ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 387

ตอนที่ 387 ปลดเป็นสามัญชน

จากการเค้นถามฮ่องเต้เจียเฉิง ต้วนกุ้ยเฟยไม่มีความกล้าที่จะเงียบต่อไปได้อีก

แต่หากบอกไปว่าที่นางไปที่คุกหลวงเพื่อให้พวกเขาแก้ไขคำให้การ ก็จะทำให้ฮ่องเต้เจียเฉิงสงสัยตัวนางเข้าไปอีกน่ะสิ?

“ฝ่าบาท หม่อมฉันคิดถึงลูก แค่อยากจะไปถามพวกนักโทษว่าลูกของหม่อมฉันอยู่ที่ไหน แต่ไม่คิดว่าจะเจอคนของหมิงอ๋องอยู่ที่นั่นด้วย อีกทั้งยังเสียมารยาทต่อหม่อมฉันอีก” สายตาของต้วนกุ้ยเฟยมองไปที่โม่ฉีหมิง

เรื่องในครั้งนี้ เป็นแผนของโม่ฉีหมิงทั้งหมด ตั้งใจปล่อยข่าวให้นางไปที่คุกหลวง อีกทั้งยังส่งคนไปรอที่คุกหลวงอีกด้วย ก็เพื่อจะจับนางมาให้ฮ่องเต้เจียเฉิง

ครั้งนี้นางร้อนใจจนเกินไป ทำให้เสียแผนไปหมด ตกหลุมพรางที่เขาวางเอาไว้

“พระสนมพะคะ เสด็จพ่อรับสั่งให้ข้าเป็นคนสอบสวน ข้าส่งคนไปเฝ้าที่คุกหลวง มันแปลกตรงไหนงั้นหรอ?” โม่ฉีหมิงพูด

ถูกต้อง ต้วนกุ้ยเฟยสูดหายใจเข้าลึกๆ นางไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามเขายังไง

ครั้งนี้ถูกโม่ฉีหมิงคิดร้าย เพราะนางไม่ระวังตัวเอง ทำให้ต้องตกหลุมพรางของเขาได้ นางคิดอยากช่วยเวินอ๋อง ก็ไม่ใช่เรื่องงานอีกต่อไปแล้ว

“ฝ่าบาท อภัยด้วยที่หม่อมฉันคิดถึงลูกชายมากเกินไป ถึงได้ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะลูกชายทำให้ราชวงศ์ต้องเสื่อมเสียพระเกียรติ เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ หม่อมฉัน หม่อมฉันขอรับโทษแทนลูกชายทั้งหมดเพคะ”

ต้วนกุ้ยเฟยพูดทั้งน้ำตา นางมีท่าทางของแม่ที่ดี

ในสายตาของฮ่องเต้เจียเฉิง นางก็แค่อยากจะปกป้องลูกของนาง เลยทำให้ไปที่คุกหลวง

เห็นนางมีสายตาที่สำนึกผิด ฮ่องเต้เจียเฉิงก็ไม่อยากจะลงโทษนาง

เรื่องที่เวินอ๋องทำในครั้งนี้ เดิมก็ไม่ควรให้หญิงในวังหลังต้องมารับ หากจะต้องลงโทษ ทุกอย่างเวินอ๋องต้องเป็นคนรับไว้

“เจ้าลุกขึ้นมาเถอะ ข้าเข้าใจความลำบากใจของเจ้า ต่อไปอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เข้าใจไหม?” ฮ่องเต้เจียเฉิงสั่ง

ต้วนกุ้ยเฟยเบาใจ สายตาของนางมองไปที่โม่ฉีหมิง แล้วยิ้มมุมปาก

ทันใดนั้นเองก็มองไปที่โล่หวินหลานที่อยู่ด้านหลังโม่ฉีหมิง ในเวลาสำคัญแบบนี้ นางกลับละทิ้งเวินอ๋อง ไปเข้ากับโม่ฉีหมิง

หากเป็นจริงอย่างที่เย่เซียวหลัวพูด นางกับโม่ฉีหมิงมีสัมพันธ์ต่อกัน ตอนนี้ก็น่าจะเข้าไปทางฝั่งโม่ฉีหมิงแล้ว

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันกำลังตามหาร่องรอยของเวินอ๋องอยู่ แต่น่าเสียดายหม่อมฉันหาจนทั่วแคว้นโม่ฉีแล้วแต่ก็ไม่พบ หม่อมฉันกำลังสงสัยว่าเขาน่าจะออกไปจากแคว้นโม่ฉีแล้ว” โม่ฉีหมิงจะให้ต้วนกุ้ยเฟยรอดไปแบบนี้ได้ยังไง?

อะไรนะ? ออกจากแคว้นโม่ฉีไปแล้ว?

ต้วนกุ้ยเฟยสะดุ้งไป นางกำผ้าเช็ดหน้าแน่น

“ฝ่าบาท หม่อมฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวก่อนเพคะ” ต้วนกุ้ยเฟยทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว คิดอยากจะออกไปจากตรงนี้

แต่ว่าฮ่องเต้เจียเฉิงกลับห้ามนางเอาไว้ “เจ้าไม่ใช่อยากรู้หรือไงว่าเวินอ๋องอยู่ที่ไหน? ไม่อยู่ฟังก่อนล่ะ”

ฮ่องเต้เจียเฉิงไม่ให้โอกาสให้นางได้จากไปเลย

โม่ฉีหมิงพูดต่อไปว่า “หม่อมฉันสงสัยว่าเวินอ๋องอาจจะไปขอกำลังทหารจากแคว้นอื่น หรืออาจจะกลัวทำผิดต่อเสด็จพ่อ เลยซ่อนตัว ไม่ยอมกลับมา”

“บังอาจเกินไปแล้ว เขารู้ตัวหรือเปล่าว่าเขามีฐานะอะไร? เขาเป็นองค์ชายของแคว้นโม่ฉีนะ” ฮ่องเต้เจียเฉิงเริ่มไอ แล้วทุบโต๊ะ

“เสด็จพ่อ เราควรทำยังไงกันดี?” โม่ฉีหมิงถาม

ต้วนกุ้ยเฟยสีหน้าตื่นตกใจมาก สีหน้าของเขาซีดเซียว นางถอยหลังไปสองก้าว นางไม่อยากเชื่อคำพูดของโม่ฉีหมิงเลย

ฮ่องเต้เจียเฉิงหลับตาคิดทบทวน สีหน้าของเขาไม่ดีเลย

เห็นฮ่องเต้เจียเฉิงเหมือนจะเชื่อในคำพูดของโม่ฉีหมิง ต้วนกุ้ยเฟยร้อนใจ แต่คิดไม่ออกว่าควรทำยังไง

เวินอ๋องตอนนี้ไม่ได้อยู่ในแคว้นโม่ฉี พวกเขาพูดอะไรมาเวินอ๋องก็ผิดทุกอย่าง นางแก้ต่างไม่ได้เลย

“อาศัยว่าตัวเองเป็นองค์ชาย กลับกล้าไปมาหาสู่กับเหล่าชาวยุทธ อีกทั้งยังหนีไปแบบนี้ ไปที่แคว้นอื่น โทษนี้ละเว้นไม่ได้”

ฮ่องเต้เจียเฉิงมองไปที่จ้าวกงกงอย่างเคร่งเครียด เขาสั่งว่า “ประกาศราชโองการของข้าออกไป เวินอ๋องคิดคบกับชาวยุทธ ถูกตามมาแก้คแค้น หลบหนีไป ไม่อาจรับภาระใหญ่หลวงได้อีก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้ปลดออกจากตำแหน่งองค์ชายเป็นสามัญชน”

คำพูดของเขา เหมือนกับฟ้าที่ผ่าลงมาที่หัวใจของตัวนกุ้ยเฟย

เมื่อกี้ยังดีดีอยู่เลย ทำไมเวินอ๋องถึงกลายเป็นสามัญชนไปได้ล่ะ?

หรือว่าเป็นเพราะคำพูดของโม่ฉีหมิง เขาถึงได้เป็นแบบนี้หรอ?

“ฝ่าบาท ......” ต้วนกุ้ยเฟยคุกเข่าลงไป แล้วตะโกนออกมา

นางเป็นถึงพระสนมเอก วันนี้กลับไม่อาจช่วยเหลือลูกชายตัวเองได้ เขาเป็นถึงโอรสสวรรค์ มีลูกชายมากมาย ออกคำสั่งมาแค่คำเดียว ก็สามารถทำให้แม่ลูกต้องแยกจากกันได้

หรือว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงความผูกพันของแม่ลูก แต่ว่านานขนาดนี้แล้ว เขาเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกเป็นพ่อเลย?

รัชทายาทเองก็ตกใจ ไม่ว่าเวินอ๋องจะทำอะไร ยังไงเขาก็เป็นลูกชายของฮ่องเต้เจียเฉิง แต่ตอนนี้กลับถูกปลดเป็นสามัญชน มันกะทันหันไปจริงๆ

แต่ว่า ใบหน้าของโม่ฉีหมิงไม่มีอารมณ์ใดๆ เหมือนกับว่านี่คือผลลัพธ์ที่เขาคาดการณ์ไว้แล้ว

โล่หวินหลานมองไปที่เขา นางเห็นเขานิ่งมา ไม่รู้ควรพูดอะไร

ทุกคนมีสีหน้าท่าทางแตกต่างกันไป ไม่รู้แต่ละคนคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขอร้องแทนเวินอ๋องเลย

มีเพียงต้วนกุ้ยเฟยคนเดียวเท่านั้นที่ร้องไห้อยู่

นางเลี้ยงดูฟูมฟักเวินอ๋องมานานขนาดนี้ วางแผนทำเพื่อเขาทุกอย่าง ส่งให้เขามาถึงจุดนี้ได้ไม่ง่ายเลย แต่ตอนนี้แม้แต่ตำแหน่งองค์ชายก็ไม่เหลือแล้ว

นั่นมันหมายความว่า ทุกอย่างที่นางทุ่มเทและทำไปมันเสียแรงเปล่า เขาไม่มีทางได้เป็นไท่เฮาอีกแล้ว หรืออาจจะต้องตายลงในตำหนักเย็นก็ได้

ทุกอย่าง มันเป็นเพราะนาง นางก็ต้องยอมรับมัน

“กลับวัง” ฮ่องเต้เจียเฉิงแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากฟังคำขอร้องใดๆจากต้วนกุ้ยเฟยอีก เขาเดินออกไปเลย

“ฝ่าบาท ...... ฝ่าบาท ......” ต้วนกุ้ยเฟยแทบจะกลิ้งไปหาฮ่องเต้เจียเฉิงเลย คิดอยากจะไปกอดขาของเขาเอาไว้ แต่ว่าเขากลับสะบัดมันทิ้ง

“ไม่ว่าใครก็ห้ามขอร้องแทนเขาเด็ดขาด ไม่งั้นประหารทันที” น้ำเสียงของฮ่องเต้เจียเฉิงออกคำสั่งดุดัน แล้วสะบัดต้วของต้วนกุ้ยเฟยทิ้ง

ในเวลาที่นางกำลังเสียใจมาก เขากลับไร้เยื่อใยแบบนี้

ในนาทีนี้เอง ต้วนกุ้ยเฟยถึงได้รับรู้ถึงความเสียใจความโดดเดี่ยว

“ตอนนี้เจ้าดีใจมากแล้วใช่ไหม มีความสุขมากแล้วใช่ไหม ที่ผลักน้องชายตัวเองให้ต้องเดินตกเหวไป นี่คือผลลัพธ์ที่เจ้าต้องการใช่ไหม สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเลย” ต้วนกุ้ยเฟยโกรธมาก แล้วก็มองไปทางพวกเขา

