ตอนที่ 195 อยากจะบอกความจริง
ในขณะนั้นโม่จื่อเฟิงก็ยืนนิ่ง ลืมที่คำพูดไปหมดสิ้น เพียงรับเด็กคนนั้นมาอุ้มตามสัญชาตญาณ มองใบหน้าเล็กไม่ใหญ่พอเท่าขนาดฝ่ามืออยู่ในผ้าห่อ เขาพลันเห็นเป็นภาพลวงตา ช่างเหมือนกับบุตรของเขาจริงๆ
อวิ๋นเสียวอิงเห็นสภาพของเขาก็พลันโมโหขึ้นมา แล้วตะโกนกล่าวว่าหมอตำแยคนนั้น “ เจ้าพูดเหลวไหลอะไร! จะเป็นบุตรของเฟิงได้อย่างไร? สตรีในห้องนั้นไม่ใช่สตรีของเฟิงสักหน่อย!”
แม่หมอตำแยได้ยินก็ตกใจขึ้นมาทันที นางมองไปยังโม่จื่อเฟิงราวกับต้องการคำยืนยันในสิ่งที่อวิ๋นเสียวอิงเอ่ยขึ้น
แต่โม่จื่อเฟิงยังรู้สึกแปลกๆ ในขณะอุ้มเด็กอยู่ เดิมไม่ว่างที่สนใจผู้อื่น เขาเพียงขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่เด็กที่อยู่ผ้าห่อตลอด แล้วเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “ เจ้าคิดว่าดวงตาของเขาเหมือนกับข้าหรือ? ”
“เอ่อ...”คำถามนี้ถือว่าทำให้หมอตำแยลำบากใจมาก ไม่ว่าบ้านได้จะมีเด็กเพิ่ม นางเป็นหมอตำแยเพียงพูดอะไรที่น่าฟังก็เท่านั้นเอง? เมื่อเด็กคนนี้เกิดมาจะมีคำพูดสวยหรูอะไรอีก อีกทั้งใบหน้าของเด็กที่เกิดใหม่ก็ไม่ชัดเจน จะไปรู้ได้อย่างไรว่าเหมือนใครกันแน่ ก็แค่พูดออกไปเท่านั้นเอง
แต่การเผชิญสายตาพิฆาตของโม่จื่อเฟิงอย่างนี้ หมอตำแยไม่กล้าพูดความจริงออกไป เพียงหัวเราะอย่างเก้อเขินแล้วตอบ “ มะ เหมือนอย่างมาก”
ทันทีที่โม่จื่อเฟิงได้ยินก็หัวเราะออกมา ไม่สนใจอวิ๋นเสียวอิงที่กลายเป็นก้อนหินไปแล้ว เขาอุ้มเด็กคนนั้นแล้วเดินเข้าไปในห้อง
หลินซีนเยียนที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง เมื่อเห็นใบหน้าของโม่จื่อเฟิงยิ้มแย้มแล้วอุ้มบุตรเดินเข้ามาหาเธอ ในฉากนั้นทำให้น้ำตาของเธอไหลรินอีกครั้ง
ที่แท้ ในโลกนี้ก็มีเจตนาของสวรรค์จริงๆ ?
เห็นอยู่ว่าเธอเปลี่ยนฐานะแล้วมาปรากฏอยู่ต่อหน้าของเขาในตอนนี้ แต่ตอนที่คลอดบุตรของเขา เขากลับอยู่ด้วยอย่างน่าอัศจรรย์!
ลูกแม่เจ้านี่โชคดีจริงๆ ตอนที่เกิดก็ได้นำความสุขและความหวังมาให้พ่อและแม่
แบบนี้น่ายินดีอย่างมาก น่ายินดีจริงๆ!
เธอไม่สามารถมอบความรักของพ่อให้เด็กคนนี้ได้ทั้งหมด สวรรค์กลับทำให้เด็กคนนี้เกิดมาแล้วได้รับอ้อมอกที่อบอุ่นของพ่อ!
ดังนั้นเธออยากจะร้องไห้ ในที่สุดโชคชะตาก็ได้มอบช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นให้เธอและลูก ตอนที่เห็นโม่จื่อเฟิงอุ้มเด็กแล้วเผยรอยยิ้มออกมา เธอรู้สึกความเสียใจทั้งหมดได้รับการชดเชยแล้ว
“ เจ้าดู ลูกชายของเจ้า เขา...งดงามมาก ” โม่จื่อเฟิงเดินมาข้างเตียง อุ้มเด็กมาตรงหน้าของเธอ
ซีนเยียนร้องไห้พลางพยักหน้า แล้วไปสัมผัสที่ใบหน้าของลูกอย่างเบาๆ เมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นกลับยิ่งทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“เขาแข็งแรงดี เจ้าจะร้องไห้ทำไม?” โม่จื่อเฟิงไม่เข้าใจ
แต่หลินซีนเยียนก็ยังคงร้องไห้โดยไม่เอ่ยอะไร
โม่จื่อเฟิงถอนหายใจแล้วเอ่ย “ ข้าชอบเด็กคนนี้มาก หากฮูหยินยินยอม ข้าอยากจะรับเขาเป็นบุตรบุญธรรม”
หลินซีนเยียนเงยหน้าขึ้นมา สายตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา เธอก็รีบยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาทันที เธอคิดว่าได้ยินผิดไป แต่เมื่อเห็นโม่จื่อเฟิงแสดงออกอย่างตั้งใจ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
“เจ้าไม่ยินยอมหรือ?”สีหน้าของโม่จื่อเฟิงเข้มขรึมลง แสดงถึงความไม่พอใจออกมาอย่างมาก
บุตรบุญธรรม ก็สามารถให้ลูกของเธอแอบเรียกเขาว่าพ่อได้ใช่ไหม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...