ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 196

ตอนที่ 196 รับเป็นบุตรบุญธรรม

จินมู่รีบมารอทันทีหลังจากได้รับข้อความของโม่จื่อเฟิง ตอนที่พวกเขามาถึงลานบ้านก็เห็นโม่จื่อเฟิงยืนอยู่หน้าประตูแล้วมองไปยังในห้อง ทุกคนที่เห็นล้วนสะดุ้งตกใจจนเกือบลืมหายใจไป!

ใครก็จินตนาการได้ อู่เซวียนอ๋องโม่จื่อเฟิงผู้อยู่ในสมรภูมิรบเข่นฆ่าผู้คนมากมาย กลับมาอุ้มเด็กอย่างรักและทะนุถนอมได้ถึงเพียงนี้ ซ้ำยังใช้นิ้วไปหยอกล้อจิ้มไปที่คางของเด็กผู้นั้นอย่างเบามือ จนริมฝีปากเล็กๆของเด็กที่ตื่นมาจากความสะลึมสะลือด้วยอาการง่วงงุนปริสีแดงอมชมพูออกมาอย่างหัวเราะชอบใจ

มือของเขาไม่ได้ใช้สังหารคนหรอกหรือ?

เหตุใดถึงใช้มาต้อนรับรอยยิ้มผลิบานของเด็กที่เกิดใหม่ได้?

หากไม่ได้มาเห็นด้วยตาของตนเอง ใครจะเชื่อว่าฉากตรงหน้านี้ได้เกิดขึ้นจริงกับโม่จื่อเฟิงแล้ว

“ ทะ ท่านอ๋อง.... ” จินมู่กลืนน้ำลาย และเรียกสติคืน

โม่จื่อเฟิงถึงสังเกตว่าจินมู่ได้มายืนรอแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าพลันหายไปกว่าครึ่ง “ มาถึงแล้วก็เตรียมรถม้าคันหนึ่ง รับนางอู๋กลับไปที่จวนอ๋อง จริงด้วย เชิญแม่นมสักหลายคนมาให้นมบุตรบุญธรรมของข้าที่จวนอ๋องด้วย”

เด็กคนนี้เพิ่งลืมตาดูโลกตอนนี้ยังไม่กินอะไร ไม่รู้ว่าจะหิวมากแค่ไหน โม่จื่อเฟิงครุ่นคิดจึงลองแหย่นิ้วเข้าไปในปากของเด็ก เด็กคนนั้นพอมีอะไรเข้ามาในปากก็ดูดจ๋วบๆทันที

“เจ้าดู บุตรบุญธรรมของเขาหิวแล้วจริงๆ” โม่จื่อเฟิงขมวดคิ้วแล้วมองจินมู่อย่างเย็นชา ราวกับไม่พอใจที่เขายังไม่ยอมเคลื่อนไหว

จินมู่จะเคลื่อนไหวได้อย่างไร แค่ตกตะลึงจนลืมการเคลื่อนไหวเท่านั้น เมื่อเขาเรียกสติคืนมาได้ มุมปากก็กระตุกขึ้นอย่างไม่หยุด เด็กคนไหนมาเกิดมาแล้วก็ดูดเป็นทั้งนั้น นี่ก็ไม่ได้แสดงว่าเด็กหิวสักหน่อย...ท่านอ๋องนี่จริงๆเลย....

แต่ว่าจินมู่เป็นคนมีไหวพริบดี ตอนนี้ไม่ควรกล่าวเหตุผลกับบุรุษที่จมอยู่ในความสุขได้ เพียงแต่ในใจอดไม่ได้ที่รู้สึกปลง เด็กคนนี้โชคจริงๆ พอเกิดมาก็ได้โม่จื่อเฟิงเป็นพ่อบุญธรรม ช่างมีบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่นัก ในเมืองเฟิ่งซีแห่งนี้เกรงว่าต้องปั่นป่วนอย่างแน่

จินมู่พาคนไปเตรียมรถม้า เพียงก้าวเท้าไปพลันหยุดชะงัก เขาเรียกสติคืนมาได้ก็วิ่งสะบัดก้นตามโม่จื่อเฟิงไป

“ คือว่า ท่านอ๋อง เมื่อครู่หากข้าน้อยฟังไม่ผิด ท่านบอกให้รับนางอู๋ไปที่จวนอู่เซวียนอ๋องหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ในเวลาเช่นนี้ ไม่ควรส่งนางกลับบ้านหรอกหรือ? นี่เป็นสตรีเพิ่งคลอดบุตรก็ควรให้ครอบครัวของนางมาดูแล จะว่าไปไม่ง่ายเลยกว่าจะคลอดบุตรได้ ไม่ส่งกลับบ้านแต่ดันพากลับจวนอ๋อง นี่มันไม่แปลกไปหน่อยหรือ?

โม่จื่อเฟิงทำหน้าขรึม “ ทำไม มีปัญหาหรือ?”

สายตาแหลมคมของเขาจ้องเขม็งมาทำให้ความสงสัยในใจของจินมู่ไม่กล้าเอ่ยออกมา ทำได้เพียงส่ายหน้าประหนึ่งเครื่องจักรทำงาน

โม่จื่อเฟิงจ้องเขาแวบหนึ่ง แค่นเสียงแล้วเอ่ย “ ก่อนหน้ามาร้านอาหาร พ่อบุญธรรมของนางได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้หากส่งพวกนางกลับไป ใครจะมาดูแลพวกนาง ? บุตรบุญธรรมของข้าต้องให้คนของจวนอู่เซวียนอ๋องดูแล ไม่ใช่เรื่องถูกต้องตามหลักการฟ้าดินหรอกหรือ?”

จะว่าไปก็คล้ายกับมีเหตุผล จินมู่ครุ่นคิดสักพักหนึ่งกลับคิดว่าไม่มีอะไรจะมาตอบโต้ได้ เขาคำนับแล้วหมุนตัวกลับไปเตรียมรถม้า เขาเดินไปพลางคิดไปตลอดทาง กลับรู้สึกว่ามีบ้างที่คล้ายกับไม่ค่อยถูกต้องเท่าไร

จินมู่รีบรับเด็กมาอย่างระมัดระวัง ไม่เข้าใจความหมายของโม่จื่อเฟิงเท่าไร เมื่อเห็นโม่จื่อเฟิงเข้าไปในห้องแล้วอุ้มหลินซีนเยียนขึ้นมา สายตาของทุกคนพลันแสดงความตกตะลึงออกมา เขาอุ้มนางอย่างสุขุมเยือกเย็นแล้วเดินขึ้นไปยังรถม้า

ทุกคนในลานบ้านนานกว่าจะเรียกสติคืนมา เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า จนกระทั่งทุกคนต่างพยักหน้าพร้อมกันเพื่อบ่งบอกว่ามองเห็นภาพเดียวกัน มารู้อีกทีก็เดินตามไปแล้ว

เพียงแต่ตอนนี้ ภาพลักษณ์ของโม่จื่อเฟิง ในสายตาเหล่าองครักษ์พลันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

หลังจากที่ทุกคนออกมาจากเรือนแล้ว จินมู่ก็แผดเสียงร้องสั่งให้ออกเดินทาง รถม้าเริ่มเคลื่อนตัว พอเดินทางไปสักพัก จู่ๆจินมู่ก็ดึงบังเหียนแล้วหันหลังกลับไปมองอย่างสะพรึงกลัว

ที่แท้ยังมีคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูเรือนนั้น ไม่ใช่อวิ๋นเสียวอิงที่โดนทุกคนลืมแล้วจะเป็นใคร?

“ ซวยแล้ว!” จินมู่ด่าทออย่างหงุดหงิด เพราะทุกคนตะลึงการกระทำของโม่จื่อเฟิงจนลืมว่ามีเทพธิดาน้อยอวิ๋นเสียวอิงอยู่ที่นี่ด้วย

แต่ในสายตาของอวิ๋นเสียวอิงมองจินมู่ราวกับไม่เหมือนเดิม ใบหน้าของอวิ๋นเสียวอิงในขณะนี้ ไม่มีความอ่อนโยนจิตใจดีมีเมตตาเลยสักนิด ในดวงตาคู่นั้นไม่ว่าจะมองจากไกลๆก็เห็นความอึมครึมล้วนทำให้คนต่างรู้สึกเสียวสันหลัง!

จินมู่แบกหน้ากลับไปรับอวิ๋นเสียวอิง เดิมคิดว่านางจะโวยวาย คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นเสียวอิงกลับไม่เอ่ยอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับความนิ่งสงบก่อนพายุฝนที่รอการสั่งสมของพลังอย่างน่าเกรงขามก็ไม่ปาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต