ตอนที่ 222 ลงโทษ
“อ๊า เลือด เลือด เลือดออกขนาดนี้เลยหรือ!” หลินซินเอ๋อยกมือขึ้นลูบคลำเลือดที่อยู่บนใบหน้าของตน ตะโกนร้องด้วยความตกใจ ในยามนั้นนางเพิ่งจะเริ่มบังเกิดความกลัว ใช้กำลังคว้าแขนของโจวฉิน พลันถามว่า “โจวฉิน โจวฉิน เจ้ารีบช่วยข้าดูหน่อยว่าใบหน้าข้าเสียโฉมหรือไม่? ทำไมเลือดจึงเยอะขนาดนี้? หมอหลวงล่ะ? หมอหลวงทำไมยังไม่มาอีก?
หลินซินเอ๋อตกใจจนเสียขวัญ ภายในวังหลวง ใบหน้าของสตรีคือรากฐานของทุกสิ่ง ถ้าหากแม้กระทั่งใบหน้างดงามก็ไม่เหลือ ชั่วชีวิตนี้ก็ไร้ซึ่งอนาคตโดยสิ้นเชิง
นางมองมือทั้งสองที่ชุ่มไปด้วยเลือด ความแค้นในดวงตายิ่งท่วมท้น จึงหันกายกลับพุ่งไปหาหลินซินเยียน “ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่านังคนชั้นต่ำเช่นเจ้า! เจ้ากล้าทำร้ายข้า ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต!”
หลินซินเยียนถูกองครักษ์ควบคุมมือทั้งสองข้างไว้ ดวงตาจ้องมองไปยังหลินซินเอ๋อ หลินซินเยียนที่แต่เดิมที่ก็หลบไม่ได้ และองครักษ์ทั้งหลายก็ไม่รู้จักหลินซินเยียน แต่เหล่านางงามบอกว่าเป็นนางกำนัล ก็สมควรจะเป็นเพียงนางกำนัลเท่านั้น ระหว่างนางงามกับนางนางกำนัล องครักษ์ย่อมเลือกเข้าข้างฝ่ายนางงามอยู่แล้ว
นางงามก็คือเจ้านาย และนางกำนัลก็เป็นเพียงบ่าวเท่านั้น
หลินซินเอ๋อใช้ฝ่ามือฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของหลินซินเยียนเข้าอย่างจัง คราบเลือดที่เปื้อนบนมือของนางสัมผัสกับบนใบหน้าของหลินซินเยียน ทำให้รูปลักษณ์งดงามแต่เดิมของหลินซินเยียนเปลี่ยนเป็นดุร้ายด้วยคาวเลือดในฉับพลัน
แค่เพียงหนึ่งฝ่ามือไฉนเลยจะทำให้โทสะของหลินซินเอ๋อคลายลง เมื่อนางเห็นเหล่าองครักษ์กำลังจับกุมหลินซินเยียนไว้ ทันใดนั้นก็ถอนปิ่นปักผมบนศีรษะออกและถือปิ่นจะเข้าไปกรีดที่ใบหน้าของหลินซินเยียน
ต่อหน้าผู้คนมากมายนางไม่อาจที่จะกล้าสังหารคน กลับไม่ใช่เป็นเพราะนางกำนัลนั้นไม่สามารถฆ่าได้ เพียงแต่ก่อนที่จะเข้ามาในวังมารดาของนางเคยบอกกำชับนางไว้ว่า อย่างไรก็ตามสตรีไม่ควรที่จะแสดงออกด้านที่ดุร้าย มิเช่นนั้นแล้วเหล่าบุรุษก็จะไม่พึงใจ
นางไม่มีเวลาจะฆ่าหลินซินเยียนที่นี่ งั้นก่อนอื่นนางก็ต้องทำลายโฉมหน้าของหลินซินเยียน
หัวหน้ากององครักษ์เห็นท่าทางเสียสติอันบ้าคลั่งเช่นนี้ของนางก็รู้สึกลำบากใจอยู่ไม่น้อย เมื่อบอกว่าเป็นนางกำนัล ทว่าในวังหลวงก็ย่อมมีกฎของในวัง เรื่องเช่นนี้ก็ต้องใช้คำสั่งมาจัดการ ก่อนที่จะมีคำสั่งลงมา หัวหน้ากองเล็กๆอย่างเขาไม่กล้าที่จะจัดการนักโทษตามอำเภอใจ
หัวหน้ากองที่ยังลังเลว่าควรจะยื่นมือเข้ามาขวางดีหรือไม่ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาด้วยความน่าเกรงขาม ผู้ที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดนั้นล้วนเป็นผู้ที่ทุกคนรู้จักกันดี ราชาแห่งแคว้นหนานเยว่ โม่จื่อยี่
“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์จงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี” ยามที่ขบวนของโม่จื่อยี่ปรากฏกายขึ้น ทุกคนล้วนคุกเข่าลงไปกับพื้น
แม้กระทั่งหลินซินเอ๋อที่คิดอยากจะกรีดแผลบนใบหน้าของหลินซินเยียนก็ถูกโจวฉินถึงตัวลงมาคุกเข่าด้วยกัน เพียงแต่เมื่อนางได้คุกเข่าลงก็รีบคลานไปยังเบื้องหน้าของโม่จื่อยี่ทันที
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทเพคะ พระองค์ต้องช่วยตัดสินให้แก่หม่อมฉันนะเพคะ! นางกำนัลผู้นี้ นางกำนัลผู้นี้ต้องการที่จะสังหารหม่อมฉันเพคะ!” เมื่อหลินซินเอ๋อคลานไปถึงเบื้องหน้าของโม่จื่ออี้ก็เริ่มแสดงบีบน้ำตา โดยไม่สนใจสภาพอันบ้าคลั่งของตนว่าเป็นอย่างไรเลยแม้แต่น้อย
คนรอบข้างล้วนเห็นอย่างชัดเจน เลือดที่เปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าของหลินซินเอ๋อ ยังดึงดันจะนำสารรูปอันน่าสงสารออกมาร้องไห้โอดครวญต่อหน้าโม่จื่อยี่ ช่างไม่รู้บ้างเลยว่าท่าทางของนางยังทำให้คนตกใจกลัวได้มากกว่าปีศาจเสียอีก?
อย่างที่คาด เมื่อโม่จื่อยี่เห็นสารรูปของนาง ก็ก้าวถอยหลังด้วยความรังเกียจ “เจ้าเป็นใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...