ตอนที่ 403 พิธีแต่งตั้งรัชทายาท
“ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเกิดอะไรขึ้น หรือว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องมีใจสู้ที่จะเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่หยุดอยู่กับอดีต หรือว่าคนที่เจ้าคอยนึกถึงในใจ ที่จริงเขาอาจจะได้ใช้ชีวิตตามที่ตนเองต้องการไปแล้ว
โล่หวินหลานหยุดชะงักไปสักพักแล้วค่อยพูดขึ้น น้ำเสียงของนางฟังดูโศกเศร้าเบาๆ
นิสัยของเย่หวินนางรู้ดีที่สุด ถึงแม้ภายนอกอาจจะดูแกร่งๆกล้าๆ แต่ในใจของนางนั้นอ่อนโยนและคิดมาก นางเป็นคนเห็นแค่ความรู้สึกของคนอื่น
นางรู้สึกสะเทือนอารมณ์ในคำพูดของโล่หวินหลาน ในเวลาสั้นๆก็สามารถทำให้นางก้มหน้าลงได้อย่างทันที
“ข้ารู้ว่าตอนนี้ท่านอ๋องชอบท่านมากๆ แต่ว่าแต่ก่อน ท่านอ๋องก็เคยรักคนๆหนึ่ง คนๆนั้นเป็นคนที่ท่านไม่สามารถเปรียบได้” เย่หวินพูดขึ้นอย่างไม่ลังเล
นางไม่สนใจว่าคนที่อยู่ต่อหน้าจะโกรธหรือไม่ นางก็คือจะให้ทุกคนรู้ให้ได้ว่าไม่มีใครสามารถเปรียบเทียบกับโล่หวินหลานได้
ถึงแม้คนที่อยู่ข้างกายโม่ฉีหมิงจะมีผู้หญิงโอบล้อมไว้มากมาย แต่ยังไงโล่หวินหลานก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจของนางเสมอ
โล่หวินหลานไม่ได้ทำสีหน้าเยี่ยงไรเลย และทำหน้าเฉยมองเย่หวินในกระจก ผ่านไปสักพัก จึงกระตุกมุมปากแล้วยิ้มขึ้น “วันนี้ท่านอ๋องจะเข้าวังหรือไม่?”
เย่หวินมองโล่หวินลหลานไม่ได้สบอารมณ์ใดๆ จึงรู้สึกแปลกใจ ทำไมพอนางพูดถึงแต่ก่อน นางไม่เคยขมวดคิ้วเลย หรือว่าอดีตของโม่ฉีหมิงไม่ได้สำคัญกับนางเลย?
ถึงแม้นางจะคิดเยี่ยงนี้อยู่ในใจ แต่สีหน้าของนางก็ยังคงเหมือนเดิม
“ท่านอ๋องถูกเชิญตัวให้เข้าไปในวังตั้งนานแล้วเจ้าค่ะ” เย่หวินทูลกลับ
เมื่อวานได้เปิดเผยเรื่องของเย่ฮองเฮา วันนี้ถูกเรียกเข้าวังอีก มีเรื่องอะไรกันแน่?
โล่หวินหลานไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก พอรับประทานสำลักเช้าเสร็จจึงไปทิศใต้ของตำหนัก ไม่กี่วันนี้ไซ่เยว่สามารถเดินได้แล้ว แค่แผลที่อยู่ตรงไหล่ยังคงแอบเจ็บเบาๆ
พอเห็นโล่หวินหลานเดินไป ไซ่เยว่จึงน้อมตัวจะถวายบังคมต้อนรับ ไม่กี่วันที่ไซ่เยว่ได้รับบาดแผล นางก็คือคนหนึ่งที่เป็นห่วงนางเป็นอย่างมาก
“องค์หญิงเจ้าค่ะ บ่าวได้หายดีแล้วค่ะ ขอบพระคุณองค์หญิงที่ให้ยาดีๆและมาคอยดูแลข้าน้อย” ทั้งสองเดินเข้าไปในศาลา ไซ่เยว่่น้อมคำนับให้นาง
“รีบลุกขึ้น ไม่กี่วันนี้ไม่ใช่แค่ข้าดูแลเจ้า ยังมีสวินโม่ เย่หวิน ฉินหยิ่นและอื่นๆ ไม่เช่นนั้นเจ้าต้องไล่ขอบคุณไปทั่วทุกคนเลย?” โล่หวินหลานกระตุกคิ้วขึ้น
ไซ่เยว่พยักหน้า พอมาถึงตำหนักหมิงอ๋อง นางกลัวว่าตนเองจะแหกกฏ ก็ต้องคอยระวังตลอดเวลา โล่หวินหลานดูแลนางดีเยี่ยงนี้ก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกทึ่ง และตอนนี้แผลของนางได้หายดีแล้ว ต้องขอบพระคุณโล่หวินหลานเป็นอย่างยิ่ง
“องค์หญิงเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ได้เรื่องเอง ที่ไม่ได้ปกป้ององค์หญิง” ไซ่เยว่ทำหน้าตารู้สึกผิด หลังจากที่เรื่องในวันนั้นเกิดขึ้น นางก็คิดว่าอยากจะไปฝึกวิชาใหม่
วิชาการต่อสู้ของนางด้อยกว่าไป ไม่มีกำลังต่อสู้กับหลายๆคนในเวลาเดียวกัน มีเพียงฝึกวิชาให้ดีๆจึงจะปกป้องตนเองและคนที่อยากปกปัอง
“เจ้าเก่งมากพอแล้ว ข้าหน่ะสิ ไม่ได้วิชาการต่อสู้อะไรสักอย่าง” โล่หวินหลานตบมือตนเองขึ้นลงเบาๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร
ไซ่เยว่เห็นนางพูดเยี่ยง จึงทูลกลับ “ท่านเป็นคนสำคัญที่สุดของท่านอ๋อง มีท่านอ๋องคอยปกป้อง ท่านจะมีวิชาไปเพื่ออะไรเจ้าค่ะ?”
นางรับใช้โล่หวินหลานมานานเยี่ยงนี้ โม่ฉีหมิงมีท่าทีเยี่ยงไรกับโล่หวินหลาน นางก็เห็นหมดแล้ว นางไม่เคยคิดเลยว่าโม่ฉีหมิงจะมีวันที่ใส่ใจผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้นางนึกไม่ถึง
นางนึกมาตลอดว่าโม่ฉีหมิงเป็นคนเฉยชา ไม่มีทางที่จะมอบความรักให้ใคร
จนกว่าโล่หวินหลานปรากฏ นางจึงจะเข้าใจว่า ที่นี่โม่ฉีหมิงไม่ใช่คนไม่มีจิตใจเยี่ยงนั้น แต่ทุกอย่างกลับกลับกัน ความรู้สึกที่เขาให้คนอื่นมันทั้งร้อนรนและเต็มไปด้วยการอยากครอบครอง
ในราชสำนัก ขุนนางทุกท่านต่างก็โน้มตัวลงกราบผู้ที่อยู่สูงส่ง คนที่อยู่ข้างหน้าสุดคนโม่ฉีหมิง
การแต่งกายขององค์รัชทายาททำให้เขาดูสูงส่งและมีสง่าเป็นอย่างยิ่ง เขาคุกเข่าและยืดตัวตรงต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง และกำลังฟังคำบังคับบัญชา
ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่หลี่เซิงพูดไว้ไม่ผิดจริงๆ จ้าวกงกงพาคนไปส่งพระราชโองการในตำหนักหมิงอ๋อง ให้เขาได้รับแล้วจะได้เตรียมตัว เข้าพิธีแต่งตั้งในอีกไม่กี่วัน
“พิธีแต่งตั้งได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้” จ้าวกงกงทำเสียงแหลมและลากเสียง เสียงนั้นได้ดังสะท้อนขึ้นในราชสำนัก
พิธีในวันนี้อลังการณ์และยิ่งใหญ่มากกว่าครั้งแรกของการตั้งแต่องค์รัชทายาทโม่ฉีที่ผ่านมา
โม่ฉีหมิงได้รับราชลัญจกรไว้ และน้อมคำนับต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง ตั้งแต่บัดนี้ เขาก็คือองค์รัชทายาทแห่งแคว้นโม่ฉี และเป็นฮ่องเต้ในอนาคต
“ท่านพ่อขอรับ ลูกมีอีกเรื่องอยากจะขอร้องท่านพ่อขอรับ” โม่ฉีหมิงน้อมก้มกราบแล้วทูลขึ้น
โม่ฉีหมิงได้เป็นองค์รัชทายาท ที่จริงก็คือความคิดแรกๆที่ฮ่องเต้เคยคิด วันนี้เป็นไปดั่งที่ปรารถนาไว้ และถือว่านี่เป็นเรื่องดีใจสำหรับเฉินเฟย และสามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริง
วันนี้ฮ่องเต้เจียเฉิงอารมณืดีเป็นพิเศษ จึงพยักหน้าตอบรับ “มีอะไรให้ข้าช่วยเจ้าตัดสินก็บอกออกมา ข้าจะให้เจ้าได้สมปรารถนาเอง”
ฟังจากน้ำเสียงของเขา โม่ฉีหมิงจึงรู้สึกยิ่งกล้าเอ่ยปากออกมามากยิ่งขึ้น
“ท่านพ่อ ลูกอยากจะสมรสกับองค์หญิง” โม่ฉีหมิงพูดขึ้นอย่างยืนหยัด
คนทั้งปวงต่างก็พากันตกใจ และมองหน้าซึ่งกันและกัน และยังมีคนที่กำลังซุบซิบกัน
ตอนแรกโม่ฉีหมิงก็เคยจะขอองค์หญิงเหอซื่อเป็นคู่ครอง แต่สุดท้ายเขาก็สู่ขอบ่าวที่คอยติดตามองค์หญิงเหอซื่อ และองค์หญิงเหอซื่อก็ได้สมรสกับเวินอ๋อง กลายเป็นพระชายารองของเวินอ๋อง
วันนี้ ไม่รู้ว่าเวินอ๋องหายตัวไปไหน และถูกปลดเป็นประชากรธรรมดา องค์หญิงเหอซื่อก็กลายเป็นคนไม่มีศักดิ์อะไรใดๆเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ได้เป็นพระชายาของเขาอีก
แค่ว่าการอยากสู่ขอองค์หญิงเหอซื่อมันกะทันหันและเกินที่คนอื่นจะคาดเดาถึงหรือไม่?
องค์หญิงเหอซื่อมีเสน่ห์เยี่ยงไร ทำไมถึงทำให้เวินอ๋องและโม่ฉีหมิงตกหลุมรักในขณะเดียวกันเยี่ยงนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก