ตอนที่ 200 สามีมาแล้ว
หลายวันต่อมา มองดูแล้วราวกับสงบสุข ทุกๆวัน โม่จื่อเฟิงมาพาวี่จิ่งไปอยู่กับหลินซีนเยียนที่ห้องสักพักหนึ่ง เพียงแค่สักพักหนึ่งจริงๆ
หลินซีนเยียนนั่งอยู่ในห้องทุกวันโดยไม่ได้ทำอะไร เพียงรักษาตัวหลังคลอดบุตรอยู่ในนี้ มีแม่นม 2 คนมาดูแล เธอไม่สามารถเดินออกไปจากห้องได้ มีบางครั้งที่เธอไม่เข้าใจจริงๆ ผู้หญิงหลังคลอดบุตรในยุคนี้ แท้จริงแล้วผ่านความเจ็บปวดมาได้อย่างไงกัน
แล้วยังอีกเรื่องที่ทำให้หลินซีนเยียนไม่สามารถอดกลั้นได้ที่สุดก็คือเรื่องที่ไม่สามารถให้นมบุตรด้วยตนเองได้ โม่จื่อเฟิงบอกว่าร่างกายของเธออ่อนแอ หากให้นมบุตรแล้วจะทำให้ร่างกายของบุตรอ่อนแอตาม ดังนั้นจึงได้คัดสรรเลือกแม่นม 10 กว่าคนมาให้นมบุตรแทนเธอ ไม่ยอมให้เธอให้นมด้วยตนเอง
ด้วยเรื่องนี้ หลินซีนเยียนแคยแอบร้องไห้มาแล้วและก็เคยขอร้องโม่จื่อเฟิงมาแล้ว แต่เรื่องที่โม่จื่อเฟิงได้ตัดสินไปแล้วก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก
ในชีวิตแบบนี้มันทรมานหลินซีนเยียนอย่างมาก เห็นๆอยู่ว่าเป็นลูกของเธอ เดิมโม่จื่อเฟิงก็ไม่รู้ว่านั่นเป็นลูกของเขาด้วย แต่ยังรั้นไม่ยอมปล่อยเด็กไป หรือว่านี่คือความสัมพันธ์ทางสายเลือดแปลกๆอย่างตำนานกล่าวเอาไว้กัน?
ยามบ่ายของวันนี้ ดวงอาทิตย์อยู่ตรงกับนอกหน้าต่างพอดี แม่นมไม่ให้หลินซีนเยียนออกจากห้อง หลินซีนเยียนพยายามพูดโน้วน้าวทุกวิธี แม่นมถึงจะเปิดหน้าต่างออกให้ เธอต้องนั่งอยู่บนตั่งนุ่มข้างเตียงถึงจะสามารถอาบแดดได้ แสงแดดที่อบอุ่นส่องมายังใบหน้าของเธอ แต่ในใจของเธอยังคงเยือกเย็นอยู่
“ ฮูหยิน....ฮูหยิน....” นอกหน้าต่างมีคนใช้ที่เป็นสายลับคนหนึ่งบุกเข้ามา
หลินซีนเยียนเงยหน้ามอง คนใช้คนนั้นก็รีบส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้เธอ แล้วรีบไปจากหน้าต่างอย่างรวดเร็ว เธอลุกขึ้นแล้วกางกระดาษเล็กๆออก มีเพียงประโยคเดียวที่เขียนบนกระดาษ “ พรุ่งนี้ จะไปรับเจ้าออกจากจวนอ๋อง ”
ตัวอักษรนั้นแสดงถึงความสง่า ซ้ำยังไม่ได้เขียนชื่อ แต่หลินซีนเยียนก็เดาได้ว่าอินฉีเป็นคนเขียน
เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ คิดถึงวี่จิ่งที่ช่วงนี้อยู่ในการครอบครองของโม่จื่อเฟิง เธอคิดว่าหากออกจากจวนไป เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอย่างคิดไว้
แม้จะไม่ง่าย แต่เธอจะไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆเช่นนี้ไปแน่
วันรุ่งขึ้น แสงแดดยังดีเหมือนเดิม หลินซีนเยียนทานข้าวและพักผ่อนเหมือนปกติ ส่วนใหญ่จะนั่งเอนอยู่ตั่งนุ่มๆ อาบแดดอยู่ริมหน้าต่าง
ยามบ่ายเพิ่งผ่านไปก็มีเสียงอึกทึกดังมาจากในลานบ้าน ในใจของหลินซีนเยียนเต้นแรง อดไม่ได้ที่บ่นพึมพำ “ มาแล้ว”
ไม่นานก็มีแม่นมผลักประตูออกแล้วเดินนำผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามา
ผู้ชายคนนั้นสวมชุดยาวสีเทา มีท่าทางเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทาง รูปร่างไม่โดดเด่น สวมหมวกบัณฑิตใบหนึ่ง แบกถุงผ้าใบใหญ่บนหลังอย่างพ่อค้า เมื่อเขาเห็นหลินซีนเยียนพลันวิ่งเข้าไปหา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “ ภรรยา สามีกลับมาแล้ว! ”
เพียงพริบตาเดียว หลินซีนเยียนก็เข้าใจทันที ผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เธอไม่สามารถแสร้งทำเป็นดีใจจนร้องไห้ออกมา ทำได้แค่ฝืนยิ้มแล้วพยักหน้า
มุมปากของชายผู้นั้นกระตุก ก่อนมาท่านมหาเสนาบดีได้บอกว่าโม่จื่อเฟิงมีนิสัยยากจะคาดเดานัก แต่สามีมาพาภรรยากลับไปมันเป็นเรื่องนี้ไม่ปกติหรอกหรือ แต่ทำไมคำพูดที่ออกมาจากปากของอู่เซวียนอ๋องนี้คล้ายกับมาเจรจาเรื่องตัวประกันยังไงยังงั้น?
“ ท่านอ๋อง ภรรยาและลูกข้า.....” เมื่อชายคนนั้นโดนโม่จื่อเฟิงยื่นคำขาดให้ จนรู้สึกอับจนคำพูด
โม่จื่อเฟิงแค่นเสียง “ นาง เจ้าพากลับไปได้ แต่เด็กคนนี้....เป็นบุตรบุญธรรมของข้า แน่นอนว่าต้องเลี้ยงอยู่ในจวนอ๋อง ”
“ ไม่ได้! ”เมื่อหลินซีนเยียนฟังว่าเขาจะให้ลูกอยู่ต่อก็เผลอไผลไปชั่วขณะ เมื่อคำพูดที่เผลอกล่าวออกไปแล้วถึงจะทำให้ตัวเองรู้ว่ามันไม่เหมาะสมจึงลืมรีบหลบอยู่ด้านหลังของชายแปลกหน้าคนนั้น
ชายคนนั้นรีบมายืนบังหลินซีนเยียน“ ท่านอ๋อง เกรงว่าจะไม่เหมาะ ท่านอ๋องชื่นชอบเด็กคนนั้นถือว่าเป็นบุญกุศลของเขาที่ได้สะสมมาหลายชาติ หากท่านอ๋องชื่นชมล่ะก็ ต่อไปพวกเราจะต้องพาเด็กมาหาท่าน.....”
“ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว ” โม่จื่อเฟิงอุ้มเด็กแล้วเดินหันหลังไป เดิมไม่ให้โอกาสชายคนนั้นได้พูดต่อ จึงออกคำสั่งกับจินมู่ “ ส่งนางอู๋และสามีของเธอกลับไป ”
“ พ่ะย่ะค่ะ!”มุมปากของจินมู่กระตุก เรื่องที่โม่จื่อเฟิงแย่งลูกชาวบ้านมา แน่นอนว่าจินมู่ไม่เห็นด้วย แต่คำสั่งของท่านอ๋อง เขากลับไม่สามารถปฏิเสธได้เลย
หลินซีนเยียนพิงตั่งนุ่มๆอย่างรู้สึกอ่อนระทวย คลายมือที่จับกระโปรงแน่นออก ใบหน้าซีดขาวอย่างมาก ชายคนนั้นรีบพยุงขึ้นแล้วตบบ่าของเธอเบาๆอย่างปลอบใจ “ บางทีท่านอ๋องอาจจะชื่นชอบลูกคนนี้ภรรยา พวกเรากลับไปกันก่อนเถอะ ลูกยังเล็กอยู่ไม่สามารถพาไปด้วยง่าย ไม่กี่วันท่านอ๋องอาจจะเบื่อหน่ายแล้วส่งเขากลับมาหาเราด้วยตนเองก็ได้ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...