ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 414

สรุปบท ตอนที่ 414 เข้าห้องหอ: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก

ตอนที่ 414 เข้าห้องหอ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก

ตอนนี้ของ ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 414 เข้าห้องหอ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 414 เข้าห้องหอ

เพียงแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะคนที่มาร่วมงานน้อยลง แต่ก็ล้วนเป็นคนกันเอง ที่มาแสดงความยินดีจากใจ

โล่หวินหลานคลุมผ้าแดงอีกครั้ง และทำตามสิ่งที่ผู้ทำพิธีกล่าว นางไม่อยากจะคิดสิ่งอื่นอีกแล้ว นางจับผ้าแดงที่มัดเป็นช่อซึ่งมีโม่ฉีหมิงจับอีกด้านหนึ่ง

"สามีภรรยากราบไหว้!” ทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเขา

เอนตัว โค้งคำนับ โล่หวินหลานและโม่ฉีหมิงหน้าผากชนกันเล็กน้อย จากนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้น

"เข้าห้องหอ!” สิ้นเสียง ทุกสายตามองตามโม่ฉีหมิงพาตัวโล่หวินหลานเข้าห้องหอ

ในที่สุดทุกอย่างก็เงียบ

ด้านในมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้ใจของโล่หวินหลานรู้สึกสงบ

นางนั่งอยู่ข้างเตียง ด้านข้างมีโม่ฉีหมิง มือหนาของเขาจับมือบางของนางเอาไว้ โล่หวินหลานสามารถจินตนาการรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาได้

เขาจับมือนางไปมา ราวกับเป็นของเล่น

"ข้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน" ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เสียงของเขาแหบพร่ากว่าปกติ

หากจะบอกว่านางไม่ตื่นเต้น คงเป็นเรื่องโกหก “เรื่องอะไรเพคะ?"

พูดจบ นางก็รู้สึกไม่น่าพูดเลย

นางอาจมองไม่เห็น่ว่าตอนนี้โม่ฉีหมิงกำลังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ได้เสียงเพียงเสียงของเขา “เจ้าอยากรู้จริงหรือ?" เขากระซิบที่ข้างหูข้องนาง

โล่หวินหลานยังไม่ทันได้ตอบบ คนตรงหน้าก็เปิดผ้าคลุมของนาง แววตาของเขาราวกับจะกลืนกินนางเข้าไป

โล่หวินหลานและเขาสบตากัน ริมฝีปากของเขาค่อยๆโน้มหน้าจูบลงมา

ในตอนแรกเขายังมีการยิ้มเล็กน้อย แต่เพียงครู่หนึ่งเขาก็เริ่มรุนแรงขึ้น ทั้งคู่บรรเลงเพลงรักกันอย่างดูดดื่ม

มือน้อยของโล่หวินหลานพาดอยู่ตรงคอของเขา

"อย่าโดนตัวข้าสิ!อย่าเบียดเข้ามา......นี่มันอะไรกัน?" เสียงบางอย่างดังมาจากด้านนอก

ทั้งคู่จึงหยุดสิ่งที่กำลังกระทำ โล่หวินหลานมองเขาหน้าแดงระเรื่อ เห็นเพียงสายตาเย็นชาของเขามองไปนอกหน้าต่าง

"ข้าออกไปดูประเดี๋ยว" โม่ฉีหมิงสวมเสื้อตัวนอก มองริมฝีปากของนางอย่างเสียดาย แล้วพูดขึ้น "ข้าจะรีบกลับมา"

คนด้านนอกเริ่มแย่งกันแอบดู พวกเขาเจาะรูหน้าต่างเป็นรูเล็กๆ จากนั้นก็เบียบเสียดกันแอบดู

อาลั่วหลันยกมือขึ้นดึงตัวหมิงซี “ตาข้าแล้ว!ตาข้าแล้ว!”

หมิงซีหลีกทางให้นาง แต่กลับถูกท่านอาจารย์ของเขาชิวโม่ไป๋พูดขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดจึงไม่ให้อาจารย์ของเจ้าดูก่อน?"

