ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 418

ตอนที่ 418 ความวุ่นวายในราชสำนัก

เช้าตรู่วันที่สอง โล่หวินหลานตื่นขึ้นมา ก็ไม่พบโม่ฉีหมิงแล้ว ด้านนอกมีนางกำนัลมากมายยืนอยู่ ทุกคนล้วนคอยตั้งใจฟังว่าด้านในมีเสียงอะไรหรือไม่ เมื่อได้ยินเสียงแล้วจึงจะกล้าเข้าไป

โม่ฉีหมิงนั้นสายตาเฉียบแหลม นางกำนัลที่เขาส่งมาให้ดูแลนาง ล้วนเป็นนางกำนัลที่ฉลาดหลักแหลม เพียงแต่จะชอบพูดจามากกว่าไซ่เยว่เท่านั้นอีก และช่างสังเกตสีหน้าของเขา คำใดที่ไม่ควรพูดนางจะไม่พูด คำใดที่พูดนางล้วนต้องไตร่ตรองมาก่อน

สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ นางเคยได้เรียนหนังสือมาก่อน บางครั้งก็จะเอาคำกลอนมากล่าวเปรียบเปรย

"พระชายา วันนี้ท่านนอนหลับสบายมากใช่ไหมเพคะ ท่านอ๋องดีกับท่านมาก ตอนตื่นนอนก็ไม่เรียกสาวใช้คนใดเข้าไปปรนนิบัติ กลัวว่าจะทำให้ท่านตื่น" นางชื่อว่าเทียนซี ชื่อของนางก็มงคลยิ่งนัก

ช่วงนี้นางมักจะหลับจนตื่นสาย ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหมือนกัน รู้แต่เพียงว่าเมื่อหลับตาลงก็สามารถหลับลึกได้เลย และก็รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายอีกด้วย

"ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้ไว้ค่อยตื่นเช้าหน่อย" โล่หวินหลานกล่าว แล้วถามขึ้น “องค์รัชทายาทเข้าวังแล้วหรือ?"

เทียนซีพยักหน้า ขณะที่กำลังหวีผมให้นาง “พระชายาเพคะท่านคงยังไม่ทราบเรื่องใช่ไหม เมื่อคืนคุณชายหรงถูกหลินอ๋องฆ่าตาย เช้าตรู่วันนี้หลี่ปู้ก็ได้รีบไปขอความยุติธรรมกับฮ่องเต้ วันนี้องค์รัชทายาทจึงถูกเรียกเข้าวังแต่เช้า"

โล่หวินหลานนิ่งไปครู่หนึ่ง นางมองเทียนซีผ่านกระจกทองเหลือง สีหน้าของนางไม่เหมือนคนที่พูดโกหก อีกทั้งนางเองก็ไม่อาจที่จะพูดปลดได้ แต่เหตุใดหลินอ๋องถึงได้ฆ่าบุตรชายของหลี่ปู้ เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ?

"แต่งหน้าทำผมให้ข้าที ข้าจะออกไปด้านนอก" โล่หวินหลานกล่าว

เทียนซีหยิบหวีขึ้นมา จากนั้นก็มองโล่หวินหลานอย่างทำตัวไม่ถูก “พระชายาเพคะ องค์รัชทายาทรับสั่งแล้ว ให้ท่านอยู่ในตำหนัก"

โล่หวินหลานทำใจให้เย็นลง ช่วงนี้นางมักจะขาดสติ และบางทีก็จะใจร้อน เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่?

หลินอ๋องฆ่าบุตรชายของหลี่ปู้ มันเกี่ยวอะไรกับนาง? เรื่องนี้หากกลายเป็นเรื่องใหญ่ ก็จะดีต่อโม่ฉีหมิง แล้วนางจะเป็นกังวลไปทำไม

เมื่อเห็นว่าโล่หวินหลานใจเย็นลง เทียนซีจึงถอนหายใจ คำว่าองค์รัชทายาทนี้ใช้ได้ผล

ไม่รู้ว่าโล่หวินหลานกำลังคิดสิ่งใด

"เจ้าไปฟังมาสิว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วรีบมารายงานข้า" โล่หวินหลานรับสั่ง

เทียนซีรีบมวยผมให้นาง จากนั้นก็ออกไป

วังหลวง ห้องหนังสือ

ฮ่องเต้เจียเฉิงกุมหน้าผากเอาไว้ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้มังกร และมีจ้าวกงกงที่มีสีหน้าเป็นกังวล คอยมองฮ่องเต้เจียเฉิง กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรขึ้นมา

"ฮ่องเต้ ได้โปรดเป็นธรรมกับข้าน้อย!กว่าข้าน้อยจะมีบุตรชายคนนี้ได้ ก็ตอนที่ข้าน้อยอายุมากแล้ว ข้าน้อยไม่เคยทุบตีหรือดุด่า แต่สุดท้าย กลับถูก......ฮ่องเต้ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับข้าน้อยด้วย!” หลี่ปู้คุกเข่าตรงหน้าฮ่องเต้

หลี่ปู้คุกเข่าเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงรุ่งสางฮ่องเต้ตื่นขึ้นมา จึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฮ่องเต้รับฟัง ฮ่องเต้ทรงกริ้วแต่เช้า

เหตุใดตั้งแต่วันตรุษจีนที่ผ่านมา ก็ไม่เคยสงบสุขเลย?

"ท่านหรง ท่านพูดมาสิ ว่าต้องการให้ข้าทำเช่นไร?" ฮ่องเต้ถามขึ้น น้ำเสียงของเขาช่างอิดโรยนัก

หรงเจี้ยนเงยหน้าขึ้นมา “องค์ชายต้องได้รับโทษเท่ากับประชาชน ชีวิตแลกชีวิตขอรับ!”

เมื่อเขาพูดจบ ฮ่องเต้ก็รีบเงยหน้าขึ้น แล้วตะโกนเสียงดัง “เจ้า หรงเจี้ยน!”

เขาไม่คิดว่าจะต้องเอาชีวิตของหลินอ๋องไปชดใช้ชีวิตของหรงอัน เขาเพียงอยากให้บทเรียนกับหลินอ๋องก็เท่านั้น ตอนนี้ฮ่องเต้ก็เหลือบุตรชายเพียงไม่กี่คน หากหลินอ๋องตายไปอีกคน เขาจะไปมองหน้าบรรพบุรุษได้อย่างไร?

"ฮ่องเต้ ข้าน้อยรู้ว่าท่านไม่อาจทำได้ แต่ก็ไม่อาจให้บุตรชายของข้าถูกฆ่าตายอย่างไร้ค่า? บุตรชายของข้าน้อยและหลินอ๋องมีสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดหลินอ๋องจึงทำเช่นนี้ ข้าน้อยอยากได้ความยุติธรรม!”

หรงเจี้ยนร่ายยาว เขาไม่อยากให้ฮ่องเต้ได้มีโอกาสพูด

ฮ่องเต้เองก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ จึงถามโม่ฉีหมิง เขาจึงตอบ “ท่านพ่อ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าว่าเราเรียกต้องน้องเจ็ดมาดีหรือไม่ เพื่อทำให้แน่ใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้น"

เป็นเช่นนี้ ก็ดี

ไม่นาน หลินอ๋องก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าอิดโรยพร้อมกับจ้าวกงกง ผ่านไปเพีนยงคนเดียว ผมของเขานั้นยุ่งเหยิง ใบหน้าซีดเซียว ราวกับคนที่เจอกับสิ่งน่ากลัวขึ้น

หลังจากที่เข้ามา เขาก็เอาแต่เดินไปใกล้ฮ่องเต้ ไม่กล้าสบตาหรงเจี้ยน

หลงเจี้ยนมองหลินอ๋องด้วยสายตาอาฆาต หากไม่ใช่เพราะเขายังมีสติยั้งคิด ตอนนี้คงกระโดดเข้าไปบีบคอหลินอ๋องเสียแล้ว

"ท่านพ่อ หม่อมฉันถูกใส่ความ!หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าคุณชายหรง ไม่ใช่หม่อมฉัน!”หลินอ๋องร้องตะโกนเสียงดัง ขาดก็แต่คุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ก็เท่านั้น

"เจ้าเป็นคนฆ่าหรงอันชัดๆ หลักฐานคาตา เจ้ายังกล้าที่จะพูดปลด? ฮ่องเต้ขอรับ เมื่อคืนหรงอันยังอยู่กับข้าน้อย แต่เพราะหลินอ๋องสั่งให้พ่อบ้านมาเรียกตัวหรงอันกว่าห้าครั้ง หรงอันจึงไปที่ตำหนัก ใครจะไปคิด เขาไปเพียงไม่นาน ก็ได้ข่าวมาว่าเขาสิ้นใจแล้ว.......ท่านจะให้ข้าน้อย เผชิญหน้ากับเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?"

หรงเจี้ยนร้องไห้และตะโกนอยู่ตรงห้องโถง

หลายวันมานี้ฮ่องเต้เจียเฉิงมีเรื่องให้ต้องกังวลมากมาย หลายเรื่องล้วนบั่นทอนร่างกายของเขา โดยเฉพาะลูกชายที่ค่อยๆล้มหายตายจาก และคนข้างกายของตนก็ได้หักหลังตน เขาไม่เพียงแต่โดดเดี่ยวแต่ยังรู้สึกเดียวดายด้วย

โม่ฉีหมิงใจเย็นลง ใบหน้าของเขาไร้ซึ่งอารมณ์ เขามองไปรอบๆ

หลินอ๋องที่อยู่ด้านหลังก็รีบวิ่งเข้ามา แล้วคุกเข่าร้องไห้ตรงหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง “ท่านพ่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านได้โปรดรีบฟื้นขึ้นมาเถอะ!”

โม่ฉีหมิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วบอกให้เขาเงียบลงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

"น้องเจ็ด ท่านพ่อยังไม่สิ้นใจ ตอนนี้เจ้าจะร้องไห้ไปทำไม?"

หลินอ๋องเช็ดคราบน้ำตา แล้วพูดขึ้น “ข้าเสียใจไม่ได้หรือ? ใครจะเหมือนเจ้าไร้หัวจิตหัวใจ หากท่านพ่อเป็นอะไร เจ้าคงมีความสุขมากใช่ไหม? เจ้าก็จะได้เป็นฮ่องเต้คนต่อไป เจ้ามีความสุขมากใช่หรือไม่? เจ้าคงอยากให้ท่านพ่อรีบตาย?"

เขายิ่งพูด สีหน้าของโม่ฉีหมิงก็ยิ่งน่ากลัว เขากำหมัดแน่น แล้วถามขึ้น “น้องเจ็ด เจ้ารู้ไหมว่าตนเองกำลังพูดสิ่งใดอยู่?"

"ข้ารู้สิ......."

"รู้ก็ดี" โม่ฉีหมิงพูดแทรกเขา "ท่านพ่อเป็นคนมีบารมี เรื่องแค่นี้ไม่อาจทำให้ท่านพ่อเป็นสิ่งใดได้ เจ้าต่างหาก ไม่ต้องมารบกวนเวลาพักผ่อนของท่านพ่อ ออกไป"

พูดจบ เขาก็ให้นางกำนัลด้านนอกมาพาตัวเขาออกไป นางกำนัลหลายคนเดินมาตรงหน้าของหลินอ๋อง พอได้ยินคำสั่งของโม่ฉีหมิง จึงกล้าที่จะนำตัวเขาออกไป

หลินอ๋องราวกับปลาที่อยู่บนเคียง ไม่มีทางหนีไปไหนรอด สามารถถูกฆ่าตายโดยง่าย

ตอนที่ฮ่องเต้เจียเฉิงฟื้นขึ้นมานั้น ก็มืดค่ำมากแล้ว

โม่ฉีหมิงป้อนยาให้เขาด้วยตนเอง เห็นเขาพูดด้วยความยากลำบาก บอกกับเขาว่าเพราะความเหนื่อยล้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงมาถึงขั้นนี้ได้ เขาป้อนยาและอยู่เฝ้าฮ่องเต้

ฮ่องเต้ไม่ได้พูดสิ่งใด มองดูเขาครู่หนึ่ง ก็หลับไปอีกครั้ง

เขาดูแลฮ่องเต้อยู่ครู่หนึ่ง หมอหลวงก็เดินมา โม่ฉีหมิงจึงมีเวลาออกไปพักผ่อนด้านนอก เห็นว่าหรงเจี้ยนยังคงรออยู่ตรงหน้าประตู จึงกล่าวตักเตือนเขาด้วยความหวังดี

"หลังจากที่กินโอสถแล้ว ท่านพ่อก็ได้หลับไป วันนี้ท่านเจี้ยนคงไม่อาจได้เข้าพบฮ่องเต้ ท่านค่อยมาใหม่พรุ่งนี้เถอะ" โม่ฉีหมิงบอกเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

แต่คำพูดเพียงประโยคเดียวของเขา ไม่คิดว่าหรงเจี้ยนจะเชื่อฟัง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น “ขอบพระทัยองค์รัชทายาท ข้าน้อยจะมาเข้าเฝ้าใหม่ในวันพรุ่งนี้"

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะร้องขอความเป็นธรรมกับฮ่องเต้เจียเฉิงจนได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก