ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 269

สรุปบท ตอนที่ 269 การอุทิศตนของช่างฝีมือ: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่ 269 การอุทิศตนของช่างฝีมือ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนนี้ของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 269 การอุทิศตนของช่างฝีมือ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 269 การอุทิศตนของช่างฝีมือ

หลินซีนเยียนหัวเราะพลางพยักหน้า ซ้ำยังเอ่ยปากถามผู้ดูแลว่าต้องการของบางอย่าง จากนั้นให้เสาะหาคนจำนวนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือ ภายในห้องเริ่มอลหม่านขึ้นมา

ช่างตีเหล็กเฉินลากตัวโจวหลี่มายังด้านข้าง เอ่ยถามด้วยเสียงอันเบา “ท่านโจว พระราชารองผู้นี้ทำได้จริงรึ ข้ายังไม่เคยเห็นผู้หญิงเข้าใจงานพวกนี้เลย ผู้หญิงหนอ ร้อยปักมาลัยยังพอว่า ริจะทำเรื่องนี้...”

“เชื่อไม่เชื่อก็ตามใจเจ้า แต่ว่าอีกหน่อยเถิด ท่านคงไม่เชื่อไม่ได้แล้ว” โจวหลี่มั่นใจเต็มเปี่ยม การแสดงออกทางสีหน้ามีแววกระหยิ่มยิ้มย่องเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะตระหนักความเก่งกาจของพระสนมมากกว่าช่างเหล็กเฉิน ช่างเป็นเรื่องที่เลิศเลอแท้

ช่างตีเหล็กเฉินทั้งเชื่อปนแคลงใจ ในอกถึงแม้จะรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ ทว่าท่านโจวนั้นเขาเข้าใจดี เขาบอกว่าพระราชารองผู้นี้ทำได้ ไม่แน่ว่าอาจจะนำเรื่องประหลาดใจมาสู่สายตาผู้คนก็เป็นได้

ไม่กี่คนล้วนมองดูด้วยความสงบภายในห้อง ก็เห็นพระสนมสั่งการให้คนจำนวนหนึ่งก่อสร้างชั้นสูงๆ หนึ่งอันขึ้นภายในห้อง จากนั้นก็วางล้อเหล็กขนานกับชั้นวางสูงและระนาบพื้น ตรงกลางใช้โซ่เหล็กเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ดูท่าแล้วก็ไม่ได้ซับซ้อน แต่ทว่ากลับไม่มีใครสักเข้าใจสิ่งที่นางกำลังลงมือทำ

“เอาล่ะ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย” หลินซีนเยียนเช็ดหยาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากมน ซ้ำยังชี้ไปยังด้านล่างของชั้นเหล็ก ประดิษฐ์ด้ามจับให้กับช่างเหล็กเฉินอีกด้วย “ท่านมาลองสักหน่อยเถิด ดูสิว่าตอนนี้ท่านสามารถยังค้อนเหล็กอันนี้เพียงลำพังได้หรือไม่”

ช่างเหล็กเฉินชี้เข้าที่ปลายจมูกของตน ราวกับไม่แน่ใจ คนเต็มห้องขนาดนี้ ซ้ำฐานันดรของเขาก็ต้อยต่ำที่สุด ทว่าพระราชารองผู้นี้กลับมิได้มีท่าทีดูแคลนเขาแม้สักน้อย ซ้ำยังใช้คำเรียกขานเขาอย่างให้เกียรติ มารยาทเช่นนี้ ได้ทำให้ความตระหนักของช่างเหล็กเฉินที่มีต่อนางประจักษ์กระจ่าง

“ใช่ ท่านนั่นแหละ” หลินซีนเยียนกล่าวยิ้ม รอยยิ้มเปล่งประกาย จริงใจและเพริศแพร้ว

ช่างเหล็กเฉินจึงค่อยบีบนวดมือ เดินมาหยุดยังส่วนล่างของรางเหล็ก กดลงไปยังแท่งไม้ส่วนล่าง เห็นเพียงไม้ท่อนนั้นดีดขึ้นมา ขับเคลื่อนให้ล้อพวกนั้นขยับ ล้อหนึ่งอันเคลื่อนที่ก็ส่งผลให้โซ่เหล็กเขยื้อนตามมา จากนั้นก็เชื่อมต่อโซ่เหล็กต่อไปเป็นทอดๆ

เสียงขลุกขลักภายในห้องดังขึ้น กลุ่มคนมองยังการขับเคลื่อนของวงล้อมเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกแปลกตาตื่นใจ ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็เห็นค้อนเหล็กยักษ์อันนั้นลอยขึ้นก่อนจะตกลงมาอีกครั้ง ทุบลงบนแผ่นทองบางที่อยู่บนบันไดหินอย่างแน่วแน่มั่นคง

ติ๊ง!

เสียงกระจ่างชัดดังกังวาน ทำให้กลุ่มคนเรียกสติคืนมา

“สำเร็จแล้ว?” ช่างตีเหล็กเฉินเบิกตาโพลง ถามเสียงโทนต่ำอย่างอดไม่ไหว

ท่านโจวทำเพียงยิ้มไม่ยอมหุบ ยามที่ยิ้มนั้นยังลูบบริเวณหัวไหล่ของเขา ช่างเหล็กเฉินหันศีรษะมองเขา ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นส่งให้เขา “พระราชารองเก่งกาจแท้ๆ”

“ข้อนั้น ก็ไม่ต้องดูว่าเป็นพระราชารองของผู้ใด” โจวหลี่มีความรู้สึกที่เหนือกว่า ซ้ำกล่าวถามหลินซีนเยียน “ใช่แล้ว พระพระราชารอง ท่านใช้วิธีการอันใด จะชี้แนะให้ได้หรือไม่”

หลินซีนเยียนยิ้มน้อย “ความจริงก็ไม่นับว่าเป็นของที่วิเศษวิโสอันใด ก็คือพันคนคิดค้นข้าเพียงหยิบยืมมาใช้งานก็เท่านั้น นี่เป็นรอกกับคันโยก สองสิ่งนี้รวมเข้าด้วยกันก็สามารถใช้แรงอันน้อยนิดมาแทนที่เรื่องที่ต้องใช้แรงงานมากๆ ได้ หากพวกเจ้าสนใจล่ะก็ ต่อไปข้าสามารถสอนพวกเจ้าได้”

กระทั่งถึงยามบ่าย ทั้งสองเพิ่งมีความคืบหน้าเล็กน้อย ภายในจวนอู่เซวียนอ๋องก็มาแขกมาเยือน ในครั้งนี้ คนที่มาก็คือจินมู่ จินมู่เสาะพบมู่เหอที่ให้ความช่วยเหลือภายในสวน มู่เหอกำลังล้างทำความสะอาดแผ่นทอง ทั้งเนื้อทั้งตัวล้วนมอมแมม จินมู่เห็นเขาในสถานนี้ ก็อดเอ่ยอย่างสนเท่ห์ไม่ได้ “ช่างหาได้ยากนัก หัวหน้าพ่อบ้านมู่ก็มาทำงานจำพวกนี้ด้วย เกิดอันใดขึ้น ฮูหยินรังแกท่านรึ ให้ข้าไปพูดกับฮูหยินสักหน่อยหรือไม่ ฮูหยินเป็นคนมีจิตใจดี พูดจาก็...”

“เจ้าหยุดประเดี๋ยวนี้!” มู่เหอวางแผ่นทองลงก่อนเร่งรีบไปคว้าแขนของจินมู่ “เจ้าอย่าได้ไปพูดพล่อยเชียว นี่ข้าก็อาสาเอง ฮูหยินจะรังแกข้าได้เยี่ยงไร ฮูหยินเป็นคนดีถึงเพียงนั้น แค่อย่าถูกผู้อื่นรังแกก็ดีแล้ว”

“อาสา” จินมู่แสร้งตกใจไม่อยากจะเชื่อหู “หัวหน้าพ่อบ้านมู่ไม่ใช่ว่ากลัวความเลอะเทอะหรอกหรือ เรื่องพวกนี้ ท่านยังอาสาทำเอง”

มู่เหอกลอกตาใส่เขา ซ้ำยังถอนหายใจหนึ่งเฮือก “ข้าจะคาดคิดได้อย่างไร ยิ่งรับใช้ฮูหยิน ยิ่งชื่นชมคุณธรรมและความหลักแหลมของนาง พูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ สรุปว่าข้ายินดีให้ความช่วยเหลือ ใช่แล้ว เวลาเช่นนี้เจ้าไม่อยู่เฝ้าข้างกายท่านอ๋อง มาทำอันใดที่นี่กัน”

“แน่นอนว่าข้ามารับฮูหยิน” จินมู่มีท่าทีว่าเขาอย่างคนโง่งม จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง

เขาเดินอย่างรวดเร็ว ไม่ทันเห็นคำพึมพำของมู่เหอ “ฮูหยินไปกับเจ้าก็แปลกแล้ว”

ที่แท้ จินมู่เพิ่งเข้ามาในห้อง ก็มองเห็นหลินซีนเยียนที่ถลกแขนเสื้อกำลังตอกโซ่เหล็กอยู่ เขาตะลึงอึ้งค้าง เขาเห็นเหล่าผู้หญิงที่เคยปรากฏกายข้างโม่จื่อเฟิงจนชินแล้ว ไม่มีคนใดที่ไม่ใช่ลูกขุนนางสูงศักดิ์ สังเกตรูปลักษณ์ถี่ยิบแล้ว ก็ยังไม่มีคนที่เหมือนฮูหยินซึ่งทำตัวติดดินเพียงนี้

“ฮูหยิน” จินมู่เดินผ่านไปเรียกหลินซีนเยียน รอให้นางหันหน้ามาจึงกล่าวต่อ “ คืนนี้ท่านอ๋องจะไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนเซียว ความหมายของท่านอ๋องคืออยากเชิญฮูหยินไปด้วยกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต