ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 193

สรุปบท ตอนที 193 โม่จื่อเฟิงกระวนกระวายอย่างอธิบายไม่ถูก: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

อ่านสรุป ตอนที 193 โม่จื่อเฟิงกระวนกระวายอย่างอธิบายไม่ถูก จาก ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง

บทที่ ตอนที 193 โม่จื่อเฟิงกระวนกระวายอย่างอธิบายไม่ถูก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที 193 โม่จื่อเฟิงกระวนกระวายอย่างอธิบายไม่ถูก

เธอเงยหน้ามองโม่จื่อเฟิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัว ที่มือกลับเพิ่มแรงขึ้นมาอีกจนทำให้แขนเสื้อของโม่จื่อเฟิงเป็นรอยยับจนบิดเบือนไปหมด ในดวงตาคู่นั้นของเธอปรากฏความเชื่อมั่นต่อเขาอย่างมาก!

ในขณะนั้นโม่จื่อเฟิงสงสัยในความเชื่อมั่นจากสายตาของเธอ เขาไม่ใช่มิตรไม่ใช่ญาติของนาง แล้วเขาก็มีชื่อเสียงในด้านไม่ดีด้วย แต่สะใภ้ตรงหน้าคนนี้กลับเชื่อมั่นเขาได้ขนาดนี้

ในตอนที่เขาสงสัย ในใจพลันเกิดความรู้สึกแปลกๆยากที่จะยับยั้งได้ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นคล้ายกับเขาอย่างมาก มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาคิดว่าสะใภ้ที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับหลินซีนเยียน

เขาเกลียดการถูกคนแปลกหน้ามาสัมผัสโดนตัวที่สุด แต่ตอนสะใภ้ที่จับที่แขนของเขา แล้วตอนที่นางเอ่ยว่ากลัว เขากลับใจอ่อนลงแล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่”

ไม่ต้องกลัว มีเขาอยู่!

เขาเอ่ยประโยคนี้ไม่ดังมาก แต่ไม่ว่าทำไมในใจของหลินซีนเยียนกลับสงบลง บางทีเธออาจจะประทับใจในตัวโม่จื่อเฟิงมาตลอด ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ ดังนั้นตอนที่เขาบอกว่ามีเขาอยู่ เธอจึงสงบใจลง เธอคิดว่าขอเป็นเรื่องที่เขาให้คำสัญญาแล้วไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

อวิ๋นเสียวอิงมองฉากตรงหน้าอย่างสงสัย โม่จื่อเฟิงในสายตาของนางเป็นคนที่ไม่เห็นใจผู้อื่นอย่างเด็ดขาด ซ้ำแล้วสะใภ้ผู้นี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย ไม่ว่าจะตายอยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่มีแม้แต่จะเหลียวแล แต่เขากลับยอมให้สะใภ้ผู้นี้สัมผัสโดนตัวได้!

“ชะ ช่วยหาหมอตำแยให้ข้าที ”หลินซีนเยียนตกใจจนเหงื่อท่วมไปทั้งตัว ความเจ็บปวดในครั้งนี้มันเป็นความเจ็บปวดมากที่สุดที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้ เดิมเธอคิดว่าเธอสามารถอดทนได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนอ่อนแอ

โม่จื่อเฟิงพยักหน้า อยากจะเรียกจินมู่ แต่คิดได้ว่าจินมู่ไปส่งฮูเหยียนหลิวหยุนแล้ว ในห้องนี้มีเพียงเขาและอวิ๋นเสียวอิง “อวิ๋นเสียวอิง เจ้า....”

“ข้าก็ไม่รู้ว่าที่ไหนมีหมอตำแย!”เขาไม่ทันพูดจบก็ได้ยินอวิ๋นเสียวอิงตอบกลับอย่างร้อนรน จะให้อวิ๋นเสียวอิงช่วยไปเรียกหมอตำแยให้สะใภ้คนนี้ อวิ๋นเสียวอิงมีฐานะอะไร แล้วสะใภ้ผู้นี้มีฐานะอะไร มันคู่ควรหรือ?

เพียงอวิ๋นเสียวอิงเองก็คิดไม่ถึงว่า ตอนที่นางเพิ่งเอ่ยไป คิ้วของโม่จื่อเฟิงกลับขมวดกัน พลันอุ้มสะใภ้ผู้นั้นขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปจากห้อง

นางตกใจฉากตรงหน้าอย่างมาก หากไม่ใช่เห็นมันกับตา นางคงคิดว่าเกิดภาพหลอนขึ้น

หลินซีนเยียนนอนจมอยู่ในอ้อมอกของโม่จื่อเฟิง ใบหน้าได้อยู่ตรงกับหน้าอกของเขาจนสามารถได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่เต้นตึกๆ ตักๆ ทุกจังหวะการเต้นมั่นคงและสงบ ทำให้ใจของเธอสงบลงตามราวกับสามารถทนความเจ็บปวดนั้นได้

เพียงแต่ในขณะนั้น น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาจากควบคุมไม่อยู่ ไม่ใช่ว่าความเจ็บปวดแต่เป็นเพราะรู้สึกซาบซึ้ง เธอไม่คิดเลยว่าตอนนี้โม่จื่อเฟิงอ่อนโยนมาก จนทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งได้ง่ายขนาดนี้

เธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาของเขา ขนตาของเขางอนขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นกลับเอนเอียงอยู่ที่ใบหน้าของเขา งดงาม แต่กลับไม่ทำให้คนรู้สึกถึงความอ่อนโยนเลยสักนิด

โม่จื่อเฟิง เธอควรจะเกลียดเขาสิ แต่ในขณะนี้ ทำไมเธอถึงเกลียดเขาไม่ลง เหมือนกับทำให้เธอลืมความโกรธแค้นไปแล้ว เย็นวันนี้ทำให้เธอลืมความแค้น ลืมทุกอย่างที่คนผู้นี้เคยโหดร้ายกับเธอมากเพียงใด

“เจ็ยหลายวันหรือ? ” สีหน้าของโม่จื่อเฟิงมืดครึ้มลง ในดวงตาราวกับพ่นไฟออกมาได้ ทำให้หญิงแก่คนนั้นตกใจจนอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เฒ่า

คนที่อยู่ในอ้อมอกเจ็บจนใกล้จะคลอดอยู่แล้ว หญิงแก่คนนี้ยังบอกเขาต้องเจ็บอีกหลายวันหรือ? โม่จื่อเฟิงก็ไม่รู้ว่าทำไม พลันรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา เขาจ้องไปยังหญิงแก่คนนั้นอย่างเย็นชา แล้วอุ้มคนเดินเข้าไปในห้อง

“ ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีอะไร ข้าต้องการให้นางคลอดออกมาทันที! ” โม่จื่อเฟิงหันไปมองหญิงแก่คนนั้นที่ยังไม่ขยับไปไหน คิ้วก็ขมวดลง แล้วยื่นมือออกมา หญิงแก่คนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโดนดูดเข้าไปในลมพายุ ทันใดนั้นร่างก็บินเข้ามาในปากประตูห้อง

“ ไอหยา ชีวิตของหญิงแก่อย่างข้าเกือบสั้นลงไปครึ่งแล้ว ” หญิงแก่ตกใจอย่างมาก แล้วกล่าวอ้อนวอนฟ้าดินพิโรธ

ผู้เฒ่าที่อยู่ในลานบ้านเห็นว่าหญิงแก่ทรมาน ก็ยกเก้าอี้ขึ้นมาแล้ววิ่งพุ่งเข้ามาหา แต่ยังไม่ได้เข้ามาใกล้ก็โดนโม่จื่อเฟิงยกมือขึ้นมาโบกจนกลับไปที่เดิม

ตอนที่พวกเขาโดนทรมาน หลินซีนเยียนก็เริ่มเจ็บขึ้นมา อดไม่ไหวที่จะใช้สองมือจับคอเสื้อของโม่จื่อเฟิง เธอไม่ได้ร้องว่าเจ็บ แต่เธอแสดงออกอย่างน่าสงสารเป็นการบ่งบอกว่าเธอยังอดทนไหว

ในขณะนั้น โม่จื่อเฟิงก็ร้อนใจ เขาไม่ทันคิดว่าสะใภ้แปลกหน้าคนหนึ่งจะทำให้เขารู้สึกกะวนกะวายอย่างน่าแปลกใจได้ เขาเพียงหยิบตั๋วเงินออกมาหนึ่งใบจากในอกเสื้อแล้วโยนให้หญิงแก่คนนั้น

“หากแม่และลูกปลอดภัย ตั๋วเงินนี้เป็นของพวกเจ้า หากนางและลูกเป็นอะไรไป คนในตระกูลของพวกเจ้าทั้งหมดรอฝังไปพร้อมด้วยเลย! ”

เมื่อหญิงแก่คนนั้นโดนตะคอกใส่ตกใจจนสั่นระริกไปทั้งตัว เหลือเพียงดวงตาที่กวาดมองจำนวนบนตั๋วเงิน ทันใดนั้นก็ไม่สั่นอีก นางหันหน้าแหกปากพูดกับผู้เฒ่า “ ไอ้แก่ รีบไปต้มน้ำร้อนเร็ว! เงินนี่ พวกเราต้องทุ่มสุดชีวิตแล้วรับมันมาให้ได้ จำนวนเงินนี้ หญิงแก่อย่างข้าคงจะมีความสุขไปทั้งชีวิต!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต