ตอนที่ 240 ยั่วยุ(3)
พฤติกรรมของแม่นมกุ้ยเมื่อครู่ตั้งใจที่จะทำให้นางเห็นใช่มั้ย?ทำไม รังเกียจเดียจฉันคนนี้มากหรือไง?หลินซีนเยียนหัวเราะเสียงนิ่งสองลูกตาที่จ้องมองแม่นมกุ้ยอยากจะฆ่าให้ตายไปหลายๆรอบ
“เจ้า เจ้าจ้องทำไม?”แม่นมกุ้ยถูกสายตาของนางมองในใจรู้สึกไม่ดี ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แววตาของหลินซีนเยียนมีความน่ากลัวเยี่ยงอู่เซวียนอ๋อง ?
หลินซีนเยียนลุกยืนขึ้นเดินไปหยุดอยู่ต่อหน้าแม่นมกุ้ยอย่างแน่วแน่ ตบไหลแม่นมกุ้ยเบาๆแล้วพูดว่า“ไม่มีอะไรก็แค่รู้สึกว่าแม่นมกุ้ยอายุปูนนี้แล้วยังจะพยายามทำอะไรเพื่ออ๋องฮูเหยน ชั่งเป็นข้าราชบริพาลที่จงรักภักดีเสียเหลือเกิน”
ทั้งทั้งที่มันเป็นแค่คำชม แต่น้ำเสียงของหลินซีนเยียนกลับมีความลึกลับ ทำให้แม่นมกุ้ยเหงื่อซึมอย่างไม่รู้ตัว
แต่หลินซีนเยียนไม่ได้จะต่อปากต่อคำกับนาง จึงหันกลับมาถามเซียวฉางเยว่ “ไม่รู้ว่าวันนี้ท่านจวนอ๋องมีธุระอะไรจะปรึกษาข้า?”
“อ๋อ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็แค่รายละเอียดของงานเท่านั้นเองแม้ว่าแม่นางหลินจะเป็นลูกสาวของท่านแม่ทัพหลินเทียนเฉิง ดังนั้นข้าไม่เชื่อเรื่องอีกโลกหนึ่ง แม้ข้าจะรู้จักแม่นางหลินมาระยะหนึ่ง จะไม่มีที่มาที่ไปแต่สุดท้ายก็ต้องแต่งงานกับท่านอ๋องจะทำให้ท่านอ๋องขายหน้ามิได้ ดังนั้นข้าจึงเช่าโรงเตี้ยมที่เมืองเฟิ่งชีไว้แล้วเดี๋ยวจะมีคนไปส่งเจ้า พรุ่งนี้คงจ้งลำบากแม่นางหลินแล้วละ”
เซียวฉางเยว่พูดเสียงอ่อย ถ้าหากว่าไม่รู้จักก็คงคิดจริงๆว่านางมาจากบ้านใหญ่ อีกด้านหลินซีนเยียนกำลังคิด“ยังมีของออกเรือนข้าคิดว่าแม่นางหลินคงไม่สะดวกที่จะเอาของออกเรือนจำนวนมากมา ดังนั้นข้าก็เลยให้คนเตรียมไว้สามสิบหีบ แต่ว่าในหีบนั้นจะว่างเปล่าที่เอาไว้แค่เดินเข้าพิธีเท่านั้น ทุกอย่างจะราบรื่น แม่นางหลินจะไม่ถือสาอะไร ”
แต่ว่าข้าเป็นบุตรสาวของหลินเทียนเฉิงจริงๆนะ ที่คนข้างนอกพูดกันมันคือเรื่องจริง ตอนแรกแค่มีปัญหาทะเลาะกันบ้านดังนั้นก็เลยออกจากบ้านมาแล้วหลังจากนั้นก็ได้มารู้จักกับท่านอ๋อง ก็เกรงว่าท่านจะผิดหวัง ส่วนเรื่องของออกเรือน”หลินซีนเยียนยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย ถามว่า “ท่านอ๋องไม่ได้บอกท่านรึ?ท่านอ๋องเลือกของในท้องพระคลังแทนข้า”
“ท้องพระคลัง?”ด้านแม่นมกุ้ยเมื่อได้ยินถึงกลับสะดุ้งตัวขึ้นมาทันที ไม่อยากจะเชื่อที่หลินซีนเยียนพูด“เจ้าพูดอะไรท่านอ๋องเนี่ยนะจะพาเจ้าเข้าไปเลือกของในท้องพระคลัง?ท่านอ๋องจะเคลื่อนย้ายของในท้องพระคลังที่ทั้งหมดเป็นของหวงเฟย!”
หลินซีนเยียนตกตะลึงไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของแม่นมกุ้ย นางคาดว่า หวงเฟยที่แม่นมกุ้ยพูดถึงนั้นอาจจะเป็นคนรักเก่าของโม่จื่อเฟิง เดิมทีของในท้องพระคลังเป็นของที่นางสามารถเลือกได้ ทั้งหมดคือของของนาง เขากำลังใช้ของของคนรักเก่ามาให้กับนางรึ?
พอคิดแบบนี้แล้วหลินซีนเยียนก็รู้สึกสมเหตุสมผลดีแล้ว แม้โม่จื่อยี่จะให้ความสำคัญกับโม่จื่อเฟิงแต่ก็ไม่สามารถปล่อยปะละเลยยอมให้ท่านอ๋องเข้าไปหยิบจับใช้สอยนางยังคิดว่าการที่เขาให้นางเข้าไปในท้องพระคลังเป็นเรื่องเล็กนะ เดิมทีก็ไม่ได้เป็นท้องพระคลังอย่างเป็นทางการอะไรก็แค่เกรงว่าในท้องพระคลังนั้นเป็นที่เก็บของมีค่าของคนรักเก่าก็เท่านั้นเอง
หวงเฟยสุดท้ายก็เหลือไว้ได้แค่ของมีค่าพวกนั้น ตอนนางยังมีชีวิตอยู่แน่นอนว่าต้องชื่นชอบมเหสีคนก่อนมิฉะนั้นคงไม่มีทางมอบสิ่งของมากมายให้ขนาดนั้น
เซียวฉางเยว่โมโหจนหน้าถอดสีแม้จะพยายามรักษาหน้าไว้แต่ก็ไม่อาจทำได้ นางนึกกลับไปอีกครั้งที่คนรักของโม่จื่อเฟิงยังหลงเหลือข้าวของเยอะแยะมากมาย “แม่นมกุ้ยที่เจ้าพูด ของทั้งหมดคือของหวงเฟยเก่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...