ขณะพูด เขาก็แยกตัวอาลั่วหลันและหมิงซี จากนั้นก็ยืนขึ้นไปบนเก้าอี้ แต่กลับได้ยินอาลั่วหลันพูดไปด้วยหัวเราะไปด้วย “ท่านอาจารย์ ข้ายังไม่เคยเห็น ท่านให้ลูกศิษย์สะใภ้คนนี้ดูบ้างเถอะ!”

พวกเขาแย่งกันไปมา หมิงซีมองดูทั้งสองด้วยความปวดหัว ทันใดนั้นเอง ร่างใหญ่ของใครบางคนก็เดินมาตรงหน้าของพวกเขา เขาคนนั้นขมวดคิ้วแล้วมองด้วยสายตาเย็นชา

ราวกับมีพายุ จู่ๆอากาศก็หนาวขึ้นทันที ขณะที่พวกเขากำลังจะรีบหนีไปนั้น โม่ฉีหมิงก็พูดขึ้น “ทุกคนดูกันเป็นอย่างไรบ้าง?"

ไม่มีเสียงตอบรับ

"พาพวกเขาไปดื่มที่ห้องโถง!” โม่ฉีหมิงร้องตะโกนบอกกับบ่าวรับใช้

ชิวโม่ไป๋ยิ้มอย่างเขินอาย “หลานเขย ข้าจะไปดื่มเดี๋ยวนี้ ไป ทุกคนไปกับตากัน!”

โม่ฉีหมิงยังคงอยากจะกลับเข้าไปหาโล่หวินหลัน จึงไม่อยากไปกับชิวโม่ไป๋ แต่เขายังไม่ทันได้ทำสิ่งใด หมิงซีก็พูดขึ้น

"วันนี้ท่านอาจารย์มีความสุขมาก องค์รัชทายาทคงจะมาร่วมดื่มด้วยใช่หรือไม่ขอรับ?" หมิงซีขมวดคิ้ว เขาคิดสิ่งใดอยู่โม่ฉีหมิงต่างรู้ดี

วันนี้สองอาจารย์และลูกศิษย์นี่คงอยากจะเมาเหล้าเขาแล้วจริงๆ เพราะปกติเขาไม่เคยมีโอกาส วันนี้เลยอยากจะใช้โอกาสนี้ให้คุ้ม

โม่ฉีหมิงกระตุกยิ้ม แล้วเดินไปกับพวกเขา

สุรามากมายวางเรียงรายเอาไว้ แต่กลับไม่มีแขกเหรื่อ นอกจากสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติพวกเขา และโคมไฟสีแดงด้านนอกที่ประดับเอาไว้ ทำให้ได้บรรยากาศงานแต่งงานขึ้นมาบ้าง

"พวกเจ้าออกไปให้หมด ข้าจะดื่มกับหลานเขยข้า ไม่ต้องมาปรนนิบัติ" ชิวโม่ไป๋กล่าว

แต่สาวใช้ในตำหนักล้วนฟังเพียงคำสั่งของโม่ฉีหมิง พวกนางมองไปที่เขา เห็นเขาพยักหน้า จึงออกไปและไม่ลืมที่จะปิดประตู

ชิวโม๋ไป๋เอามือพาดไหล่ของโม่ฉีหมิงเอาไว้ จากนั้นก็รินเหล้าสองแก้ว

โม่ฉีหมิง เห็นว่าเขาดื่ม ตนจึงดื่มตาม

"แม้ว่าข้าจะอยู่ดูแลเสี่ยวฮัวมาไม่นาน แต่ข้ารักและเอ็นดูนางมาก และรู้สึกผิดกับนาง หลายปีมานี้ข้าไม่ได้ทำหน้าที่ตาที่ดีเลย มองดูนางนอนอยู่บนเตียงหลายปี แต่ก็ไม่คิดหาวิธีมารักษานาง จนสุดท้ายพึ่งได้รู้ว่า นางเป็นหลานของข้า......"