ไม่มีคนตอบนาง เห็นนางน่าอนาถขนาดนี้แล้ว ทั้งห้าคนรู้สึกไม่ดีเลย

โม่ฉีหมิงจับมือของโล่หวินหลาน แล้วก็เดินออกไปเลย

รัชทายาทเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่เห็นโม่ฉีหมิงเดินออกไปอย่างไม่ลังเล เขาก็เดินตามไป คิดอยากจะถามถึงเหตุผล

แผนการพวกนี้เขากับโม่ฉีหมิงทำด้วยกัน แต่ว่าทำไมสุดท้ายโม่ฉีหมิงถึงได้ตัดเขาออก แม้แต่แผนเมื่อกี้ เขาเองก็ไม่รู้

“พวกเจ้าหยุดก่อน” เมื่อออกจากห้องอักษร รัชทายาทอดไม่ได้ที่จะเรียกพวกเขาเอาไว้

เขาไม่รู้เลยว่าทำไมองค์หญิงเหอซื่อถึงได้มาอยู่กับโม่ฉีหมิง นักฆ่าพวกนั้นเป็นจริงหรือเปล่า หรือว่าเขาไม่รู้เลยหรอ?

ดูท่าทางแล้วเขากับองค์หญิงเหอซื่อมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาเลย พวกเขาทั้งคู่น่าจะร่วมมือกันมาก่อนเขาอีก

โม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลานหยุดเดิน

“พวกเจ้าไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ข้าฟังเลยหรอ?” รัชทายาทยิ้มแล้วเดินมาตรงหน้าของพวกเขา

ทิ้งเขาเอาไว้แบบนี้ ไม่เห็นเขาเป็นผู้ร่วมขบวนการเลยหรือยังไง?

“รัชทายาท ที่นี่ไม่ใช่ที่ควรจะพูดเรื่องนี้กันนะ ไม่ที่จวนข้าดีไหม?” โม่ฉีหมิงมองไปรอบๆ แล้วพูด

ที่นี่ไม่เหมาะมาพูดคุยจริงๆ รัชทายาทจัดระเบียบความคิด แล้วออกจากประตูวังไปก่อน

รัชทายาทไปอย่างโมโห โล่หวินหลานรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

โม่ฉีหมิงเหมือนจะดูออกว่านางกังวลใจ เขาบีบนวดมือของนางเบาๆ

สำหรับรัชทายาทแล้ว เขายังพอมั่นใจในตัวเองอยู่

รถม้าวิ่งอยู่ในเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว รถม้าสองคันวิ่งตามกันไปจนถึงตำหนักหมิงอ๋อง

เมื่อเข้ามาในห้องหนังสือของตำหนักหมิงอ๋อง สีหน้าของรัชทายาทไม่ดีเลย เขาคิดตลอดว่าโม่ฉีหมิงกำลังหลอกใช้เขาอยู่

ส่วนเขาคือคนนอกที่ไม่รู้อะไรเลย พวกเขาร่วมมือกันแค่ในนาม แต่โม่ฉีหมิงยังคงมีกำแพงกับเขาอยู่

“ทำไมองค์หญิงเหอซื่อถึงได้อยู่กับเจ้าได้? วันนี้ข้ออ้างที่พูดต่อหน้าเสด็จพ่อ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น เจ้าเองก็รู้ดี ไม่มีทางที่เจ้าจะไปช่วยนางมาได้จากด่านเย่นเหมือนเด็ดขาด”

รัชทายาทเดินเข้ามาก็เอ่ยปากถามเลย แทบจะไม่ให้พวกเขาสองคนได้พักหายใจเลย

“เป็นไปอย่างที่ท่านพูดมา ข้าไม่ได้ช่วยองค์หญิงเหอซื่อมาจากด่านเย่นเหมิน แต่ข้าช่วยนางออกมาตั้งแต่เรื่องในคืนนั้น” โม่ฉีหมิงไขว้มือยืนอยู่ริมหน้าต่าง

เมื่อมองไปที่ตัวเขา รัชทายาทก็พูดว่า “ข้าต้องการรู้ว่าเจ้าช่วยนางทำไม นางเป็นใครกันแน่?”

ตอนที่โล่หวินหลานตาย คนที่เสียใจมากที่สุดคือโม่ฉีหมิง แต่เวลาแค่เวลาหนึ่งปี เขากลับเปลี่ยนใจไปหาองค์หญิงเหอซื่อ?

“รัชทายาททำไมไม่มาถามหม่อมฉันล่ะเพคะ? หม่อมฉันรู้เรื่องมากกว่าหมิงอ๋องอีกนะเพคะ” โล่หวินหลานเดินขึ้นมาตอบได้จังหวะพอดี

เสียงใสๆที่ทำให้คนหลงอยู่ในภวังค์ แต่ว่าเวลาที่รัชทายาทมองนาง มันมีความรู้สึกที่คุ้นเคยมาก

สายตาคู่นั้นมันเหมือนดาบที่แหลมคม

“ทำไม?” รัชทายาทเสียงนิ่งมาก

“หม่อมฉันเป็นคนไหว้วานให้หมิงอ๋องช่วยหม่อมฉันออกมาเอง หม่อมฉันไม่ได้ต้องการแต่งงานกับเวินอ๋องแต่แรก แต่ว่าหม่อมฉันไม่มีทางเลือก หลังจากแต่งงานกับเวินอ๋องไปแล้ว พระชายาเวินอ๋องรังแกหม่อมฉันตลอดเวลา เวินอ๋องเองก็ไม่ได้สนใจ หม่อมฉันไม่มีทางเลือกเลยขอให้หมิงอ๋องช่วยเหลือ”

โล่หวินหลานพูดโกหกหน้าตายมาก

รัชทายาทเดิมก็ไม่เชื่อ แต่ว่าพอนึกย้อนดูแล้วเย่เซียวหลัวก็เป็นคนแบบนั้นจริงๆ เวินอ๋องเองก็คงไม่สนใจ

แต่ว่า แล้วเรื่องหลังจากนั้นล่ะมันคืออะไร?

“หมิงอ๋อง ต่อไปหากมีการเปลี่ยนแผน แจ้งให้ข้ารู้ด้วยนะ ไม่งั้นข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรจะรับมือยังไง” รัชทายาทนิ่งไป สุดท้ายก็ไม่ได้ถามมันออกมา

“วันนี้เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน ตอนที่ข้ากำลังไปคุกหลวงเห็นรถม้าของต้วนกุ้ยเฟยพอดี เลยเดาว่านางน่าจะออกจากวังไปที่คุกหลวง ก็เลยวางแผนนี้ขึ้นมา ครั้งหน้าข้าจะทำการแจ้งรัชทายาทให้ทราบก่อน” โม่ฉีหมิงยิ้มมุมปาก

รัชทายาทรู้ว่าสงสัยต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ก็เลยไม่พูดอะไรต่อไป

“วันนี้เสด็จพ่อแปลกมาก ทำไมถึงได้ปลดน้องหกเป็นสามัญชนแบบนั้นได้ โทษของน้องหกมันก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น” รัชทายาทบ่นด้วยความสงสัย

เขามั่นใจมากว่า ฮ่องเต้เจียเฉิงไม่ได้ปลดเขาแค่เรื่องนี้แน่นอน จะต้องมีเหตุผลอย่างอื่นอีก

หรือว่าโม่ฉีหมิงจะแอบทำอะไรลับหลังอีก?

“เสด็จพ่อไม่มีทางโกรธขนาดนั้นเพราะเรื่องแค่นี้แน่ แต่เป็นเพราะเวินอ๋องไปจากแคว้นโม่ฉี” โม่ฉีหมิงมองไปที่รัชทายาท

“เสด็จพ่อให้ความสำคัญกับเรื่องของอำนาจกับราชบัลลังก์มาก หากเวินอ๋องไปขอกำลังทหารจากแคว้นอื่นมาจริง มันอันตรายต่อราชบัลลังก์ของเขามาก ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์เป็นยังไงก็ตาม ก็ต้องปลดให้เวินอ๋องกลายเป็นสามัญชน ถึงจะหยุดยั้งอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก