ตอนที่ 131 สืบข้อมูล
ต้องสืบให้ชัดเจนว่าเรื่องราวทั้งมวลสรุปแล้วเป็นมาอย่างไรกันแน่ แน่นอนว่าจะต้องหาท่านเยว่ให้ได้ เพียงแต่ว่านางเคยไปคุกใต้น้ำมาแล้ว พิจารณาจากโครงสร้างของคุกใต้น้ำนั่น เห็นได้ชัดว่านั่นคือธารมรณะเป็นแน่ ปราศจากทางออกและไร้ซึ่งทางเข้า เกรงว่ามีเสื้อเกราะแบบพิเศษอันนี้ก็ไม่สามารถเข้าไปได้เสียแล้วสิ
“ศิษย์พี่ ถึงแม้เสื้อเกราะจะกันน้ำได้ แต่ก็ไม่สามารถจัดเตรียมออกซิเจนทดแทนอากาศให้คนหายใจ ก็บอกไปแล้วอย่างไรว่าโครงสร้างของคุกใต้น้ำไม่มีทั้งทางเข้าและทางออก เกรงว่าเสื้อเกราะนี้จะมหัศจรรย์เพียงใดก็คงยากเกินความสามารถเสียแล้ว” หลินซินเยียนกล่าวถึงความคลางแคลงใจ
สดับฟังนางกล่าวเช่นนี้ เซียวฝานก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาฉับพลัน “ศิษย์น้องหนอศิษย์น้อง เจ้านี่ช่างทำให้ข้าประหลาดใจดีแท้ ไม่ผิดดังเจ้าว่า ถ้ามีเพียงแค่เสื้อเกราะ เกรงว่าพวกเราเข้าไปในใต้น้ำก็จะจมตาย ฉะนั้นพวกข้ายังทำเจ้านี่ขึ้นมา...”
ภายใต้การส่งสัญญาณของเซียวฝาน อู๋อี้นำเอาถุงหนังแพะจากตู้ข้างหลังออกมา ถุงนั่นสูงประมาณครึ่งลำตัวคน ปากถุงกลับไม่ได้มีขนาดใหญ่ ลักษณะค่อนข้างเหมือนกับลูกโป่งขนาดยักษ์
“ใช่แล้ว ศิษย์น้องที่เจ้ากล่าวถึงอากาศเมื่อสักครู่นี้หมายความว่าอย่างไร” อู๋อี้ชูถุงใบนั้นพลางกล่าวถามหลินซินเยียน
หลินซินเยียนกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่รู้ว่าจะอธิบายศัพท์คำนี้ว่าอย่างไรดี ทว่าภายในใจลึกๆ กลับนึกแอบประหลาดใจกับความหลักแหลมของเซียวฝานและอู๋อี้ สามารถกล่าวได้ว่าเวลาและสถานที่แบบนี้ความรู้เกี่ยวกับกายภาพนั้นไร้ซึ่งความเจริญก็ว่าได้ พวกเขาไม่รู้ว่าออกซิเจนคืออะไร หากแต่กลับรู้ว่ามนุษย์ใช้ของสิ่งใดในการดำรงชีวิต จึงสามารถประดิษฐ์ถุงเก็บอากาศไว้สำหรับหายใจขึ้นมาได้
“ก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก กล่าวคือข้าไม่รู้ว่าควรพูดเช่นไรจึงจะนิยามศัพท์คำนี้ได้ เอาเป็นว่าใต้น้ำลึกมนุษย์ขาดอากาศหายใจตายข้อนี้ถูกต้องแล้ว”
“โอ้ ข้อนี้พวกข้ารู้แน่อยู่แล้ว เจ้าดูเถิดพวกที่ว่ายน้ำเก่งๆ เหล่านั้น ขอเพียงคาบแท่งฟางข้าวสีอันเดียวก็สามารถอยู่ใต้น้ำลึกได้เป็นเวลานาน พวกข้าคิดว่าหลักการก็ควรจะเป็นเช่นเดียวกันนี้แล นอกจากนี้เมื่อคืนวานข้ากับศิษย์พี่ได้ไปทดสอบที่ลำธารทั้งคืน แค่พกเจ้าถุงนี่ก็สามารถอยู่ในน้ำได้ครึ่งค่อนยาม” อู๋อี้กล่าวอธิบาย
เซียวฝานพยักศีรษะพร้อมมองหลินซินเยียนพลางกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น ที่เจ้าพูดถึงปัญหาของโครงสร้างคุกใต้น้ำพวกข้าเองก็เคยขบคิดกันอย่างละเอียดแล้ว ที่เจ้าเห็นนั้นเป็นโครงสร้างคุกใต้น้ำในปัจจุบัน แต่ว่าคุกใต้น้ำนั้นสร้างหลังจากที่อวิ๋นเทียนสี่ได้ขึ้นเป็นประมุขแล้ว ตอนที่สร้างครั้งแรก ข้าและอู๋อี้ล้วนยังเป็นเด็กเจ็ดแปดขวบ ตอนที่พวกเขาสร้างคุกใต้น้ำพวกข้าแอบวิ่งไปสอดส่อง น้ำพวกนั้นเป็นน้ำตกที่ไหลเข้ามาจากหลังเขา”
“ไหลเข้ามา เช่นนั้นก็ต้องมีทางเข้าสิ” นัยน์ตาหลินซินเยียนทอประกาย ใบหน้าก็ฉายแววเปล่งปลั่ง
“ไม่ผิด เพียงแต่หลังจากที่น้ำไหลเข้าแล้วทางเข้าก็ถูกปิดลง พวกข้าทั้งสองล้วนแต่มิใช่ผู้มีวิทยายุทธขั้นสูง ฉะนั้นแล้วทำได้เพียงอาศัยเสื้อเกราะชนิดพิเศษนี้ดำผุดดำว่ายเข้าไปในบ่อน้ำยะเยือกนั่น จากนั้นจึงกระเทาะเจ้าประตูทางเข้าที่ถูกปิดตายนั่นออกเสียแล้วค่อยเข้าไป”
นี่ก็คือแผนการของเซียวฝานและอู๋อี้ ฟังดูแล้วแทบจะปราศจากปัญหาใดๆ หลักการก็นับว่าใช้ได้ทีเดียว
“เพียงแค่เวลานี้เป็นกลางวัน หากว่าเป็นยามอัสดง พวกข้าคงสามารถไปพบท่านผู้เฒ่าได้ในทันที” อู๋อี้ถอนหายใจหนึ่งเฮือก นัยน์ตาพลันหรี่แววลง
หลินซินเยียนสภาพจิตใจหนักหน่วง พลางคิดว่าท่านเยว่ถูกจองจำในคุกใต้น้ำนั่นคงจะเป็นหนึ่งวันที่เวลาอันแสนทรมาน สภาพจิตใจก็เลวร้าย บาดแผลบริเวณสะบักไหล่ของท่านผู้เฒ่าก็ยังมิได้ทาหยูกยา สภาพไร้สมรรถนะกระนั้น โลหิตสดๆ ไหลออกมาไม่ขาดสาย เช่นนี้แล้วจะเกิดอาการหมดสติเพราะเสียเลือดมากไปหรือไม่ จะมีภยันตรายต่อชีวิตหรือไม่
คิดดังนี้แล้ว ความว้าวุ่นใจของนางยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทว่านางเห็นสีหน้าซีดเผือดอย่างคนอดหลับอดนอนของเซียวฝานและอู๋อี้ กลับต้องข่มความกระสับกระส่ายของตนลง “ศิษย์พี่ คืนวานท่านทั้งสองยังมิได้หลับเลยทั้งคืน รีบไปพักผ่อนเถิด หลังจากพักเอาแรงเสร็จแล้วตอนเย็นจะได้มีพละกำลัง ข้าจะไปสืบถามทางด้านเฝิงซื่อไห่ดูสักหน่อยว่าจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่”
“เวลาเช่นนี้พวกข้าจะข่มตาหลับลงได้อย่างไรกันเล่า” อู๋อี้ส่ายศีรษะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...