ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 138

ตอนที่ 138 สัญญาค้าทาส

นัยน์ตาของอู๋อี้คร่ำเลือด เหลือบมองนางอย่างแน่วแน่ จากนั้นจึงล้วงเอากระบอกชนวนออกมาจุดเชื้อเพลิง เปลวไฟระบนใบหน้าของเขา ทำให้สีหน้าของเขากลับยิ่งดุร้ายขึ้นถนัดตา

“พวกเราจะต้องมีชีวิตต่อไป ท่านอาจารย์คงเข้าใจ หากต้องแบกร่างท่านอาจารย์ไปพร้อมกับวิ่งหนีพวกเราลำบากแย่...” ตอนที่อู๋อี้เอ่ย ลำคอเต็มไปด้วยเสียงสะอื้น ปรับอารมณ์ได้แล้วเขาจึงเอ่ยต่อ “พวกเรานำเถ้ากระดูกของท่านอาจารย์ออกไปแทนเถิด”

หลินซินเยียนไม่ได้ตำหนิวิธีการของอู๋อี้ เพราะว่านางรู้ดี ภายในใจของเขานั้นจะต้องโศกเศร้ากว่าตนเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงทำเพียงย่อกายคุกเข่าลงต่อหน้ากองไม้ที่กำลังแผดเผา โค้งคำนับสามครั้งอย่างหนักแน่น

โลงไม้ถูกแผดเผาเสียงดังเปาะแปะ ผ่านไปได้ไม่กี่ยาม กลิ่นผิวหนังไหม้เกรียมลอยออกมาจากกองเพลิง กลิ่นนั้นอบอวลอยู่ในโพรงจมูกของหลินซินเยียน ระคายเคืองดวงตาของนางอย่างแสบร้อนทรมาน กลิ่นไหม้เกรียมเช่นนี้ หลายปีต่อมาก็ยังคงหลอกหลอนในความฝันของนาง นางจำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ถูกกลิ่นเกรียมเช่นนี้ปลุกให้สะดุ้งตื่น

อู๋อี้คุกเข่าลงบนพื้น โขกศีรษะลงกับพื้น เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา กระทั่งหีบศพถูกเผาเกือบสิ้น เหลือเพียงเศษเถ้าถ่านสี่หม่น เขาจึงค่อยยืนกายลุกขึ้น นำโหลออกมาเก็บเถ้ากระดูกเหล่านั้น

การกระทำของเขา จากต้นจบล้วนหนักแน่นมั่นคง เพียงแต่ยามที่ยกเถ้ากระดูกขึ้นมานั้น ร่างของเขากลับโซเซอย่างห้ามไม่อยู่

นำเถ้ากระดูกเก็บเรียบร้อยดีแล้ว อู๋อี้ไปข้างในห้องอีกครั้งเพื่อเก็บสิ่งของจำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงออกมาพลางกล่าวกับหลินซินเยียน “พวกเราไปกันเถอะ”

“ไป” หลินซินเยียนงงงวย “พวกเราจะไปที่ไหน หรือว่าจะไปหาของสำคัญสิ่งนั้น”

อู๋อี้เหลือบมองนางอย่างขำขัน “พวกเราล้วนไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใดกันแน่ จะหาอย่างไร อีกอย่าง ยามที่ท่านอาจารย์จากไปยังไม่เคยเอ่ยถึงของสิ่งนั้นกับพวกเราด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดแล้วว่าท่านไม่อยากให้ของสิ่งนั้นตกไปอยู่ในกำมือของอวิ๋นเทียนสี่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้ข้าต้องตาย ก็ไม่สามารถนำของสิ่งนั้นออกมาแลกได้”

“เอ๋...แล้วศิษย์พี่ใหญ่เขาจะทำอย่างไร” หลินซินเยียนประหลาดใจหลายโข ฉับพลัน สมองพลันนึกถึงยามที่เซียวฝานเดินไปหาอวิ๋นเทียนสี่ ยามนั้น เขาเกือบจะหันกลับมาเหลือบมอง ดวงตาคู่นั้นมีแววต่อต้าน ทว่ากลับมีแววโล่งโปร่งมากกว่า ยามนี้นึกถึง เซียวฝานในตอนนั้นคิดจะมุ่งหน้าสู่ความตายแท้ๆ นางเอ่ยด้วยความสั่นไหว “ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ได้คิดจะมีชีวิตรอดกลับมาตั้งแต่แรกหรือ”

นางสะพรึงเพริศ ตกใจกับการตัดสินใจของศิษย์พี่ใหญ่ ยิ่งกว่านั้นคือตกใจกับการสื่อสารในชั่วขณะนั้นของชายทั้งสอง พวกเขาสื่อสารผ่านสายตาด้วยการมองกันเพียงแวบเดียวก็สามารถเลือกทางเลือกอย่างนี้ได้ ยิ่งกว่านั้นยังเข้าขาอย่างลับๆ กับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างดีเยี่ยม

จำเป็นต้องมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งเพียงใดจึงจะสามารถตัดสินใจแบบลับๆ เช่นนี้ได้

ดังนั้นหลินซินเยียนไม่อาจโทษความไร้ใจองอู๋อี้ นางแค่เห็นใจ เห็นใจที่ชายทั้งสองตัดสินใจอย่างรวดร้าวเช่นนี้

เห็นว่านางเริ่มเข้าใจ อู๋อี้ลูบไหล่ของนางแผ่วเบา “อย่าโศกเศร้าไปเลย ข้าคิดว่าสิ่งที่ศิษย์พี่ปรารถนาจะเห็นมากที่สุดในตอนนี้คือพวกเราสามารถหนีออกไปได้ เช่นนี้การเสียสละของเขาจะไม่สูญเปล่า หากให้ข้าไปเป็นตัวประกัน ข้าก็คงมีความคิดในแบบเดียวกัน ดังนั้นศิษย์น้อง เจ้าไม่ต้องเศร้าใจ สำหรับพวกข้าแล้ว ขอเพียงแค่สามารถแก้แค้นให้ท่านอาจารย์ได้ ทุกอย่างที่ทำล้วนคุ้มค่า”

หลินซินเยียนสะอื้นพลางเอียงกระหม่อมไปซบบนแผงอกของเขา น้ำตาเปียกชื้นไปทั่วเสื้อบริเวณอกของเขา นางขบปากล่างพลางพยักหน้า

อู๋อี้ปรนลมหายใจหนึ่งเฮือก พาหลินซินเยียนเดินไปยังนอกสวน รู้แน่ว่าต้องมีคนคอยสะกดรอยอยู่ตรงที่มืดสลัวดังนั้นอู๋อี้จึงไม่ได้เดินไปทางแอ่งเขา กลับเดินไปทางสวนของโม่จื่อเฟิงแทน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต