ตอนที่ 124 สิ่งที่สำคัญที่สุดของนางคือการปรนนิบัติเขา
ในขณะที่คนทั้งสองถกเถียงกัน หลินซินเยียนที่ดูแบบร่างจนแล้วเสร็จ ก็ทราบว่าเซียวฝานกับอู๋อี้กำลังทำเครื่องขว้างหิน ใช้สำหรับโจมตีระลอกแรกในยามสงครามชิงเมือง
แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำคือเครื่องขว้างหินแบบโจมตี แบบโจมตีและแบบป้องกันนั้นมีความแตกต่างกัน เครื่องขว้างหินแบบป้องกันมุ่งเน้นที่การพลังการสังหาร แต่เครื่องขว้างหินแบบโจมตีมุ่งเน้นที่ความชำนาญและแม่นยำ
แต่เมื่อดูแบบภาพร่าง พวกเขาได้ประสบเข้ากับปัญหานหนึ่ง หลินซินเยียนถือแบบภาพร่างและพินิจอย่างละเอียด เพียงชั่วครู่ก็ดิ่งลงสู่ห้วงความคิดของตนเอง
“ศิษย์น้องหญิง? เจ้าคิดอะไรอยู่? แบบร่างนั่นเจ้าอ่านเข้าใจด้วยหรือ?” อู๋อี้เห็นนางนั่งอยู่โดยไม่ได้ขยับมาสักพัก จึงเข้าไปหาด้วยความห่วงใย
หลินซินเยียนเมื่อถูกเขาส่งเสียงเรียกจึงได้รู้สึกตัว แต่มีบางสิ่งที่คล้ายกับแสงแห่งการตรัสรู้ผุดขึ้นในหัว นางลุกขึ้นทันทีโดยไม่พูดไม่จา และเดินไปยังเบื้องหน้าเครื่องขว้างหินตัวนั้น มองหาชิ้นส่วนที่อยู่ด้านข้าง ก็พบแผ่นเหล็กรูปเกือกม้าและติดตั้งบนตำแหน่งข้อต่อของเครื่องขว้างหิน
“ศิษย์พี่ พวกท่านมาดูหน่อยว่าแบบนี้ใช้ได้หรือไม่?” หลินซินเยียนหันหลับมาถาม
ทั้งเซียวฝานและอู๋อี้ทั้งสองคนว่ายังไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อได้ยินนางตะโกนเรียกจึงค่อยเขยิบเข้ามาใกล้อย่างงุนงง เมื่อทั้งสองมองไปยังเครื่องขว้างหิน พลันเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง
“นั่น นั่นมัน ศิษย์น้องหญิง นี่เจ้าโชคดีบังเอิญโดนมันเข้าใช่ไหม?" เซียวฝานมุมปากกระตุก ราวกับจะไม่เชื่อสายตาของตน
"แม้แต่อู๋อี้ที่ซื่อๆก็ยังอ้าปากค้างอย่างเหลือเชื่อ "โชคดีที่ไหนกันเล่า นี่มันการสร้างอาวุธนะไม่ใช่การซื้อโชคลาภ ศิษย์น้องหญิง เจ้าเรียนการประดิษฐ์สร้างอาวุธกับผู้ใด?"
"เป็นไปไม่ได้น่า พวกเราทั้งสามระดับขงเบ้งได้คิดหาวิธีมาหลายวันก็ยังคิดแก้ปัญหานี้ไม่ตก เจ้าที่มาได้ไม่นานก็คิดออกแล้วหรือ? ไม่ได้การล่ะ ความสามารถของข้าถูกท้าทายเสียแล้ว! เซียวฝานไม่ยอมรับถึงข้อเท็จจริงนี้ ใบหน้าอ่อนแรงทรุดลงบนเก้าอี้
หลินซินเยียนหัวเราะอย่างเก้ๆกังๆ "ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าข้าเก่งกาจ เพียงแต่คนในสถานการณ์จะสับสนแต่คนนอกจะมองได้ทะลุปรุโปร่ง กล่าวตามจริงแล้ว เครื่องขว้างหินแบบนี้อาศัยข้าเพียงลำพังคงไม่สามารถทำออกมาได้ จากแนวแบบร่าง พวกท่านทำออกมาได้ดีทุกขั้นตอน แต่เนื่องจากพวกท่านมีความคิดตายตัวเป็นของตนเอง รูปแบบความคิดของคนเราอาจจะอยู่ภายใต้ความเคยชิน ดังนั้นสิ่งที่พวกท่านสร้างจึงมีจุดบอด แต่ข้าได้เห็นแบบร่างเป็นครั้งแรกจึงไม่ถูกแบบภาพร่างหลอกตา ดังนั้นจึงสามารถมองทะลุถึงเรื่องข้อต่อตรงส่วนนี้"
นี่ไม่ใช่คำชม แต่เป็นความคิดที่แท้จริงของนาง แบบภาพร่างนี้คุ้มค่าการเรียนรู้ของนางจริงๆ ดังนั้นการได้เข้าศาลาความลับแห่งสวรรค์แห่งนี้ นางเลือกไม่ผิดอย่างที่คิดไว้
เมื่อนางได้อธิบาย ใจของเซียวฝานจึงพอจะยอมรับได้อยู่บ้าง "ยังเข้าใจว่าเจ้าเก่งกาจกว่าพวกเราเสียอีก ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อไปข้าจะมีหน้าเป็นศิษย์พี่ของเจ้าได้อย่างไรกัน ค่อยยังชั่ว ค่อยยังชั่ว..."
คำพูดของเขาทำให้หลินซินเยียนยิ้มเจื่อน "สามารถสร้างอาวุธอย่างเครื่องขว้างหินแบบนี้ออกมาได้ เกรงว่าเรื่องการโจมตีเมืองระดับสูงก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ศิษย์พี่ เครื่องขว้างหินที่ท่านทำออกมานั้นสมบูรณ์แบบอย่างมาก ศิษย์น้องเช่นข้าไม่อาจเทียบท่านได้"
“ช่างเถิด เห็นเจ้าปากหวานเช่นนี้ ข้าให้อภัยเจ้าก็ได้” เซียวฝานได้ใจราวกับเลือดสูบฉีด ลุกขึ้นยืนไปขยี้ผมของหลินซินเยียน
อู๋อี้ส่ายศีรษะกับวิธีการไร้ยางอายที่ทั้งน่าเอือมระอาทั้งน่ากล้ำกลืนของเซียวฝาน แต่สายตาที่มองหลินซินเยียนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง "อาจารย์มองไว้ไม่มีผิด สามารถเข้ามาในสำนักของพวกเราได้ ย่อมไม่ใช่หมูให้เคี้ยวง่ายๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...