่อกี้เจ้าไปที่คุกหลวงทำไม?” น้ำเสียงของฮ่องเต้เจียเฉิงไม่ดีเลย

“หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” ต้วนกุ้ยเฟยตอบอย่างไร้เรี่ยวแรง

นางเหนื่อยมากแล้ว เหนื่อยมากแล้วจริงๆ

ทำไปทำมา แก้ไปแก้มา บางเรื่องชะตากำหนดไว้แล้วนางเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้จริงๆ

ความฉลาดของนาง เทียบไม่ได้เลยกับโม่ฉีหมิง

เขาแค่ใช้เล่ห์กลนิดหน่อย ก็ทำให้นางฟื้นกลับมาไม่ได้อีก

ก็เหมือนในตอนนี้ เหมือนที่เมื่อกี้นางไปที่คุกหลวง

“ข้าถามเจ้า เจ้ากลับไม่ยอมตอบข้า? เจ้าไม่พูด ข้าก็รู้ว่าเจ้าไปที่คุกหลวงทำไม นักฆ่าพวกนั้นทำไมต้องมาแก้แค้นเวินอ๋อง คิดว่าในใจของเจ้าน่าจะรู้ดี?”

ฮ่องเต้เจจียเฉิงมองนางอย่างแน่ใจ สองแม่ลูก ไม่เคยทำให้เขาสบายใจสักครั้งเดียว

สายตาของต้วนกุ้ยเฟยมองไปที่โม่ฉีหมิง แล้วนางก็เหลือบไปเห็นองค์หญิงเหอซื่อที่อยู่ด้านหลังเขา นางถึงกับตกใจ

นางไม่ได้อยู่ที่จวนเวินอ๋องหรอ? แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่ห้องอักษรได้ล่ะ? แล้วทำไมนางถึงแต่งตัวแบบนี้?

“เวินอ๋องล่ะ? เจ้าเจอเวินอ๋องหรือเปล่า? เวินอ๋องตอนนี้อยู่ที่ไหน? เจ้าบอกความจริงข้ามา” ต้วนกุ้ยเฟยแทบจะอยากลุกไปบีบคอโล่หวินหลานตอนนี้เลย

สายตาของนาง เหมือนอยากจะให้โล่หวินหลานตายไป

“ต้วนกุ้ยเฟย ข้าถามเจ้าอยู่นะ เจ้ากลับมีหน้าไปถามองค์หญิงเหอซื่อ? คุกหลวงคือที่ไหน เจ้าไปทำอะไรที่นั่น?” ฮ่องเต้เจียเฉิงจ้องไปที่ตาของนาง

โล่หวินหลานไม่ได้พูด แม้แต่สายตาก็แทบจะไม่แบ่งไปมองที่ต้วนกุ้ยเฟยเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก