ตอนที่ 237 ระบายความแค้น(3)
“ไม่...ไม่หรอก ข้ากระหม่อมเข้าใจแล้ว”หลินเทียนเฉิงก้มลงทำความเคารพด้วยเหงื่อที่ไหลท่วมนั่งอย่างกระวนกระวายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เขาเป็นข้าราชการทหารที่นี่มาหลายปี ทำไมถึงจะไม่เข้าใจที่โม่จื่อเฟิงพูด แต่เรื่องนี้สำหรับหลินเทียนเฉิงมันสำคัญมากดังนั้นแม้โม่จื่อเฟิงจะไม่ไว้หน้าเขาก็ต้องทน
ตั้งแต่ฐานะของหลินซีนเยียนถูกเปิดเผย กี่วันมานี้ที่เมืองฉาวเขาต้องรับแรงกดดันจากอีกฝ่ายมาตลอด จริงๆแล้วไม่ต้องอธิบายก็รู้ ยังไงก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับโม่จื่อเฟิง ถ้าจะโทษก็โทษความไม่เอาการเอางานของหลินซินเอ๋อ สุดท้ายมั่วแต่ครื้นเครงอยู่ในพระราชวัง
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่รักหลินซีนเยียนจนน่าเวทนา สุดท้ายแล้วพวกผู้หญิงก็ใช้มันเพื่อฆ่าเวลาแต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือตั้งแต่หลินซีนเยี่ยนเป็นผู้หญิงที่มักจะให้ความหวังผู้ชายไม่เพียงแต่ในพระราชวังแม้แต่ช่วงเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนเยอะๆครั้งนี้
หลินซินเอ๋อทำให้โม่จื่อเฟิงขายหน้า โม่จื่อเฟิงตอบกลับแรงกดดันนั้น ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
แต่สำหรับหลินเทียนเฉิงแล้ว โม่จื่อเฟิงปกป้องหลินซีนเยียนแบบนี้เพียงแค่ปกป้องตัวเองเพื่อหน้าตาของอู่เซวียนอ๋องเท่านั้นเอง
หลินเทียนเฉิงที่ไม่รู้ว่าจะคล้อยตามทางไหน โม่จื่อเฟิงที่นั่งอยู่นั้นก็เริ่มทนไม่ไม่ไหวมือของเขาเริ่มเคาะเบาๆที่พนักพิงพูดอย่างเฉื่อยชา “ท่านแม่ทัพหลินถ้าท่านไม่มีหลักฐานก็เชิญกลับไปซะ สองวันนี้ต้องเตรียมงานงานใหญ่ ข้าเองก็เริ่มเหนื่อยแล้ว”
เรื่องเตรียมงานแต่งงานไม่ต้องให้ถึงมือเขา เหนื่อย ก็ยังเป็นคำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลินเทียนเฉิงได้ยินเช่นนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาทันที จึงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ตระกูลหลินทั้งหมด ทุกคนมีรายชื่อในฝ่านราชการถ้าหากตรวจสอบดูในทะเบียนก็จะรู้แล้วว่าข้าหลินเทียนเฉิงมีลูกสาวสี่คนหนึ่งในนั้นก็มีหลินซีนเยียน”
“แต่ชื่อก็มีซ้ำกันเยอะแยะมากมายหลายคน แล้วจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่านางเป็นลูกสาวของท่านจริงๆ ในตอนแรกที่นางพบข้า กับท่านไม่มีความสัมพันธ์กันแม้แต่น้อย เวลาล่วงเลยผ่านมานานมากแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะนึกถึงลูกสาวคนนี้ ท่านจะให้ข้าคิดยังไง?”โม่จื่อเฟิงฮึมเบาๆสีหน้าเริ่มแย่ลงตีโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “จินมู่!ส่งแขก คราวหลังถ้าไม่ใช่เรื่องหรือคนสำคัญอะไรไม่ต้องปล่อยให้เข้ามา!”
จินมู่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบขานรับ แล้วเรียกองครักษ์สองคนด้วยสายตาให้ไล่หลินเทียนเฉิงออกไป หลินเทียนเฉิงเริ่มเป้นกังวลแต่ยังมีคนที่เป็นกังวลมากกว่านั้นก็คือฮูหยิน หลังจากนั้นจึงรีบสะบัดตัวออก แล้วร้องตะโกนว่า“ ท่านอ๋องพวกเรามีหลักฐาน มีหลักฐาน!”
หลินเทียนเฉิงได้ยินอยากรีบที่จะปิดปากเขา ตะโกนเสียงหลงออกมา “นี่เจ้ากำลังพูดบ้าอะไรออกมา!”
เมื่อโดนเขาตะโกนใส่ฮูหยินก็ร้องไห้ออกมา พูดอย่างลำบากใจว่า ท่านอ๋อง ตอนนี้ซินเอ๋อยังถูกขังอยู่ในห้องขังนะ ข้าจะกล้าพูดมั่วได้อย่างไร แต่นางเป็นลูกสาวของเขาพวกเราจะไม่มีหลักฐานได้อย่างไร?นางยังมีบาดแผลที่ช่องท้องขนาดเท่าหัวแม่โป้ง มันก็เป็นบาดแผลที่ท่านเอามีดแทงนางนะ!”
“หุบปาก!”หลินเทียนเฉิงโกรธจนหน้าแดง อู่เซวียนอ๋องกำลังกลั่นแกล้งพวกเขาเพื่อระบายอารมณ์เท่านั้น สิ้นสุดการกลั่นแกล้งอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เรื่องราวทั้งหมดก็จบลง จริงๆแล้วไม่ได้ต้องการหลักฐานอะไรจากพวกเขาเรื่องของหลินซีนเยียนแพร่กระจายไปทั่ว
ข้อมูลนี้ถ้าอู่เซวียนอ๋องไม่เห็นด้วยใครจะกล้าส่งมามั่วๆ?แล้วมันจะผ่านออกไปได้ยังไง?แน่นอนว่าอู่เซวียนอ๋องต้องเห็นด้วยแล้วถึงจะสามารถประกาศออกไปได้ แน่นอนว่าหลินซีนเยี่ยนต้องแต่งออกมาจากจวนแม่ทัพ
แต่ฮูหยินมีตาหามีแววไม่ ได้หลุดพูดเรื่องที่หลินซีนเยียนโดนเขาแทงจนได้รับบาดเจ็บ นี่มันเป็นการเอาน้ำมันมาราดบนเปลวไฟชัดๆที่เอาความผิดพลาดของอู่เซวียนอ๋องมาพูดต่อหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...