ชิวโม่ไป๋เช็ดน้ำตา พูดใกล้จะจบเขากลับพูดไม่ออก

นางสวมชุดสีแดงเลือดนก ขับผิวของนางให้ขาว ผมสีดำสลวย กับใบหน้านวลเนียนที่จับต้องกับแสงจันทร์ ราวกับนางในภาพวาด ราวกับว่านางจะไปจากเขาไกลแสนไกล

โล่หวินหลานขยับตัวเล็กน้อย เมื่อร่างใหญ่โผเข้ากอดนาง มือหนาจับที่เอวบาง

"ยืนอยู่ที่นี่ ไม่หนาวหรือ?" โม่ฉีหมิงเอ๋ยถาม กลิ่นเหล้าคละคลุ้งออกมา

โล่หวินหลานยื่นมือออกไปจับมือของเขา ตอนนี้มือของนางเย็นเล็กน้อย

"ไม่หนาวเพคะ เหตุใดท่านพี่จึงดื่มมากถึงเพียงนี้?" โล่หวินหลานถาม แล้วขมวดคิ้ว

โม่ฉีหมิงค่อยๆพรมจูบไปที่หน้าผากของนาง

แต่ทันใดนั้นเอง โล่หวินหลานกลับผลักตัวเขาออก “เหม็นเหลือเกิน ท่านไปอาบน้ำก่อนเถอะ!”

แต่กลับถูกโม่ฉีหมิงจับมือเอาไว้แน่น เขามองมาที่นางแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “พึ่งเข้าห้องหอเจ้าก็รังเกียจข้าแล้วหรือ? บอกให้ข้าไปอาบน้ำ? ข้าไม่ไป ข้าอยากจะหอมเจ้าเช่นนี้ต่อไป......"

พูดไป เขาก็พรมจูบมาที่หน้าผากของนาง จากนั้นก็จูบโล่หวินหลานอย่างดูดดื่ม เขาจูบจนนางแทบจะหายใจไม่ออก นางไม่อาจสู้แรงของเขาได้ และนางก็ค่อยๆหมดแรง

ขณะที่นางเกือบจะเป็นลมล้มลงไปนั้น โม่ฉีหมิงก็คลายจูบ จากนั้นก็อุ้มนางวางลงบนเตียง

โล่หวินหลานรู้ดีว่าจุดอ่อนของเขาคืออะไร รู้ว่าเขาชอบให้พูดจาเช่นไร นางจึงกอดไปที่เอวของเขา แล้วพูดเสียงหวาน “ไปอาบน้ำก่อนดีไหมเพคะ? กลิ่นเหล้าทำให้หม่อมฉันหายใจลำบาก ท่านไปอาบน้ำก่อนนะเพคะ?"

มองดูสายตาเปร่งประกายของนาง โม่ฉีหมิงไม่อยากไปเลย แต่สุดท้ายเขาก็คลายมือจากนาง

"อื้ม" เขาลงจากเตียงอย่างเชื่อฟัง แล้วไปอาบน้ำ

โล่หวินหลานมองเขาที่เดินไปนั้น นางก็หัวเราะ

ไม่นาน เขาก็กลับมาอย่างสดชื่น เขาสวมชุดตัวบาง ใบหน้าของเขานั้นแดงน้อยลง ไม่มีกลิ่นสุราเหม็นเช่นเมื่อครู่แล้วด้วย

แม้ว่าเขาจะสร่างเมาแล้ว แต่ตอนที่เขาเข้ามานั้นกลับเดินไปบนโต๊ะ

เขาหยิบแก้วสุรามา แล้วเดินมาข้างนาง จากนั้นก็ยื่นให้

"ตอนนี้ดึกมากแล้ว หวินหลาน ดื่มแก้วนี้เสร็จแล้วเข้านอนกันเถอะ" เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า และกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

แสงเทียนในห้องนอนดับลงตั้งแต่เมื่อไหร่นางเองก็ไม่อาจรับรู้ เหลือเพียงไม่กี่ที่ที่ยังจุดอยู่ แสงเทียนบางเบาทำให้ทั้งคู่ดูน่าดึงดูดยิ่งนัก

โล่หวินหลานรับสุรามา จากนั้นก็ดื่มท่าคู่รักกับเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก