สรุปตอน ตอนที่ 413 งานพิธีอภิเษกสมรสยังคงดำเนินต่อไป – จากเรื่อง ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก โดย ใบไม้แดง
ตอน ตอนที่ 413 งานพิธีอภิเษกสมรสยังคงดำเนินต่อไป ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 413 งานพิธีอภิเษกสมรสยังคงดำเนินต่อไป
เสียงดังมาจากด้านในห้อง ทั้งคู่จึงหันไปมอง
ทั้งสองเดินเข้าไป เห็นว่าชิวโม่ไป๋และหมิงซีฟื้นขึ้นแล้ว แล้วมองทั้งคู่อย่างมึนงง
"เสี่ยวฮัว เจ้ายังทำพิธีอยู่ไม่ใช่หรือ?นี่มันเรื่องอะไรกัน?" หมิงซีที่มองโล่หวินหลาน ซึ่งตอนนี้นางถอดชุดเจ้าสาวออกแล้ว เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ชิวโม่ไป๋ค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้น เขาจับหัวของตนเองที่ตอนนี้เริ่มปวด แล้วตบไปที่บ่าของหมิงซี “บอกให้เจ้าตั้งใจเล่าเรียน เจ้ากลับไม่ฟัง!ครั้งนี้โดนยาพิษอะไรเข้าไปแล้วยังไม่รู้ตัวอีก น่าขายหน้านัก!"
ชิวโม่ไป๋เรียนการแพทย์และพิษต่างๆมาตั้งแต่เล็ก เขารู้อยู่แล้วว่าตนเองโดนยาพิษเข้าไป แต่พิษนั้นไร้สีไร้กลิ่นเขาจึงยากที่จะรู้ตัวก่อน
และเขา ก็มัวแต่ตั้งใจดูการเข้าพิธีของโล่หวินหลาน จึงไม่ได้คิดถึงสิ่งอื่น พอเขารู้สึกตัว อยากจะพูด กลับหมดสติไปแล้ว
บนโลกใบนี้พิษที่ทำให้คนเราสลบและลืมเรื่องราวในระยะสั้น ก็ไม่ได้มีมากมาย หากตั้งใจคิดวิเคราะห์ก็คงคาดเดาได้
"ท่านอาจารย์ ท่านบอกข้ามาเถอะ อย่าตีข้าเลย!"หมิงซีกล่าว
ก่อนออกมาจากหุบเต๋ก็ได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว ว่าจะไม่ตีเขา เหตุใดเขาถึงไม่รักษาคำพูด? ยิ่งไปกว่านั้น ยังตีต่อหน้าเสี่ยวฮัวและโม่ฉีหมิงด้วย
"ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า ข้าอยากจะทำสิ่งใดกับเจ้าก็ย่อมได้!" ชิวโม่ไป๋กล่าวจากนั้นก็ตีเขาอีกหลายที
พูดจบ ก็หันไปถามโล่หวินหลาน “เสี่ยวฮัว นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? มีคนมาทำลายงานแต่งหรือ?"
ถึงแม้ว่าจะอาศัยอยู่ในหุบเต๋เป็นเวลานาน แต่ชิวโม่ไป๋ก็สามารถคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้โดยง่าย
หมิงซีเองก็เอามือกุมที่หัวของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ในเมื่อมีคนกล้าที่จะมาทำลายพิธีในเวลานี้ได้ นั่นหมายความว่าต้องมีการเตรียมการเป็นเวลานานแล้ว แล้วนางไปโกรธแค้นกับใคร?
โล่หวินหลานบอกความจริงกับทุกคน “เย่เซียวหลัวนางคือชายาของโม่ฉีหาน นางวางยาพิษที่ชื่อว่าชิวเอ่อ จากนั้นนางก็เอาข้าเป็นตัวประกัน สุดท้ายคนที่ช่วยชีวิตข้าคือโม่ฉีหาน"
นางไม่ได้บอกเรื่องที่นางเคยอภิเษกกับโม่ฉีหาน ทำให้เย่เซียวหลัวโกรธแค้น และคอยหาเรื่องนางมาโดยตลอด จนสุดท้ายคิดที่จะเอาชีวิตนาง
ชิวโม่ไป๋เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด เขาก็ทำหน้าโกรธเคือง ใครกันที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ กล้าดีอย่างไรมาทำลายงานพิธีอภิเษกสมรสของหลานสาวข้า
ขณะที่กำลังจะเดินออกไปนั้น “บนโลกใบนี้มีหญิงที่น่าไม่อายเช่นนี้ด้วยหรือ เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนนางเอง ให้นางได้เข้าใจ ว่าไม่อาจทำลายงานแต่งของใครได้!”
โล่หวินหลานเห็นท่านปู่เป็นเช่นนั้น จึงรีบดึงมือเขาไว้ “ท่านตา นางสิ้นใจแล้ว โม่ฉีหานก็เช่นกัน"
ตายแล้ว? ชิวโม่ไป๋นิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา เขากลับไปนั่ง
นานครู่หนึ่ง กว่าเขาจะพูดขึ้น “หมิงซี เอาน้ำชามาให้ข้าที"
เมื่อไม่มีใครตอบ เขาจึงหันหลังไปมอง แต่ก็ไม่พบหมิงซีแล้ว ขณะที่เขากำลังพูดคุยกับโล่หวินหลานนั้น เขาก็รีบออกไปด้านนอกเพื่อไปหาอาลั่วหลัน
เขาถามสาวรับใช้ว่าอาลั่วหลันอยู่ที่ใด จึงได้รู้ความว่านางอยู่ในห้อง ตอนนี้นางกำลังกุมขมับของตนเอง
"อาลั่วหลัน เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?" หมิงซีเดินเข้าไป แล้วถามนาง
อาลั่วหลานโผเข้ากอดเขา “ข้าไม่เป็นไร"
"แล้วพี่ชายของข้าละ? เขาเป็นอย่างไรบ้าง?" อาลั่วหลันเป็นห่วงองค์ชายดงเหอ ดูจากสีหน้าของโม่ฉีหมิงในตอนนั้น คงไม่ไว้ชีวิตพี่ชายของนางแน่
เขาช่างโง่เขลานัก ที่หลงเชื่อคำพูดของโม่ฉีหาน แล้วเดินทางมายังแคว้นโม่ฉี อีกทั้งยังสร้างปัญหาใหญ่?
ตั้งแต่ที่นางมาอยู่แคว้นโม่ฉี ก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่าแคว้นโม่ฉีจะทำสิ่งใดกับแคว้นเซิ่งโจว มีเพียงท่านพ่อของนางที่เอาแต่อยากสร้างสงคราม แต่โชคดีที่มีคนรู้เรื่องนี้ไม่มากนัก
นางหวังเพียงท่านพ่อของนางอย่าได้ทำสิ่งใดผิดเลย......
"ในเมื่อพวกเราไม่เป็นไร องค์ชายดงเหอก็คงไม่เป็นไรเช่นเดียวกัน เจ้าอย่าเป็นกังวล ข้าจะพาเจ้าไปหาเขาเดี๋ยวนี้เลย" หมิงซีกล่าวแล้วพาอาลั่วหลันออกไป
เขาพึ่งรู้ว่าตนเองนั้นเป็นห่วงอาลั่วหลันมากเพียงใด ตอนที่ไม่เห็นนาง เขาก็รู้สึกกลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับนาง กว่าเขาจะวางใจได้ ก็ต้องเห็นนางอยู่เบื้องหน้า
สาวรับใช้กำลังกวาดพื้นอยู่ด้านนอก พวกเขาจึงเข้าไปถามจึงได้รู้ว่าองค์ชายดงเหอพักอยู่ที่ใด เมื่อไปถึงก็เห็นว่าโล่หวินหลาน โม่ฉีหมิงและชิวโม่ไป๋ก็อยู่ที่นั่น
เมื่อเห็นหมิงซีเดินเข้ามา ชิวโม่ไป๋ก็ดึงหูของเขา แล้วพูดขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้ มีหญิงงามแล้วลืมอาจารย์ได้ เจ้ามันไร้หัวใจ!”
อาลั่วหลันเมื่อเห็นว่าหมิงซีถูกอาจารย์ของเขาพาไป นางเองก็แอบสงสารเขาเล็กน้อย แต่ก็รีบไปดูอาการพี่ชายของตนก่อน “ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่?"
องค์ชายดงเหอปรับอารมณ์ของตนเองให้เข้าที่ เขาสูดหายใจเข้า จากนั้นก็ตบบ่าของอาลั่วหลันเบาๆ “พี่ไม่เป็นไร"
พูดจบ เขาก็มองไปทางโม่ฉีหมิง “สิ่งที่ท่านกล่าวเมื่อครู่ กลับไปข้าจะรีบไปรายงานท่านพ่อ"
"ไม่ได้ต้องการให้เจ้ารายงาน แต่ให้เจ้าเกลี่ยกล่อม เพราะสิ่งนี้เป็นประโยชน์กับทั้งสองแคว้น" โม่ฉีหมิงกล่าว
หมิงซีเดินตามนางมา เขาจับมือของนางแน่น แล้วโอบกอดนางเอาไว้
"หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง" หมิงซีกล่าว
แม้แต่เขาเองยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดเขาจึงพูดประโยคเช่นนี้ออกไป ทั้งๆที่เขาไม่อยากพูด แต่ก็พูดออกไปแล้ว
อาลั่วหลันเงยหน้า การที่จะได้ยินคำหวานจากเขาช่างยากเย็น นางรู้สึกอุ่นใจยิ่งนัก
ชิวโม่ไป๋ที่อยู่ด้านหลังรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ลูกศิษย์ที่เขาเลี้ยงให้เติบโตขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ในที่สุดก็จะได้เข้าพิธีกับหญิงที่เขารักแล้ว
เขาน้ำตาคลอเล็กน้อย คาดว่าหลังจากงานพิธีของโล่หวินหลานเรียบร้อย ก็คงเป็นของหมิงซีแน่
"ท่านตา นี่เป็นวันมงคล ท่านอย่าร้องไห้เลย!” โล่หวินหลานกล่าวแล้วซับน้ำตาให้ตาของนาง
"ตาแค่ดีใจมากก็เท่านั้น ดีใจมาก หมิงซีเขาไม่เคยมีหญิงสาวมาก่อน.....ไม่เคย......" ชิวโม่ไป๋กล่าว
"เพคะ หมิงซีไม่ยอมที่จะยอมรับความจริงว่าตนเองนั้นรักอาลั่วหลันเข้าแล้ว ในที่สุดวันนี้เขาก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับนาง อีกไม่นานคงต้องหาฤกษ์แต่งงานให้เขาแล้ว" โล่หวินหลานยิ้ม
"หมิงซีเจ้าเด็กดื้อ คิดที่จะทิ้งคนแก่อย่างข้า พอมีหญิงงามก็ลืมอาจารย์ของตน" ชิวโม่ไป๋กล่าว แต่ในใจของเขานั้นดีใจมาก
อาลั่วหลันเองก็ดูแล้วเป็นคนดี เป็นหญิงที่มีความเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่มีการวางตัวเป็นองค์หญิง และอยู่เหนือคนอื่น
โม่ฉีหมิงคว้ามือของโล่หวินหลานเอาไว้ จากนั้นก็บอกกับนาง “เรื่องทั้งหมดได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เรามายุ่งเรื่องของเราทั้งคู่ดีกว่า"
พูดจบ โล่หวินหลานยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด เขาก็พาตัวนางมาตรงหน้าชิวโม่ไป๋ แล้วพูดขึ้น “ท่านตา พิธีในวันนี้ถูกทำลาย ยังไม่ได้กราบไหว้เรียบร้อย ขอความกรุณาท่านตาช่วยเป็นพยาน"
สิ่งที่โม่ฉีหมิงพูดนั้น ทำให้ชิวโม่ไป๋รู้สึกภูมิใจนัก เขาหันมามองโม่ฉีหมิง
"เมื่อครู่พิธียังทำได้เพียงครึ่งเดียวก็ถูกทำลาย และตอนนี้ฮ่องเต้ก็ได้เสด็จกลับไปเสียแล้ว แม้แต่ตำหนักที่จัดงานก็วุ่นวายไปหมด ข้าว่าให้สาวรับใช้ไปเก็บกวาดให้เรียบร้อย แล้วค่อยกราบไหว้บรรพบุรุษดีหรือไม่?" ชิวโม่ไป๋กล่าว
โม่ฉีหมิงส่ายหน้า “ท่านตา การทำพิธีนั้นก็เพียงทำให้สบายใจ ไม่ว่าด้านนอกจะเป็นอย่างไร ข้าหวังเพียงนางไม่เก็บเอามาใส่ใจ
พูดจบ เขาก็ก้มหน้าไปมองโล่หวินหลาน แล้วยักคิ้วให้นาง
โล่หวินหลานพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ งานพิธีที่ถูกทำลาย ต้องดำเนินต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก