ตอนที่ 143 ข้อต้องห้าม
ช่วงเวลาแห่งการรอคอยนั้นเจ็บปวดเหลือเกิน โดยเฉพาะช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้
อู๋อี้เดินไปเดินมาอยู่ในโรงหมอ เขาจำไม่ได้แล้วว่าตนเองเดินอยู่นอกฉากกั้นไปกี่รอบแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีกว่าทำเช่นนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ว่าเขาก็ไม่รู้วิธีที่จะทำให้ตัวเองหยุดเดินได้เช่นกัน
“ท่านอย่าเพิ่งกังวลไปเลย ข้าว่านางจะต้องไม่เป็นอะไรหรอก......” แม่นางชุดชมพูพูดอย่างขี้ขลาด ดวงตาของนางมองอู๋อี้เดินวนไปมาจนตาลายแล้ว
อู๋อี้หันกลับมาถลึงตาใส่นาง ไม่แยแสนางแม่แต่น้อย
แม่นางเสื้อชมพูรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ดวงตาคู่นั้นสดใสแวววาวขณะมองนาง เห็นได้ชัดว่าโมโหนาง แต่ไม่กล้ายั่วโมโหเขาตอนนี้
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดท่านหมอก็ออกมา เขาเดินไปล้างมือที่กะละมังถึงจะพูดกับอู๋อี้ว่า “ครั้งนี้นับว่าโชคดี ในที่สุดก็รักษาเด็กเอาไว้ได้แล้ว แต่ว่าสองสามวันนี้จะต้องพักผ่อนอยู่แต่ในห้องนอนเท่านั้น พลิกตัวไปมาก็ไม่ได้เด็ดขาดหนา”
“ขอบคุณท่านหมอมาก” อู๋อี้ถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมา รีบจะเดินเข้าไปทางฉากกั้น เพิ่งจะเดินไปถึงฉากกั้นก็ถูกท่านหมอเรียกไว้ก่อน
“ข้าเพิ่งได้ยินท่านเรียกคนไข้ว่าศิษย์น้อง ท่านเป็นสามีของคนไข้คนนั้นหรือไม่”
“ข้า......” อู๋อี้มีสีหน้าลำบากใจ สุดท้ายก็ส่ายหน้า
“เช่นนั้นท่านก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้หญิงคนนี้มีเลือดออกนั้นเป็นสิ่งที่ต้องห้ามมากที่สุด นอกจากสามีของตนเองและสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงแล้วนั้นให้ผู้อื่นพบเจอนั้นไม่ค่อยดี ท่านให้นางพักอยู่ที่นี่ก่อนเถิด ท่านรีบไปบอกคนที่บ้านนางให้มารับนะ”ท่านหมอคนนั้นประสานมือไปพูดไป
แม่นางชุดชมพูที่ได้ยินอยู่ข้างๆนั้นเมื่อเห็นอู๋อี้ส่ายหัวแล้ว นัยน์ตาของนางก็ฉายแสงสดใสแวบหนึ่ง
อู๋อี้ได้ยินท่านหมอพูดเช่นนี้แล้วก็รู้สึกอับจน กัดฟัน เขาทิ้งตัวลงบนพื้นแล้วทำท่าขอร้องท่านหมออยู่จริงใจว่า “ท่านหมอ พวกเราเป็นคนไม่มีการศึกษา เรื่องพวกนี้พวกเราไม่ถือ ให้ข้าส่งนางกลับไปเถิด”
“ไม่ได้ เจ้าไม่ถือแต่ข้าถือ ข้าเป็นคนรักษานาง ถ้าหากว่าข้าส่งนางให้ไปกับคนนอกแล้วก็เหมือนเป็นการชนนางให้เจ็บเช่นกัน โรงหมอของข้านี้เปิดมาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว ไม่สามารถปนเปื้อนเรื่องเคราะห์ร้ายเช่นนี้ได้ ท่านรีบไปพาคนที่บ้านนางมา ข้าช่วยท่านดูแลนางเอง” ท่านหมอส่ายหัว ยกมือกั้นอู๋อี้ที่พยายามจะเข้าไปในฉากกั้น
อู๋อี้เห็นท่าทีที่แน่วแน่ของท่านหมอแล้วจึงถอนใจแล้วยอมถอยหลัง “เช่นนั้นก็ได้ งั้นข้าจะไปหาคนมา รบกวนท่านหมอช่วยดูแลศิษย์น้องของข้าด้วย”
ราวกับว่าเขาไม่ค่อยวางใจ แล้วหันหลังกลับไปมองตาของแม่นางชุดชมพูอีก “เหตุใดถึงยังอยู่ที่นี่อีก”
อู๋อี้ไม่คิดเลยว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ได้ เขาเดินถอยลงบันไดอย่างโซซัดโซเซ ช่วงเวลาที่เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพียงแต่ใจของเขานั้นกลับเจ็บปวดอย่างโหดเหี้ยมนั้น เขาก็ถลึงตามองอักษรสีแดงตัวใหญ่นั้น ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มเย็นออกมา
ศิษย์น้องของเขาได้รับการดูถูกจากคนจำนวนมาก รอเวลาผ่านไป เขาจะต้องขอนางแต่งงานอย่างถูกต้องให้ได้
ขณะที่อู๋อี้ไม่รู้ว่าจะวางแผนอย่างไรนั้น ประตูของจวนอู่เซวียนอ๋องก็ถูกเปิดออก มีคนเดินออกมากลุ่มหนึ่ง แต่ผู้นำคนนั้นคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นอู่เซวียนอ๋อง โม่จื่อเฟิง ด้านหลังของเขามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตาม ดูแล้วไม่น่าเป็นคนในจวน
“ท่านอ๋อง ท่านไม่ต้องไปส่งหรอก ผ่านวันพรุ่งไปพวกเราก็จะเป็นคนบ้านเดียวกันแล้ว คนบ้านเดียวกันไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก ขั้นตอนนี้และประเพณีพวกเราตรวจสอบแล้ว จะต้องไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแน่ เพื่องานแต่งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ท่านจะต้องมีเรื่องให้ยุ่งแน่ ข้าไม่รบกวนท่านแล้วกัน” วัยรุ่นที่อายุประมาณยี่สิบกว่าปีที่ยืนอยู่ข้างๆโม่จื่อเฟิง สวมชุดสีแดงปักดิ้นสีทอง ยามที่พูดนั้นบนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คนผู้นี้คือคุณชายใหญ่ตระกูลเซียวเป็นแน่ เป็นขุนนางกรมข้าราชการพลเรือนของราชวงศ์นี้ เป็นขุนนางที่อายุน้อยที่สุดของทั้งหกกรม
“รบกวนท่านขุนนางแล้ว เช่นนั้นข้าส่งเท่านี้นะ จินมู่ เจ้าส่งท่านขุนนางแทนข้าด้วย” ใบหน้าของโม่จื่อเฟิงเพียงแค่ยิ้มจางๆ เขาพูดคำพูดที่ดูเป็นมารยาทแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้มีใจจะไปส่ง
“รับทราบ” จินมู่รับคำสั่ง รีบไปเดินนำทางท่านขุนนาง
อู๋อี้เห็นโม่จื่อเฟิงแล้วก็รีบเดินไปด้านหน้าเขา “ท่านอ๋อง ศิษย์น้องของข้าได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้อยู่ที่โรงหมอ ถึงแม้ว่าตอนนี้หมอจะตรวจและรักษาแล้ว แต่ว่าสุดท้ายก็มีเลือดออก ถึงแม้ว่าจะรักษาเด็กไว้ได้แล้วแต่ว่าไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายๆ ท่านหมอบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้าม จะต้องเป็นสามีของนางเท่านั้นที่จะไปรับนางได้ หรือไม่ก็ต้องรอคนในบ้านนางไปรับ ดังนั้นข้าจึงอยากจะเชิญท่านไป.....”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...